นครฮิโรชิมะ (ญี่ปุ่น: 広島市; โรมาจิ: Hiroshima-shi) คือเมืองเอกของจังหวัดฮิโรชิมะ และยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงกุทางตะวันตกของเกาะฮนชู และยังเป็นเมืองแรกของโลกที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ โดยเครื่องบิน บี-29 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้นครฮิโรชิมะเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ และอนุสาวรีย์ของเด็กหญิงซาดาโกะผู้ทำให้เกิดประเพณีการพับนกกระเรียนกระดาษพันตัว เพื่อภาวนาให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ นามของเมืองว่า ฮิโรชิมะ (広島) นั้น มีความหมายว่า เกาะที่กว้างใหญ่ไพศาล
ฮิโรชิมะ 広島 | |
---|---|
広島市 · นครฮิโรชิมะ | |
จากบนซ้าย: ปราสาทฮิโรชิมะ สนามกีฬาเบสบอลฮิโรชิมะ โดมปรมาณู ย่านเอบิตสึยามราตรี และอนุสาวรีย์สันติภาพเยาชน | |
ที่ตั้งของฮิโรชิมะในจังหวัดฮิโรชิมะ | |
พิกัด: 34°23′7″N 132°27′19″E / 34.38528°N 132.45528°E | |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ภูมิภาค | ชูโงกุ (ซันโย) |
จังหวัด | ฮิโรชิมะ |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | คาซูมิ มัตสึอิ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 905.01 ตร.กม. (349.43 ตร.ไมล์) |
ประชากร (พ.ค. 2014) | |
• ทั้งหมด | 1,184,565 คน |
• ความหนาแน่น | 1,310 คน/ตร.กม. (3,400 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+9 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) |
- ต้นไม้ | การบูร |
- ดอกไม้ | ยี่โถ |
โทรศัพท์ | 082-245-2111 |
ที่อยู่ | 1-6-34 Kokutaiji, Naka-ku, Hiroshima-shi 730-8586 |
เว็บไซต์ | Hiroshima City |
ค.ศ. 1589 ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเอโดะเพียงไม่นาน ฮิโรชิมะจัดตั้งขึ้นบนชายฝั่งสามเหลี่ยมปากแม่น้ำของ ทะเลเซโตะใน ด้วยบัญชาของขุนพล โมริ เทรูโมโตะ เขาสร้างนครฮิโรชิมะ เพื่อเป็นเมืองหลวงของดินแดนในอิทธิพลของเขา ภายหลังจากที่เขาย้ายออกมาจากปราสาทโคริยามะในเขตอากิ ในการขึ้นเมืองใหม่นี้ ปราสาทฮิโรชิมะถูกบัญชาให้สร้างขึ้นจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1592 และในอีก 8 ปีต่อมาในยุทธการที่เซกิงาฮาระ ขุนพลเทรูโมโตะได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพของโทกูงาวะ อิเอยาซุ ทำให้เขา ต้องสูญเสียหัวเมืองต่าง ๆ จำนวนมากตลอดจนนครฮิโรชิมะ
ภายหลัง ระบอบเจ้าขุนมูลนายที่เรียกว่า ฮัง (藩) ได้ถูกล้มเลิกลงในยุคเมจิในปี ค.ศ. 1871 นครฮิโรชิมะได้กลายเป็นเมืองเอกของจังหวัดฮิโรชิมะ ตลอดจนกลายเป็นเมืองศูนย์กลางที่สำคัญในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเปลี่ยนจากวิถีชนบทเป็นวิถีอุตสาหกรรมในตัวเมือง ระหว่างทศวรรษที่ 1870 หนึ่งในเจ็ดของโรงเรียนรัฐบาลภาคภาษาอังกฤษได้ถูกจัดตั้งขึ้นในนครฮิโรชิมะ ในทศวรรษที่ 1880 มีการก่อสร้างท่าเรืออูจินะขึ้นจากความพยายามของผู้ว่าราชการ ซากาอากิ เซ็นดะ ซึ่งได้ทำให้ฮิโรชิมะกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ
ทางรถไฟได้ขยายมาถึงฮิโรชิมะ ในปี ค.ศ. 1894 นอกจากนี้ทางรถไฟจากสถานีฮิโรชิมะไปยังท่าเรืออูจินะ ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อการทหารในช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง ในช่วงสงคราม รัฐบาลญี่ปุ่น ต้องย้ายที่ทำการเป็นการชั่วคราวมายังฮิโรชิมะ และจักรพรรดิเมจิ ก็ทรงย้ายมาประทับที่ปราสาทฮิโรชิมะ ตั้งแต่กันยายน ค.ศ. 1894 ถึง เมษายน ค.ศ. 1895 ความสำคัญของนครฮิโรชิมะที่มีต่อรัฐบาลญี่ปุ่นนั้น เราสามารถเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่า การเจรจาสงบศึกระหว่างผู้แทนของจีนและญี่ปุ่นครั้งแรก ก็ถูกจัดขึ้นที่ฮิโรชิมะ ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895
โรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ อาทิโรงงานฝ้ายถูกจัดตั้งขึ้นในฮิโรชิมะในปลายศตวรรษที่ 19 และยังมีการกำเนิดขึ้นของอุตสาหกรรมมากมายอีกในฮิโรชิมะ ในระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1904 ซึ่งญี่ปุ่นจำเป็นต้องพัฒนาและเพิ่มการผลิตยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ ศูนย์แสดงสินค้าการพาณิชย์ประจำจังหวัดฮิโรชิมะ ก็ถูกก้อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1915 เพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าขายตลอดจนการจัดแสดงสินค้าใหม่ ๆ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมประจำจังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima Prefectural Industrial Promotion Hall)
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง กองพลทหารราบที่ 2 และ กองทัพภาคชูโงกุ ได้ตั้งฐานทัพในฮิโรชิมะ ในขณะที่กองทัพเรือก็ตั้งฐานทัพที่ท่าเรืออูจินะเช่นเดียวกัน ในตัวเมืองยังมีแหล่งยุทธปัจจัยมากมาย ถือได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางการลำเลียงที่สำคัญ
การทิ้งระเบิดโตเกียวและเมืองอื่น ๆ ของญี่ปุ่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ทำลายล้างพื้นที่ไปอย่างกว้างขวางและมีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน เช่นที่ เมืองโทยามะ บ้านเรือนกว่า 128,000 หลังคาเรือนได้ถูกทำลายจนสิ้น และการทิ้งระเบิดที่โตเกียวได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าหนึ่งแสนคน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการทิ้งระเบิดเพลิงในฮิโรชิมะ ถึงกระนั้น ฮิโรชิมะก็มีการป้องกันภัยจากระเบิดเพลิงเป็นอย่างดี มีการระดมนักเรียนอายุระหว่าง 11–14 ปีมาช่วยรื้อถอนบ้านและสร้างแนวกันไฟขึ้น
ในเช้าวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ระเบิดนิวเคลียร์ ลิตเติลบอย ได้ถูกทิ้งสู่ฮิโรชิมะ โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-29 ซึ่งขับโดย พันเอกพอล ทิบเบ็ตส์ การระเบิดได้คร่าชีวิตชาวเมืองไปในทันทีกว่า 80,000 คน และสถิติในสิ้นปีเดียวกันได้บันทึกไว้ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลข้างเคียงจากกัมมันตรังสีกว่า 90,000–140,000 คน จากประชากรของเมืองก่อนการระเบิด อยู่ที่ราว 340,000 คน อาคารบ้านเรือนราว 69% ของเมือง ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ในขณะที่ 7% ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ฮิโรชิมะตั้งอยู่ระหว่างสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะ โดยมีอ่าวฮิโรชิมะ หันหน้าออกสู่ทะเลเซโตะในทางด้านทิศใต้
นครฮิโรชิมะ แบ่งออกเป็น 8 เขต (ญี่ปุ่น: 区; ทับศัพท์: กุ) ด้วยกัน คือ
เขต | ประชากร | พื้นที่ (กม.²) | ความหนาแน่น (คน/กม.²) | แผนภาพ |
---|---|---|---|---|
เขตซาเอกิ | 135,789 | 223.98 | 606 | |
เขตนากะ (เขตศูนย์กลาง) | 125,208 | 15.34 | 8,162 | |
เขตนิชิ | 184,881 | 35.67 | 5,183 | |
เขตมินามิ | 138,138 | 26.09 | 5,295 | |
เขตอากิ | 78,176 | 94.01 | 832 | |
เขตอาซากิตะ | 156,368 | 353.35 | 443 | |
เขตอาซามินามิ | 220,351 | 117.19 | 1,880 | |
เขตฮิงาชิ | 122,045 | 39.38 | 3,099 | |
ข้อมูลประชากรเมื่อ ตุลาคม ค.ศ. 2006 |
ข้อมูลภูมิอากาศของนครฮิโรชิมะ (ค.ศ. 1981-2010) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 18.8 (65.8) | 21.5 (70.7) | 23.7 (74.7) | 29.0 (84.2) | 31.5 (88.7) | 34.4 (93.9) | 38.7 (101.7) | 37.9 (100.2) | 36.9 (98.4) | 31.2 (88.2) | 26.3 (79.3) | 22.3 (72.1) | 38.7 (101.7) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 9.7 (49.5) | 10.6 (51.1) | 14.0 (57.2) | 19.7 (67.5) | 24.1 (75.4) | 27.2 (81) | 30.8 (87.4) | 32.5 (90.5) | 29.0 (84.2) | 23.4 (74.1) | 17.4 (63.3) | 12.3 (54.1) | 20.9 (69.6) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 5.2 (41.4) | 6.0 (42.8) | 9.1 (48.4) | 14.7 (58.5) | 19.3 (66.7) | 23.0 (73.4) | 27.1 (80.8) | 28.2 (82.8) | 24.4 (75.9) | 18.3 (64.9) | 12.5 (54.5) | 7.5 (45.5) | 16.3 (61.3) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 1.7 (35.1) | 2.1 (35.8) | 4.8 (40.6) | 9.9 (49.8) | 14.7 (58.5) | 19.4 (66.9) | 23.8 (74.8) | 24.8 (76.6) | 20.8 (69.4) | 14.2 (57.6) | 8.5 (47.3) | 3.7 (38.7) | 12.4 (54.3) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -8.5 (16.7) | -8.3 (17.1) | -7.2 (19) | -1.4 (29.5) | 1.8 (35.2) | 6.6 (43.9) | 14.1 (57.4) | 13.7 (56.7) | 8.6 (47.5) | 1.5 (34.7) | -2.6 (27.3) | -8.6 (16.5) | −8.6 (16.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 44.6 (1.756) | 66.6 (2.622) | 123.9 (4.878) | 141.7 (5.579) | 177.6 (6.992) | 247.0 (9.724) | 258.6 (10.181) | 110.8 (4.362) | 169.5 (6.673) | 87.9 (3.461) | 68.2 (2.685) | 41.2 (1.622) | 1,537.6 (60.535) |
ปริมาณหิมะ ซม (นิ้ว) | 5 (2) | 4 (1.6) | 1 (0.4) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 3 (1.2) | 12 (4.7) |
ความชื้นร้อยละ | 68 | 67 | 64 | 63 | 66 | 72 | 74 | 71 | 70 | 68 | 69 | 69 | 68 |
วันที่มีหิมะตกโดยเฉลี่ย | 8.7 | 7.1 | 2.6 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.2 | 4.5 | 23.1 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 137.2 | 139.7 | 169.0 | 190.1 | 206.2 | 161.4 | 179.5 | 211.2 | 165.3 | 181.8 | 151.6 | 149.4 | 2,042.3 |
แหล่งที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น |
ฮิโรชิมะ | |||||
ฮิโรชิมาในคันจิ | |||||
ชื่อภาษาญี่ปุ่น | |||||
---|---|---|---|---|---|
ชินจิไต | 広島 | ||||
คีวจิไต | 廣島 | ||||
|
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ฮิโรชิมะ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.