ประเทศมอนเตเนโกร

42°30′N 19°18′E / 42.500°N 19.300°E / 42.500; 19.300

มอนเตเนโกร

Crna Gora / Црна Гора (มอนเตเนโกร)
ที่ตั้งของ ประเทศมอนเตเนโกร  (เขียว) ในทวีปยุโรป  (เทาเข้ม)  —  [คำอธิบายสัญลักษณ์]
ที่ตั้งของ ประเทศมอนเตเนโกร  (เขียว)

ในทวีปยุโรป  (เทาเข้ม)  —  [คำอธิบายสัญลักษณ์]

เมืองหลวง
และเมืองใหญ่สุด
พอดกอรีตซา
42°47′N 19°28′E / 42.783°N 19.467°E / 42.783; 19.467
ภาษาราชการมอนเตเนโกร
ภาษาที่ใช้ในราชการ
กลุ่มชาติพันธุ์
(ค.ศ. 2011)
  • 45.0% มอนเตเนโกร
  • 28.7% เซิร์บ
  • 8.6% บอสเนีย
  • 4.9% แอลเบเนีย
  • 12.7% อื่น ๆ
ศาสนา
(ค.ศ. 2011)
การปกครองรัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบรัฐสภา
• ประธานาธิบดี
ยาก็อฟ มิลาตอวิช
• นายกรัฐมนตรี
มิลอยกอ สปายิช
• ประธานรัฐสภา
อันดริยา มันดิช
สภานิติบัญญัติสกุปชตินา
ประวัติก่อตั้ง
• ราชรัฐดูกลิยา
ค.ศ. 625
• ราชอาณาจักรดูกลิยา
ค.ศ. 1077
• ราชรัฐเซตา
ค.ศ. 1356
• รัฐเจ้าชายมุขนายก
ค.ศ. 1516
ค.ศ. 1852
ค.ศ. 1878
ค.ศ. 1910
• รวมกับเซอร์เบีย
ค.ศ. 1918
ค.ศ. 1945
ค.ศ. 1992
• ฟื้นฟูเอกราช
ค.ศ. 2006
พื้นที่
• รวม
13,812 ตารางกิโลเมตร (5,333 ตารางไมล์) (อันดับที่ 156)
2.6
ประชากร
• ค.ศ. 2020 ประมาณ
เพิ่มขึ้นเป็นกลาง 621,873 (อันดับที่ 169)
45 ต่อตารางกิโลเมตร (116.5 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 133)
จีดีพี (อำนาจซื้อ) ค.ศ. 2020 (ประมาณ)
• รวม
11.994 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 149)
19,252 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 63)
จีดีพี (ราคาตลาด) ค.ศ. 2020 (ประมาณ)
• รวม
4.790 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 153)
7,688 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 73)
จีนี (ค.ศ. 2019)positive decrease 34.1
ปานกลาง
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019)เพิ่มขึ้น 0.829
สูงมาก · อันดับที่ 48
สกุลเงินยูโร ()a (EUR)
เขตเวลาUTC+1 (เวลายุโรปกลาง)
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)
UTC+2 (เวลาออมแสงยุโรปกลาง)
รูปแบบวันที่วว.ดด.ปปปป
ขับรถด้านขวามือ
รหัสโทรศัพท์+382
โดเมนบนสุด.me
  1. ประกาศใช้เพียงฝ่ายเดียว; มอนเตเนโกรมิใช่ส่วนหนึ่งของยูโรโซน

มอนเตเนโกร (อังกฤษ: Montenegro, ออกเสียง: /ˌmɒntɪˈniːɡroʊ, -ˈneɪɡroʊ, -ˈnɛɡroʊ/ (ประเทศมอนเตเนโกร ฟังเสียง); มอนเตเนโกร: Crna Gora / Црна Гора, ออกเสียง: [tsr̩̂ːnaː ɡǒra], แปลว่า ภูเขาสีดำ; แอลเบเนีย: Mali i zi) เป็นประเทศเอกราชซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตจรดทะเลเอเดรียติกและโครเอเชียทางทิศตะวันตก จรดบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาทางทิศเหนือ จรดประเทศคอซอวอ และเซอร์เบียทางทิศตะวันออก และจรดแอลเบเนียทางทิศใต้ มีพอดกอรีตซาเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

ในอดีต มอนเตเนโกรมีสถานะเป็นสาธารณรัฐในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย และต่อมาได้เป็นส่วนหนึ่งในสหภาพการเมืองของสหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ต่อมาคือเซอร์เบียและมอนเตเนโกร หลังจากมีการลงประชามติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 มอนเตเนโกรก็ได้ประกาศเอกราชในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มอนเตเนโกรได้รับการกำหนดให้เป็น "รัฐประชาธิปไตย สวัสดิการ และสิ่งแวดล้อม"

ในช่วงต้นยุคกลาง มีราชรัฐสามแห่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของมอนเตเนโกรในปัจจุบัน ราชรัฐซีตาเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 14 และ 15 ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 14 ถึงปลายศตวรรษที่ 18 พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของมอนเตเนโกรถูกปกครองโดยสาธารณรัฐเวนิสและรวมอยู่ในเขตแอลเบเนียชื่อมอนเตเนโกรถูกใช้เรียกประเทศนี้เป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 หลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน มอนเตเนโกรได้รับการปกครองแบบกึ่งอิสระในปี 1696 ภายใต้การปกครองของสภาเปโตรวิช-นีเอกอช เริ่มแรกเป็นเทวาธิปไตยและต่อมาเป็นราชรัฐ ความเป็นอิสระของมอนเตเนโกรได้รับการยอมรับจากมหาอำนาจในรัฐสภาแห่งเบอร์ลินในปี 1878 ในปี 1910 ประเทศกลายเป็นราชอาณาจักร หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ราชอาณาจักรได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย หลังจากการล่มสลายของยูโกสลาเวีย สาธารณรัฐเซอร์เบียและมอนเตเนโกรร่วมกันประกาศเป็นสหพันธรัฐ ในเดือนมิถุนายน 2006 มอนเตเนโกรได้ประกาศเอกราชจากเซอร์เบียและมอนเตเนโกรหลังการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช ทำให้มอนเตเนโกรและเซอร์เบียยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน มอนเตเนโกรจึงเป็นหนึ่งในประเทศใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในโลก.

มอนเตเนโกรมีเศรษฐกิจที่มีรายได้ปานกลางระดับบน เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เนโท องค์การการค้าโลก องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป สภายุโรป และข้อตกลงการค้าเสรียุโรปกลาง มอนเตเนโกรยังเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหภาพเมดิเตอร์เรเนียน และอยู่ในขั้นตอนการเข้าร่วมสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2012

ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ระยะแรกของชนเผ่ามอนเตเนโกรเริ่มปรากฏชัดเจนในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ในฐานะเป็นรัฐกึ่งอิสระชื่อว่า ดูเคลีย (Duklija) ต่อมาจึงมีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้น ซึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 7 ได้ทรงมีประกาศรับรองความเป็นอิสระของดูเคลีย และยอมรับพระเจ้ามีไฮโลแห่งดูเคลียอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ค.ศ. 1077

ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 มอนเตเนโกรได้ถูกจักรวรรดิออตโตมันเข้ายึดครอง แต่ด้วยเหตุที่ว่าเป็นรัฐชายแดนทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน อำนาจและอิทธิพลของจักรวรรดิจึงแผ่ขยายเข้าไปได้ไม่มากนัก กษัตริย์ของมอนเตเนโกรตั้งแต่ปลางยุคกลางจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงมีอำนาจปกครองประเทศด้วยความอิสระพอควร

ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 กษัตริย์มอนเตเนโกร โดยพระเจ้านิโคลัสที่ 1 แห่งราชวงศ์นีเยกอช ทรงพยายามปลดแอกประเทศจากการอยู่ใต้อำนาจการปกครองของจักรวรรดิออตโตมันหลายครั้ง ซึ่งในที่สุดแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2421 (ค.ศ. 1878) รัสเซียซึ่งได้ทำสงครามกับจักรวรรดิออตโตมันได้รับชัยชนะและส่งผลให้มีการตกลงสนธิสัญญาซานสเตฟาโน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้รัสเซียมีอิทธิพลมากขึ้นในกลุ่มรัฐบอลข่าน อังกฤษและออสเตรีย-ฮังการีจึงคัดค้านและนำไปสู่การประชุมใหญ่แห่งเบอร์ลิน เพื่อทบทวนสนธิสัญญาซานสเตฟาโนและจัดทำสนธิสัญญาเบอร์ลินขึ้นแทน ซึ่งสนธิสัญญฉบับนี้ส่งผลให้มอนเตเนโกรได้รับดินแดนเพิ่มเติมพร้อมเป็นเอกราชจากออตโตมัน

ความผันผวนทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่าน และกระแสชาตินิยมจากการเคลื่อนไหวของขบวนการอุดมการณ์รวมกลุ่มสลาฟ (Pan-Slavism) ได้นำไปสู่การเกิดสงครามบอลข่านสองครั้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1912-1913 สงครามบอลข่านครั้งแรกเป็นสงครามระหว่างสันนิบาตบอลข่านซึ่งประกอบด้วยประเทศกรีซ บัลแกเรีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร กับจักรวรรดิออตโตมันซึ่งผลที่ออกมาคือชัยชนะของสันนิบาต ส่งผลให้ทางออตโตมันต้องสูญเสียดินแดนในยุโรปเกือบทั้งหมด พร้อมยอมให้มีการจัดตั้งประเทศแอลเบเนียขึ้น แต่เนื่องด้วยความไม่พอใจของเซอร์เบียและมอนเตเนโกรเพราะต้องการผนวกดินแดนชายฝั่งของแอบเบเนียเพื่อเป็นทางออกทะเล และความไม่พอใจของบัลแกเรียที่ได้เห็นว่าเซอร์เบียได้รับผลประโยชน์มากกว่า บัลแกเรียจึงเปิดฉากสงครามบอลข่านครั้งที่ 2 ขึ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1913 แต่ผลออกมาคือการพ่ายแพ้ของบัลแกเรีย ส่งผลให้เซอร์เบียและมอนเตเนโกรได้รับดินแดนเพิ่มเติมอีกประมาณหนึ่งเท่าของพื้นที่เดิมของประเทศ

ประเทศมอนเตเนโกร 
ราชอาณาจักรมอนเตเนโกร

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มอนเตเนโกรได้เข้าสนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรในการทำสงครามกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง แต่ด้วยกองกำลังที่เล็กเพียงประมาณ 5 พันคน กองกำลังมอนเตเนโกรจึงประสบความพ่ายแพ้ต่อกองทัพออสเตรีย-ฮังการี

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) มอนเตเนโกรได้ตัดสินใจรวมประเทศเข้ากับราชอาณาจักรเซอร์เบีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นแกนนำสำคัญในการรวมชนเชื้อสายสลาฟใต้เข้าด้วยกันหลังสงครามยุติและสถาปนา "ราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน" ขึ้น โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งยูโกสลาเวีย แห่งราชวงศ์การาจอร์เจวิชเป็นประมุขแห่งรัฐ แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1924 พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ทรงประกาศยุบสภาและปกครองด้วยระบอบเผด็จการ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "ยูโกสลาเวีย" แต่ด้วยความไม่พอใจของชนชาติต่าง ๆ ในการปกครองแบบเผด็จการของพระองค์ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 จึงถูกลอบปลงพระชนม์โดยพวกโครแอตชาตินิยมในขณะที่เสด็จฯเยือน ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1934 เจ้าชายปีเตอร์ที่ 2 พระราชโอรสวัย 11 ชันษาจึงเสด็จขึ้นครองบัลลังก์แทน

ประเทศมอนเตเนโกร 
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ยูโกสลาเวียถูกนานาประเทศเข้ายึดครอง ยอซีป บรอซ (Josip Broz) หรือตีโต (Tito) ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ยูโกสลาเวียจึงได้ก่อตั้งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติเพื่อปลดปล่อยประเทศออกจากการยึดครอง ซึ่งในที่สุดก็สามารถปลดแอกตนเองออกมาได้ ส่วนตีโตนั้นได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้นำประเทศ ซึ่งเขาก็ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมแบบสหภาพโซเวียตวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) และเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่เป็น “สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย” ซึ่งประกอบด้วย 6 รัฐ กล่าวคือ สโลวีเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย และอีก 2 จังหวัดปกครองตนเอง คือ คอซอวอและวอยวอดีนา และถึงแม้ว่ามอนเตเนโกรจะรวมตัวอยู่กับยูโกสลาเวียซึ่งมีการปกครองในระบอบสังคมนิยม แต่มอนเตเนโกรก็มีอำนาจการปกครองภายในอย่างสมบูรณ์

การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐต่าง ๆ ที่รวมตัวกันอยู่ในยูโกสลาเวีย รัฐโครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) แต่เซอร์เบียและมอนเตเนโกรกลับรวมตัวกันอยู่ดังเดิม พร้อมกับเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย" และมีนายสลอบอดัน มีโลเชวิช (Slobodan Milosevic) เป็นประธานาธิบดีคนแรก ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) ได้มีการเปลี่ยนชื่อประเทศอีกครั้งเป็นเซอร์เบียและมอนเตเนโกร แต่ละรัฐมีอำนาจปกครองตนเองสูงสุด มีเพียงการทหารและการต่างประเทศที่รวมกันเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ได้มีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากเซอร์เบีย โดยร้อยละ 55.4 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำ (ร้อยละ 55) ที่สหภาพยุโรปกำหนดที่จะให้การรับรอง และด้วยเหตุนี้มอนเตเนโกรจึงประกาศแยกตัวเพื่อมาเป็นประเทศใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน ปัจจุบันมอนเตเนโกรได้รับการรับรองจากนานาประเทศและเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติลำดับที่ 192 และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ หลายองค์การแล้ว

การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศมอนเตเนโกร 

มอนเตเนโกรแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 21 เทศบาล (opština)

ประชากร

อ้างอิง

หมายเหตุ

อ้างอิง

ข้อมูล

อ่านเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ประเทศมอนเตเนโกร ประวัติศาสตร์ประเทศมอนเตเนโกร การแบ่งเขตการปกครองประเทศมอนเตเนโกร ประชากรประเทศมอนเตเนโกร อ้างอิงประเทศมอนเตเนโกร อ่านเพิ่มประเทศมอนเตเนโกร แหล่งข้อมูลอื่นประเทศมอนเตเนโกร

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

เปรม ติณสูลานนท์พัชราภา ไชยเชื้อชาลี ไตรรัตน์รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยทวีปยุโรปเจริญ สิริวัฒนภักดีจูด เบลลิงงัมโป๊กเกอร์เผ่าภูมิ โรจนสกุลอนุทิน ชาญวีรกูลโดราเอมอนแฮร์รี่ พอตเตอร์นิษฐา คูหาเปรมกิจอรจิรา แหลมวิไลศุกลวัฒน์ คณารศเทศน์ เฮนรี ไมรอนเกย์Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่เจมี วาร์ดีประเทศโมนาโกบอดี้สแลมพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมืองโบราณข่าวช่อง 7HDจังหวัดภูเก็ตดราก้อนบอลรหัสโทรศัพท์ระหว่างประเทศการโฆษณาพิจักขณา วงศารัตนศิลป์ศิริลักษณ์ คองพชร จิราธิวัฒน์มาริโอ้ เมาเร่อจังหวัดยโสธรประเทศเกาหลีเหนือจังหวัดสกลนครพระพุทธชินราชธนาคารกสิกรไทยรายชื่อรัฐวิสาหกิจไทยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์จังหวัดเชียงใหม่การบินไทยสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสจังหวัดอุบลราชธานีช่อง 8สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกสโมสรฟุตบอลฟีออเรนตีนารายชื่อสกุลญี่ปุ่นที่ใช้มากที่สุดจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดหนองคายพัก มิน-ย็องพระราชสันตติวงศ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวดวงจันทร์วัลลภ เจียรวนนท์มหาวิทยาลัยรังสิตจังหวัดร้อยเอ็ดพฤษภาคมสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาอนาคามีจังหวัดน่านฟุตซอลทีมชาติไทยสกูบี้-ดูยิ่งลักษณ์ ชินวัตรพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรฟุตซอลโลก 2024พอได้เกิดใหม่เป็นองค์ชายลําดับที่เจ็ด ก็เพื่อเรียนเวทให้สนุกวิทยุเสียงอเมริกาจังหวัดนครปฐมรายชื่อคาถาในแฮร์รี่ พอตเตอร์พรหมโลกพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)ยุทธการที่เซกิงาฮาระรัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตรประเทศมัลดีฟส์กังฟูแพนด้า (แฟรนไชส์)ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุลช่องวัน 31นิวคาสเซิลอะพอนไทน์🡆 More