แรดอินเดีย

แรดอินเดีย จัดเป็นแรด 1 ใน 3 สายพันธุ์ที่พบได้ในทวีปเอเชีย และเป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดที่พบในทวีปแห่งนี้

แรดอินเดีย
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: Early Pleistocene–Recent
แรดอินเดีย
แรดอินเดียในอุทยานแห่งชาติกาซีรังคา รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย
สถานะการอนุรักษ์
แรดอินเดีย
ไม่มั่นคง  (IUCN 3.1)
CITES Appendix I (CITES)
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอตา
อาณาจักร: สัตว์
ไฟลัม: สัตว์มีแกนสันหลัง
ชั้น: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
อันดับ: Perissodactyla
วงศ์: แรด
สกุล: Rhinoceros
Linnaeus, 1758
สปีชีส์: Rhinoceros unicornis
ชื่อทวินาม
Rhinoceros unicornis
Linnaeus, 1758
แรดอินเดีย
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของแรดอินเดีย

อนุกรมวิธาน

Rhinoceros unicornis เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ที่คาร์ล ลินเนียสใช้ใน ค.ศ. 1758 โดยเป็นผู้อธิบายแรดที่มีเขาเดียว เขาระบุแรดสองชนิดในอินเดีย โดยอีกชนิดหนึ่งมีชื่อว่า Rhinoceros bicornis และระบุว่าชนิดในอินเดียมีสองเขา ส่วนชนิดในแอฟริกามีเขาเดียว

แรดอินเดียเป็นสัตว์ที่มีชนิดเดียว มีการระบุตัวอย่างชนิดตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ด้วยชื่อวิทยาศาสตร์ที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดถือเป็นชื่อพ้องของ Rhinoceros unicornis ในปัจจุบัน:

  • R. indicus โดย Cuvier, 1817
  • R. asiaticus โดย Blumenbach, 1830
  • R. stenocephalus โดย Gray, 1867
  • R. jamrachi โดย Sclater, 1876
  • R. bengalensis โดย Kourist, 1970

ศัพทมูลวิทยา

ชื่อสามัญในภาษาอังกฤษ rhinoceros มีที่มาจากภาษาละตินจากกรีกโบราณ: ῥινόκερως ซึ่งประกอบด้วยคำว่า ῥινο- (rhino-, "ของจมูก") กับ κέρας (keras, "เขา") โดยมีการใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ส่วน ūnicornis ศัพท์ภาษาละติน หมายถึง "เขาเดียว"

วิวัฒนาการ

ลักษณะ

แรดอินเดีย 
รอยพับของแผ่นหนังที่หนา ที่เห็นได้ชัดเจน

แรดอินเดียมีขนาดพอ ๆ กับแรดขาวในแอฟริกาซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแรดทั้งหมด เมื่อโตเต็มที่เพศผู้จะตัวใหญ่กว่าเพศเมีย เพศผู้หนัก 2,200-3,000 กิโลกรัม เพศเมียหนัก 1,600 กิโลกรัม สูง 1.7-2 เมตร อาจยาวถึง 4 เมตร ตัวอย่างที่มีการบันทึกไว้หนักประมาณ 3,500 กิโลกรัม ในสถานที่เลี้ยงมีแรดอินเดีย 4 ตัวเท่าที่ทราบมีอายุมากกว่า 40 ปี แก่สุดมีอายุ 47 ปี

แรดอินเดียมีนอเดียวไม่ว่าเพศผู้หรือเพศเมียแต่แรดแรกเกิดจะไม่มีนอ นอจะเริ่มงอเมื่ออายุ 6 ปี ทั่วไปแล้วนอยาว 25 เซนติเมตร แต่มีบันทึกว่ามีนอยาวถึง 57.2 เซนติเมตร นอโค้งไปด้านหลัง ปกติมีสีดำ ในสถานที่เลี้ยงนอมักหลุดไปเหลือเพียงปุ่มหนาบ่อย ๆ

แรดอินเดียมีหนังหนา ลำตัวแลดูเหมือนมีเกราะหุ้ม หนังมีสีน้ำตาลเงินและเปลี่ยนเป็นสีอมชมพูเมื่อเข้าใกล้รอยพับ มีหนังพับข้ามหลัง 2 แห่ง คือ ที่ด้านหลังของไหล่ และด้านหน้าของสะโพก เพศผู้มีรอยพับหนาที่คอ ด้านบนขาและไหล่ปกคลุมด้วยปุ่มนูน ลำตัวมีขนเล็กน้อย นอกเหนือไปจากขนตา ขนหู และขนหาง

แรดอินเดีย เป็นแรดนอเดียว มีลักษณะเด่นที่แตกต่างไปจากแรดสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด คือ ตามลำตัวแลดูเหมือนมีเกราะหุ้มลำตัวไว้ถึง 2 ชั้น บางส่วนหนาถึง 5 เซนติเมตร เพื่อช่วยในการป้องกันตัวในการต่อสู้และป้องกันแมลง หนังเป็นปุ่มนูนเห็นได้ชัด ง่ามก้นเป็นร่อง มีหนังพับข้ามหลัง 2 แห่ง คือ ที่ด้านหลังของไหล่ และด้านหน้าของสะโพก แต่ไม่มีพับหนังข้ามคอ มีหางสั้น มีสีลำตัวน้ำตาลเทา มีริมฝีปากพิเศษที่ใช้สำหรับจับและฉีกพืชที่เป็นอาหาร

สาเหตุที่แรดอินเดีย มีหนังที่พับเห็นได้ชัดเจน เพื่อช่วยในการขยายเนื้อที่ของผิวหนัง และควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย เนื่องจากเนื้อเยื่อรอบ ๆ เต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ส่งความร้อนไปยังแผ่นพับของหนังที่ขยายใหญ่ขึ้นเหมือนเป็นเครื่องทำความเย็น อีกทั้งยังสามารถกักเก็บน้ำเมื่อแรดลงแช่น้ำและถึงแม้จะขึ้นมาบนบกแล้วก็ตาม น้ำก็ยังอยู่ในหนังพับนั้นได้

มีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียใต้ ที่ประเทศอินเดีย, เชิงเทือกเขาหิมาลัย, ปากีสถาน, เนปาล, ภูฏาน จนถึงชายแดนที่ติดกับพม่า

แรดอินเดีย เชื่อว่าปรากฏขึ้นในดินแดนยูเรเชียครั้งแรกในช่วงปลายยุคอีโอซีน (33.5-37 ล้านปีก่อน) และแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ในยุคเพลอิสโตซีน (1-2 ล้านปีก่อน) หลังจากที่สัตว์กลุ่มแรดมีวิวัฒนาการขึ้นเมื่อประมาณ 60-65 ล้านปีก่อน หรือในยุคอีโอซีนจากกลุ่มสัตว์เท้ากีบคี่

พฤติกรรม

แรดอินเดีย ชอบอาศัยอยู่ตามป่าทุ่งหญ้าและที่ราบลุ่มที่มีน้ำท่วมถึง เพราะมักหากินพืชจำพวกหญ้าและพืชน้ำต่าง ๆ ในปริมาณที่มากนับร้อยกิโลกรัมต่อวัน มักชอบหากินอยู่ตามลำพัง ยกเว้นแม่แรดที่ต้องมีลูกอยู่เคียงข้าง ซึ่งแรดตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์พร้อมมีลูกได้เมื่ออายุ 4 ปี ตั้งท้องนาน 474-488 วัน และออกลูกครั้งละ 1 ตัว ส่วนตัวผู้จะพร้อมผสมพันธุ์นานกว่านั้นคือ เมื่ออายุ 9 ปี มีอายุโดยเฉลี่ย 30-40 ปี ลูกแรดจะกินนมแม่ไปจนอายุ 2 ขวบ

แรดอินเดียมีสายตาสั้น แต่มีประสาทดมกลิ่นได้ดี หูก็สามารถฟังเสียงได้ดีมาก แม้จะแลดูตัวใหญ่เทอะทะแต่ก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเฉพาะในเวลากลางคืนไปจนถึงรุ่งเช้า วิ่งได้เร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชอบแช่น้ำและยังว่ายน้ำได้เก่งอีกด้วย มีอุปนิสัยดุร้าย ขี้หงุดหงิดเช่นเดียวกับแรดสายพันธุ์ที่พบในทวีปแอฟริกา เมื่อดุร้ายหรือหงุดหงิดขึ้นมา สามารถวิ่งเข้าชนหรือสู้กับสัตว์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน ไม่เว้นแม้กระทั่งช้าง

ปัจจุบัน แรดอินเดียมีจำนวนเพิ่มขึ้นคือ ประมาณ 2,400 ตัว (ข้อมูล ค.ศ. 2005) แต่ยังคงถูกจัดเป็นสัตว์เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์เพราะตัวใหญ่แต่อ่อนแอ จากการติดโรคต่าง ๆ และการล่าจากมนุษย์

แรดอินเดียในประเทศไทยในปัจจุบัน มีการเลี้ยงอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นต้น

การกระจายพันธุ์

แรดอินเดีย 
ลงแช่น้ำที่อุทยานแห่งชาติจิตวัน

แรดอินเดียพบได้ทั่วทั้งประเทศอินเดียไปยังประเทศพม่าและประเทศบังกลาเทศและอาจมีร่อนเร่ไปในประเทศจีน เพราะอิทธิพลจากมนุษย์ทำให้การกระจายพันธุ์หดลง ปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มประชากรเล็ก ๆ ในทางตะวันออกเฉียงเหนือประเทศอินเดียและประเทศเนปาล ประชากรแรดในประเทศภูฏานดูเหมือนจะสูญพันธุ์ไปแล้ว และในประเทศปากีสถานมีแรดอินเดีย 2 ตัวอยู่ในอุทยานแห่งชาติลาลสุฮานรา ในปัญจาบ เมื่อปี ค.ศ. 1983 แต่ไม่มีการขยายพันธุ์เพิ่มอีก

ในประเทศไทย

ในประเทศไทยมีการจัดแสดงแรดอินเดียอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ มีชื่อว่า กาลิ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนปาลได้ถวายแก่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้พระราชทานให้แก่องค์กรสวนสัตว์เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2529 ขณะมีอายุได้เพียง 1 ปี

แรดอินเดีย 
แรดอินเดียที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2563

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

แรดอินเดีย อนุกรมวิธานแรดอินเดีย ลักษณะแรดอินเดีย พฤติกรรมแรดอินเดีย การกระจายพันธุ์แรดอินเดีย ในประเทศไทยแรดอินเดีย ดูเพิ่มแรดอินเดีย อ้างอิงแรดอินเดีย แหล่งข้อมูลอื่นแรดอินเดีย

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

วรกมล ชาเตอร์มหาวิทยาลัยรามคำแหงรายพระนามและชื่อผู้บัญชาการทหารบกไทยเจตริน วรรธนะสินสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์เบบีมอนสเตอร์ศาสนาพุทธภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืนวสันต์ โชติกุลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรีตารางธาตุยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์เดวิด เบคแคมรายชื่อรัฐวิสาหกิจไทยวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารจตุพร พรหมพันธุ์ปณิตา ธรรมวัฒนะรายชื่อผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์อุดม ทรงแสงจังหวัดนนทบุรีไดโนเสาร์เร็ว..แรงทะลุนรก 9โรงเรียนนายสิบทหารบกไอยูสถานีกลางบางซื่อจังหวัดอุดรธานีพระพรหมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิจังหวัดนครราชสีมาเอ็สเฟา แวร์เดอร์เบรเมินประเทศมาเลเซียยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรายพระนามและชื่ออธิบดีกรมตำรวจและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของไทยสโมสรวอลเลย์บอลหญิงไดมอนด์ฟู้ดทวิตเตอร์เอกนัฏ พร้อมพันธุ์นีล อาร์มสตรองสงครามเวียดนามประเทศซาอุดีอาระเบียจังหวัดลพบุรีอาณาจักรอยุธยาสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ดเซียนแปะโรงสีอิม จี-ย็อน30 เมษายนนพชัย ชัยนามเปรม ติณสูลานนท์สมาคมกีฬาโรมาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ตพรรคไทยสร้างไทยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือไทยลีก 2 ฤดูกาล 2565–66จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์จังหวัดร้อยเอ็ดรายชื่อละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 เอชดีวาโย อัศวรุ่งเรืองสโมสรฟุตบอลนอตทิงแฮมฟอเรสต์เหตุการณ์ 6 ตุลาเหตุเฮลิคอปเตอร์เบลล์ตกที่จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2516มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลาจังหวัดนครปฐมอลิสา วัชรสินธุกองทัพบกไทยวัดโสธรวรารามวรวิหารโฟร์อีฟประเทศติมอร์-เลสเตนิวรณ์สล็อตแมชชีนหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศไทยสงครามโลกครั้งที่สองจังหวัดมหาสารคามพรรคเปลี่ยนรายชื่อจังหวัดของประเทศไทยเรียงตามพื้นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครวัดพระศรีรัตนศาสดาราม🡆 More