โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (อังกฤษ: Suankularb Wittayalai School; อักษรย่อ: ส.ก.
บทความนี้คล้ายโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ วิกิพีเดียมิใช่ช่องทางการสื่อสารการตลาดของหน่วยธุรกิจใด ๆ กรุณาเขียนใหม่ด้วยมุมมองที่เป็นกลาง และนำลิงก์ภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องออก |
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
/ S.K.) เป็นโรงเรียนชายล้วน ระดับชั้น มัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชื่อเดิม: กรมสามัญศึกษา) กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งโดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการสถาปนาขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2424 (ขณะนั้นนับวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ เมื่อนับอย่างสากลถือเป็น พ.ศ. 2425) ถือเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ละติน: Suankularb Wittayalai School | |
---|---|
ตึกยาว หรืออาคารสวนกุหลาบฝั่งด้านใน | |
ที่ตั้ง | |
เลขที่ 88 ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 | |
ข้อมูล | |
ประเภท | โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ |
คำขวัญ | บาลี: สุวิชาโน ภวํ โหติ (ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ) |
สถาปนา | 8 มีนาคม พ.ศ. 2425 (142 ปี 47 วัน) |
ผู้ก่อตั้ง | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ผู้บริหาร | จิณณภัทร พิบูลวิทิตธำรง |
จำนวนนักเรียน | 3,180 คน 2562 |
ชั้นเรียนที่เปิดสอน | มัธยมศึกษา |
สี | ชมพู-ฟ้า |
เพลง | เพลงประจำโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เพลงมาร์ชชมพูฟ้า ฯลฯ |
สังกัด | สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 สพฐ. |
เว็บไซต์ | www |
โรงเรียนตั้งอยู่เลขที่ 88 ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บนเนื้อที่ 11 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา ประกอบด้วยอาคารเรียน 7 หลัง สนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ โรงอาหาร อาคารอเนกประสงค์ และหอประชุม มีการจัดการเรียนการสอนในช่วงชั้นการศึกษาที่ 3 และ 4 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 36 ห้องเรียน มัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 42 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 78 ห้องเรียน ในรูปแบบ 12-12-12/14-14-14
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของระบบการเรียนการสอนและกิจกรรมด้านต่าง ๆ ถือเป็นโรงเรียนต้นแบบในเครือ "สวนกุหลาบวิทยาลัย" มีการสร้างพันธกิจสำคัญร่วมกันขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาโดยการบริหารจัดการขององค์กรเครือข่ายสวนกุหลาบ สร้างบรรทัดฐานการเรียนการสอนไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีงานสวนกุหลาบสัมพันธ์และงานลูกเสือสวนกุหลาบสัมพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นประจำทุกปี
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยยังเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงเรียนจตุรมิตรสามัคคี ประกอบด้วย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นประเพณีการแข่งขันฟุตบอลและการแปรอักษรที่จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี ณ สนามศุภชลาศัย โดยแต่ละโรงเรียนจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพ
ราว พ.ศ. 2325 เมื่อแรกสร้างพระบรมมหาราชวังในสมัยรัชกาลที่ 1 บริเวณวังข้าง ด้านใต้หมดเพียงป้อมอนันตคิรี กำแพงพระราชวังหักตรงไปทางตะวันตกจนถึงป้อมสัตบรรพตในระหว่าง กำแพงพระบรมมหาราชวังกับวัดพระเชตุพนมีบ้านเสนาบดีและวังเจ้า คั่นอยู่หลายบริเวณครั้นเมื่อถึงรัชกาลที่ 2 จึงมีการขยายเขตพระราชวังออกไป ในพระราชวังด้านใต้มีที่ว่าง โปรดฯให้ทำสวนปลูกต้นกุหลาบ สำหรับเก็บดอกใช้ในราชการจึงเกิดมีสวนกุหลาบขึ้นในพระราชวัง ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา และในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดฯให้แบ่งสวนกุหลาบส่วนหนึ่งสร้างพระคลังศุภรัตน ทำเป็นตึกรูปเก๋งจีน แต่พื้นที่นอกจากสร้างคลังศุภรัตน ยังคงเป็นสวนกุหลาบต่อมาอย่างเดิม
ต่อมาในรัชกาลที่ 4 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เจริญพระชันษาถึงเวลาจะเสด็จมาประทับอยู่พระราชวังชั้นนอก แต่พระบรมพระชนกนาถมีพระประสงค์ที่จะให้เสด็จประทับอยู่ในที่ใกล้พระองค์ จึงโปรดฯให้จัดตำหนักพระราชทานเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ในสวนกุหลาบ บริเวณอาคารพระคลังศุภรัตน ซึ่งสร้างไว้ในสมัยรัชกาลที่ 3 และได้เรียกพระตำหนักนี้ว่า พระตำหนักสวนกุหลาบ และหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว ก็โปรดฯให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช เสด็จไปประทับอยู่ที่พระตำหนักสวนกุหลาบแทน จนออกจากวัง และจากนั้นมาก็ใช้เป็นคลังเก็บของเรื่อยไป
ยุคที่ 1 พระพุทธเจ้าหลวงทรงให้กำเนิด
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว โปรดฯ ให้เลือกสรรลูกผู้ดีมาฝึกหัด จัดเป็นกรมทหารมหาดเล็กสำหรับรักษาพระองค์ และให้เป็นที่ศึกษาหาความรู้ในราชสำนักสำหรับราชการด้วย และพระองค์เองก็ทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็ก ครั้นเมื่อกรมทหารมหาดเล็กเจริญขึ้นทรงพระราชดำริว่า เชื้อสายราชสกุลชั้นหม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์มีอยู่มากแต่มักไม่ได้รับการอบรม บางคนประพฤติเสเพลเป็นนักเลงหัวไม้ เมื่อเกิดถ้อยความก็ขึ้นชื่อว่า เชื้อเจ้านายไปรังแกผู้อื่น จึงโปรดให้หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ ซึ่งมีอายุสมควรจะฝึกหัด เข้าเป็นทหารมหาดเล็ก
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็ก ได้ทรงดำริที่จะจัดตั้งโรงเรียนขึ้นแห่งหนึ่ง เพื่อฝึกหัดหม่อมเจ้า และหม่อมราชวงศ์โดยเฉพาะ ให้เป็นทหารมหาดเล็ก ทั้งนี้เนื่องจากฐานะทหารมหาดเล็กได้เสื่อมไปไม่เหมือนแต่ก่อน ประกอบกับสมัยนั้นราชการกระทรวงต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงแบบแผนเป็นอย่างใหม่ เป็นที่นิยมของคนหนุ่ม ๆ ขึ้นมาก ไม่เหมือนสมัยก่อนซึ่งมีเพียงทหารมหาดเล็กอย่างเดียว ดังนั้นกรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงคิดว่าควรจะจัดตั้งโรงเรียนจะได้มีผู้สมัครเข้ามามาก กรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงนำความเห็น ขึ้นกราบทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับความเห็นชอบด้วย พระองค์ดำรัสสั่งให้จัดตั้งโรงเรียน ตามที่คิดนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรับจะทรงอุดหนุน ครั้นจะเลือกหาที่ตั้งโรงเรียนในโรงเรียน มหาดเล็กก็ไม่มีที่พอแก่การจัด จึงได้เลือก พระตำหนักสวนกุหลาบ ซึ่งตอนนั้นใช้เป็นคลังรุงรังรกอยู่ไม่เป็นประโยชน์นัก จึงกราบทูลฯ ขอ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นในที่นั้น อาศัย เหตุนั้นจึงได้เรียกชื่อว่า "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" เมื่อ พ.ศ. 2425 เป็นต้น
โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบได้จัดทั้งการฝึกหัดอย่างทหาร และเรียนแบบสามัญเหมือนโรงเรียนทั้งปวงด้วย ต่อมากิจการงานของโรงเรียนเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ มีหม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์และบุตรหลานของข้าราชการ สมัครเรียนมากขึ้นทุกที จนเกินจำนวนตำแหน่งนายทหารมหาดเล็ก ฉะนั้น ณ จุดนี้เอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงตัดสินพระทัยว่า ถ้าหากเปลี่ยนให้เป็นโรงเรียน สำหรับข้าราชการทั่วไป จะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองยิ่งกว่าเป็นโรงเรียนสำหรับนายทหารมหาดเล็กกรมเดียว และได้เปลี่ยนฐานะนักเรียนจากทหารมาเป็นนักเรียนพลเรือน นอกจากนั้นพระองค์ก็ได้โปรดฯ ให้สร้างตึกยาวทางพระราชวังด้านใต้ ใช้เป็นที่เล่าเรียนและที่อยู่นักเรียนอีกหลังหนึ่งด้วย การตั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบจึงนับว่าสำเร็จบริบูรณ์เมื่อ ปีระกา พ.ศ. 2427 นั่นเอง โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบมีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2436 จึงขยายออกไปตั้งนอกพระบรมมหาราชวัง และจากเหตุนี้เองจึงเรียกชื่อเพียง "โรงเรียนสวนกุหลาบ" กับได้แยกเป็น 2 แห่ง คือ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทย และ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษ
ยุคที่ 2 ขยายออกนอกวัง
หลังจากออกย้ายจากพระบรมมหาราชวัง โรงเรียนสวนกุหลาบก็ได้เคลื่อนย้ายไปยังศาลา 4 หลัง ของวัดมหาธาตุด้านทิศเหนือเรียกว่า โรงเรียนสวนกุหลาบวัดมหาธาตุด้านทิศเหนือ เพื่อรอการก่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งในช่วงนี้มีโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยอยู่ 2 ที่ ซึ่งอีกที่หนึ่งอยู่ที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงในพระบรมมหาราชวัง เรียกว่า โรงเรียนสวนกุหลาบไทยในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ซึ่งโรงเรียนนี้คาดว่าเกิดจากการเคลื่อนย้าย ไปยังวัดมหาธาตุนั้นเคลื่อนย้ายไปไม่หมด ต่อมากระทรวงธรรมการได้งบประมาณในการสร้างที่ว่าการกระทรวงใหม่ และกระทรวงต้องการให้โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบเป็นโรงเรียนสำหรับฝึกหัดทดลองวิธีสอนและตำราเรียน จึงยกตึกหลังแรกใน 3 หลัง ให้เป็นโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เรียกว่า โรงเรียนสวนกุหลาบวังหน้า ซึ่งจริง ๆ กระทรวงต้องการให้โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายอังกฤษมารวมกันที่นี่ แต่สถานที่คับแคบไป จึงนำมาเฉพาะโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยเพียงฝ่ายเดียว ต่อมาในปี พ.ศ. 2452 กระทรวงธรรมการ ได้ย้ายสถานที่ใหม่ ดังนั้นโรงเรียนสวนกุหลาบจึงต้องย้ายด้วย ซึ่งได้ย้ายไปอาศัยอยู่ ณ บริเวณศาลาวัดมหาธาตุด้านใต้เป็นการชั่วคราว จนกระทั่งย้ายมาอยู่ที่โรงเลี้ยงเด็กริมคลองมหานาค (โรงเรียนสวนกุหลาบโรงเลี้ยงเด็กริมคลองมหานาค) หลังจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยได้ย้ายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ถึง 5 แห่ง โรงเรียนสวนกุหลาบก็ได้กลับมารวมอีกครั้งที่ "ตึกแถวหลังยาววัดราชบูรณะ" โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมโยธาธิการออกแบบ แล้วใช้งบประมาณของวัดราชบูรณะเพื่อเช่าสถานที่ และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กำหนดเป็นโรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาพิเศษ แล้วให้ชื่อว่า "โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย" และการรวมตัวครั้งนี้เป็นการรวม "สวนกุหลาบ" ทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษด้วย
หลังจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทย ย้ายออกจากพระบรมมหาราชวังไปแล้ว แต่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษยังคงอยู่ในพระบรมหาราชวัง โดยย้ายจากที่เดิมมาอยู่ที่ตึก 2 หลังริมพระที่นั่งสุทไธสวรรย เรียกว่า "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบริมพระที่นั่งสุทธัยสวรรค์" ต่อมาได้ย้ายไปตั้งอยู่ ณ วังพระองค์เจ้าภานุมาศ ซึ่ง หมายถึง "วังหน้า" เดิมในสมัยรัชกาลที่ 4 เรียกว่า โรงเรียนสวนกุหลาบวังหน้า โดยอาศัยเก๋งจีนที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นที่สอน หลังจากอาศัยอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่ง ก็ได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่สตรีสวนสุนันทาลัย (ปากคลองตลาด) เนื่องจากโรงเรียนนี้มีนักเรียนน้อยลงเรื่อย ๆ จำต้องปรับปรุง มีการพักการเรียนการสอนไว้ก่อน โรงเรียนสวนกุหลาบซึ่งยังไม่มีสถานที่แน่นอน จึงได้ย้ายมาเปิดการสอนเป็นชั่วคราว เรียกว่า โรงเรียนสวนกุหลาบอังกฤษสุนันทาลัย จนกระทั่งสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มีหนังสือขอพระราชทานที่โรงเรียนสตรีสุนันทาลัยเพื่อปรับปรุงให้เป็น "โรงเรียนราชินี" โรงเรียนสวนกุหลาบอังกฤษสุนันทาลัยจึงได้ย้ายมารวมอยู่กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ เพราะว่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมโรงเรียนครั้งใหญ่ ใช้งบประมาณในการสร้างโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบแห่งใหม่ โดยมีข้อตกลงในการก่อสร้าง "ตึกแม้นนฤมิตร์" เป็นตึกเรียนหลังใหม่ และให้ชื่อว่า โรงเรียนสวนกุหลาบตึกแม้นนฤมิตร์ ทั้งนี้โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้กรมศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการทำสัญญาก่อสร้าง ต่อมาได้มีการเปลี่ยนนามโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์ตึกแม้นนฤมิตร์แทน โดยเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าพระองค์ได้ออกเงินเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ยุคที่ 3 กลับมารวมตัว
ต่อมาการเดินทางอันยาวนานของ "สวนกุหลาบ" จึงได้สิ้นสุดลงเมื่อปี พ.ศ. 2454 โดยโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ได้รวมกับฝ่ายไทยและได้แหล่งที่พำนักถาวร พร้อมกับนามว่า "โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย" ถึงตรงนี้ โรงเรียนสวนกุหลาบทั้งสองฝ่ายก็ได้มารวมกันอีกครั้งโดยอยู่ในพื้นที่ของวัดราชบุรณะ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้สร้างตึกยาวขึ้นเพื่อดำเนินการสอน การที่พระองค์ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างตึกยาวนี้ ทรงมอบให้กรมโยธาธิการเป็นผู้ออกแบบโดยใช้งบประมาณของวัดราชบูรณะ ซึ่งในเวลานั้นเงินสร้างตึกให้ชาวบ้านเช่าโดยเปลี่ยนเป็นให้โรงเรียนเช่า เพื่อใช้เป็นโรงเรียนแผนใหม่ ทั้งนี้ด้วยความคิดของเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) ศิษย์เก่าเลขประจำตัวหมายเลข 2 ของโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เสนาบดีกระทรวงธรรมการในขณะนั้น โดยมีการเซ็นสัญญาเช่ากับพระธรรมดิลก เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะในสมัยนั้น โดยมีนายเอง เลียงหยง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 10,150 บาท จึงได้เกิดตึกยาว รวมนักเรียนสวนกุหลาบจากที่ต่าง ๆ
ในปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทอดพระเนตรการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง ก่อนสวรรคตในปี พ.ศ. 2453 นั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าทรงเป็นผู้ก่อกำเนิดโรงเรียนนี้โดยแท้ นับเป็นมหากรุณาธิคุณแก่ทวยราษฎร์อย่าง ล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้
ตึกยาว ที่เคียงข้างตึกยาว (สวนกุหลาบ) ความจริงแล้วก่อนช่วงเกิดสงครามโลก ตึกยาวดังกล่าวเป็นของโรงเรียนเพาะช่าง ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพป้ายโรงเรียนเพาะช่างติดอยู่บริเวณทางเข้าตึกยาว
บทบาททางวิชาการ สังคม และการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
บทบาททางการเมืองและการก้าวสู่ปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2475 มี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นที่ไม่คาดคิดว่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนหลวงแห่งแรกของประเทศไทย จะมีหน้าประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครองในสมัยนั้นด้วย เมื่อ วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎร ได้จับตัวพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นตัวประกัน รวมทั้ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ด้วย บรรยากาศขณะนั้นตึงเครียดมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก บรรยากาศด้านการเมืองรุนแรงน่าหวาดกลัวแม้กระทั่งในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น มีรถถังแล่นมาจอดขวางประตูโรงเรียน มีนายทหารและพลเรือนของคณะราษฎร นำโดย นายสงวน ตุลารักษ์ ได้เข้ามาในโรงเรียน เชิญอาจารย์ใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือ อาจารย์เอซี เชอร์ชิล และนักเรียน ม.6-ม.8 เข้าหอประชุมสามัคคยาจารย์สมาคม ประกาศทุกคนได้รับทราบว่า ขณะนี้ได้มีการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากบทสัมภาษณ์ศิษย์เก่าในหนังสือ "ตำนานสวนกุหลาบ" ซึ่งเป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นในปี พ.ศ. 2538 เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ครั้งสำคัญ เพื่อเฉลิมฉลองโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ในวาระครบ 12 ทศวรรษ ได้มีสัมภาษณ์ สมจิตต์ โฆสุวรรณะ (สก.6487 เข้าเรียน พ.ศ. 2474) โดยมีรายละเอียดว่า
นักเรียนสวนกุหลาบได้ลุกขึ้นถามว่า "ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงการปกครอง" นายสงวน ตอบว่า "ไม่ต้องถามเวลานี้ ถ้าต้องการรายละเอียดต้องตอบด้วยปืน ขณะนี้ได้จับเจ้านายไปแล้ว"
บรรยากาศตอนนี้มีความสับสน นักเรียนที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์ บ้างก็หลบอยู่ตามห้องเรียน บ้างก็กระโดดหนีออกจากโรงเรียนไป ที่เข้าประชุมก็ไม่ค่อยเข้าใจแจ่มชัดนัก แต่การกระทำครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะควบคุมความสงบสุขของ ครูและนักเรียนในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนใหญ่ และในขณะนั้นถือว่าใกล้ชิดกับราชวงศ์และข้าราชการชั้นสูงของกระทรวงธรรมการนั่นเอง
จากเหตุการณ์ตอนนี้พอสันนิษฐานว่า โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นโรงเรียนที่มีบทบาทสำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งคณะราษฎร์จำเป็นจะต้องควบคุมสถานการณ์ไว้ เพราะเป็นต้นแบบในด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนทั่วไป ครูอาจารย์ และ นักเรียน ก็น่าจะเป็นพลังที่จะต่อต้านคณะปฏิวัติ ซึ่งก่อให้เกิดความระส่ำระสาย ยากที่คณะราษฎร์จะดูแลได้ จึงได้ใช้วิธีนำรถถังมาปิดโรงเรียนและควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามตัวแทนของคณะปฏิวัติมิได้กระทำการใด ๆ แก่ครูและนักเรียน เพียงเรียกให้มาชุมนุมและประกาศสถาณการณ์ในขณะนั้น อิงจากบทสัมภาษณ์ ประดิษฐ อเนกานนท์ (ส.ก.6557 เข้าเรียนพ.ศ. 2474) ในหนังสือ "ตึกยาวสอนให้มีความสำนึกในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" ได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า "ตอนปี 2475 เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองทางคณะราษฎร์เอารถถังเข้ามาจอดในโรงเรียนเลย ตอนนั้นผมอยู่ ม.4 ทหารมาถาม "ใครจะสมัครอยู่คณะราษฎร์บ้าง" ก็ไปกันพรึบเลย"
นอกจากนี้ กิจกรรมอีกประการหนึ่งที่เป็นผลสะท้อนให้เห็นว่า โรงเรียนสวนกุหลาบมีบทบาททางการเมืองการปกครอง สมัยนั้นคือ การที่ลูกเสือโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย มีส่วนช่วยรัฐบาลในการปราบกบฏบวรเดช ในกรณีของการปราบกบฏบวรเดชนี้ รัฐบาลขณะนั้นได้ขอความร่วมมือจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ให้ส่งอาสาสมัครที่เป็นลูกเสือไปช่วยเป็นกองกำลัง ด้านลำเลียงกระสุนปืนส่งเสบียงบริเวณบางซื่อบ้าง และหลักสี่ทำหน้าที่เฝ้าคุกเพื่อไม่ให้มีการจลาจลบ้าง โดยแต่งกายชุดลูกเสือไปช่วยเป็นพลรบ การสู้รบครั้งนี้มีลูกเสือโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่ช่วย เป็นกองกำลังสนับสนุนจนฝ่ายรัฐบาลได้รับชัยชนะ ต่อมาจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่เกียรติยศ จากการปราบกบฏครั้งนี้ ให้กับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (อยู่ในห้องนิทรรศการ จาริกานุสรณ์) และนักเรียนรุ่นนั้นทุกคนได้รับเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาด้วย
เมื่อในปี พ.ศ. 2541 เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นอีกเป็นหนที่สอง เมื่อนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กว่า 2,000 คน ได้เดินทางไปยังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อสอบถามข้อข้องใจ ในเรื่องสาเหตุของการสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนในสมัยนั้น (นายธานี สมบูรณ์บูรณะ) จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปรากฏไปตามสื่อต่างๆ ทั้ง โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์
ในระยะก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ได้มีการสร้างอาคารต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งสิ้นแล้วมีอาคารอยู่ 10 หลัง คือ อาคารเรียนหลังยาว (ตึกยาว) ซึ่งยังคงตั้งตระหง่านมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ตึกวิทยาศาสตร์ชั้นเดียว โรงอาหาร โรงพลศึกษา ตึกหลังกลางและบ้านพักครู ที่พักภารโรง รวม 5 หลัง ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น อาคารบางหลังได้รับความเสียหายจากลูกระเบิด และเมื่อสงครามสงบก็ได้รับการซ่อมแซมดังนี้คือ อาคารหลังยาว และตึกวิทยาศาสตร์ได้รับการซ่อมแซมจนใช้การได้ดี ส่วนโรงอาหาร โรงพลศึกษา และตึกหลังกลาง นั้นถูกระเบิดเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2488 ได้รับความเสียหายมากจนเกินกว่าจะซ่อมแซมให้ใช้ได้ดังเดิมได้
จากบทนิพนธ์ของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ว่า
ประโยชน์ของโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ นอกจาก เป็นบ่อเกิดวิชาคุณของข้าราชการเป็นกันมาก ยังมีประโยชน์แพร่หลายอย่างอื่นอีก ที่เป็นสำคัญคือเมื่อปรากฏว่าจัดตั้ง โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบได้ดั่งพระราชประสงค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริ ว่าสมควรจะจัดการตั้งโรงเรียนเขียนและสอนวิชาให้แพร่หลายออกไปเป็นการศึกษาสำหรับประเทศสยาม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คิดจัดตั้งโรงเรียนขึ้นตามพระราชอารามหลวงทั้งในกรุงและหัวเมือง...
จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากการพระราชทานรางวัลนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบ พ.ศ. 2427 ที่ว่า
ฉันมีความยินดีที่ได้มาเป็นผู้ให้รางวัลแก่เด็กนักเรียน ซึ่งได้ไล่หนังสือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพราะการที่เคยไล่หนังสือมาแต่ก่อนนั้น ก็ได้ไล่แต่พระสงฆ์ วิชาหนังสือเป็นวิชาที่นับถือ แลเป็นที่สรรเสริญมาแต่โบราณ เพราะวิชาที่อาจทำให้การทั้งปวงสำเร็จไปได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ในกาลเวลานี้ผู้ซึ่งจะเป็นข้าราชการ ไม่รู้หนังสือแล้วเกือบจะเป็นอันใช้ไม่ได้ทีเดียว แต่เป็นการขัดข้องลำบากแก่หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์อยู่มาก ด้วยไม่มีทางที่จะเข้ารับราชการได้ เพราะเป็นเจ้าเสียไม่ได้เป็นขุนนาง จึงคิดหาโอกาสที่จะให้เรียนหนังสือ ได้ไล่วิชา เหมือนหนึ่งได้ถวายตัว เช่น ข้าราชการ เจ้านายตั้งแต่ราชตระกูล ตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นลงไป ตลอดถึงราษฎรที่ต่ำที่สุด จะได้มีโอกาสเล่าเรียนเสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่ เพราะฉะนั้นจึงขอบอกได้ว่าการเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้ จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ซึ่งฉันจะอุตสาห์จัดขึ้นให้เจริญ จงได้...
ได้แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นบ่อเกิดของความรู้รวมทั้งบุคลากรที่มีความสามารถมากมายเพื่อเผยแพร่วิชาความรู้แก่เยาวชนรุ่นหลังต่อไป ปัจจุบันนี้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยก็ได้จัดตั้งมาเป็นเวลากว่า 142 ปีและสามารถผลิตบุคลากรและเยาวชนที่มีคุณภาพออกไปรับใช้ประเทศชาติเสมอมาโดยตลอด สมกับคำนิพนธ์ของ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และ พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ก่อตั้งสถานศึกษาแห่งนี้ทุกประการ
|
|
|
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช พระมหากษัตริย์ พระองค์ที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระราชโอรส ใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
ทรงพระราชสมภพ วันอังคารที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๖ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ วันพฤหัสบดีที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ เสด็จสวรรคต วันอาทิตย์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓
ทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม กอปรด้วยพระเมตตาธรรม และพระคุณธรรมอันประเสริฐ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ สร้างความเจริญแก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ ทางด้านการปกครอง การเลิกทาส การเศรษฐกิจ การคมนาคม การสาธารณสุข การศาสนา ทรงส่งเสริมการศึกษา และวางรากฐานการศึกษาอย่างเป็นระบบ ทรงจัดตั้งโรงเรียนเพื่อพสกนิกรได้มีโอกาสศึกษาอย่างเสมอภาค ดังพระราชปณิธาน
‘เจ้านายราชตระกูล ตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นไป ตลอดจนถึงราษฎรที่ต่ำสุด จะให้ได้มีโอกาสเล่าเรียนได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่ เพราะฉะนั้น จึงพอบอกได้ว่า การเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้ จะเป็นข้อสำคัญข้อที่หนึ่ง ซึ่งฉันจะอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญจงได้’
ข้าราชการ ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักเรียน โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงพร้อมใจกันสร้างและประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อสักการะ เฉลิมพระเกียรติ ประกาศเกียรติคุณ ให้แผ่ไพศาล ตราบกาลนาน
งานชุมนุมลูกเสือ-เนตรนารีสวนกุหลาบสัมพันธ์ กลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัด งานชุมนุมลูกเสือ-เนตรนารี “สวนกุหลาบสัมพันธ์” ขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี ซึ่งนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะเป็นผู้แทนของแต่ละโรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรมนี้
การแข่งขันกรีฑาสวนกุหลาบสัมพันธ์ กลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัด “การแข่งขันกรีฑาสวนกุหลาบสัมพันธ์” ขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ สนามเมนสเตเดียม ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ดังต่อไปนี้
กลุ่มคณะกรรมการนักเรียนประสานทำงานร่วมกัน เริ่มแรกก่อตั้งโดยโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย 5 แห่งแรกในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ตลอดจนเป็นแกนนำในการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และถ่ายทอดขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงาม ของชาวสวนกุหลาบวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนของกลุ่มโรงเรียน มีแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลักของกลุ่มโรงเรียนฯ ทั้งหมด อาทิ งานชุมนุมลูกเสือสวนกุหลาบสัมพันธ์ การแข่งขันกรีฑาสวนกุหลาบสัมพันธ์ เป็นต้น ซึ่งภายหลังการประชุมและประสานงานในทุกๆ กิจกรรม จะถูกส่งต่อให้โรงเรียนในเครือสวนกุหลาบทั้งหมด เพื่อจัดกิจกรรมต่อไป
คณะกรรมการนักเรียน เป็นองค์กรนักเรียนที่ดำเนินการจัดตั้งอย่างถูกต้อง ภายใต้ระเบียบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ว่าด้วยการทำกิจกรรมของนักเรียน พ.ศ. 2539 โดยไม่มีหลักฐานการจัดตั้งในยุคเริ่มต้นอย่างเด่นชัด แต่คาดว่าน่าจะมีการจัดตั้งมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
คณะกรรมการนักเรียน โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย มีบทบาทในการเป็นแกนนำนักเรียนที่ดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งกิจกรรมตามประเพณี และกิจกรรมตามวาระและโอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมสวนกุหลาบวิทยาลัย ให้สนองต่อความต้องการของนักเรียน สังคมและชุมชน ดูแลระบบการทำกิจกรรมชุมนุมของนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยทั้งระบบ มีส่วนช่วยในการสนับสนุน ส่งเสริม และให้คำแนะนำต่อการทำกิจกรรมของนักเรียนทุกประเภท ตลอดจนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อการตัดสินใจของคณะครูและผู้บริหารในมุมมองของนักเรียน รวมทั้งเป็นตัวแทนของนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เพื่อไปแสดงออกถึงความเห็นและมุมมองในเรื่องต่างๆ ต่อสังคมภายนอกในโอกาสที่เหมาะสม ซึ่งบทบาทเหล่านี้ยังคงได้รับการสืบทอดต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน งานส่งเสริมกิจกรรมนักเรียน กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ในการควบคุมดูแลของคณาจารย์ที่ปรึกษา โดยมี ภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบ ดังต่อไปนี้
ทำเนียบผู้บริหาร | |||
---|---|---|---|
ลำดับ | รายนาม | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
1 | ม.อ.ต.พระยาศึกษาสมบูรณ์ (ม.ล.แหยม อินทรางกูร) | ||
2 | อ.อ.พระยาอุปการศิลปเสริฐ (อั๋น ชัชกุล) | ||
3 | Ernest Young | พ.ศ. 2437 - พ.ศ. 2438 | |
4 | W.G. Johnson | พ.ศ. 2438 - พ.ศ. 2440 | |
5 | E.S. Smith | พ.ศ. 2438 - พ.ศ. 2440 | |
6 | H.E. Spivey | พ.ศ. 2446 - พ.ศ. 2458 | |
7 | พระยาวินิจวิทยาการ (กร อมาตยกุล) | พ.ศ. 2450 - พ.ศ. 2457 | |
8 | นอร์แมน ซัตตัน | พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2473 | |
9 | พระปวโรฬารวิทยา (ป๋อ เชิดชื่อ) | พ.ศ. 2473 - พ.ศ. 2475 | |
10 | A.C. Churchill | พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2477 | |
11 | หลวงบุญปาลิตวิชชาสาสก์ | พ.ศ. 2481 - พ.ศ. 2496 | |
12 | นายนพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา | พ.ศ. 2498 - พ.ศ. 2500 | |
13 | นายสำเนียง ตีระวนิช | พ.ศ. 2500 - พ.ศ. 2501 | |
14 | นายถวิล สุริยนต์ | พ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2503 | |
15 | นายโปร่ง ส่งแสงเติม | พ.ศ. 2503 - พ.ศ. 2509 | |
16 | นายวินัย เกษมเศรษฐ | พ.ศ. 2509 - พ.ศ. 2513 | |
17 | นายสุวรรณ จันทร์สม | พ.ศ. 2513 - พ.ศ. 2519 | |
18 | นายกมล ธิโสภา | พ.ศ. 2519 - พ.ศ. 2521 | |
19 | นายประยูร ธีระพงษ์ | พ.ศ. 2521 - พ.ศ. 2522 | |
20 | นายสำเริง นิลประดิษฐ์ | พ.ศ. 2522 - พ.ศ. 2526 | |
21 | นายสุทธิ เพ็งปาน | พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2535 | |
22 | นางสมหมาย วัฒนะคีรี | พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2539 | |
23 | นายธานี สมบูรณ์บูรณะ | พ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2541 | |
24 | นายศิริ สุงคาสิทธิ์ | พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2542 | |
25 | นายณรงค์ รักเดช | พ.ศ. 2542 - พ.ศ. 2543 | |
26 | นายสมพงษ์ รุจิรวรรธน์ | พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2545 | |
27 | นายสิทธิรักษ์ จันทร์สว่าง | พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2549 | |
28 | นายมนตรี แสนวิเศษ | พ.ศ. 2549 - พ.ศ. 2552 | |
29 | นายพีระ ชัยศิริ | พ.ศ. 2552 - พ.ศ. 2554 | |
30 | ดร.เชิดศักดิ์ ศุภโสภณ | พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2558 | |
31 | นายวิฑูรย์ วงศ์อิน | พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2559 | |
32 | ดร.วิทยา ศรีชมภู | พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2561 | |
33 | นายจิณณภัทร พิบูลวิทิตธำรง | พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน |
ปัจจุบันโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยมีสถานศึกษาในเครือที่ใช้ชื่อ “สวนกุหลาบวิทยาลัย” ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยทั้งหมด 11 แห่ง มีการสร้างพันธกิจสำคัญร่วมกันขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาโดยการบริหารจัดการขององค์กรเครือข่ายสวนกุหลาบ สร้างบรรทัดฐานการเรียนการสอนทั้ง 11 แห่งให้ไปในทิศทางเดียวกัน ได้แก่
ลำดับ | โรงเรียน | อักษรย่อ | จังหวัด | สถาปนา / ยกฐานะ | สถานศึกษาเดิม |
---|---|---|---|---|---|
1 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย | ส.ก. / S.K. | กรุงเทพมหานคร | 8 มีนาคม พ.ศ. 2425 (142 ปี 47 วัน) | |
2 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี | ส.ก.น. / S.K.N. | นนทบุรี | 30 มีนาคม พ.ศ. 2521 (46 ปี 25 วัน) | |
3 | โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ | นมร.ส.ก.ส. / NMR.S.K.S. | สมุทรปราการ | 8 เมษายน พ.ศ. 2534 (33 ปี 16 วัน) | |
4 | โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี | นมร.ส.ก.ป. / NMR.S.K.P. | ปทุมธานี | 4 มีนาคม พ.ศ. 2535 (32 ปี 51 วัน) | |
5 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต | ส.ก.ร. / S.K.R. | ปทุมธานี | 3 มีนาคม พ.ศ. 2536 (31 ปี 52 วัน) | |
6 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี | ส.ก.ช. / S.K.C. | ชลบุรี | 5 มีนาคม พ.ศ. 2542 (25 ปี 50 วัน) | |
7 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เพชรบูรณ์ | ส.ก.พ. / S.K.PB. | เพชรบูรณ์ | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2542 (24 ปี 305 วัน) | โรงเรียนท่าพลพิทยาคม (พ.ศ. 2519) |
8 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สระบุรี | ส.ก.บ. / S.K.B. | สระบุรี | 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 (18 ปี 78 วัน) | โรงเรียนปากเพรียววิทยาคม (พ.ศ. 2537) |
9 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) นครสวรรค์ | ส.ก.จ. / S.K.J. | นครสวรรค์ | 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550 (16 ปี 119 วัน) | โรงเรียนจิรประวัติวิทยาคม (พ.ศ. 2517) |
10 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี | ส.ก.ธ. / S.K.T. | กรุงเทพมหานคร | 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551 (15 ปี 260 วัน) | |
11 | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมราช | ส.ก.นศ. / S.K.NS. | นครศรีธรรมราช | 3 มีนาคม พ.ศ. 2554 (13 ปี 52 วัน) | โรงเรียนลานสกาประชาสรรค์ (พ.ศ. 2516) |
13°44′34″N 100°29′55″E / 13.742824°N 100.498579°E
This article uses material from the Wikipedia ไทย article โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.