ศิวนาฏราช

นาฏราช (สันสกฤต: नटराज, อักษรโรมัน: Naṭarāja) มีอีกชื่อว่า อาฏลฺวลฺลาน (ทมิฬ: ஆடல்வல்லான், อักษรโรมัน: Ādalvallāṉ) เป็นรูปปั้นพระศิวะในฐานะเทพนักระบำแห่งจักรวาล การระบำของพระองค์มีชื่อเรียกว่า ตาณฑวะ มีการบรรยายถึงท่าระบำและศิลปะในเอกสารทางศาสนาฮินดูหลายแห่ง เช่น Tevaram, Thiruvasagam ในภาษาทมิฬ และ Anshumadbhed agama กับ Uttarakamika agama ในภาษาสันสกฤตและครันถะ ระบำมูรติปรากฏในโบสถ์พราหมณ์หลักในลัทธิไศวะทั้งหมด และเป็นสัญลักษณ์ทางประติมากรรมที่รู้จักกันดีในอินเดีย และนิยมใช้เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอินเดีย โดยถือเป็นหนึ่งในภาพที่สวยงามที่สุดในศิลปะฮินดู

ศิวนาฏราช
เทพแห่งการระบำ
ศิวนาฏราช
รูปปั้นสัมฤทธิ์ของพระศิวะ เทพแห่งการระบำ สมัยราชวงศ์โจฬะในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ปัจจุบันจัดแสดงที่Los Angeles County Museum of Art
ชื่ออื่นAdalvallaan, Koothan, Sabesan, Ambalavanan
ส่วนเกี่ยวข้องพระศิวะ
สัญลักษณ์อัคนี
คัมภีร์Anshumadbhed agama
Uttarakamika agama

รูปประติมากรรมนี้ให้พระศิวะเป็นเทพแห่งการเต้นระบำและนาฏศิลป์ นอกจากนี้ยังมีภาพนูนของนาฏราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่ง เช่น นครวัด และในเกาะบาหลี ประเทศกัมพูชา และเอเชียกลาง

ศิวนาฏราชในศิลปะอินเดีย

นาฏราช หรือพระศิวะในฐานะของบรมครูองค์แรกแห่งการร่ายรำ พระหัตถ์ขวาด้านบน ทรงถือกลองรูปร่างคล้ายๆ นาฬิกาทราย (เอวคอด) กลองเล็ก ๆ ใบนี้ให้จังหวะประกอบการฟ้อนรำของพระศิวะ และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เสียงกลองเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในจักรวาล นั่นคือ กลองเป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ทั้งมวล

พระหัตถ์ซ้ายด้านบน ถืออัคนี อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้าง โดยคำว่า ทำลายล้าง ในที่นี้ หมายถึง ล้างความชั่ว ล้างอวิชชา ให้หมดไป เพื่อเปิดทางการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่ พระกรและพระหัตถ์คู่ซ้าย-ขวา ซึ่งแทนการสร้างสรรค์และการทำลายล้างนี้ กางออกไปในระดับเสมอกัน อันบ่งบอกถึงความหมายที่ว่า "มีเกิด ก็ย่อมมีดับ" นั่นเอง

พระหัตถ์ขวาด้านล่างแบออก เรียกว่า ปางอภัยมุทรา (abhaya pose) ซึ่งมีความหมายว่า "จงอย่าได้กลัวเลย" (do not fear) เพราะไม่มีภัยใด ๆ จะมากล้ำกลาย ท่านี้บ่งว่าพระศิวะเป็นผู้ปกป้องอีกด้วย

ส่วนพระกรซ้ายด้านล่างพาดขวางลำตัวระดับอก ในลักษณะคล้ายๆ งวงช้าง ซึ่งบางคนตีความว่า เป็นงวงของพระคเณศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ และเป็นบุตรของพระศิวะอีกต่างหาก ปลายนิ้วของพระกรที่เป็นงวงช้างนี้ชี้ไปที่พระบาทซ้ายที่ยกขึ้น มาจากพื้น ก็ตีความกันว่า พระบาทที่ยกขึ้นมานี้บ่งบอกถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร

ส่วนพระบาทขวานั้นเหยียบอยู่บนอสูรมูลาคนี ซึ่งเป็นตัวแทนของอวิชชา เมื่ออวิชชาถูก 'เหยียบ' ไม่ให้โผล่ขึ้นมาบดบังความจริง ความรู้แจ้ง (วิชชา) ก็จะปรากฏขึ้นนั่นเอง

วงกลม ๆ ที่ล้อมพระศิวะอยู่ก็คือ ขอบเขตแห่งการร่ายรำ อันเป็นตัวแทนของจักรวาลทั้งมวล โดยมีขอบด้านนอกเป็นเปลวไฟ และมีขอบด้านในเป็นน้ำในมหาสมุทร พระศิวะในปางนาฏราชนี้ยังแสดงคู่ตรงกันข้ามกันเช่น กลอง = สร้าง vs ไฟ = ทำลาย แม้พระศิวะจะร่ายรำ ขยับมือ ขยับเท้าและแขนขาอย่างต่อเนื่อง แต่พระพักตร์กลับสงบนิ่งเฉย เหมือนไร้ความรู้สึก ซึ่งเป็นเสมือนการสอนว่า การเกิด-ดับของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่โดยตลอด พระเกศาของพระศิวะยาวสยาย ปลิวสะบัดยื่นออกไปทั้งซ้ายขวา เป็นสัญลักษณ์แทนผู้ละทิ้งชีวิตทางโลก แต่ก็มีพระแม่คงคาและพระจันทร์เสี้ยวอันเป็นสัญญลักษณ์แห่งเทพสตรีประดับอยู่ด้วย

ศิวนาฏราชในศิลปขอม

ปราสาทหินในศิลปขอม ทับหน้าของปรางค์ประธานจะแกะสลักเป็นรูปพระศิวนาฏราช หรือ พระอิศวรทรงฟ้อนรำ ซึ่งจัดเป็นประติมากรรมที่สำคัญที่สุดในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ในศิลปขอมนั้นภาพพระศิวนาฏราชจะเป็นภาพสลักนูนต่ำทั้งสิ้น ไม่เป็นประติมากรรมชนิดลอยตัว ส่วนทับหลังของปราสาทจะเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธิ์

ศิวนาฏราชกับศิลปการแสดง

นาฏศิลป์

ภาพการร่ายรำของพระศิวะนับว่ามีบทบาทสำคัญในคติความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ตามตำนานระบุว่าการร่ายรำของพระศิวะเป็นที่เลื่องลือและยกย่องของเหล่าเทพทั้งมวลถึงความสวยงามและน่ายำเกรงในที ในจังหวะลีลาอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเนรมิตสร้างสรรค์

การร่ายรำนี้ภายหลังพระภรตมุนีได้ทราบ จึงขอร้องให้พระคเณศไปกราบบังคมทูลให้พระศิวะซึ่งเป็นพระราชบิดาร่ายรำอีกครั้งเพื่อจะได้จารึกท่าการร่ายรำนี้เป็นบทนาฏยศาสตร์สืบไป พระศิวะท่านจึงได้ร่ายรำให้ชมอีกและได้เรียกเหล่าเทพเทวดาทั้งปวงมาชมพระองค์ร่ายรำอีกครั้ง

บางตำนานกล่าวว่าพญาอนันตนาคราชได้ชมการร่ายรำนี้เมื่อองค์พระอิศวรท่านร่ายรำหลังจากปราบฤๅษีผู้ฝ่าฝืนเทวบัญญ้ติ และปรารถนาจะได้ชมอีก องค์พระนารายณ์ได้ประทานคำแนะนำให้ไปบำเพ็ญตบะที่เชิงเขาไกรลาสเพื่อบูชาองค์พระศิวะ ด้วยอำนาจแห่งการบูชานี้ องค์พระศิวะจึงโปรดประทานพรให้ และถามในสิ่งที่พญาอนันตนาคราชปรารถนา พญานาคราชจึงกราบทูลว่าอยากจะได้เห็นองค์พระศิวะร่ายรำอีกสักครั้ง พระศิวะก็โปรดประทานดังปรารถนา และได้เสด็จลงมาร่ายรำยังมนุษยโลก ซึ่งเชื่อกันว่าสถานที่นั้นคือ วิหาร จิทัมพรัม ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย

ท่าฟ้อนรำทั้ง 108 ท่าขององค์พระศิวะนี้เป็นท่าพื้นฐานสำหรับวิชานาฏยศาสตร์ อันเป็นท่ารำต้นแบบของชาวอินเดีย และแพร่หลายมาถึงเขมร และไทย ผู้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมของอินเดียสืบต่อมา ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูนั้นเชื่อว่าจังหวะการร่ายรำของพระศิวะอาจบันดาลให้เกิดผลดีและผลร้ายแก่โลกได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องอ้อนวอนให้พระองค์ฟ้อนรำในจังหวะที่พอดี โลกจึงจะร่มเย็นเป็นสุข หากพระองค์โกรธกริ้วด้วยการร่ายรำในจังหวะที่รุนแรงแล้วก็ย่อมจะนำมาซึ่งภัยพิบัติแก่โลกนานัปการ

ดุริยางคศิลป์

กลองในพระหัตถ์ของพระศิวะในปางศิวะนาฏราชนี้ เป็นกลองสองหน้า เอวตรงกลางคอด มีลูกตุ้มยึดกับสายสำหรับใช้กระทบหน้ากลองทั้ง 2 ข้าง กลองนี้เรียกว่ากลอง ทมรุ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวที่องค์พระศิวะท่านเลือกใช้ประกอบการร่ายรำอันยิ่งใหญ่นี้ ผู้ประกอบพิธีในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ได้นำเอากลองนี้มาใช้ในการประกอบพิธีมงคล และพัฒนามาเป็นเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "บัณเฑาะว์" ในปัจจุบัน คำว่าบัณเฑาะว์มาจากคำบาลีว่า "ปณวะ" หรือ "ตาณฑวะ" ในภาษาสันสกฤต

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ศิวนาฏราช ในศิลปะอินเดียศิวนาฏราช ในศิลปขอมศิวนาฏราช กับศิลปการแสดงศิวนาฏราช อ้างอิงศิวนาฏราช แหล่งข้อมูลอื่นศิวนาฏราชตาณฑวะพระศิวะภาษาทมิฬภาษาสันสกฤตมูรติลัทธิไศวะโบสถ์พราหมณ์

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตรจักรทิพย์ ชัยจินดาพัชราภา ไชยเชื้ออสมทสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอินนาลิลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูนรายชื่อนามสกุลที่ใช้กันมากการ์ตูนจังหวัดเชียงรายอัลกออิดะฮ์ไตรลักษณ์ประเทศนิวซีแลนด์เอ็กซูม่าไดโนเสาร์กระทรวงมหาดไทย (ประเทศไทย)พระพุทธชินราชกองทัพ พีคสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหัวใจไม่มีปลอมสาธารณรัฐจีนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไทย)สหรัฐสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองดวงใจเทวพรหมประเทศซาอุดีอาระเบียกองทัพเรือไทยเสรีพิศุทธ์ เตมียเวสไมเคิล แจ็กสันรายชื่อตัวละครในเกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้วมยุรา เศวตศิลากองทัพอากาศไทยสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดกรณิศ เล้าสุบินประเสริฐอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อิษยา ฮอสุวรรณพรีเมียร์ลีกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไต้หวันพรรคเพื่อไทย1ประเทศไต้หวันธนาคารไทยพาณิชย์จริยา แอนโฟเน่วินาศกรรม 11 กันยายนสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์69 (ท่วงท่าเพศสัมพันธ์)สินจัย เปล่งพานิชปริญ สุภารัตน์ไทยอาร์เจนตินากองทัพสหรัฐเกาหลีเหนือภาคเหนือ (ประเทศไทย)กกจังหวัดพิจิตรความดันโลหิตสูงรายชื่อสกุลญี่ปุ่นที่ใช้มากที่สุดยืนยง โอภากุลเมธวิน โอภาสเอี่ยมขจรดวงจันทร์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39ประเทศตองงาจีนโอซากะประเทศพม่าไวยาวัจกรถนอม กิตติขจรติ๊กต็อกพฤษภาคมอาณาจักรอยุธยาโชกุน (ละครโทรทัศน์ปี 2024)เศรษฐศาสตร์สมณศักดิ์จังหวัดนนทบุรีเมทัลลิกาธี่หยด🡆 More