ภาษาตุรกี

ภาษาตุรกี (ตุรกี: Türkçe ⓘ, ทืร์กเช, Türk dili, ทืร์กดิลิ) มีอีกชื่อเรียกว่า ภาษาตุรกีอิสตันบูล (İstanbul Türkçesi) หรือ ภาษาตุรกีแบบตุรกี (Türkiye Türkçesi) เป็นภาษากลุ่มเตอร์กิกที่มีผู้พูดมากที่สุด โดยมีผู้พูดประมาณ 70 ถึง 80 ล้านคน เป็นภาษาประจำชาติของประเทศตุรกี และชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษาตุรกีกลุ่มสำคัญในประเทศอิรัก, ซีเรีย, เยอรมนี, ออสเตรีย, บัลแกเรีย, มาซิโดเนียเหนือ, นอร์เทิร์นไซปรัส, กรีซ, คอเคซัส และส่วนอื่นของยุโรปและเอเชียกลาง ประเทศไซปรัสเคยเสนอให้สหภาพยุโรปเพิ่มภาษาตุรกีเป็นภาษาทางการ ถึงแม้ว่าประเทศตุรกีไม่ได้เป็นรัฐสมาชิกก็ตาม

ภาษาตุรกี
Türkçe (นาม, กริยาวิเศษณ์)
Türk dili (นาม)
ออกเสียงTürkçe: [ˈtyɾctʃe] (ภาษาตุรกี ฟังเสียง)
Türk dili: เสียงอ่านภาษาตุรกี: [ˈtyɾc 'dili]
ประเทศที่มีการพูดตุรกี (ทางการ), นอร์เทิร์นไซปรัส (ทางการ), ไซปรัส (ทางการ), อาเซอร์ไบจาน, อิรัก, ซีเรีย, เลบานอน, กรีก, บัลแกเรีย, โรมาเนีย, คอซอวอ, มาซิโดเนียเหนือ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
ภูมิภาคอานาโตเลีย, บอลข่าน, ไซปรัส, เมโสโปเตเมีย, ลิแวนต์, ทรานส์คอเคเซีย
ชาติพันธุ์ชาวตุรกี
จำนวนผู้พูด75.7 ล้านคน (ประมาณ ค.ศ. 2002) ถึงมากกว่า 80 ล้านคน (ประมาณ ค.ศ. 2021)  (ไม่พบวันที่)
88 ล้านคน (ภาษาแม่ + ภาษาที่สอง)
ตระกูลภาษา
เตอร์กิก
รูปแบบก่อนหน้า
ตุรกีอานาโตเลียเก่า
รูปแบบมาตรฐาน
ตุรกีอิสตันบูล
ภาษาถิ่น
ตุรกีไซปรัส
ตุรกีคารามันลือ
ตุรกีเมชเคเทีย
ตุรกีรูเมเลีย
ตุรกีซีเรีย
ระบบการเขียนละติน (อักษรตุรกี)
อักษรเบรลล์ตุรกี
สถานภาพทางการ
ภาษาทางการไซปรัส
นอร์เทิร์นไซปรัส
ตุรกี
องค์กร:
  • สภาเตอร์กิก
    Türksoy
    TAKM
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่รับรองในบอสเนีย
โครเอเชีย
กรีซ
อิรัก
คอซอวอ
มาซิโดเนียเหนือ
โรมาเนีย
ผู้วางระเบียบสมาคมภาษาตุรกี
รหัสภาษา
ISO 639-1tr
ISO 639-2tur
ISO 639-3tur
Linguasphereส่วนหนึ่งของ 44-AAB-a
ภาษาตุรกี
  ประเทศที่ภาษาตุรกีเป็นภาษาทางการ
  ประเทศที่ยอมรับภาษาตุรกีเป็นภาษาชนกลุ่มน้อย
  ประเทศที่ภาษาตุรกีเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยและภาษาร่วมทางการอย่างน้อยหนึ่งเทศบาล
บทความนี้มีสัญลักษณ์สัทอักษรสากล หากระบบของคุณไม่รองรับการแสดงผลที่ถูกต้อง คุณอาจเห็นปรัศนี กล่อง หรือสัญลักษณ์อย่างอื่นแทนที่อักขระยูนิโคด
ผู้พูดภาษาตุรกีจากคอซอวอ

ต้นกำเนิดของภาษาพบในเอเชียกลางซึ่งมีการเขียนครั้งแรกเมื่อประมาณ 1,200 ปีมาแล้ว ภาษาตุรกีออตโตมันได้แพร่ขยายไปทางตะวันตกซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของจักรวรรดิออตโตมัน พ.ศ. 2471 หลังการปฏิรูปของอตาเตริ์กซึ่งเป็นปีแรกๆของยุคสาธารณรัฐใหม่ มีการปรับปรุงภาษาโดยแทนที่อักษรอาหรับในยุคออตโตมันด้วยอักษรละตินที่เพิ่มเครื่องหมายการออกเสียง มีการตั้งสมาคมภาษาตุรกีเพื่อลดการใช้คำยืมจากภาษาเปอร์เซียกับภาษาอาหรับ หันมาใช้คำดั้งเดิมของภาษากลุ่มเตอร์กิกแทน

ลักษณะเด่นของภาษาตุรกีคือมีการเปลี่ยนเสียงสระและการเชื่อมคำแบบรูปคำติดต่อ การเรียงคำโดยทั่วไปเป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา ไม่มีการแบ่งเพศของคำนาม

การจัดจำแนก

ภาษาตุรกีอยู่ในสาขาโอคุซของกลุ่มภาษาเตอร์กิก สมาชิกอื่น ๆ ในสาขาเดียวกันได้แก่ภาษาอาเซอร์ไบจาน ซึ่งมีผู้พูดในประเทศอาเซอร์ไบจานและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน ภาษากากาอุซในกาเกาเซีย ภาษาควาซไควในอิหร่านตอนใต้ และภาษาเติร์กเมนในประเทศเติร์กเมนิสถาน

การจัดจำแนกกลุ่มภาษาเตอร์กิกนั้นซับซ้อน เพราะการอพยพของกลุ่มชนเตอร์กิกและผลสืบเนื่องจากการปะปนกันกับชนชาติที่ไม่ได้พูดภาษากลุ่มเตอร์กิก ทำให้เกิดสถานการณ์ทางภาษาที่มีความซับซ้อนมากมาย

ยังมีข้อโต้แย้งว่ากลุ่มภาษาเตอร์กิกเป็นสาขาย่อยของตระกูลภาษาอัลไต ซึ่งมีภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเกาหลี, ภาษามองโกเลีย และกลุ่มภาษาตุงกูซิก หรือไม่ ทฤษฎีกลุ่มภาษายูรัล-อัลไตในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งรวมภาษาตุรกีเข้ากับภาษาฟินแลนด์, ภาษาฮังการี และตระกูลภาษาอัลไต ก่อให้เกิดเสียงโต้แย้ง ทฤษฎีนี้มีการเทียบภาษาส่วนใหญ่จากสามคุณสมบัติหลัก ๆ คือ: การประกอบกันในภาษา, การสอดคล้องกลมกลืนของสระ และเพศทางไวยากรณ์

ประวัติศาสตร์

จารึกของภาษากลุ่มเตอร์กิกเก่าสุดพบในบริเวณที่เป็นประเทศมองโกเลียปัจจุบัน จารึกบูคุตเขียนด้วยอักษรซอกเดียมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 11 .จารึกอักษรออร์คอนมีอายุย้อนหลังไปได้ราว พ.ศ. 1275 – 1278 จารึกที่พบบริเวณหุบเขาออร์คอนจำนวนมากจัดเป็นภาษาเตอร์กิกโบราณเขียนด้วยอักษรออร์คอนที่มีลักษณะคล้ายอักษรรูนส์ในยุโรป

ผู้คนที่พูดภาษากลุ่มเตอร์กิกได้แพร่กระจายออกจากเอเชียกลางในยุคกลางตอนต้น (ราวพุทธศตวรรษที่ 11-16) โดยกระจายอยู่ตั้งแต่ยุโรปตะวันออก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงไซบีเรีย กลุ่มโอคุซเติร์กได้นำภาษาของตนคือภาษาเตอร์กิกแบบโอคุซเข้าสู่อนาโตเลียเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 16 . ในช่วงนี้ได้มีนักภาษาศาสตร์ Kaşqarli Mahmud เขียนพจนานุกรมของภาษาเตอร์กิก

ภาษาตุรกีออตโตมัน

เมื่อศาสนาอิสลามแพร่มาถึงบริเวณนี้ เมื่อราว พ.ศ. 1393 ชาวเซลจุกเติร์กซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมออตโตมันได้ปรับการใช้ภาษาโดยมีคำยืมจากภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซียเข้ามามาก วรรณคดีในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากภาษาเปอร์เซียมาก ภาษาในการเขียนและภาษาราชการในยุคจักรวรรดิออตโตมันเป็นภาษาผสมระหว่างภาษาตุรกี ภาษาอาหรับ และภาษาเปอร์เซีย ซึ่งต่างจากภาษาตุรกีที่ใช้ในประเทศตุรกีปัจจุบันและมักเรียกว่าภาษาตุรกีออตโตมัน

การปรับรูปแบบของภาษาและภาษาตุรกีสมัยใหม่

ภาษาตุรกี 
ลักษณะเด่นของภาษาตุรกี คือใช้ตัว I ทั้งสองแบบเป็นอักษรคนละตัวกัน ได้แก่แบบมีจุด ออกเสียง อี และแบบไม่มีจุด ออกเสียง อือ หรือ เออ

อัตราการรู้หนังสือก่อนการปรับรูปแบบภาษาในตุรกี (พ.ศ. 2470) ในผู้ชายคิดเป็น 48.4% และผู้หญิงเป็น 20.7% หลังจากก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกีและเปลี่ยนระบบการเขียน มีการตั้งสมาคมภาษาตุรกีเมื่อ พ.ศ. 2475 สมาคมได้ปรับรูปแบบของภาษาโดยแทนที่คำยืมจากภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซียด้วยคำดั้งเดิมของภาษาตุรกี มีการสร้างคำใหม่โดยใช้รากศัพท์จากภาษาตุรกีโบราณที่เลิกใช้ไปนาน ใน พ.ศ. 2478 ทาง TDK ได้ตีพิมพ์พจนานุกรมสองรูปแบบระหว่างตุรกี-ออตโตมัน/ตุรกีบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับรูปแบบภาษา

ผลจากการเปลี่ยนแปลงภาษาโดยกะทันหันนี้ทำให้คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในตุรกีใช้คำศัพท์ที่แตกต่างกัน คนรุ่นที่เกิดก่อน พ.ศ. 2483 ใช้ศัพท์ที่มาจากภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซีย ส่วนคนที่เกิดหลังจากนั้นใช้คำศัพท์ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ การปราศัยของอตาเติร์กในการเปิดประชุมสภาครั้งใหม่เมื่อ พ.ศ. 2470 ใช้ภาษาแบบออตโตมันซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกไปจากภาษาในปัจจุบันจนต้องมีการแปลเป็นภาษาตุรกีสมัยใหม่ถึงสามครั้งคือเมื่อ พ.ศ. 2506, 2529 และ 2538

นอกจากนี้ สมาคมภาษาตุรกียังมีการเพิ่มศัพท์เทคนิคทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งโดยมากมาจากภาษาอังกฤษ แต่ก็มีคำศัพท์ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาแล้วแต่ไม่เป็นที่นิยม เช่น bölem (พรรคการเมือง) ถูกกำหนดให้ใช้แทนคำเดิมคือ firka แต่คำที่ใช้โดยทั่วไปเป็น parti จากภาษาฝรั่งเศส หรือบางคำใช้ในความหมายที่ต่างไปจากที่กำหนด เช่น betik (หนังสือ) ปัจจุบันใช้ในความหมายของระบบการเขียนในคอมพิวเตอร์ คำบางคำที่ถูกบัญญัติขึ้นใหม่ยังใช้ควบคู่กับศัพท์เดิมโดยคำศัพท์เดิมเปลี่ยนความหมายไปเล็กน้อย เช่น dert (มาจากภาษาเปอร์เซีย dard หมายถึงเจ็บปวด) ใช้หมายถึงปัญหาหรือความยุ่งยาก ส่วนความเจ็บปวดทางร่างกายใช้ ağrı ที่มาจากภาษาตุรกี ในบางกรณี คำยืมมีความหมายต่างไปจากคำในภาษาตุรกีเล็กน้อยแบบเดียวกับคำยืมจากภาษากลุ่มเยอรมันและภาษากลุ่มโรมานซ์ในภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างบางส่วนของศัพท์ตุรกีสมัยใหม่กับคำยืมสมัยก่อนดังนี้:

ตุรกีออตโตมัน ตุรกีสมัยใหม่ แปลไทย คำอธิบาย
müselles üçgen สามเหลี่ยม คำประสมระหว่างคำนาม üç ("สาม") และคำต่อท้าย -gen
tayyare uçak เครื่องบิน มาจากรูปกริยา uçmak ("เพื่อบิน") ตอนเสนอครั้งแรกมีความหมายว่า "สนามบิน, ท่าอากาศยาน"
nispet oran อัตราส่วน ศัพท์ยังคงมีการใช้ร่วมกับศัพท์ใหม่ในปัจจุบัน ศัพท์ปัจจุบันมีที่มาจากรูปกริยาภาษาเตอร์กิกเก่า or- ("เพื่อตัด")
şimal kuzey เหนือ มาจากคำนามภาษาเตอร์กิกเก่า kuz ("สถานที่ที่เย็นและมืด", "เงา") คำนี้ฟื้นฟูจากเตอร์กิกกลาง
teşrinievvel ekim ตุลาคม คำนาม ekim หมายถึง "การกระทำที่เกี่ยวกับการปลูก" สื่อถึงการปลูกเมล็ดธัญพืชในฤดูใบไม้ร่ว ซึ่งพบได้ทั่วประเทศตุรกี

การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์

ภาษาตุรกี 
ป้ายโฆษณาอีเกียในเบอร์ลินที่เขียนด้วยภาษาเยอรมันและตุรกี

ภาษาตุรกีเป็นภาษาแม่ของชาวตุรกีในประเทศตุรกีและชาวตุรกีพลัดถิ่นใน 30 ประเทศ ภาษาตุรกีสามารถเข้าใจร่วมกัน (mutually intelligible) กับภาษาอาเซอร์ไบจานและภาษากลุ่มเตอร์กิกอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษาตุรกีในประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่ง (ทั้งหมดหรือบางส่วน) ของจักรวรรดิออตโตมัน เช่นอิรัก, บัลแกเรีย, ไซปรัส, กรีซ (โดยหลักในเทรซตะวันตก), มาซิโดเนียเหนือ, โรมาเนีย และเซอร์เบีย มีผู้พูดภาษาตุรกีมากกว่าสองล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี และมีชุมชนที่พูดภาษาตุรกีในสหรัฐ, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, เบลเยียม, สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร เนื่องจากการกลืนกลายทางวัฒนธรรมของประเทศเจ้าถิ่นต่อผู้อพยพชาวตุรกี ทำให้สมาชิกชาติพันธุ์พลัดถิ่นทั้งหมดไม่สามารถพูดภาษาตุรกีอย่างเชี่ยวชาญเสมอไป

ใน ค.ศ. 2005 ร้อยละ 93 ของประชากรตุรกีพูดภาษาตุรกีเป็นภาษาแม่ ในเวลานั้นมีผู้พูดประมาณ 67 ล้านคน ส่วนที่เหลือ จำนวนภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดรองลงมาคือภาษาเคิร์ด

สถานะทางการ

ซ้าย: ป้ายสองภาษา ได้แก่ภาษาตุรกี (บน) และภาษาอาหรับ (ล่าง) ที่หมู่บ้านเติร์กเมนในเขตผู้ว่าการคีร์คูก ประเทศอิรัก
ขวา: ป้ายบนถนนที่พริสเรน ประเทศคอซอวอ ภาษาทางการได้แก่: ภาษาแอลเบเนีย (บน), ภาษาเซอร์เบีย (กลาง) และภาษาตุรกี (ล่าง)

ภาษาตุรกีเป็นภาษาทางการของประเทศตุรกีและเป็นหนึ่งในภาษาทางการของประเทศไซปรัส ภาษานี้มีสถานะเป็นภาษาทางการใน 38 เทศบาลของประเทศคอซอวอ เช่นมามูชา, สองแห่งที่มาซิโดเนียเหนือ และในเขตผู้ว่าการคีร์คูกในประเทศอิรัก

ในประเทศตุรกี หน่วยงานที่กำกับดูแลภาษาตุรกีคือสมาคมภาษาตุรกี (Türk Dil Kurumu หรือ TDK) ซึ่งก่อตั้งใน ค.ศ. 1932 ภายใต้ชื่อ Türk Dili Tetkik Cemiyeti ("สมาคมวิจัยภาษาตุรกี") สมาคมภาษาตุรกีได้รับอิทธิพลในแนวคิดพิสุทธินิยมทางภาษา ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจหลักในการแทนที่คำยืมและโครงสร้างทางไวยากรณ์ภาษาอื่นด้วยการบัญญัติศัพท์ภาษาตุรกี การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ร่วมกับการใช้อักษรตุรกีแบบใหม่ใน ค.ศ. 1928 ก่อให้เกิดภาษาตุรกีสมัยใหม่ในปัจจุบัน TDK กลายเป็นองค์กรอิสระใน ค.ศ. 1951 จนถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1983 โดยกลายเป็นหน่วยงานราชการตามรัฐธรรมนูญตุรกีฉบับปี 1982 หลังรัฐประหารใน ค.ศ. 1980

สำเนียง

ภาษาตุรกีสมัยใหม่มีฐานจากสำเนียงอิสตันบูล "ภาษาตุรกีแบบอิสตันบูล" (İstanbul Türkçesi) ถือเป็นแม่แบบของภาษาพูดและภาษาเขียน ตามคำแนะนำของ Ziya Gökalp, Ömer Seyfettin และคนอื่น ๆ

สำเนียงอื่น ๆ ยังคงมีอยู่ ถึงแม้ว่าระดับอิทธิพลของสำเนียงมาตรฐานยังคงใช้งานในสื่อมวลชนและระบบการศึกษาตุรกีมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 นักวิจัยทางวิชาการจากตุรกีมักเรียกสำเนียงตุรกีว่า ağız หรือ şive ทำให้เกิดความกำกวมในแนวคิดด้านภาษาของสำเนียง ซึ่งครอบคลุมมคำเหล่านี้ด้วย มหาวิทยาลัยบางแห่ง กับกลุ่มงานเฉพาะของสมาคมภาษาตุรกี ได้เริ่มโครงการค้นหาสำเนียงตุรกี ข้อมูลเมื่อ 2002 ยังคงมีการรวบรวมและตีพิมพ์ผลงานวิจัยของตนเป็นภาษาถิ่นครอบคลุมโลกสำเนียงภาษาตุรกี

ภาษาตุรกี 
แผนที่กลุ่มย่อยหลักของสำเนียงภาษาตุรกีทั่วยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง

ชาวรูเมเลียบางส่วนที่อพยพไปยังประเทศตุรกีพูดภาษาตุรกีแบบรูเมเลีย ซึ่งรวมสำเนียง Ludogorie, Dinler และ Adakale ที่แสดงอิทธิพลของทฤษฎี Balkan sprachbund Kıbrıs Türkçesi เป็นชื่อเรียกภาษาตุรกีแบบไซปรัสและพูดโดยชาวไซปรัสเชื้อสายเติร์ก สำเนียง เอดีร์แน ใช้พูดในเอดีร์แน Ege ใช้พูดในภูมิภาคอีเจียน โดยมีขอบเขตถึงอันทัลยา ชนร่อนเร่ Yörüks ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนของตุรกีมีสำเนียงตุรกีเป็นของตนเอง

สำเนียง Güneydoğu ใช้กันในภาคตะวันออกเฉียงใต้ถึงทางตะวันออกของแมร์ซิน Doğu สำเนียงหนึ่งในภูมิภาคอานาโตเลียตะวันออก มีความต่อเนื่องของภาษา ชาวเติร์กเมสเคเทียที่อาศัยอยู่ในประเทศคาซัคสถาน, อาเซอร์ไบจาน และรัสเซีย กับประเทศในเอเชียกลางบางส่วน สามารถพูดภาษาตุรกีสำเนียงอานาโตเลียตะวันออก โดยมีที่มาจากพื้นที่ใน Kars, Ardahan และ Artvin และมีความคล้ายกับภาษาอาเซอร์ไบจาน

ภูมิภาคอานาโตเลียกลางพูด Orta Anadolu สำเนียง Karadeniz ใช้พูดในภูมิภาคทะเลดำทางตะวันออกและแสดงให้เห็นผ่านสำเนียงทรับซอน ได้รับอิทธิพลทางสัทวิทยาและวากยสัมพันธ์จากภาษากรีก มันมีอีกชื่อว่า สำเนียงลาซ (ไม่ควรไปสับสนกับภาษาลาซ) คัสทาโมนู ใช้พูดในคัสทาโมนูและพื้นที่โดยรอบ ภาษาตุรกีคารามันลือใช้พูดในประเทศกรีซ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Kαραμανλήδικα เป็นมาตรฐานวรรณกรรมของชาวคารามันลือ

เสียง

ภาษาตุรกีมีแต่สระเดี่ยว ไม่มีสระผสม เมื่อสระสองตัวอยู่ใกล้กันซึ่งมักพบในคำยืมจะออกเสียงแยกกัน การเปลี่ยนเสียงสระเป็นเอกลักษณ์ของภาษาตุรกีโดยเสียงสระของปัจจัยจะเปลี่ยนไปตามสระของคำหลักเช่นปัจจัย –dir4 (มันเป็น, อยู่, คือ) เมื่อนำมาต่อท้ายศัพท์จะเป็น tükiyedir (มันเป็นไก่งวง) kapidır (มันเป็นประตู) gündür (มันเป็นวัน) paltodur (มันเป็นเสื้อคลุม) เป็นต้น

ไวยากรณ์

ภาษาตุรกีเป็นภาษารูปคำติดต่อ นิยมใช้การเติมปัจจัยข้างท้ายคำ คำคำหนึ่งอาจเติมปัจจัยได้เป็นจำนวนมากเพื่อสร้างคำใหม่ เช่นการสร้างคำกริยาจากคำนาม การสร้างคำนามจากรากศัพท์คำกริยาเป็นต้น ปัจจัยส่วนใหญ่จะบอกหน้าที่ทางไวยากรณ์ของคำนั้นๆ สามารถสร้างคำที่มีความยาวมากๆจนมีความหมายเท่ากับประโยคในภาษาอื่นๆได้

คำนามไม่มีคำนำหน้าชี้เฉพาะ แต่มีการชี้เฉพาะวัตถุในคำลงท้ายแบบกรรมตรง ภาษาตุรกีมีคำนาม 6 การก คือ ประธาน ความเป็นเจ้าของ กรรมรอง กรรมตรง มาจาก ตำแหน่ง ซึ่งเปลี่ยนการลงท้ายด้วยการเปลี่ยนเสียงสระ คำคุณศัพท์มาก่อนคำนามที่ขยายคำคุณศัพท์ส่วนใหญ่เป็นคำนามได้ด้วย

คำกริยาในภาษาตุรกีจะแสดงบุคคลและสามารถแสดงความปฏิเสธ ความสามารถหรือไม่สามารถและแสดงกาล มาลา แลละความคาดหวังด้วย การปฏิเสธแสดงด้วยปัจจัย –me2 ที่มาก่อนปัจจัยอื่นๆของคำกริยา คำกริยาในภาษาตุรกีอาจรวมเป็นคำประกอบได้เพื่อให้ประโยคสั้นเข้า

การเรียงลำดับคำในภาษาตุรกีเป็นแบบประธาน-กรรม-กริยาแบบเดียวกับภาษาญี่ปุ่นและภาษาละติน คำขยายมาก่อนคำที่ถูกขยาย สิ่งที่เน้นมาก่อนสิ่งที่ไม่เน้นคำที่มาก่อนกริยาต้องออกเสียงเน้นหนักในประโยคโดยไม่มีข้อยกเว้น

การเน้นหนักมักเน้นในพยางค์สุดท้าย ยกเว้นคำยืมจากภาษากรีกและภาษาอิตาลีบางกลุ่ม

คำศัพท์

ภาษาตุรกี 
ต้นตอของศัพท์ในภาษาตุรกี ซึ่งมี 104,481 คำ ในจำนวนนี้มีประมาณ 86% มีต้นตอจากภาษาตุรกีและ 14% มีต้นตอจากต่างชาติ

Büyük Türkçe Sözlük (พจนานุกรมใหญ่ภาษาตุรกี (Great Turkish Dictionary)) พจนานุกรมทางการของภาษาตุรกีที่ตีพิมพ์โดยสมาคมภาษาตุรกีฉบับ ค.ศ. 2010 มีศัพท์ สำนวน และคำนามที่รวมชื่อสถานที่และชื่อบุคคลทั้งหมด 616,767 คำ ทั้งจากภาษามาตรฐานและสำเนียง

ใน Güncel Türkçe Sözlük พจนานุกรมทางการของภาษาตุรกีที่ตีพิมพ์โดยสมาคมภาษาตุรกีฉบับ ค.ศ. 2005 มีศัพท์ทั้งหมด 104,481 คำ ในจำนวนนี้มีประมาณ 86% ที่มีต้นตอจากภาษาตุรกี และ 14% มีต้นตอจากต่างชาติ ในหวดหมู่ต้นตอต่างชาติ ศัพท์ต่างชาติที่มีส่วนในภาษาตุรกีมากที่สุดคือภาษาอาหรับ, ฝรั่งเศส, เปอร์เซีย, อิตาลี, อังกฤษ และกรีก

ระบบการเขียน

ภาษาตุรกี 
อาทาทืร์คแนะนำตัวอักษรตุรกีแบบใหม่ให้กับผู้คนในคัยเซรีเมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 1928 (หน้าปกจากวารสารฝรั่งเศส L'Illustration)

มุสทาฟา เคมัล อาทาทืร์คได้นำอักษรละตินมาใช้ในภาษาตุรกีแทนที่อักษรตุรกีออตโตมันใน ค.ศ. 1928 เดิมภาษาตุรกีเขียนด้วยอักษรเปอร์เซีย-อาหรับ แต่อักษรแบบดังกล่าวมีรูปเขียนสำหรับเสียงสระยาวเพียงแค่สามรูป (ā, ū และ ī ยาว) และยังมีอักษรบางตัวที่แทนเสียงที่ซ้ำกัน เช่นรูปอักษร z (ซึ่งซ้ำกันในภาษาตุรกี แต่ไม่ซ้ำในภาษาอาหรับ คล้ายกับอักษรไทยที่มีทั้ง ศ ษ และ ส ซึ่งมาจากอักษรที่แทนเสียงที่แตกต่างกันในภาษาสันสกฤต) มีการอ้างว่าการละเว้นสระเสียงสั้นในอักษรอาหรับไม่เหมาะกับภาษาตุรกีที่มี 8 สระ

การปฏิรูปอักษรเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปทางวัฒนธรรมในสมัยนั้น การจัดเตรียมตัวอักษรแบบใหม่รวมทั้งการเลือกอักษรเพิ่มเติมจากอักษรละตินแบบมาตรฐานนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการภาษา ซึ่งประกอบด้วยนักภาษาศาสตร์ นักวิชาการ และนักเขียน ระบบการเขียนแบบใหม่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การศึกษาของรัฐตามภูมิภาคต่าง ๆ และยังได้รับความร่วมมือจากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งความพยายามของอตาเติร์กเอง ที่ได้เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อสอนระบบการเขียนแบบใหม่นี้ ผลที่ตามมา ทำให้มีผู้อ่านหนังสือออกจากโลกที่สามเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก

อักษรตุรกีในปัจจุบันเป็นตัวอักษรที่เทียบให้เหมาะกับเสียงของภาษา รูปสะกดส่วนใหญ่เป็นไปตามสัทศาสตร์ นั่นคือหนึ่งอักษรแทนหนึ่งหน่วยเสียง โดยตัวอักษรส่วนใหญ่ใช้เหมือนกับภาษาอังกฤษ ยกเว้นอักษร ⟨c⟩ ที่ออกเสียงเป็น [dʒ] (⟨j⟩ ใช้สำหรับเสียง [ʒ] ที่พบในคำยืมภาษาเปอร์เซียและยุโรป); และ ⟨ı⟩ ไร้จุดใช้สำหรับเสียง [ɯ] อักษร ⟨ö⟩ และ ⟨ü⟩ ใช้สำหรับเสียง [ø] และ [y] เหมือนภาษาเยอรมัน ส่วนอักษร ⟨ğ⟩ ตามหลักออกเสียงเป็น [ɣ] แต่สามารถขยายเสียงสระก่อนหน้าและรวมสระใด ๆ ถัดจากมันได้ อักษร ⟨ş⟩ และ ⟨ç⟩ ใช้สำหรับเสียง [ʃ] และ [tʃ] ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องหมายบนสระที่ใช้เขียนบนเสียงสระหลังถัดจากอักษร ⟨k⟩ และ ⟨g⟩ เมื่อมีเสียงพยัญชนะ [c] และ [ɟ] นำหน้า (เกือบทั้งหมดใช้สำหรับคำยืมภาษาอาหรับและเปอร์เซีย)

ภาษาตุรกีประกอบด้วยอักษร 29 ตัว (ไม่มีอักษร q, x, w และเพิ่มอักษร ç, ş, ğ, ı, ö, ü) ดังนี้:

    a, b, c, ç, d, e, f, g, ğ, h, ı, i, j, k, l, m, n, o, ö, p, r, s, ş, t, u, ü, v, y, และ z (หมายเหตุ: i พิมพ์ใหญ่คือ İ และ I พิมพ์เล็กคือ ı)

หมายเหตุ

อ้างอิง

ข้อมูล

ข้อมูลออนไลน์

อ่านเพิ่ม

  • Eyüboğlu, İsmet Zeki (1991). Türk Dilinin Etimoloji Sözlüğü [Etymological Dictionary of the Turkish Language] (ภาษาตุรกี). Sosyal Yayınları, İstanbul. ISBN 978975-7384-72-4.
  • Özel, Sevgi; Haldun Özen; Ali Püsküllüoğlu, บ.ก. (1986). Atatürk'ün Türk Dil Kurumu ve Sonrası [Atatürk's Turkish Language Association and its Legacy] (ภาษาตุรกี). Bilgi Yayınevi, Ankara. OCLC 18836678.
  • Püsküllüoğlu, Ali (2004). Arkadaş Türkçe Sözlük [Arkadaş Turkish Dictionary] (ภาษาตุรกี). Arkadaş Yayınevi, Ankara. ISBN 975-509-053-3.
  • Rezvani, B. "Türkçe Mi: Türkçe’deki İrani (Farsca, Dimilce, Kurmançca) Orijinli kelimeler Sözlüğü.[Turkish title (roughly translated): Is this Turkish? An etymological dictionary of originally Iranic (Persian, Zazaki, and Kurmanji Kurdish) words]." (2006).

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ภาษาตุรกี การจัดจำแนกภาษาตุรกี ประวัติศาสตร์ภาษาตุรกี การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์ภาษาตุรกี เสียงภาษาตุรกี ไวยากรณ์ภาษาตุรกี คำศัพท์ภาษาตุรกี ระบบการเขียนภาษาตุรกี หมายเหตุภาษาตุรกี อ้างอิงภาษาตุรกี อ่านเพิ่มภาษาตุรกี แหล่งข้อมูลอื่นภาษาตุรกีกรีซกลุ่มภาษาเตอร์กิกคอเคซัสชาวอิรักเชื้อสายเติร์กเมนนอร์เทิร์นไซปรัสบัลแกเรียประเทศตุรกีประเทศเยอรมนีมาซิโดเนียเหนือยุโรปสหภาพยุโรปออสเตรียเอเชียกลางไฟล์:Tr-Türkçe.oga

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

ศาสนาพุทธภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืนบางกอกคณิกาอำเภอรายชื่อคาถาในแฮร์รี่ พอตเตอร์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซิตี้ฮันเตอร์จังหวัดอุดรธานีรายชื่อนายกรัฐมนตรีไทยบีบีซี เวิลด์นิวส์จรินทร์พร จุนเกียรติพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาสกูบี้-ดูชาลิดา วิจิตรวงศ์ทองธนินท์ เจียรวนนท์นิสิต สินธุไพรมหาศึกชิงบัลลังก์ (ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์)จิรายุ ตั้งศรีสุขพอได้เกิดใหม่เป็นองค์ชายลําดับที่เจ็ด ก็เพื่อเรียนเวทให้สนุกภาษาในประเทศไทยกรมสรรพากรประเทศบราซิลจักรราศีพิชิตรัก พิทักษ์โลกมหาวิทยาลัยมหาสารคามมหาเวทย์ผนึกมารรัชชานนท์ สุประกอบลูซิเฟอร์จอนนี่ แอนโฟเนวรินทร ปัญหกาญจน์ค่อม ชวนชื่นจังหวัดสระแก้วอี จู-บินประเทศไต้หวันมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชปณิธาน บุตรแก้ววอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยรัฐฉานเดือนโนโลโก้อสุภชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนาสะพานทศมราชันพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ข่าวช่อง 7HDตระกูลบุนนาคราชวงศ์จักรีมหาตมา คานธีYปรีชาพล พงษ์พานิชวันพีซสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติสครับบ์เดนิส เจลีลชา คัปปุนหม่อมคัทริน ณ พิศณุโลกบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตจังหวัดแม่ฮ่องสอนเล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่สโมสรฟุตบอลดือนามอกือยิวรายพระนามและชื่อผู้บัญชาการทหารบกไทยโรงเรียนนายสิบทหารบกเอลนีโญนพเก้า เดชาพัฒนคุณตระกูลเจียรวนนท์ญาณี จงวิสุทธิ์สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีถนนเยาวราชรายชื่อโรงเรียนในจังหวัดระยองอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งรายชื่อเขตของกรุงเทพมหานครสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจราศีเมษปฏิจจสมุปบาท🡆 More