9°00′N 38°42′E / 9°N 38.7°E / 9; 38.7
สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย | |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | อาดดิสอาบาบา 9°1′N 38°45′E / 9.017°N 38.750°E |
ภาษาราชการ | โซมาลี ทือกรึญญา อาฟาร์ อามารา โอโรโม |
ภาษาประจำภูมิภาค |
|
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2007) |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2016) |
|
การปกครอง | สหพันธ์ สาธารณรัฐระบบรัฐสภา |
• ประธานาธิบดี | ซาห์เล เวิร์ก ซิวเด |
• นายกรัฐมนตรี | อาบีย์ อาห์เม็ด |
สภานิติบัญญัติ | สมัชชารัฐสภากลาง |
• สภาสูง | สภาสหพันธ์ |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
การก่อตั้ง | |
• ก่อตั้งจักรวรรดิ | ค.ศ. 1270 |
• Zemene Mesafint | 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1769 |
• รวมประเทศ | 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1855 |
• รวมศูนย์ | ค.ศ. 1904 |
• ถูกครอบครองและผนวกเข้ากับแอฟริกาตะวันออกของอิตาลี | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1936 |
• ข้อตกลงอังกฤษ-เอธิโอเปีย | 31 มกราคม ค.ศ. 1942 |
• เริ่มต้นการปกครองของเผด็จการทหารเดร์ก | 12 กันยายน ค.ศ. 1974 |
28 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 | |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 21 สิงหาคม ค.ศ. 1995 |
พื้นที่ | |
• รวม | 1,104,300 ตารางกิโลเมตร (426,400 ตารางไมล์) (อันดับที่ 26) |
0.7 | |
ประชากร | |
• 2021 ประมาณ | 117,876,227 (อันดับที่ 12) |
• สำมะโนประชากร 2007 | 73,750,932 |
92.7 ต่อตารางกิโลเมตร (240.1 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 123) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 4.01 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 58) |
• ต่อหัว | 3,407 ดอลลาร์สหรัฐ |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 1.22591 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 65) |
• ต่อหัว | 1,040 ดอลลาร์สหรัฐ |
จีนี (ค.ศ. 2015) | 35.0 ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.485 ต่ำ · อันดับที่ 173 |
สกุลเงิน | Birr (ETB) |
เขตเวลา | UTC+3 (เวลาแอฟริกาตะวันออก) |
ขับรถด้าน | ขวามือ |
รหัสโทรศัพท์ | +251 |
โดเมนบนสุด | .et |
เอธิโอเปีย (อังกฤษ: Ethiopia; โซมาลี: Itoobiya; ทือกรึญญา: ኢትዮጵያ; อาฟาร์: Itiyoppiya; อามารา: ኢትዮጵያ, ออกเสียง [i.tjo.p’ja]; โอโรโม: Itiyoophiyaa) หรือชื่อทางการคือ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (อังกฤษ: Federal Democratic Republic of Ethiopia; โซมาลี: Jamhuuriyadda Dimuqraadiga Federaalka Itoobiya; ทือกรึญญา: ፌዴራላዊ ዴሞክራሲያዊ ሪፐብሊክ ኢትዮጵያ; อาฟาร์: Itiyoppiya Federaalak Demokraatik Rippeblikih; อามารา: የኢትዮጵያ ፌዴራላዊ ዴሞክራሲያዊ ሪፐብሊክ; โอโรโม: Rippabliikii Federaalawaa Dimokraatawaa Itiyoophiyaa) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ตั้งอยู่ในส่วนแหลมของทวีปแอฟริกาในแอฟริกาตะวันออก มีพรมแดนติดกับเอริเทรียทางตอนเหนือ จิบูตีทางตะวันออกเฉียงเหนือ โซมาเลียทางทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ เคนยาทางทิศใต้ ซูดานใต้ทางทิศตะวันตก และซูดานทางตะวันตกเฉียงเหนือ เอธิโอเปียครอบคลุมพื้นที่ 1,112,000 ตารางกิโลเมตร (472,000 ตารางไมล์) ข้อมูลเมื่อ 2023[update], มีประชากรอยู่ประมาณ 128 ล้านคน ทำให้เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 ในแอฟริการองจากไนจีเรีย และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อาดดิสอาบาบา เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อยู่ห่างจากรอยแยกแอฟริกาตะวันออกหลายกิโลเมตร ซึ่งแบ่งประเทศออกเป็นแผ่นเปลือกโลกแอฟริกาและโซมาเลีย
มนุษย์สมัยใหม่ที่มีโครงสร้างทางกายวิภาคถือกำเนิดมาจากเอธิโอเปียในยุคปัจจุบัน และออกเดินทางสู่ตะวันออกใกล้และที่อื่น ๆ ในยุคหินเก่าตอนกลาง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปียได้รับการเสนอให้เป็นแหล่งกำเนิดของตระกูลภาษาแอโฟรเอชีแอติก เอธิโอเปียเป็นประเทศที่เก่าแก่ที่สุดของแอฟริกา และเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปีใน 980 ปีก่อนคริสต์ศักราช อาณาจักร D'mt ได้ขยายอาณาจักรเหนือเอริเทรียและทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย ในขณะที่อาณาจักรอักซุมยังคงรักษาอารยธรรมที่เป็นเอกภาพในภูมิภาคนี้เป็นเวลา 900 ปี โดยศาสนาคริสต์ได้รับการยอมรับจากอาณาจักรในปี 330 หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรอักซุมใน ค.ศ. 960 ราชวงศ์ซากเวได้ปกครองส่วนทางตอนเหนือและตอนกลางของเอธิโอเปีย จนกระทั่งถูกเยคูโน อัมลัค โค่นล้มใน ค.ศ. 1270 เป็นการก่อตั้งจักรวรรดิเอธิโอเปียและราชวงศ์โซโลมอน เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 จักรวรรดิเติบโตขึ้นผ่านการขยายอาณาเขตและการต่อสู้กับดินแดนที่อยู่ติดกัน สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ สงครามเอธิโอเปีย–อาดาล (ค.ศ. 1529–1543) มีส่วนทำให้เกิดการแบ่งแยกของจักรวรรดิ ซึ่งท้ายที่สุดก็ตกอยู่ภายใต้การกระจายอำนาจที่เรียกว่า เซเมเน เมซาฟินต์ ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 จักรพรรดิเทโวโดรอสที่ 2 ทรงสละราชบัลลังก์เซเมเน เมซาฟินต์เมื่อต้นรัชสมัยของพระองค์ใน ค.ศ. 1855 ซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของจักรวรรดิ
ตั้งแต่ ค.ศ. 1878 เป็นต้นมา จักรพรรดิเมเนลิกที่ 2 ทรงเปิดการพิชิตดินแดนหลายครั้งซึ่งส่งผลให้เกิดพรมแดนปัจจุบันของเอธิโอเปีย ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เอธิโอเปียต้องปกป้องประเทศจากการรุกรานจากต่างประเทศ รวมทั้งจากอียิปต์และอิตาลี เป็นผลให้เอธิโอเปียรักษาอำนาจอธิปไตยของตนไว้ในช่วงการอาณานิคมแอฟริกา ใน ค.ศ. 1936 เอธิโอเปียถูกอิตาลีฟาสซิสต์ยึดครอง และผนวกกับเอริเทรียและโซมาลีแลนด์ที่อิตาลียึดครอง ต่อมาได้ก่อตั้งแอฟริกาตะวันออกของอิตาลี ใน ค.ศ. 1941 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพอังกฤษยึดครอง และได้ฟื้นฟูอธิปไตยโดยกองทัพอังกฤษอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1944 หลังจากช่วงการปกครองของทหารคือเดร์ก ซึ่งเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตขึ้นสู่อำนาจใน ค.ศ. 1974 หลังจากโค่นล้มจักรพรรดิฮัยเลอ ซึลลาเซที่ 1 และราชวงศ์ซาโลมอน และได้ปกครองประเทศมาเกือบ 17 ปีท่ามกลางสงครามกลางเมืองเอธิโอเปีย หลังจากการล่มสลายของเดร์กใน ค.ศ. 1991 แนวร่วมประชาธิปไตยประชาชนปฏิวัติเอธิโอเปีย (EPPRDF) ได้ปกครองประเทศด้วยรัฐธรรมนูญใหม่และสหพันธรัฐตามชาติพันธุ์ ตั้งแต่นั้นมา เอธิโอเปียต้องเผชิญการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยืดเยื้อ รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมือง ตั้งแต่ ค.ศ. 2018 กลุ่มต่าง ๆ ตามภูมิภาคและกลุ่มชาติพันธุ์ได้ก่อเหตุโจมตีด้วยอาวุธในสงครามที่ดำเนินอยู่หลายครั้งทั่วเอธิโอเปีย
เอธิโอเปียเป็นรัฐที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ซึ่งมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 80 กลุ่ม ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในประเทศ โดยมีผู้นับถือศาสนาอิสลามจำนวนน้อยและมีเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อย รัฐอธิปไตยนี้เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ กลุ่ม 24 ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด กลุ่ม 77 และองค์การเอกภาพแอฟริกา อาดดิสอาบาบาเป็นสำนักงานใหญ่ของสหภาพแอฟริกา หอการค้าและอุตสาหกรรมแอฟริกา คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติสำหรับแอฟริกา และองค์การนอกภาครัฐ เอธิโอเปียเข้าเป็นสมาชิกบริกส์เต็มรูปแบบใน ค.ศ. 2024เอธิโอเปียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด แต่บางครั้งก็ถือเป็นมหาอำนาจที่เกิดขึ้นใหม่ โดยเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดในประเทศแถบแอฟริกาใต้สะฮารา เนื่องจากมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในการขยายอุตสาหกรรมการเกษตรและการผลิต เกษตรกรรมเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยคิดเป็นร้อยละ 36 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศใน ค.ศ. 2020 อย่างไรก็ตาม ในด้านรายได้ต่อหัวและดัชนีการพัฒนามนุษย์ ประเทศนี้ถือว่าเป็นประเทศที่ยากจน มีอัตราความยากจนสูง สิทธิมนุษยชนต่ำ การเลือกปฏิบัติทางชาติพันธุ์อย่างกว้างขวาง และอัตราการรู้หนังสือเพียงร้อยละ 49
ราชอาณาจักรอิตาลีโจมตีเอธิโอเปียเมื่อ พ.ศ. 2479 และเข้าครอบครองได้สำเร็จใน พ.ศ. 2484 จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเอธิโอเปีย เฮลี เซลาสซีที่ 1 เป็นผู้จัดตั้งระบบรัฐสภาเมื่อ พ.ศ. 2474
ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 เกิดความแห้งแล้งอย่างต่อเนื่องจนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จักรพรรดิเซลาสซีสละราชบัลลังก์เมื่อ พ.ศ. 2517 เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐเมื่อ พ.ศ. 2518 นอกจากนั้นยังเกิดสงครามภายในระหว่างกลุ่มการเมืองและเผ่าต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากซูดานและโซมาเลีย พ.ศ. 2521 เอธิโอเปียได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตจนรบชนะทหารโซมาเลีย และมีการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างกันเมื่อ พ.ศ. 2531
เอธิโอเปียปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แบ่งการปกครองเป็น 9 รัฐ และ 2 เขตเป็นการปกครองพิเศษ ได้แก่ อาดดิสอาบาบา และเขตปกครองพิเศษไดร์ดาวา แม้เดิมเอธิโอเปียในระบอบกษัตริย์ ในปี 2517 มีการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล และโค่นล้มระบอบกษัตริย์ในปีต่อมา จากนั้นได้ปกครองประเทศด้วยสังคมนิยม และเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยในปี พ.ศ. 2534 แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองอยู่เสมอ โดยรัฐบาลถูกกล่าวหาจากฝ่ายค้านว่าทุจริตการเลือกตั้ง
ฝ่ายบริหารได้แก่
ด้วยพื้นที่ 1,104,300 ตารางกิโลเมตร (426,372.61 ตารางไมล์), เอธิโอเปียเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 28 ของโลก ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับโบลิเวีย อยู่ระหว่างเส้นขนานที่ 3 เหนือกับเส้นขนานที่ 15 เหนือ และลองจิจูดเส้นเมริเดียนที่ 33 ตะวันออก และเส้นเมริเดียนตะวันออกที่ 48
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเอธิโอเปียตั้งอยู่ในจะงอยแอฟริกา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของทวีปแอฟริกา ดินแดนที่มีพรมแดนติดกับเอธิโอเปีย ได้แก่ เอริเทรีย จิบูตี โซมาเลีย เคนยา ซูดานใต้ และซูดาน ภายในเอธิโอเปียเป็นพื้นที่สูงสลับซับซ้อนที่ประกอบด้วยภูเขาและที่ราบสูงที่แยกออกเป็นสัดส่วนโดยหุบเขาเกรตริฟต์ ซึ่งทอดยาวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และล้อมรอบด้วยที่ราบลุ่มและทุ่งหญ้าสเตปป์ เอธิโอเปียมีภูมิประเทศที่หลากหลายโดยมีสภาพอากาศ ดิน พืชพรรณตามธรรมชาติ และรูปแบบการตั้งถิ่นฐานที่หลากหลาย
เศรษฐกิจเอธิโอเปียยังพึ่งพารายได้จากภาคกสิกรรมเป็นหลัก แม้รัฐบาลจะได้ปฏิรูปที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากขาดการวางแผนที่ดี และการเพาะปลูกยังพึ่งพาแหล่งน้ำฝนตามธรรมชาติอยู่เกือบทั้งหมด มีปัญหาการชลประทานรวมทั้งวิธีการเพาะปลูกที่ล้าสมัย ในขณะเดียวกันภาคบริการของเอธิโอเปียก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนกระทั่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของรายได้ประชาชาติ โดยภาคส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงได้แก่การบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการคมนาคม รัฐบาลเอธิโอเปียมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งสัตว์ป่า แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเอธิโอเปียยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดีเท่าใดนัก และยังล้าหลังเคนยาอยู่มาก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเอธิโอเปียประมาณปีละ 2 แสนคน
นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีโดยอิงแนวทางของธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ภายใต้กรอบนโยบาย Sustainable Development and Poverty Reduction Programme (SDPRP) ตามเงื่อนไขของ IMF และประเทศผู้บริจาคต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของนักลงทุน และบรรดาประเทศผู้บริจาคต่าง ๆ เนื่องจากการปฏิรูปเศรษฐกิจนำไปสู่ระบบเสรีเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป การแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังมีน้อย และโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น ถนน และระบบสาธารณูปโภค ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนขนาดใหญ่
ความสำเร็จของการปฏิรูปเศรษฐกิจของเอธิโอเปียขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือที่ได้รับจากประเทศผู้บริจาคเป็นสำคัญ ซึ่งในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ได้มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศผู้บริจาคมีความห่วงกังวล เช่น การปราบปรามผู้ประท้วงฝ่ายค้านอย่างรุนแรง สงครามกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในโซมาเลีย และปัญหาชายแดนกับเอริเทรีย นอกจากนี้ กลุ่มกบฏ Ogaden National Liberation Front (ONLF) ยังได้โจมตีฐานขุดเจาะน้ำมันของจีนที่เมือง Ogaden เมื่อเดือนเมษายน 2550 ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติในเอธิโอเปียขาดความมั่นใจ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจเอธิโอเปียจะเติบโตในอัตราร้อยละ 7.5 ในปี 2550-2551 มีบริษัทต่างชาติใหม่ ๆ เข้าไปลงทุนในเอธิโอเปีย เช่น Starbucks รวมทั้งการลงทุนการผลิตพลังงานชีวภาพก็เพิ่มขึ้นด้วย
และชาติพันธุ์อื่น ๆ อีกร้อยละ 11
จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี พ.ศ. 2550 พบว่าชาวเอธิโอเปียร้อยละ 62.8 นับถือศาสนาคริสต์ (ในจำนวนนี้เป็นผู้นับถือนิกายเอธิโอเปียนคอปติกออร์ทอดอกซ์ร้อยละ 43.5 และนิกายอื่น ๆ ร้อยละ 19.3), ร้อยละ 33.9 นับถือศาสนาอิสลาม, ร้อยละ 2.6 นับถือความเชื่อดั้งเดิม และร้อยละ 0.6 นับถือศาสนาอื่น ๆ
ในวันที่เป็นชนเผ่าจะมีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งดูได้จากหลังคาที่นำมาทำขอหมู่บ้านต่าง ๆ เอธิโอเปียเป็นแหล่งกำเนิดมนุษย์ยุคแรก แต่ไม่ใช่อาณาจักรแรก เพราะยังคงไม่มีความเจริญทางปัญญา แต่มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ประดิษฐ์ขึ้นเก่าแก่ที่สุดในโลก การตั้งชื่อคนแบบเอธิโอเปียนำมาใช้เช่นเดียวกับในประเทศพม่าคือ ใช้ชื่อพ่อหรือปู่แทนนามสกุล[ต้องการอ้างอิง] การนับวันในเอธิโอเปียใช้ปฏิทินแบบเอธิเปีย ภาษาประจำชาติของเอธิโอเปียคือภาษาอามาราซึ่งเป็นภาษาแรก ๆ ที่มีระบบการเขียนในแอฟริกา
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ประเทศเอธิโอเปีย, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.