โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (Royal Police Cadet Academy : RPCA) เป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตั้งอยู่ที่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีภารกิจหลักในการฝึกอบรม ให้การศึกษา อบรมหล่อหลอมนักเรียนนายร้อยตำรวจให้มีคุณลักษณะเหมาะสมที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร และฝึกอบรมผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรอื่น ผู้ที่ศึกษาตามหลักสูตรหลักของในโรงเรียนนายร้อยตำรวจเรียกว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) .ผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นสูงตามหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น ว่าที่ร้อยตำรวจตรี โดยนายตำรวจสัญญาบัตรที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้ารับพระราชทานกระบี่จากพระองค์ท่าน หรือองค์ผู้แทนพระองค์ตลอดมา
ชื่อย่อ | รร.นรต. /RPCA |
---|---|
ประเภท | โรงเรียนทหาร-ตำรวจ |
สถาปนา | พ.ศ. 2444 |
ที่ตั้ง | 90 หมู่ที่ 7 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม |
เว็บไซต์ | http://www.rpca.ac.th/ |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2444 ณ มณฑลนครราชสีมา อันเป็นรากฐานเริ่มต้นของโรงเรียนนายร้อยตำรวจยุคปัจจุบัน โดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขณะดำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ เสนาบดีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือที่ 67/719 ลงวันที่ 19 เมษายน ร.ศ.121 (พ.ศ. 2445) กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นแล้ว แต่ติดขัดเรื่องที่ในการตั้งโรงเรียน จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไปตั้งที่ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาและลงพระปรมาภิไธยพระราชทานพระบรมราชานุญาต เป็นหนังสือถึงกรมหลวงดำรงราชานุภาพ 2 ฉบับ ฉบับแรกหนังสือที่ 59/234 ลงวันที่ 20 เมษายน ร.ศ.121 ฉบับที่ 2 หนังสือที่ 131/361 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม ร.ศ.121 โปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตามความกราบบังคมทูลขอของกรมหลวงดำรงราชานุภาพ อันเป็นหลักฐานที่แสดงว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้น
สำหรับประวัติสถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มตั้งขึ้นในประเทศไทย จนกระทั่งมีที่ตั้งล่าสุดที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้มีการย้ายสถานที่ตั้งตามลำดับดังนี้
ซึ่ง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้น เป็นผู้วางรากฐานให้ย้ายสถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไปตั้ง ณ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อ พ.ศ. 2497 และเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขณะเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ได้เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ณ อ.สามพราน จ.นครปฐม อย่างเป็นทางการ
แม้ว่าจะได้ทรงพระราชทานก่อตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2444 ณ กองตำรวจภูธรเขต 3 นครราชสีมา แต่โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ถือเอาวันที่ 19 เมษายน ร.ศ.121 (พ.ศ. 2445) เป็นวันสถาปนาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาและลงพระปรมาภิไธยตอบหนังสือของกรมหลวงดำรงราชานุภาพไว้เป็นหลักฐาน
ปัจจุบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจบริหารงานภายใต้พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และ พระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ. 2551
โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้รับพระราชทานธงชัยประจำหน่วยตำรวจจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พร้อมกับหน่วยอื่นของตำรวจอีก 5 หน่วย เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยดังกล่าวด้วยพระองค์เอง ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ผืนธงชัยมีลักษณะเช่นเดียวกับธงชาติ ภายในยอดธงบรรจุเส้นพระเกศาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และบรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กเรียกว่า "พระยอดธง" เอาไว้ ธงชัยจึงถือเป็นตัวแทนของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเหล่าข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจ และปวงชนชาวไทยให้ความเคารพ
ธงชัยประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจนี้ มีลักษณะและการได้มาเช่นเดียวกันกับธงชัยเฉลิมพล ซึ่งได้ทรงพระราชทานแก่หน่วยทหารทุกประการ โดยสำนักราชเลขาธิการได้บันทึกหลักฐานเกี่ยวกับ "ธงชัยประจำหน่วยตำรวจ" นี้ไว้ ตามหลักฐานต่าง ๆ ปรากฏชื่อธงดังกล่าว ได้แก่ "ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ" "ธงชัยประจำกอง" "ธงชัย" "ธงประจำกอง" ซึ่งก็คือธงเดียวกัน
ในวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันตำรวจ คณะนายตำรวจปกครองและนักเรียนนายร้อยตำรวจ จะทำการอัญเชิญธงชัยประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจนี้ไปทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยแบ่ง หน้าที่ภารกิจออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายปกครองและการฝึก ฝ่ายวิชาการ และมีหน่วยงานขึ้นตรงต่อ โรงเรียนนายร้อยตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้
1. ฝ่ายบริหาร รับผิดชอบด้านการบริหารงานทั่วไปของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้แก่ การสรรหาและคัดเลือก การบริหารงานบุคคล การคลัง แผนและงบประมาณ นิติการ ยานพาหนะ อาคาร และสถานที่ พิพิธภัณฑ์ โภชนาการ และการแพทย์ ประกอบด้วยส่วนราชการดังนี้ (ก) กองบังคับการอำนวยการ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
2. ฝ่ายปกครองและการฝึก รับผิดชอบด้านการปกครองบังคับบัญชา ให้คำปรึกษา แนะนำ สนับสนุนงานกิจกรรมต่าง ๆ ของนักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ นักเรียนอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รวมทั้งจัดการฝึกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฝึกแบบตำรวจ การฝึกยุทธวิธีตำรวจ การฝึกพลศึกษาและต่อสู้ป้องกันตัว ประกอบด้วยส่วนราชการ ดังนี้
(ข) กองบังคับการปกครอง แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(ค) ศูนย์ฝึกตำรวจ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
3. ฝ่ายวิชาการ รับผิดชอบด้านการให้ความรู้ทางวิชาการต่าง ๆ เช่น การเรียนการสอน การวิจัย การฝึกอบรม และการให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ประกอบด้วยส่วนราชการ ดังนี้
(ง) คณะตำรวจศาสตร์ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(จ) คณะนิติวิทยาศาสตร์ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(ฉ) คณะสังคมศาสตร์ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(ช) ศูนย์บริการทางการศึกษา แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
4. หน่วยงานขึ้นตรงต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รับผิดชอบในงานเชิงรุกเพื่อให้การปฏิบัติงาน เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วยส่วนราชการ ดังนี้
(ซ) สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยบริการ แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(ฌ) สำนักประกันคุณภาพการศึกษา แบ่งเป็นดังต่อไปนี้
(ญ) สำนักเลขานุการ (ฎ) สำนักสภาการศึกษาและส่งเสริมกิจการ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ มีภารกิจหลักในการให้การศึกษาอบรมทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และการอบรมหล่อหลอมคุณลักษณะความเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรให้แก่ผู้ที่เข้ารับการศึกษาอบรมในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งหลักสูตรหลักและเป็นหลักสูตรประจำของโรงเรียนนายร้อยตำรวจคือ "หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ"
หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ (การตำรวจ) มุ่งเน้นการศึกษาอบรมให้นักเรียนนายร้อยตำรวจมีวิชาความรู้และการอบรมหล่อมหลอมคุณลักษณะอันดีใน 3 ด้าน คือ
สภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้มีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจให้มีความทันสมัย มีความเหมาะสมกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางสังคมมาโดยตลอด นอกจากนั้น โรงเรียนนายร้อยตำรวจยังได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการเปิดหลักสูตรร่วมกัน เช่น ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
พระนิพนธ์โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฐายีมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกองค์ที่ 16 เมื่อพุทธศักราช 2499
ฟังเพลงประจำสถาบัน ทั้ง 8 เพลง
ทำเนียบผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ | ||
---|---|---|
รายนามผู้บัญชาการ | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
1. พลตำรวจโท สมชาย ไชยเวช | พ.ศ. 2532 - 2534 | |
2. พลตำรวจโท จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ | พ.ศ. 2534 - 2535 | |
3. พลตำรวจโท นิรดม ตันตริก | พ.ศ. 2535 - 2536 | |
4. พลตำรวจโท อัยยรัช เวสสะโกศล | พ.ศ. 2536 - 2537 | |
5. พลตำรวจโท โกศล รัตนาวะดี | พ.ศ. 2537 - 2537 | |
6. พลตำรวจโท เขตต์ นิ่มสมบุญ | พ.ศ. 2537 - 2539 | |
7. พลตำรวจโท ชิดชัย วรรณสถิตย์ | พ.ศ. 2539 - 2540 | |
8. พลตำรวจโท เสรี เตมียเวส | พ.ศ. 2540 - 2540 | |
9. พลตำรวจโท หม่อมหลวงฉลองลาภ ทวีวงศ์ | พ.ศ. 2540 - 2541 | |
10. พลตำรวจโท สุนทร นุชนารถ | พ.ศ. 2541 - 2545 | |
11. พลตำรวจโท วงกต มณีรินทร์ | พ.ศ. 2545 - 2546 | |
12. พลตำรวจโท ชัยยันต์ มะกล่ำทอง | พ.ศ. 2546 - 2547 | |
13. พลตำรวจโท วุฒิ พัวเวส | พ.ศ. 2547 - 2548 | |
14. พลตำรวจโท พงศพัศ พงษ์เจริญ | พ.ศ. 2548 - 2550 | |
15. พลตำรวจโท อมรินทร์ อัครวงษ์ | พ.ศ. 2550 - 2553 | |
16. พลตำรวจโท อารีย์ อ่อนชิต | พ.ศ. 2553 - 2556 | |
17. พลตำรวจโท ศักดา เตชะเกรียงไกร | พ.ศ. 2556 - 2559 | |
18. พลตำรวจโท ดร. ปิยะ อุทาโย | พ.ศ. 2559 - 2561 | |
19. พลตำรวจโท สมชาย พัชรอินโต | พ.ศ. 2561 - 2562 | |
20. พลตำรวจโท อาชวันต์ โชติกเสถียร | พ.ศ. 2562 - 2563 | |
21. พลตำรวจโท นิรันดร เหลื่อมศรี | พ.ศ. 2563 - 2564 | |
22. รองศาสตราจารย์ พลตำรวจโท ดร.ธัชชัย ปิตานีละบุตร | พ.ศ. 2564 - 2565 | |
23. พลตำรวจโท ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ | พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน |
เมื่อ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ได้ก่อสร้างโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ อ.สามพราน จว.นครปฐม ได้ให้ พ.ต.อ.วิจิตร สุกโชติรัตน์ ทำหน้าที่เป็นอนุศาสนาจารย์ และสอนวิชาจริยธรรมแก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ (พ.ต.อ.วิจิตร สุกโชติรัตน์ นั้นขณะครองสมณเพศ มีสมณศักดิ์ทางสงฆ์เป็นพระมหา)
ขณะก่อสร้างอาคารต่างๆภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ต.อ.วิจิตรฯ ได้ขอคำแนะนำจากพระเถระผู้ใหญ่ขอตั้งคำขวัญประจำชั้นปีของนักเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อเป็นกุศโลบายและแนวทางในการอบรมปลูกฝัง นรต. ซึ่งเมื่อก่อสร้างอาคารต่างๆเสร็จใน พ.ศ. 2497 (นรต.รุ่นที่ 9,10,11) ก็ได้ตั้งคำขวัญประจำชั้นปีของนักเรียนนายร้อยตำรวจติดไว้ประจำอาคารนอนของ นรต.ทั้ง 4 อาคาร ดังนี้
นรต.ชั้นปีที่ 1 คำขวัญคือ “ขันตีอุตสาหะ” หมายความว่า ให้ นรต.ชั้นปีที่ 1 ต้องมีขันติ คือความอดทน และอุตสาหะ คือพากเพียรรับการฝึกหนัก ต้องมุมานะอดทนในการเปลี่ยนชีวิตจากคนธรรมดาให้เป็นผู้ที่รับการฝึก นรต.ชั้นปีที่ 2 คำขวัญคือ “วิจัยกรณี” หมายความว่า จะต้องแยกแยะวิจัยกรณีต่างๆ เพื่อก้าวไปสู่ความก้าวหน้าในขั้นต่อๆไป นรต.ชั้นปีที่ 3 คำขวัญคือ “รักษ์วินัย” หมายความว่า จะต้องรักษาระเบียบวินัยและขนบธรรมเนียมอันดีงามต่างๆ นรต.ชั้นปีที่ 4 คำขวัญคือ “เกียรติศักดิ์” หมายความว่า จะต้องเป็นผู้ที่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี รักษาเกียรติของตำรวจและสถาบันให้ดีที่สุด
คำขวัญของนักเรียนนายร้อยตำรวจนั้น เป็นกุศโลบายที่จะฝึกให้ นรต.มีคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร และกำลังจะสำเร็จการศึกษาออกไปเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งจะฝึกให้ นรต.รู้จักความเป็น "ผู้ใต้บังคับบัญชา"ที่ดีในชั้นปีที่ 1-2 และเป็น "ผู้บังคับบัญชา" ที่ดีในชั้นปีที่ 3-4 คำขวัญดังกล่าวมักจะถูกเรียกให้คล้องจองคือ "เกียรติศักดิ์ รักษ์วินัย วิจัยกรณี ขันตีอุตสาหะ"
สีประจำชั้นปีนี้จะถูกใช้เป็นสีประจำกองร้อย (อาคารนอน) และเป็นสีหมวก ซึ่งการเลื่อนชั้นการศึกษาของ นรต.นั้นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้มี พิธีประดับเลขชั้นปีและเปลี่ยนหมวกสี แล้ว ซึ่งจะกระทำในวันรุ่งขึ้นหลังจากมี พิธีวิ่งรับหมวก (Long March) ในวันเริ่มต้นเปิดภาคการศึกษา
หมวก มีทั้งสิ้น 7 แบบ
รองเท้า มีทั้งสิ้น 4 แบบ
ส่วนประกอบเครื่องแบบ
เครื่องหมายการผ่านการฝึก และความสามารถพิเศษประกอบเครื่องแบบ
นอกจากนักเรียนนายร้อยตำรวจจะต้องศึกษาภาควิชาการ และการอบรมหล่อหลอมด้านความคิดจิตวิญญาณแล้ว นรต.ทั้งหมดจะต้องเข้ารับการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
เมื่อปีการศึกษา 2552 (ตรงกับ นรต.รุ่นที่ 66) โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้เปิดรับสมัครนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงเป็นรุ่นแรก จำนวน 70 นาย โดยคัดเลือกจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 60 นาย และข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเพศหญิงอายุไม่เกิน 25 ปี อีก 10 นาย ผลปรากฏว่ามีผู้สมัครสอบคัดเลือกถึงกว่า 17,000 คน และได้รับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงเข้าฝึกศึกษามาอย่างต่อเนื่องโดยทุกปี จนถึงปี 2561 รวมเป็นจำนวน 10 รุ่น (นรต.รุ่น 66-75) ซึ่ง นรต.หญิง รุ่นที่ 75 ได้สำเร็จการศึกษาแต่งตั้งยศเป็น ว่าที่ร้อยตำรวจตรีหญิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และรับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งต่างๆเมื่อเดือนตุลาคม 2565
นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงนั้น มีการฝึกศึกษาร่วมกันกับนักเรียนนายร้อยตำรวจชายอย่างเท่าเทียมทุกอย่าง ไม่มีการแบ่งแยกการฝึกกัน แตกต่างกันเพียงอาคารที่พัก ให้พักในอาคารเฉพาะนักเรียนหญิงแยกต่างหากจากอาคารที่พักนักเรียนนายร้อยตำรวจชาย
ปัจจุบันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชะลอการรับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง เนื่องจากมีแนวนโยบายให้รับนักเรียนนายร้อยตำรวจจากผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารเป็นหลัก ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมีการเปิดสอบแข่งขันบุคคลหญิงทั่วไปเข้ารับการฝึกอบรม(นอร.) และบรรจุแต่งตั้งเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรหญิง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง
This article uses material from the Wikipedia ไทย article โรงเรียนนายร้อยตำรวจ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.