สุรเชษฐ์ หักพาล: ตำรวจไทย

พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล​ (ชื่อเล่น โจ๊ก; เกิด 29 ตุลาคม พ.ศ.

2513) หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตตำรวจไทย เคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ด้านความมั่นคง) เคย ช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

สุรเชษฐ์​ หัก​พาล
รองผู้​บัญชาการ​ตำรวจ​แห่งชาติ​
ช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม​ พ.ศ. 2565 – 18 เมษายน พ.ศ. 2567
(1 ปี 230 วัน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 (53 ปี)
อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประเทศไทย
คู่สมรสศิรินัดดา หักพาล
บุพการี
  • ไสว หักพาล (บิดา)
  • สุมิตรา หักพาล (มารดา)
การศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
มหาวิทยาลัยมหิดล
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ไทย
สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ประจำการพ.ศ. 2537 – 2562
พ.ศ. 2564 – ปัจจุบัน​
ยศสุรเชษฐ์ หักพาล: ประวัติ, การทำงาน, ชีวิตส่วนตัว พลตํารวจเอก

ประวัติ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ที่ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายดาบตำรวจ ไสว และนางสุมิตรา หักพาล สำเร็จการศึกษาในชั้นอนุบาล โรงเรียนกลับเพชรศึกษาซึ่งมารดาเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนนี้ สำเร็จการศึกษาในชั้นประถม โรงเรียนวิเชียรชม สำเร็จการศึกษาในชั้น มัธยมศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ และโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 ระดับชั้นปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47 เป็นหัวหน้านักเรียนของนรต.รุ่น47 ระดับปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม จากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถสอบคัดเลือกเข้าเรียนได้เป็นอันดับ 1 และระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และระดับ ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันกำลังศึกษา คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคค่ำ (นอกเวลาราชการ) หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน นอกจากนี้


พล.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล ยังจบหลักสูตร และ รับมอบประกาศเกียรติบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 21 (ปปร.21) จาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี

ในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 เขาได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นสถาบันพระปกเกล้า จากชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาไทยในขณะนั้น ปัจจุบันสำเร็จการศึกษา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตร ว.ป.อ.ปีการศึกษา 2565

การทำงาน

เริ่มต้นรับราชการตำรวจ

ร.ต.ต. สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นนั้น เริ่มรับราชการตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 จนได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขั้นเป็นสารวัตรในกองวินัย ต่อมาเป็นสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 5 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 3 จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 จนได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 และเป็นผู้ช่วยนายเวรตำรวจราชสำนักประจำให้กับ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

ระดับผู้กำกับการ

หลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพันตำรวจเอก พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้น ได้รับตำแหน่งผู้กำกับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่อำนวยการประจำผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 จึงได้เป็นผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ได้เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 10 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ถูกส่งไปเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จนได้เลื่อนขึ้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาส่วนหน้า รับผิดชอบพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่เป็น 'พื้นที่สีแดง' เสี่ยงต่อภัยความไม่สงบบริเวณชายแดนภาคใต้

ระดับผู้บังคับการและผู้บัญชาการ

ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจตรี ในตำแหน่งผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่ประสานงานกับนายกรัฐมนตรี รายงานต่อ พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น หลังจากนั้นทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 จนในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวจนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษจนกระทั่งวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560 เข้ามาทำหน้าที่รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560จนวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจโท และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

คำสั่งย้าย

ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562 ได้มีคำสั่งจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย จนวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562 ได้มีคำสั่งจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ขาดจากตำแหน่งหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ถูกเพิ่มรายชื่อในบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 เพื่อได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องด้วยมีมูลกรณี เมื่อถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ทำให้เสียหายแก่ทางราชการหรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน

ในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563 รถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ถูกยิง ณ บริเวณถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กทม. โดยในขณะนั้น พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ภายในรถ โดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ รวมถึงสื่อหลายแห่งได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับกรณีที่ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับความผิดปกติในโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์และโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถตรวจการณ์ไฟฟ้าของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกล่าวหาว่าบริษัทผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด แต่ สตช. ตรวจรับงานไว้ก่อน ทำให้ผู้รับจ้างไม่ต้องเสียค่าปรับ ในขณะอีกส่วนหนึ่งก็ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการจัดฉากโดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์เอง

ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563 ได้มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าคำสั่งนี้ออกมาเนื่องจากมีการร้องเรียน จึงต้องเตือนไว้ก่อน

ในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือลากิจเพื่อขอบวชที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นเวลา 9 วัน และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2563

ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลาง เรื่องคำสั่งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม กรณีถูกย้ายจาก ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มาดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ไม่รับคำฟ้องและจำหน่ายคดีออก เนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ขอให้พิจารณามีคำสั่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการดังเดิม แต่ยังไม่พ้นกำหนด 90 วันนับตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือ จึงถือว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนตามที่ได้ยื่นฟ้องศาลไว้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี

การกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจมีมติเห็นชอบให้รับโอนมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ.9) เทียบเท่าผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.พ.ศ. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 273 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ยกเว้นลำดับที่ 169 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป โดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เลื่อนจาก ที่ปรึกษา (สบ 9) สตช. ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใน วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เขาลงพื้นที่พร้อมกับ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา เพื่อตรวจสอบเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. 2565

คดีกำนันนก

ช่วงปี พ.ศ. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ทำการสอบสวนคดี "กำนันนก" หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ 2566 ที่ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม หลังจากที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุที่ทำการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว จำนวน 7 นัด ในขณะร่วมงานเลี้ยงที่บ้านของกำนันนก โดยช่วงแรก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ก่อนที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ในขณะนั้น) ได้สั่งการให้โอนคดีความไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนการ

กรณีเว็บพนันออนไลน์และคำสั่งย้ายเข้าช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้เกิดความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สืบเนื่องจากเหตุที่ถูกเปิดโปงในกรณีที่ตำรวจชั้นผู้น้อยซึ่งเป็นกำลังพลของตน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันทางออนไลน์ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 และยังมีการโยงมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์ในเวลาต่อมา จึงทำให้กองกำลังตำรวจของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เข้าบุกค้นที่พักอาศัยของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 และเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาพูดถึงกรณีคดีเว็บพนันนออนไลน์อีกครั้งและเป็นการออกมาพูดเพื่อยืนยันถึงเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์จริง โดยเป็นฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้เข้ามาขอยุติความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 ทีมทนายความประจำตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับการดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ และได้มีการโยงไปถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย จนเกิดเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเป็นเหตุให้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยปัญหาปมขัดแย้ง และรายงานข้อมูลคดีเว็บพนันทางออนไลน์ที่ทั้งคู่กำลังเป็นประเด็น โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ในเมื่อพูดคุยสอบถามแล้วยังไม่เป็นผล นายกรัฐมนตรีจึงลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด ให้ทั้งคู่มาปฏิบัติงานช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วัน (2 เดือน) เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อเป็นการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคราวเดียวกัน จากนั้น นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 2 ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน แต่ก็ยังคงให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไปได้ เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์ในการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกับกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ยังมีตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม โดยที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ถ้ามีการสอบสวนแล้วไม่มีมูลความผิด ก็จะให้ทั้งคู่กลับมาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามปกติ" และในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอยุติความขัดแย้งกับคดีนี้ และจะทำหน้าที่ในการปฏิบัติงานช่วยราชการ ฯ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไป

การถูกออกหมายจับ

เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567 พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายื่นคำร้องขอต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่ออนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในความผิดฐาน "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุผลที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 10 สืบเนื่องจากคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master" จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีการเดินทางไปมอบตัวตามกำหนด เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน เขตบางซื่อ และได้รับการประกันตัว โดยให้เหตุผลในการขอประกันตัวว่า ขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับนายตำรวจอีก 4 คนโดยมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ทำหน้าที่เซ็นคำสั่ง ในฐานะ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจ โดยสาเหตุเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางวินัยเกี่ยวกับพนันออนไลน์ จนถูกออกหมายจับ จึงอาศัยอำนาจตามพรบ ตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ออกราชการไว้ก่อนเพื่อรอผลสอบสวน โดยพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ โดยอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ

ชีวิตส่วนตัว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา หักพาล กรรมการบริษัท ระโนดเดินรถ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการรถโดยสาร และไม่มีบุตรด้วยกัน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

เชิงอรรถ

อ้างอิง

Tags:

สุรเชษฐ์ หักพาล ประวัติสุรเชษฐ์ หักพาล การทำงานสุรเชษฐ์ หักพาล ชีวิตส่วนตัวสุรเชษฐ์ หักพาล เครื่องราชอิสริยาภรณ์สุรเชษฐ์ หักพาล เชิงอรรถสุรเชษฐ์ หักพาล อ้างอิงสุรเชษฐ์ หักพาลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไทย)สำนักนายกรัฐมนตรี

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

เอเรอดีวีซีข่าวช่อง 7HDประเทศเกาหลีเหนือกองบัญชาการตำรวจนครบาลกองทัพ พีคราชวงศ์ในประวัติศาสตร์จีนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงรายชื่อสัตว์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์พัชรวาท วงษ์สุวรรณข้าราชการไทยพ.ศ. 2565ปีเตอร์ เดนแมนพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอริยสัจ 4พีรวัส แสงโพธิรัตน์อดอล์ฟ ฮิตเลอร์พิศวาสฆาตเกมส์พระมหากษัตริย์ไทยการลอบสังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดีคณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์นกกะรางหัวขวานนริลญา กุลมงคลเพชรทวิตเตอร์รายชื่อโรงเรียนในกรุงเทพมหานครมหาวิทยาลัยนเรศวรจังหวัดปทุมธานีจัน ดารา (ภาพยนตร์ทวิภาค)จังหวัดกำแพงเพชรโปเตโต้มาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ฟุตซอลเปาบุ้นจิ้น (ละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2536)ยูฟ่ายูโรปาลีกภาคกลาง (ประเทศไทย)สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ศุกลวัฒน์ คณารศรัฐกะเหรี่ยงหอแต๋วแตก (ภาพยนตร์ชุด)ประเทศอินโดนีเซียรายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยจังหวัดชุมพรทุเรียนรายพระนามและชื่อผู้บัญชาการทหารบกไทยกูเกิล แปลภาษาซิลลี่ ฟูลส์การฆ่าตัวตายไทยรัฐจังหวัดจันทบุรีสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีภาพอาถรรพณ์สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ดจังหวัดสงขลาปีนักษัตรอารยา เอ ฮาร์เก็ตยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์คริสเตียโน โรนัลโดเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคอนิเมะพรหมลิขิตเมืองพัทยาโรงพยาบาลในประเทศไทยกาจบัณฑิต ใจดีพรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ประเทศไทย)รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 15สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสุรเชษฐ์ หักพาลจังหวัดอำนาจเจริญศุภวุฒิ เถื่อนกลาง2ชาคริต แย้มนามจังหวัดหนองคายพิชิตรัก พิทักษ์โลกสมชาย แสวงการดูไบพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพรหมวิหาร 4🡆 More