ทศาวตาร (สันสกฤต: दशावतार, daśāvatāra) หมายถึง อวตารหลักทั้งสิบปางของพระวิษณุ เทพเจ้าในศาสนาฮินดู คำว่าทศาวตาร เป็นคำสมาสของคำว่า ทศ หมายถึง สิบ และ อวตาร หมายถึง การแบ่งภาคมาเกิด.
อวตาร | ลำดับ | ยุค |
---|---|---|
มัตสยา | 1 | สัตยยุค |
กูรมา | 2 | |
วราหะ | 3 | |
นรสิงห์ | 4 | |
วามนา | 5 | เตรตายุค |
ปรศุราม | 6 | |
พระราม | 7 | |
พลราม | (8) | ทวาปรยุค |
กฤษณะ | (8, 9) | |
พระโคตมพุทธเจ้า | (9) | กลียุค |
กัลกิ | 10 |
คำว่าทศาวตาร เป็นคำสมาสของคำว่า ทศ หมายถึง สิบ และ อวตาร หมายถึง การแบ่งภาคมาเกิด.
นี่คือจำนวนภาคที่พระวิษณุแบ่งภาคมาเกิดในยุคต่างๆ.
สัตยยุค - มีอยู่ 4 (มัตสยา, กูรมา, วราหะ และนรสิงห์)
เตรตายุค - มีอยู่ 3 (วามนา, ปรศุราม และพระราม)
กลียุค - มีอยู่ 1 และกำลังจะมีอีก 1 (พระโคตมพุทธเจ้า และกัลกิ)
ในภาควัตปุราณะ ได้บอกว่า พระวิษณุมีอวตารไม่สิ้นสุดเพื่อรักษากฎของจักรวาล อย่างไรก็ตาม ก็มีอวตารของพระวิษณุอยู่ 22 อวตารในตอนที่ 1.3.
พระวิษณุมีอยู่ 39 อวตารในคัมภีร์ปัญจตระ เช่น ครุฑ อย่างไรก็ตาม ได้มีการจัดการใหม่จนเหลือสิบอวตารในช่วงก่อนศตวรรษที่ 10
นักเทวญาณชื่อว่า Helena Blavatsky ได้อธิบายเกี่ยวกับทศาวตารดังนี้:
Monier Monier-Williams ก็มีทัศนคติเหมือนกัน ส่วน J. B. S. Haldane อธิบายว่า ทศาวตารได้อธิบายเรื่องการวิวัฒนาการในแบบหยาบๆ : ปลา, เต่า, หมูป่า, ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์, คนแคระ และมนุษย์ทั้งสี่ (กัลกิยังไม่เกิด). และ C. D. Deshmukh อธิบายว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินและทศาวตาร
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ทศาวตาร, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.