อุซามะฮ์ บิน ลาดิน

โอซามะฮ์ บิน โมฮัมเม็ด บิน อาวัด บิน ลาดิน (อาหรับ: أسا‌مة بن محمد بن عو‌ض بن لا‌د‌ن; 10 มีนาคม ค.ศ.

1957 – 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2011) เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรวมอิสลาม อัลกออิดะฮ์ ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เนโท สหภาพยุโรป และอีกหลายประเทศที่ประกาศว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน
أسا‌مة بن لا‌د‌ن
อุซามะฮ์ บิน ลาดิน
บิน ลาดิน ป. ค.ศ. 1997–98
นายพลเอมีร์คนแรกของอัลกออิดะฮ์
ดำรงตำแหน่ง
11 สิงหาคม ค.ศ. 1988 – 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2011
ก่อนหน้าก่อตั้งตำแหน่ง
ถัดไปอัยมัน อัซเซาะวาฮิรี
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
อุซามะฮ์ บิน มุฮัมมัด บิน อะวัฎ บิน ลาดิน

10 มีนาคม ค.ศ. 1957(1957-03-10)
ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
เสียชีวิต2 พฤษภาคม ค.ศ. 2011(2011-05-02) (54 ปี)
เอบเฏอบอด, แคว้นแคบาร์ปัคตูนควา, ประเทศปากีสถาน
สาเหตุการเสียชีวิตแผลจากการถูกยิง
สัญชาติซาอุดีอาระเบีย (ค.ศ. 1957–1994)
ความสูง1.95 เมตร (6 ฟุต 5 นิ้ว)
คู่สมรสนัจวา ฆอนิม (สมรส 1974; หย่า 2001)
Khadijah Sharif (สมรส 1983; หย่า 1990)
Khairiah Sabar (สมรส 1985)
Siham Sabar (สมรส 1987)
Amal Ahmed al-Sadah (สมรส 2000)
บุตร20–26 คน; รวมอับดุลลอฮ์, ซะอัด, อุมัร และฮัมซะฮ์
บุพการีมุฮัมมัด บิน อะวัฎ บิน ลาดิน
ฮะมีดะฮ์ อัลอะฏอส
ความสัมพันธ์ครอบครัวบิน ลาดิน
ศาสนาอิสลาม (วะฮาบีย์/ซะละฟี)
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้อุซามะฮ์ บิน ลาดิน มักตะบุลคิดมาต (ค.ศ. 1984–1988)
อุซามะฮ์ บิน ลาดิน อัลกออิดะฮ์ (1988–2011)
ประจำการค.ศ. 1984–2011
ยศนายพลเอมีร์คนแรกของอัลกออิดะฮ์
ผ่านศึกสงครามโซเวียต–อัฟกานิสถาน
  • ยุทธการที่จาจี

สงครามต่อต้านการก่อการร้าย

เขาเคยเป็นพลเมืองซาอุดีอาระเบียจนถึง ค.ศ. 1994 และเป็นสมาชิกของครอบครัวบิน ลาดินที่ร่ำรวย มุฮัมมัด บิน อะวัฎ บิน ลาดิน พ่อของบิน ลาดิน เป็นเศรษฐีพันล้านชาวซาอุดีจากฮัฎเราะเมาต์ ประเทศเยเมน และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทก่อสร้าง ซาอุดีบินลาดินกรุ๊ป ส่วนอาลิยะฮ์ ฆอนิม แม่ของเขา เป็นฆราวาสจากครอบครัวชนชั้นกลางในอัลลาษิกียะฮ์ ประเทศซีเรีย เขาเกิดในประเทศซาอุดีอาระเบียและศึกษาที่มหาวิทยาลัยในประเทศจนถึง ค.ศ. 1979 เมื่อเขาไปเข้าร่วมกองกำลังมุญาฮิดีนที่ปากีสถานสู้รบกับสหภาพโซเวียตที่อัฟกานิสถาน เขาช่วยเหลือพวกมุญาฮิดีนด้วยการส่งอาวุธ เงิน และนักสู้จากโลกอาหรับไปยังอัฟกานิสถาน ทำให้ได้รับความนิยมในชาวอาหรับ ใน ค.ศ. 1988 เขาก่อตั้งกลุ่มอัลกออิดะฮ์ จากนั้นจึงถูกเนรเทศออกจากประเทศซาอุดีอาระเบียใน ค.ศ. 1992 และย้ายฐานไปที่ประเทศซูดาน จนกระทั่งสหรัฐบังคับให้เข้าออกจากซูดานใน ค.ศ. 1996 หลังตั้งฐานทัพใหม่ที่อัฟกานิสถาน เขาประกาศสงครามต่อสหรัฐ และเริ่มภารกิจระเบิดกับการโจมตีที่คล้าย ๆ กัน บิน ลาดินอยู่ในรายชื่อสิบผู้หลบหนีที่ต้องการตัวมากที่สุดและผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัวมากที่สุดของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จากการระเบิดสถานทูตสหรัฐใน ค.ศ. 1998

บิน ลาดินเป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้ก่อเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน และทำให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชเริ่มต้นสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 ถึง 2011 บิน ลาดินกลายเป็นเป้าหมายหลักของสหรัฐ เพราะทางเอฟบีไอประกาศนำจับด้วยเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เนวีซีลของสหรัฐยิงบิน ลาดินจนเสียชีวิตที่บ้านพักส่วนตัวในเอบเฏอบอด ประเทศปากีสถาน ปฏิบัติการนี้ควบคุมตามคำสั่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ภายใต้การนำของบิน ลาดิน องค์กรอัลกออิดะฮ์มีส่วนในการโจมตีทั่วโลก

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา

อุซามะฮ์ บิน มุฮัมมัด บิน อะวัฎ บิน ลาดินเกิดที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นบุตรของมุฮัมมัด บิน อะวัฎ บิน ลาดิน เจ้าสัวโครงการก่อสร้างมหาเศรษฐีชาวเยเมนที่มีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ซะอูด กับฮะมีดะฮ์ อัลอะฏอส (ตอนนั้นมีชื่อว่าอาลิยะฮ์ ฆอนิม) ภรรยาคนที่ 10 ของมุฮัมมัด บิน ลาดินที่เป็นชาวซีเรีย ในการสัมภาษณ์ ค.ศ. 1998 บิน ลาดินกล่าวว่าตนเกิดในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1957

หลังจากที่เขาถือกำเนิด มุฮัมมัด บิน ลาดินหย่ากับฮามิดะฮ์ทันที แล้วแนะนำให้ไปแต่งงานกับมุฮัมมัด อัลอะฏอส ทั้งคู่แต่งงานในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 หรือต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 ปัจจุบันยังคงอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่มีลูก 4 คน และบิน ลาดินกลายเป็นสมาชิกใหม่ที่มีกึ่งพี่/น้องชาย 3 คนและกึ่งพี่/น้องสาวคนเดียว ครอบครัวของบิน ลาดินมีรายได้ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจก่อสร้าง ต่อมาอุซามะฮ์ได้รับมรดกกว่า 25-30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บิน ลาดินถูกเลี้ยงมาให้นับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนนี จาก ค.ศ. 1968 ถึง 1976 เขาเข้าศึกษาที่สถานศึกษาต้นแบบอัษษะฆิร แล้วศึกษาต่อในด้านเศรษฐศาสตร์และปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิตที่มหาวิทยาลัยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซ บางรายงานกล่าวแนะว่า เขาได้รับปริญญาสาขาวิศวกรรมโยธาใน ค.ศ. 1979 หรือปริญญาในด้านการบริหารรัฐกิจใน ค.ศ. 1981 บิน ลาดินเคยเข้าเรียนภาษาอังกฤษที่ออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษใน ค.ศ. 1971 ข้อมูลหนึ่งกล่าวถึงเขาว่า "ทำงานหนัก" บางส่วนกล่าวว่า เขาลาออกจากมหาวิทยาลัยในปี 3 โดยไม่ได้รับปริญญาใด ๆ ตอนศึกษาที่มหาวิทยาลัย สิ่งที่บิน ลาดินสนใจคือศาสนา ซึ่งเขามีส่วนร่วมทั้ง "แปลอัลกุรอานกับญิฮาด" และทำงานจิตอาสา ความสนใจอื่น ๆ ของเขาคือ การแต่งกวี การอ่าน และเขาติดตามสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล

ชีวิตส่วนตัว

ใน ค.ศ. 1974 ตอนอายุ 17 บิน ลาดินแต่งงานกับนัจวา ฆอนิมทีอัลลาษิกียะฮ์ ประเทศซีเรีย ทั้งคู่แยกกันก่อนเกิดเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ภรรยาหลายคนเท่าที่รู้จักคือเคาะดีญะฮ์ ชะรีฟ (แต่งงาน ค.ศ. 1983, หย่าในคริสต์ทศวรรษ 1990); Khairiah Sabar (แต่งงานใน ค.ศ. 1985); Siham Sabar (แต่งงานใน ค.ศ. 1987) และ Amal al-Sadah (แต่งงานใน ค.ศ. 2000) บางรายงานกล่าวถึงภรรยาคนที่หก ซึ่งไม่ทราบชื่อ ผู้ที่แต่งงานกับบิน ลาดินจะถูกหย่าหลังพิธี บิน ลาดินเป็นพ่อของลูก ๆ ระหว่าง 20 ถึง 26 คนจากภรรยาของเขา หลังจากเหตุการณ์ 11 กันยา ลูก ๆ ของบิน ลาดินหลายคนหนีไปยังประเทศอิหร่าน และข้อมูลเมื่อ 2010 เจ้าหน้าที่อิหร่านยังคงรายงานการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้อยู่ตลอด

นาศิร อัลบะห์รี ผู้เป็นคนคุ้มกันประจำตัวของบิน ลาดินใน ค.ศ. 1997–2001 กล่าวถึงบิน ลาดินในบันทึกว่า เขาเป็นคนประหยัด และเป็นพ่อที่เข้มงวด เขาชอบที่จะพาครอบครัวที่ใหญ่โตของเขาออกเดินทางไปยิงปืนและปิกนิกในทะเลทราย

มุฮัมมัด พ่อของบิน ลาดินเสียชีวิตใน ค.ศ. 1967 จากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อจิม แฮร์ริงตัน นักบินชาวอเมริกันตัดสินใจผิดพลาดขณะลงจอด ซาลิม บิน ลาดิน กึ่งพี่ชายคนโตของบิน ลาดิน ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวคนต่อมาได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1988 ใกล้เมืองแซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ในอุบัติเหตุขณะขับเครื่องบินไปชนสายไฟ

ทางเอฟบีไอบรรยายถึงบิน ลาดินว่า เขาเป็นผู้ใหญ่ที่สูงและผอม มีส่วนสูงระหว่าง 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว) ถึง 1.98 เมตร (6 ฟุต 6 นิ้ว) และน้ำหนักประมาณ 73 กิโลกรัม (160 ปอนด์) ถึงแม้ว่าลอว์เรนซ์ ไรต์ ผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับอัลกออิดะฮ์ในเดอะลูมมิงทาวเวอร์ ซึ่งชนะรางวัลพูลิตเซอร์ บันทึกจากข้อมูลคนใกล้ชิดกับบิน ลาดินว่า "เขาสูงมากกว่า 6 ฟุต (1.8 เมตร)" หลังเสียชีวิต มีการวัดว่าเขาสูงประมาณ 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว) บิน ลาดินมีผิวสีมะกอกและถนัดมือข้างซ้าย ส่วนใหญ่มักเดินพร้อมกับไม้เท้า และสวมกูฟียะฮ์ขาว มีการกล่าวถึงบิน ลาดินว่าพูดจาไพเราะอ่อนน้อมถ่อมตน

บทบาททางการทหารและการเมือง

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน 
บิน ลาดิน ในขณะให้สัมภาษณ์กับ ฮามิด เมียร์ นักข่าวชาวปากีสถานใน ค.ศ. 1997

หลังสหภาพโซเวียตเข้ารุกรานอัฟกานิสถานในปี 1979 ได้ไม่นาน บิน ลาดิน ได้เดินทางไปพบกับผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาวอัฟกันและช่วยหาเงินอุดหนุนการต่อต้านการยึดครองของสหภาพโซเวียต นับแต่ปี 1984 บิน ลาดิน ดำเนินกิจกรรมส่วนใหญ่ในอัฟกานิสถานและปากีสถาน มีส่วนสำคัญในการหาอาสาสมัครชาวอาหรับเพื่อต่อสู้กับทหารโซเวียต ด้วยเงินทุนและชื่อเสียงในความเคร่งศาสนา และความกล้าหาญในสนามรบช่วยเสริมสถานะของเขาในฐานะผู้นำทางทหาร ในปี 1988 เขาได้สร้างฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์รวบรวมรายชื่ออาสาสมัครผู้ร่วมรบในสงครามอัฟกานิสถาน ซึ่งกลายมาเป็นฐานข้อมูลของเครือข่ายทางทหารกลุ่มใหม่ในชื่อ “อัลกออิดะฮ์” (al-Qaeda, ในภาษาอาหรับแปลว่า ฐาน) แม้ว่ากลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้จะยังไม่มีวัตถุประสงค์หรือวาระในการปฏิบัติการที่ชัดเจนเป็นเวลาหลายปีก็ตาม

ในปี 1989 หลังสหภาพโซเวียตถอนทัพออกจากอัฟกานิสถาน บิน ลาดิน เดินทางกลับซาอุดีอาระเบียในฐานะวีรบุรุษ แต่ไม่นานก็ถูกรัฐบาลหมายหัวในฐานะพวกหัวรุนแรงและอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ในปี 1990 รัฐบาลซาอุดีอาระเบียปฏิเสธคำร้องขอให้เครือข่ายนักรบของเขาร่วมปกป้องซาอุดีอาระเบียจากภัยคุกคามของ ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักในสมัยนั้น เนื่องจากซาอุดีอาระเบียหวังพึ่งกองทัพสหรัฐฯ เป็นกำลังหลัก คำปฏิเสธสร้างความไม่พอใจให้กับ บิน ลาดินอย่างรุนแรง และนั่นเป็นสาเหตุหลักที่เขาหันหน้าให้กับประเทศบ้านเกิด เนื่องจากผิดหวังในความอ่อนแอของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เขาเดินทางออกจากซาอุดีอาระเบียไปตั้งหลักอยู่ที่ซูดานในปี 1991

ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 เขาและเครือข่ายอัลกออิดะฮ์เริ่มวางรูปแบบการต่อต้านด้วยความรุนแรงต่อภัยคุกคามจากอิทธิพลของสหรัฐฯ ในโลกมุสลิม เขาออกมาแสดงความชื่นชมอย่างเปิดเผยต่อการโจมตีสหรัฐฯของกลุ่มหัวรุนแรงต่าง ๆ รวมถึงเหตุโจมตีด้วยระเบิดต่ออาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 1993 ปีถัดมา บิน ลาดิน เริ่มขยายโครงสร้างของกลุ่มในซูดานเพื่อรองรับการฝึกฝนนักรบอิสลามเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งทั่วโลก ไม่นานซาอุดีอาระเบียก็ประกาศถอนสัญชาติและยึดทรัพย์สินของเขาทำให้เขาจำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากภายนอก

ในปี 1996 หลังถูกกดดันจากนานาชาติอย่างหนัก ซูดานมีคำสั่งเนรเทศบิน ลาดิน เขาจึงเดินทางไปยังอัฟกานิสถานอีกครั้งโดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐบาลตอลิบาน ในปีเดียวกันเขาออก ฟัตวา (คำวินิจฉัยทางศาสนา) ชุดแรก ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อสหรัฐฯ กล่าวหาว่าสหรัฐฯ ปล้นทรัพยากรธรรมชาติจากโลกมุสลิม ยึดครองคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งรวมถึงศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เป้าหมายของบิน ลาดิน ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการยกระดับการทำสงครามของสหรัฐฯกับโลกมุสลิมและหวังให้ประเทศมุสลิมรวมตัวเป็นรัฐอิสลามหนึ่งเดียว (รัฐเคาะลีฟะฮ์, Caliphate)

นับแต่นั้นมา บิน ลาดิน และอัลกออิดะฮ์ ได้ฝึกฝนนักรบและให้ทุนสนับสนุนการโจมตีในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง พวกเขาถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯหลายแห่ง ถึงปี 2001 กลุ่มติดอาวุธ 19 คน ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะฮ์ได้วางแผนโจมตี “11 กันยายน” (การยึดเครื่องบินพานิชย์พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน) ทำให้สหรัฐฯและชาติพันธมิตรตัดสินใจใช้กำลังเข้าล้มล้างรัฐบาลตาลีบันพร้อมกับตามล่าบิน ลาดิน

นับแต่ปลายปี 2001 บิน ลาดิน ได้หลบหนีการจับกุมของสหรัฐฯ และหายหน้าหายตาไปจากสาธารณะ จนถึงเดือนตุลาคม 2004 ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเพียงสัปดาห์เดียว เขาได้ปรากฏตัวในบันทึกวิดีโออ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวินาศกรรม 11 กันยายน อันนำไปสู่ สงครามต่อต้านการก่อการร้าย หลังจากนั้นเขาก็ได้ออกบันทึกเสียงและคลิปวิดีโอเพื่อปลุกใจเพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นระยะ ๆ เป็นเวลาหลายปีที่มีข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ ว่าเขาหลบซ่อนอยู่ที่สถานที่ลับตาในประเทศต่าง ๆ และได้รับการคุ้มครองอย่างดี อาทิ หมู่บ้านโทรา โบรา ซึ่งเป็นพื้นที่อันห่างไกลในหุบเขาของอัฟกานิสถาน รวมถึงบ้านพักในปากีสถาน หรือแม้แต่ข่าวลือว่าเขาใช้ชีวิตในถ้ำ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและสำนักงานสอบสวนกลางประกาศนำจับเขาด้วยเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เสียชีวิตและผลที่ตามมา

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน 
เว็บไซต์สำนักงานสอบสวนกลางที่จัดให้บิน ลาดินอยู่ในสถานะเสียชีวิตตามบุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุดในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2011

หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหารของสหรัฐได้ฆ่าอุซามะฮ์ บิน ลาดินที่เอบเฏอบอด ประเทศปากีสถานในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เวลา 1:00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น (16:00 นาฬิกาตามเขตเวลาตะวันออก)

ปฏิบัติการนี้ มีชื่อรหัสว่าปฏิวัติการเนปจูนสเปียร์ เริ่มต้นตามคำสั่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามา กับดำเนินการในสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ด้วยทีมเนวีซีลสหรัฐจากกองพัฒนาสงครามพิเศษกองทัพเรือ (มีอีกชื่อว่าเดฟกรู (DEVGRU) หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ซีลทีมซิกซ์) ของกองบัญชาการร่วมปฏิบัติการพิเศษด้วยการสนับสนุนจากปฏิบัติการซีไอเอในบริเวณนี้ แล้วเริ่มโจมตีที่หลบซ่อนของบิน ลาดินที่เอบเฏอบอดจากอัฟกานิสถาน หลังการโจมตี มีรายงานว่ากองทัพสหรัฐนำร่างกายของบิน ลาดินไปอัฟกานิสถานเพื่อไประบุตัว (positive identification) แล้วนำไปฝังในทะเล ซึ่งตามกฎหมายอิสลาม จะต้องฝังภายใน 24 ชั่วโมงหลังเสียชีวิต การรายงานที่ตามมาได้เรียกข้อมูลนี้ว่าเป็นปัญหา เช่น ไม่มีหลักฐานที่ว่ามีอิหม่ามอยู่บนเรือยูเอสเอส คาร์ลวินสัน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการฝังศพ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ปากีสถานจึงทำลายสิ่งก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นอนุสรณ์ของพวกลัทธินีโออิสลาม ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ในปากีสถานมีการวางแผนสร้างสวนสนุกในบริเวณนี้ ซึ่งรวมถึงที่หลบซ่อนในอดีต ด้วยเงิน 265 ล้านรูปีปากีสถาน (30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ในการสัมภาษณ์ใน ค.ศ. 2019 อิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานอ้างว่าหน่วยสืบราชการลับของปากีสถานเป็นกลุ่มที่นำซีไอเอไปหาอุซามะฮ์ บิน ลาดิน

หมายเหตุ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

บรรณานุกรม

อ่านเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ชีวิตช่วงต้นและการศึกษาอุซามะฮ์ บิน ลาดิน ชีวิตส่วนตัวอุซามะฮ์ บิน ลาดิน บทบาททางการทหารและการเมืองอุซามะฮ์ บิน ลาดิน เสียชีวิตและผลที่ตามมาอุซามะฮ์ บิน ลาดิน หมายเหตุอุซามะฮ์ บิน ลาดิน ดูเพิ่มอุซามะฮ์ บิน ลาดิน อ้างอิงอุซามะฮ์ บิน ลาดิน อ่านเพิ่มอุซามะฮ์ บิน ลาดิน แหล่งข้อมูลอื่นอุซามะฮ์ บิน ลาดินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติภาษาอาหรับสหภาพยุโรปอัลกออิดะฮ์เนโท

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

เพราะเราคู่กันเว็บไซต์พรหมโลกสำนักนายกรัฐมนตรี (ประเทศไทย)หญิงรักร่วมเพศมาตาลดาจังหวัดสุพรรณบุรีพันทิป.คอมชลน่าน ศรีแก้วสมเด็จพระนารายณ์มหาราชข้าราชการไทยอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)เจนนีสโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซภูธฤทธิ์ พรหมบันดาลสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์จังหวัดกระบี่ฟุตซอลโลก 2021พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยชาลิดา วิจิตรวงศ์ทองประเทศสวิตเซอร์แลนด์รายชื่อตอนในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (แอนิเมชัน)สะดุดรักยัยแฟนเช่าอาณาจักรอยุธยาสุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตรเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดชลบุรีAจังหวัดสุราษฎร์ธานีประเทศอาร์มีเนียพุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุลจังหวัดปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนาตะวัน วิหครัตน์จังหวัดนครสวรรค์สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีกฤษณภูมิ พิบูลสงครามสาธุ (ละครโทรทัศน์)โคตรเซียนมาเก๊า เขย่าเวกัส 2หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญเนย์มาร์สถานีกลางบางซื่อความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยจังหวัดขอนแก่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ประเทศไทย)เพลงชาติไทยวรนิษฐ์ ถาวรวงศ์รายชื่อละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 เอชดี (พ.ศ. 2560–2567)สโมสรฟุตบอลลำพูน วอร์ริเออร์สโมสรฟุตบอลเชลซีอินดอร์ สเตเดียม หัวหมากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือพิชิตรัก พิทักษ์โลกรายชื่อโรงเรียนในกรุงเทพมหานครปรมาจารย์ลัทธิมาร (ละครโทรทัศน์)รอยรักรอยบาปมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์เทย์เลอร์ สวิฟต์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกพล ทองพลับพ.ศ. 2567สฤษดิ์ ธนะรัชต์คิม จี-ว็อน (นักแสดง)จีรนันท์ มะโนแจ่มไค ฮาเวิทซ์รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทยมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เทศน์ เฮนรี ไมรอนตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ดสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีกองทัพอากาศไทยประเทศมาเลเซียดาวิกา โฮร์เน่🡆 More