ประยุทธ์ จันทร์โอชา: อดีตนายกรัฐมนตรีไทย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ม.ป.ช.

ม.ว.ม. ต.จ.ว. ร.ม.ก. (เกิด 21 มีนาคม พ.ศ. 2497) ชื่อเล่น ตู่ เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งองคมนตรี นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 29 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งก่อรัฐประหาร ใน พ.ศ. 2557 และเป็นคณะทหารที่ปกครองประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 จนถึง 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก
ประยุทธ์ ใน พ.ศ. 2562
องคมนตรี
เริ่มดำรงตำแหน่ง
29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
(0 ปี 146 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 29
ดำรงตำแหน่ง
24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 – 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566
(8 ปี 363 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
รอง
ก่อนหน้านิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
(รักษาการ)
ถัดไปเศรษฐา ทวีสิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 – 1 กันยายน พ.ศ. 2566
(4 ปี 53 วัน)
นายกรัฐมนตรีตนเอง
รัฐมนตรีช่วยชัยชาญ ช้างมงคล
ก่อนหน้าประวิตร วงษ์สุวรรณ
ถัดไปสุทิน คลังแสง
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง
22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
(5 ปี 55 วัน)
รอง
ก่อนหน้าสถาปนาตำแหน่ง
ถัดไปยุบเลิกตำแหน่ง
ผู้บัญชาการทหารบก
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 – 30 กันยายน พ.ศ. 2557
(3 ปี 364 วัน)
ก่อนหน้าพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ถัดไปพลเอก อุดมเดช สีตบุตร
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด21 มีนาคม พ.ศ. 2497 (70 ปี)
ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
พรรคการเมืองอิสระ
การเข้าร่วม
พรรคการเมืองอื่น
รวมไทยสร้างชาติ (2566)
คู่สมรสนราพร โรจนจันทร์ (สมรส 2527)
บุตร
  • ธัญญา
  • นิฏฐา
บุพการี
  • ประพัฒน์ จันทร์โอชา (บิดา)
  • เข็มเพชร จันทร์โอชา (มารดา)
ญาติปรีชา จันทร์โอชา (น้องชาย)
ศิษย์เก่าวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
อาชีพทหารบก
นักการเมือง
ทรัพย์สินสุทธิ130 ล้านบาท (พ.ศ. 2566)
ลายมือชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก ไทย
สังกัดประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก กองทัพบกไทย
ประจำการพ.ศ. 2519–2557
ยศประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก พลเอก
บังคับบัญชา
ผ่านศึกเหตุปะทะชายแดนไทย–เวียดนาม

หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบกในปี พ.ศ. 2553 พลเอก ประยุทธ์ มีลักษณะเป็นผู้นิยมกษัตริย์และเป็นฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ถือเป็นสายแข็งในกองทัพ เขาเป็น 1 ในผู้นำการปราบปรามของทหารต่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเดือนเมษายน 2552 และเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ต่อมาเขามุ่งวางตนเป็นกลาง โดยพูดคุยกับญาติผู้ประท้วงที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ และร่วมมือกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งชนะการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ระหว่างวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2556 ต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เขาอ้างว่ากองทัพเป็นกลาง และจะไม่รัฐประหาร ทว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พลเอกประยุทธ์รัฐประหาร สุเทพ เทือกสุบรรณเปิดเผยว่า ตนกับประยุทธ์วางแผนโค่นทักษิณด้วยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553

วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเอกฉันท์เลือกเขาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกสภานั้นถูก คสช. เลือกมาทั้งหมด คสช. สั่งปราบปรามผู้เห็นแย้ง ห้ามการอภิปรายสาธารณะเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการวิจารณ์รัฐบาล จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกในประเทศไทยอย่างหนัก รวมถึงยังแต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ด้วยตนเอง

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เขาได้รับคะแนนไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 โดยในสมัยนี้เขาถูกวิจารณ์ในเรื่องการจัดการกับผลกระทบของโควิด-19 การกู้เงินจำนวนมาก ตลอดจนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม จากความกำกวมของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่งให้พลเอกประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเขาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรกครบ 8 ปี ก่อนจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งตั้งแต่ 1 ตุลาคม โดยศาลรัฐธรรมนูญให้นับวาระ 8 ปี ตั้งแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560

ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 พลเอกประยุทธ์ได้ย้ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรค และเป็นผู้ได้รับเสนอชื่อให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคในการเลือกตั้งปีดังกล่าว ก่อนจะประกาศวางมือทางการเมืองในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน และสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในเดือนกันยายน ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งองคมนตรี

ปฐมวัย

ประยุทธ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 ณ ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรชายของพันเอก (พิเศษ) ประพัฒน์ จันทร์โอชา และเข็มเพชร จันทร์โอชา มารดาซึ่งรับราชการครู เป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน คนหนึ่งคือ พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมและอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

เขาสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเทคโนโลยีลพบุรี) ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ลาออกเนื่องด้วยบิดาเป็นนายทหารจำต้องโยกย้ายไปในหลายจังหวัด และได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ในสมัยที่ศึกษาอยู่ที่นี่เขาเคยถูกนำเสนอประวัติผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ในฐานะเด็กเรียนดีอีกด้วย จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และในปี พ.ศ. 2514 ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร จนสำเร็จเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) และในปี พ.ศ. 2519 เป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23 และหลักสูตรชั้นนายร้อย รุ่นที่ 51 ในปีเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2524 หลักสูตรชั้นนายพัน รุ่นที่ 34 ในปี พ.ศ. 2528 หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 63 และเป็นศิษย์เก่า และในปี พ.ศ. 2550 เข้าเรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 20

รับราชการทหาร

ประยุทธ์รับราชการทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ "ทหารเสือราชีนี" มาโดยตลอด โดยเริ่มมาจากตำแหน่งรองผู้บังคับการกองร้อยอาวุธเบาที่ 3 ต่อด้วย เสนาธิการ ผู้บังคับกองพัน จนถึงผู้บังคับการกรม จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และรับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 เขาเป็นสมาชิก "บูรพาพยัคฆ์" ในกองทัพ เช่นเดียวกับพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและอดีตสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก

ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
ประยุทธ์ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ซ้าย) เมื่อเดือนมิถุนายน 2555

บทบาททางการเมือง

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เมื่อเกิดรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) พลตรีประยุทธ์เป็นผู้รับคำสั่งตรงจากพลโท อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 พลตรีประยุทธ์ได้เลื่อนชั้นยศเป็น "พลโท" และรับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ระหว่างวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2551 เขาดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและรองผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในเหตุการณ์ นปช. ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช, วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2552 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเสนาธิการทหารบก และต่อมาเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2553, วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ปฏิบัติงานในกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย เมษายน พ.ศ. 2552 เนื่องจากดำรงตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารบกในขณะนั้นจนสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อจาก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2553 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะลงนามแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึง 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในนายทหารที่ควบคุมการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.ศ. 2553ในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 พลเอกประยุทธ์ ได้ออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ 141/2553 เรื่อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ออกคำสั่งยึด หรือ อายัด สินค้าหรือวัตถุอื่นใดที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548คำสั่งดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจนต้องยกเลิกในที่สุด โดยพลเอกประยุทธ์ ต้องการจับกุมผู้ที่ขายหนังสือหรือซีดีและดีวีดีที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อย่างไรก็ตามมีแม่ค้าที่ขายรองเท้าที่มีรูปหน้าของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีถูกจับกุม 2 ราย

เขายังเป็นหนึ่งในคณะดำเนินคดีระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี 2554และในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ฮิวแมนไรตส์วอตช์ระบุว่า เขาขัดขวางการสืบสวนวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งมีผู้เสียชีวิตในปี 2553 และต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 เขาขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงให้ "คนดี" ในการเลือกตั้งปีนั้น ซึ่งถูกตีความอย่างกว้างขวางว่าเป็นการให้สัมภาษณ์โจมตียิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยโดยตรง และในระหว่างวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 เขาก็ได้เสนอให้มีการจัดตั้ง "สภาประชาชน" ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ผลปรากฎว่าพรรคก้าวไกลซึ่งประกาศแก้กฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยได้คะแนนนำ ส่งผลให้ภายใต้รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคการเมืองที่ประกาศว่าจะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และหัวหน้าพรรคการเมืองที่แสดงตนว่าต้องการยกเลิกความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย กลับได้รับการเลือกตั้งคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 มีบุคคลที่มีคดีความถูกฟ้องร้องในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย อย่างน้อยสามราย

การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เขาประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร อีก 2 วันต่อมาเขาก่อรัฐประหาร ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อมาวันที่ 26 พฤษภาคม มีพิธีสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. พระบรมราชโองการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหัวใจสร้างความชอบธรรมแก่รัฐประหาร ในประกาศ คสช. ฉบับที่ 10/2557 ให้อำนาจเขาเสมือนนายกรัฐมนตรี หลังรัฐประหาร เขาแต่งตั้งตัวเองเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ และเป็นกรรมการโดยตำแหน่งในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาจัดรายการ "ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" รายสัปดาห์

ในการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช. เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 เขาแจ้งทรัพย์สิน 128.6 ล้านบาท หนี้สิน 650,000 บาท ทรัพย์สินรวมรถยนต์เมอร์ซีเดส เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู อย่างละ 1 คน นาฬิกาหรู 9 เรือน มูลค่า 3 ล้านบาท มีเครื่องเพชรมูลค่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐและปืนพกหลายกระบอก เขารายงานว่าได้โอนทรัพย์สิน 466.5 ล้านบาทให้ญาติแล้ว ทั้งนี้เงินเดือนในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกได้เงินเดือนรวมปีละ 1.4 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติให้พลเอก ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ในการลงมติดังกล่าว ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไม่ต้องอยู่ในห้องประชุมและไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ต่อมามีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์เป็นนายทหารอาชีพคนแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรีนับแต่พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 เขายังเป็นผู้นำรัฐประหารคนแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่จอมพล ถนอม กิตติขจร เมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514

เดือนกันยายน 2557 เขาลงนามแก้ไขข้อกำหนดคุมวินัยผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยผ่อนคลายระเบียบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขายังเสนอ "ค่านิยม 12 ประการ" ส่งเสริมความคิดเรื่องความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน กตัญญู หาความรู้ รักษาประเพณีไทย มีวินัย มีเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ เขาว่าจะบรรจุลงในแผนปฏิรูปการศึกษาด้วย

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เขาประกาศว่าเขามีอำนาจปิดสื่อ ในเดือนมีนาคม เขาขู่ประหารชีวิตนักหนังสือพิมพ์ที่ "ไม่รายงานความจริง" ความเห็นของเขาพลันถูกสหพันธ์นักหนังสือพิมพ์ระหว่างประเทศประณาม เขาอธิบายว่า หากต้องการทำสำรวจความคิดเห็นก็ทำได้ แต่ถ้าการสำรวจนั้นค้าน คสช. จะห้าม

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 เขายกเลิกกฎอัยการศึก จากนั้นเขาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 44 ในการดูแลความสงบเรียบร้อยแทน

นโยบายเศรษฐกิจ

ในเดือนสิงหาคม 2557 หลังประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียงสามวัน คสช. อนุมัติโครงการและงบประมาณรวมกว่า 1 แสนล้านบาท วันที่ 25 ตุลาคม 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีพลเอกประยุทธ์เป็นประธาน เห็นชอบโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/2558 จากเดิมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะจ่ายเป็น 80% ของราคาตลาด เพิ่มเป็น 90% ของราคาตลาด นโยบายดังกล่าวถูกเรียกว่า "จำนำยุ้งฉาง" และไทยรัฐ ยังว่าเป็น "ประยุทธ์นิยม"

เขาอ้างว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของไทยไม่ได้เกิดจากรัฐบาลตน แต่เกิดจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เขาประกาศเป้าหมายยกระดับประเทศไทยจากประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศรายได้สูงผ่านข้อริเริ่มประเทศไทย 4.0 ซึ่งต้องการเปลี่ยนเศรษฐกิจให้เป็นแบบเน้นมูลค่าและนวัตกรรม โครงการธงคือ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมอย่างการบิน การรักษาสุขภาพและพลังงานทดแทน เขายังสนับสนุนการช่วยเหลือเกษตรกร เพิ่มการส่งออกยางสู่ประเทศจีน และการทำเหมืองโพแทซเพื่อลดค่าปุ๋ย

ศาสนาพุทธ

ศาสนาพุทธในประเทศไทยเข้ามาอยู่ในภายใต้การควบคุมของรัฐมากขึ้นในสมัยนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ สภาปฏิรูปแห่งชาติที่ คสช. ตั้งมีคณะกรรมการศาสนาด้วย ทั้งนี้ พระพุทธะอิสระเป็นผู้เรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปดังกล่าว ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงเช่น เสนอให้วัดเปิดเผยบัญชี และให้พระสงฆ์ถือบัตรสมาร์ตการ์ด ในปี 2559 ประยุทธ์ยับยั้งคำวินิจฉัยเสนอสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เป็นสมเด็จพระสังฆราชของมหาเถรสมาคม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งพระสงฆ์จากธรรมยุติกนิกายแทน

ในปี 2560 เขาใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปลี่ยนตัวหัวหน้าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่เขาถอดออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็วหลังมีกลุ่มศาสนาเรียกร้อง ในเดือนพฤษภาคม 2561 คสช. บุกวัดสี่แห่งเพื่อจับกุมพระสงฆ์หลายรูป ซึ่งในจำนวนนั้นรวมพระพุทธะอิสระด้วย โดยมีข้อหารวมทั้งคดีปลอมพระปรมาภิไธยในปี 2560 ทั้งหมดถูกจับสึกอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง

นักหนังสือพิมพ์และนักวิจารณ์การเมืองหลายคนเชื่อว่าประยุทธ์ตั้งใจครองอำนาจต่อโดยใช้การเปลี่ยนแปลงในรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้วุฒิสภามาจากการคัดเลือกของ คสช. และมีอำนาจลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี 5 ปี พรรคการเมืองสามารถเสนอชื่อผู้ที่มิใช่ สส. และมิใช่สมาชิกพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 มีการตั้งรัฐบาลผสมที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายน สมาชิกวุฒิสภาทุกคนเลือกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งของ คสช. เช่นเดียวกับมีพรรคร่วมรัฐบาลมากถึง 19 พรรค ซึ่งรวมพรรคเล็กพรรคน้อยหลายพรรคที่ได้ประโยชน์จากการตีความกฎหมายเลือกตั้งของ กกต. นานถึง 44 วัน ประยุทธ์ยังมีพันธมิตรทางการเมืองทั้งในศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้ง กกต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งนั้น เกิดการประท้วงในประเทศโดยมีข้อเรียกร้องหนึ่งเพื่อให้เขาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการสลายการชุมนุมด้วยรถฉีดน้ำผสมสารเคมีในเดือนตุลาคม 2563 หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และข่าวสดอิงลิชเรียกร้องให้เขาลาออกด้วย แต่ขณะเดียวกัน เขาโทษผู้ประท้วงว่ายิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่แล้ว เขายังนำกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยกลับมาใช้หลังว่างเว้นไปตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งมีผู้ต้องหาบางคนถูกจำคุกก่อนการพิจารณาคดีแล้วกว่า 200 วันด้วย การประท้วงที่บ้านพักประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ซึ่งเขายังพำนักอยู่นั้น ถูกปราบปรามด้วยรถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง

ในสมัยเขายังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนอีกหลายกรณี รวมทั้งการเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นความพยายามเพื่อปิดปากกลุ่มประชาสังคมและองค์กรนอกภาครัฐ และยังสั่งให้ตรวจสอบองค์การนิรโทษกรรมสากลหลังรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ประชาชนผู้วิจารณ์เขายังถูกดำเนินคดีด้วย

ในการรับมือกับการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย เดือนเมษายน 2564 เขาออกกฎหมายรวบอำนาจของรัฐมนตรีมาอยู่ที่เขาคนเดียว ในเดือนกันยายน 2564 เขาในฐานะประธานกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ขยายเพดานเงินกู้จากไม่เกินร้อยละ 60 เป็นไม่เกินร้อยละ 70 ของจีดีพี เขาประกาศและขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 โดยอ้างว่าแม้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศจะลดลงแล้ว แต่ยอดผู้ป่วยทั่วโลกยังไม่ลดลง อย่างไรก็ตาม แม้จะอ้างว่าใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่มีการใช้กฎหมายนี้เพื่อควบคุมการชุมนุมทางการเมือง โดยมีผู้ชุมนุมทางการเมืองถูกกล่าวหาตามกฎหมายดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 1,464 คน จนถึงเดือนมิถุนายน 2565 ก่อนที่จะมีการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 รวมระยะเวลาสถานการณ์ฉุกเฉิน 2 ปี 6 เดือน 3 วัน

จนถึงปี 2565 มีตัวเลขว่ารัฐบาลเขากู้เงินกว่า 4.42 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นจาก 42.50% เป็น 60.58% แม้รัฐบาลจะอ้างความจำเป็นในการกู้เงินมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่รัฐบาลมีการผ่อนปรนขีดจำกัดวินัยการคลังหลายเรื่อง ทั้งเพิ่มงบกลางหลายปีติดต่อกัน และขยายเพดานหนี้สาธารณะที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยเมื่อต้นปีว่า ยังมีหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่รอตั้งงบชำระหนี้อีกกว่า 1 ล้านล้านบาทซึ่งมีการกล่าวหาว่าเป็นการ "ซุกหนี้"

ในเดือนสิงหาคม 2565 ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านในขณะนั้น มีความเห็นว่ารัฐธรรมนูญห้ามมิให้บุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรวมกันเกิน 8 ปี ซึ่งประยุทธ์เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557 แล้ว จึงได้ร่วมกันลงชื่อและยื่นคำร้องไปยังชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น เพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการนับวาระการดำรงตำแหน่งของประยุทธ์ ต่อมาชวนได้ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้อง และมีมติเสียงข้างมากออกคำสั่งให้ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีแทน ต่อมาในวันที่ 30 กันยายน ศาลฯ วินิจฉัยว่าให้เริ่มนับวาระนายกรัฐมนตรีตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลใช้บังคับ นั่นคือประยุทธ์สามารถดำรงตำแหน่งได้จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2568 ทำให้ประยุทธ์ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตามเดิม ในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ประยุทธ์ประกาศรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 โดยได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งที่ประชุมใหญ่ยังมีมติจัดตั้งคณะกรรมการเพิ่ม โดยคณะกรรมการบริหารพรรคได้กำหนดชื่อคณะกรรมการชุดดังกล่าวว่า "คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง" และแต่งตั้งประยุทธ์เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ อีกทั้งวางตัวให้เป็นผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรคอีกด้วย แต่เมื่อถึงเวลาสมัครรับเลือกตั้ง กลับไม่ปรากฏเขาในบัญชีรายชื่อ ส.ส. ของ รทสช. แต่อย่างใด ทั้งนี้มีการเปิดตัวประยุทธ์ในฐานะบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรค ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรค ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 และในงานดังกล่าว ประยุทธ์ได้ประกาศให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคในลำดับที่ 2 เพื่อรองรับในกรณีที่พลเอกประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประยุทธ์จะหมดวาระในวันที่ 5 เมษายน 2568 ส่งผลให้ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมีบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคจำนวน 2 คน

หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ประยุทธ์ได้ประกาศวางมือทางการเมืองและลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรคไปโดยปริยาย และในวันที่ 22 สิงหาคมปีเดียวกัน เขาได้สิ้นสุดวาระการเป็นนายกรัฐมนตรี หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อย่างไรก็ตาม เขายังคงปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลต่อในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ โดยในวันที่ 24 สิงหาคม เศรษฐาได้เข้าพบกับประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เข้าพบนายกรัฐมนตรีรักษาการ และผลงานสุดท้ายของประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้น คือการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษให้ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลในวันเดียวกัน โดยในทางพฤตินัยเขาและคณะรัฐมนตรีชุดเดิมได้รักษาการในตำแหน่งจนถึงวันที่ 5 กันยายน ก่อนที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นอันเสร็จสิ้นการเข้ารับหน้าที่ในวันเดียวกัน

อนึ่ง ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีวาระต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นอันดับสอง รองจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ถ้านับทุกวาระรวมกันจะเป็นอันดับสามรองจากจอมพล ป. และจอมพล ถนอม กิตติขจร

องคมนตรี

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งองคมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม

ข้อวิจารณ์

คำพูดต่อสาธารณะ

รองศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์​ กล่าวถึงพลเอกประยุทธ์ว่า เขามักปรากฏทางโทรทัศน์แห่งชาติและแลกเปลี่ยนปัญหาและวิธีแก้ไข เขาต้องการพิสูจน์กับประชาชนว่าเขาเป็น "นายรู้ไปหมด" ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเพราะเขาต้องการส่งสารว่าเขาฉลาดกว่ายิ่งลักษณ์ ปวินยกตัวอย่างภูมิปัญญาของพลเอกประยุทธ์ดังนี้ เขาว่าชาวใต้ควรลดการปลูกยางเพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ, เขาว่าถ้าคนไทยทุกคนช่วยกันเก็บผักตบชวาจากแม่น้ำแล้วมันจะสูญพันธุ์, เขาว่าอุทกภัยเป็นภัยธรรมชาติ และว่าคนไทยสมัยก่อนปลูกบ้านบนที่สูง บ้างยกพื้นสูง บ้างอาจซื้อเรือ, เขาว่าการบ้านยากเกินไปสำหรับนักเรียน และว่าตนยังทำการบ้านนักเรียน ป. 1 ไม่ได้, เขาให้ชาวนาลดการปลูกข้าวหรือปลูกพืชชนิดอื่นหรือเปลี่ยนงานเกษตรเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าว, เขากล่าวถึงปัญหาความยากจนโดยว่า โทษตัวเอง ขยันแล้วหรือยัง, เขาแนะนำคนไทยไม่ให้ช็อปปิงเพราะคนไทยเป็นหนี้จากสถาบันการเงิน เป็นต้น

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557 พลเอกประยุทธ์แถลงเรื่องนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนซึ่งถูกฆ่าที่เกาะเต่าเมื่อวันที่ 15 กันยายน ว่า "ปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมีอยู่เสมอ พวกเขาคิดว่าประเทศของเราสวยงามและปลอดภัย ก็เลยทำอะไรที่อยากทำ พวกเขาใส่บิกินี่และเดินไปไหนก็ได้ พวกเขาคิดว่าใส่บิกินี่แล้วปลอดภัยเหรอ...เว้นแต่ว่าไม่สวย" ฝ่ายแอนดรูว์ โรซินเดล (Andrew Rosindell) คณะกรรมาธิการวิสามัญการต่างประเทศของสภาสามัญชน กล่าวว่า "เมื่อผู้ที่รักของผู้เสียหายกำลังอาลัยอาวรณ์ความสูญเสีย เป็นสิ่งไม่เหมาะสมและไม่ละเอียดอ่อนที่มีผู้กล่าวหาผู้ที่ถูกพรากชีวิตไป ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงนายกรัฐมนตรีของประเทศซึ่งเกิดการฆ่านั้น" อีกสองวันถัดมาพลเอกประยุทธ์ได้กล่าวขอโทษต่อกรณีนี้

  • วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เว็บไซต์ประชาไทรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า จะส่งเสริมให้คนทั้งโลกกินข้าว ขนมจีน กินขนมปังแล้วจะอ้วน วันเดียวกัน เว็บไซต์รัฐบาลไทยรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์ว่า อุทกภัยในภาคใต้เป็นเรื่องปกติ ปีหนึ่งเกิดสี่ครั้ง เกิดจากน้ำเหนือไหลผ่านภาคกลางลงสู่ภาคใต้ ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ
  • วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เขากล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าอยากมีรถไฟทางคู่ มีรถใหม่ มีรถความเร็วสูงเหมือนต่างประเทศ ให้หาเงินมา
  • วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557 พล.อ. ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า "ผมทำมากกว่าไอ้รัฐบาลบ้านั่น [รัฐบาลยิ่งลักษณ์] อีก จะบอกให้ และรู้มากกว่าที่เขารู้อีก ผมไม่โง่ขนาดนั้นหรอก"
  • วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 พล.อ. ประยุทธ์ใช้คำว่า "ครอก" กับชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับประเทศจีน
  • วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เมื่อถูกถามว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไรต่อกรณีอุทยานราชภักดิ์ เขาตอบว่า ทำไมต้องรับผิดชอบ รัฐบาลขณะนั้น (รัฐบาลยิ่งลักษณ์) ทำไมไม่รับผิดชอบสิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศชาติ
  • วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีนักวิชาการยื่นหนังสือขอให้หยุดริดรอนเสรีภาพทางวิชาการและห้ามนักศึกษาทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยว่า ตอนรัฐบาลที่แล้วไปอยู่ไหนกัน และ "เดี๋ยวถ้าใครหาปืนมายิง โยนระเบิดใส่ก็ตายไปแล้วกัน"
  • วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559 พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า "จะมาบอกว่าเป็นนายกฯแล้วต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าพวกคุณเลือกผมมา คุณจะสั่งผมอย่างไรผมจะทำให้ แต่นี่ไม่ได้เลือกผมสักคน"
  • วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559 เขากล่าวเรื่องการแต่งกายของหญิง โดยเปรียบว่าหญิงเหมือนขนมหวานที่ต้องอยู่ในห่อจึงน่าสนใจ พอน่ากินแล้วค่อยเปิดดู ถ้าเปิดหมดแล้วจะไม่น่ากิน
  • วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวถึงไฟป่าที่ดอยสุเทพ และป่าพรุโต๊ะแดง โดยว่าเกิดจากประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าไปในป่าและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ใช้ความคิดแบบโบราณ
  • วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวถึงปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนตอนหนึ่งว่า แล้วออกกันหมดหรือยัง [คนที่ทำผิดตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ] มีกักอยู่หรือเปล่า ก็ไม่มี แล้วอยู่ไหน ที่เหลือมีความผิด ก็เข้าศาลกระบวนการยุติธรรม แล้วก็ประกันออกมา มีที่ไหนเหลืออยู่ ถามสิ แล้วตอนไปก็ออกมาไม่ได้ซ้อมไม่ได้อะไร ก็ถ่ายรูปไว้หมด เข้าไปก็มีหมอมาตรวจร่างกายออกมาก็มีหมอมาตรวจอีก ผมทำขนาดนี้แล้วท่านยังมาหาว่าผมทำนี่ทำโน้นได้อย่างไร ไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนชอบทำความผิดได้อย่างไร
  • เดือนพฤศจิกายน 2564 เขาถูกวิจารณ์ว่าลอกสุนทรพจน์ตอนหนึ่งของ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 44 ในประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

การขายที่ดิน

วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เขาขายที่ดิน 9 แปลงให้บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นเงิน 600 ล้านบาท ซึ่งสำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัทดังกล่าวตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 หนึ่งสัปดาห์ก่อนการขาย มีบริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ ทรัส ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ แซมเบอร์ได้รับโอนหุ้นจากบริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด ซึ่งที่ตั้งของบริษัทนั้นเป็นตู้ไปรษณีย์แห่งหนึ่งในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ต่อมามีการเพิ่มทุนและจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้ง มีกรรมการเป็นกรรมการบริษัทในเครือทีซีซีแลนด์ของเจริญ สิริวัฒนภักดี

การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 พลเอกประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ แต่หลังจากนั้น ในวันที่ 25 กรกฎาคม ปีเดียวกัน ก่อนการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้หารือกับชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าพลเอกประยุทธ์ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงเป็นประเด็นสงสัยถึงความสมบูรณ์ของความเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์และคณะรัฐมนตรีชุดนี้ โดยภายหลังออกจากสภา ปิยบุตรก็ได้โพสต์คลิปการถวายสัตย์ปฏิญาณของพลเอกประยุทธ์จากข่าวในพระราชสำนักลงในทวิตเตอร์ไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย ทำให้มีผู้ยื่นคำร้องในเรื่องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินถึง 2 ราย โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ 1 กรณี แต่ศาลมีมติไม่รับคำร้องดังกล่าว นอกจากนี้ประเด็นนี้ยังนำไปสู่การเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณของพลเอกประยุทธ์เมื่อวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภาอีกด้วย

การพักบ้านหลวง

ในเดือนธันวาคม 2563 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการที่ประยุทธ์อาศัยอยู่ในบ้านพักประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกต่อไปแม้เกษียณอายุราชการไปแล้วไม่ขัดต่อกฎหมาย

คดีเหมืองทองอัครา

เมื่อปี 2559 ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ปิดเหมืองทองอัครา โดยบริษัทคิงส์เกตเคยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลไทยชดใช้เงินกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (30,000 ล้านบาท) แต่ไม่เป็นผล ในปี 2563 ทั้งรัฐบาลไทยและคิงส์เกตเข้ากระบวนการอนุญาโตตุลาการที่สิงคโปร์ ซึ่งจนถึงปี 2564 รัฐบาลใช้งบประมาณในการต่อสู้คดีแล้วกว่า 389 ล้านบาท และมีข่าวลือออกมาอยู่เนือง ๆ ว่ารัฐบาลไทยแพ้คดีและต้องชดใช้เงิน ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านกล่าวว่า ประยุทธ์แอบเจรจากับบริษัทฯ อาจมีการต่อรองผลประโยชน์ที่ทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศชาติ เพราะรัฐบาลเป็นฝ่ายขอให้เก็บข้อมูลการเจรจาเป็นความลับ ทั้งนี้ กระบวนการไต่สวนในคดีดังกล่าวยุติลงไปตั้งแต่ปี 2563 แล้ว และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการประนีประนอมยอมความเพื่อหวังให้บริษัทคิงส์เกตถอนฟ้อง

รางวัล

  • พ.ศ. 2554 – อันดับ 1 สุดยอดซีอีโอของภาคราชการและเจ้าหน้าที่รัฐแห่งปี 2554 จากผลการสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพล

ชีวิตส่วนตัว

ชื่อเล่นของประยุทธ์คือ "ตู่" และผู้สนับสนุนมักเรียกเขาว่า "บิ๊กตู่" หรือ "ลุงตู่" นราพร จันทร์โอชา ภรรยาของเขากล่าวว่า ประยุทธ์สวม "ชุดแบบอังกฤษ" สวมรองเท้าของเชิร์ชส์ และเสื้อสูทสั่งตัดที่ "บรอดเวย์" เขาฟื้นฟูการสวมชุดพระราชทาน ซึ่งเปรม ติณสูลานนท์เคยทำให้เป็นที่นิยมครั้งแรกในคริสต์ทศวรรษ 1980 และได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีสวมชุดพระราชทานในการประชุมแทนชุดสูทตะวันตก

ประยุทธ์กล่าวต่อสาธารณชนว่าเขาปรึกษากับโหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศเป็นประจำ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแรก ๆ เมื่อเขาเป็นไข้และปวดเมื่อย เขาโยนโรคนี้ว่ามาจากการร่ายมนตร์ของศัตรูทางการเมืองและขจัดโรคภัยไข้เจ็บด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ บางกอกโพสต์ ยังรายงานว่าประยุทธ์มีชุดสะสมแหวนนำโชค ซึ่งเขาผลัดเปลี่ยนไปทุกวันตามกิจกรรมในวันนั้น และเขายังสวมสร้อยข้อมือขนช้างเพื่อขจัดโชคร้ายอีกด้วย

ในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19 ประยุทธ์ต้องจ่ายค่าปรับ 6,000 บาทจากการไม่สวมหน้ากากอนามัยในการประชุมวัคซีนโควิด-19 เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 ในฐานะนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ได้รับเงินเดือน 75,900 บาทต่อเดือน บวกกับ "เบี้ยเลี้ยงตำแหน่ง" อีก 50,000 บาทต่อเดือน เขาไม่ได้เงินเดือนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

การแต่งเพลง

ประยุทธ์แต่งเพลงอยู่หลายเพลง โดยจนถึงปี 2562 พบว่ามีการแต่งเพลงแล้ว 10 เพลง โดยเพลงที่มีชื่อเสียงได้แก่ "คืนความสุขให้ประเทศไทย" เดอะสแตนดาร์ด วิเคราะห์ว่า เพลงเป็นกลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองของเขาให้เข้าถึงได้ง่าย โดยเนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่ต้องการให้ประชาชนรู้รักสามัคคี คำมั่นสัญญา และขอแรงสนับสนุนจากประชาชน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความต้องการเร่งพัฒนาประเทศในเวลาไม่นาน แต่เปลี่ยนมาอธิบายเหตุผลที่จำเป็นต้องอยู่นานแทน

ครอบครัว

ปัจจุบันสมรสกับอดีตรองศาสตราจารย์สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นราพร จันทร์โอชา รองประธานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม มีบุตรีฝาแฝด 2 คน คือ ธัญญา และ นิฏฐา จันทร์โอชา เป็นสมาชิกวงดนตรีทริโอหญิง แบดซ์ วงดนตรีแนวพังก์ในสังกัดย่อย จีโนม เรคคอร์ด สังกัดอาร์เอส ธิดาทั้ง 2 คนใช้ชีวิตค่อนข้างเงียบ แต่มีข่าวว่าได้ส่งทนายความแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทต่อผู้ที่โพสต์ข้อความพาดพิงพวกตน เมื่อปี 2564 ยังมีข่าวว่าศาลสั่งจำคุกผู้โพสต์คุกคามธิดาทั้ง 2 คนของประยุทธ์เป็นเวลา 5 ปี

ภาพลักษณ์

ประยุทธ์มีภาพลักษณ์เป็นผู้มีพฤติกรรมแบบหุนหันพลันแล่นและโทสะต่อสื่อ นอกจากนี้ยังพยายามหลีกเลี่ยงสื่อโดยเคยบอกให้สื่อสัมภาษณ์สแตนดีรูปตัวเขาแทน เขายังถูกวิจารณ์ว่าเป็นตัวตลก อ่อนไหวต่อเสียงวิจารณ์ มีภาวะหลงผิดคิดตนเขื่อง และขับเคลื่อนด้วยอัตตา

ในปี 2561 ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ชาติไทย เขียนว่าเขาดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวง และใช้หลักคุณธรรม เพื่อนำประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

เชิงอรรถ

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถัดไป
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 29
(ครม. 61 และ 62)

(24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 – 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562
9 มิถุนายน พ.ศ. 2562 – 24 สิงหาคม
30 กันยายน พ.ศ. 2565 – 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  เศรษฐา ทวีสิน
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
ผู้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี
(ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ)

(22 พฤษภาคม – 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ตนเอง
(นายกรัฐมนตรี)
ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
(ครม. 62)

(10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 – 1 กันยายน พ.ศ. 2566)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  สุทิน คลังแสง
สถาปนาตำแหน่ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ยุบตำแหน่ง
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
ผู้บัญชาการทหารบก
(1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 – 30 กันยายน พ.ศ. 2557)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  พลเอก อุดมเดช สีตบุตร
พลโท อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก 
แม่ทัพภาคที่ 1
(1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 30 กันยายน พ.ศ. 2551)
ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ปฐมวัย, รับราชการทหาร, การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรก  พลโท คณิต สาพิทักษ์

Tags:

ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฐมวัยประยุทธ์ จันทร์โอชา รับราชการทหารประยุทธ์ จันทร์โอชา การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2557 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสมัยที่สองประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ข้อวิจารณ์ประยุทธ์ จันทร์โอชา รางวัลประยุทธ์ จันทร์โอชา ชีวิตส่วนตัวประยุทธ์ จันทร์โอชา ภาพลักษณ์ประยุทธ์ จันทร์โอชา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชิงอรรถประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้างอิงประยุทธ์ จันทร์โอชา แหล่งข้อมูลอื่นประยุทธ์ จันทร์โอชาคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองคณะรักษาความสงบแห่งชาติคณะองคมนตรีไทยตติยจุลจอมเกล้าวิเศษทหารบกนักการเมืองนายกรัฐมนตรีไทยรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยรายพระนามและชื่อผู้บัญชาการทหารบกไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

สังฆาทิเสสภาคเหนือ (ประเทศไทย)คริสเตียโน โรนัลโดไป๋ ลู่จิรายุ ตั้งศรีสุขพ.ศ. 2567ซานเฟรชเช ฮิโรชิมะมหาวิทยาลัยมหิดลบรรดาศักดิ์อังกฤษสหรัฐเปรม ติณสูลานนท์ปรสิต (หนังสือการ์ตูน)สินจัย เปล่งพานิชอินนาลิลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูนณเดชน์ คูกิมิยะณัฐฐชาช์ บุญประชมรายพระนามพระพุทธเจ้าพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดาล็อสก์ลีลสมาคมกีฬาโรมาอาทิตยา ตรีบุดารักษ์รายชื่อประเทศเรียงตามจำนวนประชากรจามาล มูซีอาลาแคทรียา อิงลิชสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไทย)ยูทูบกฤษฏ์ อำนวยเดชกรนลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพประเทศมาเลเซียสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรภาษาเกาหลีอำเภอพระประแดงการ์ตูนยิ่งลักษณ์ ชินวัตรพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวไพรวัลย์ วรรณบุตรจังหวัดพิษณุโลกพระศรีอริยเมตไตรยประยุทธ์ จันทร์โอชานท พนายางกูรมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024จุลจักร จักรพงษ์ไซอิ๋วสงครามโลกครั้งที่สองไทยลีก 2ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์กังฟูแพนด้า (แฟรนไชส์)ลูกัส บัซเกซจำนวนเฉพาะกีบ (สกุลเงิน)โรตาไวรัสสมณศักดิ์ประเทศอินโดนีเซียอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์จังหวัดมหาสารคามสงกรานต์สมณะโพธิรักษ์แอร์เบ ไลพ์ซิชปรมาจารย์ลัทธิมาร (ละครโทรทัศน์)สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกภัทร เอกแสงกุล20 เมษายนนามสกุลพระราชทานวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญแพทองธาร ชินวัตรเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024แมวสุจาริณี วิวัชรวงศ์วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยอนุทิน ชาญวีรกูลออแล็งปิกลียอแนเมตานาฬิกาหกชั่วโมงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์สโมสรฟุตบอลอุทัยธานี🡆 More