โรคบูลิเมีย เนอร์โวซา (อังกฤษ: bulimia nervosa) เป็นความผิดปกติของการรับประทานที่ผู้ป่วยจะทานอาหารปริมาณมากในเวลาอันสั้นแล้วขับออกด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ทำให้ตัวเองอาเจียน ใช้ยาระบายหรือสารกระตุ้นหรือออกกำลังอย่างหนัก ผู้ป่วยบูลิเมียส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักตามเกณฑ์ ลักษณะหนึ่งของโรคนี้คือจะมีผิวหนังตรงข้อนิ้วบางเนื่องจากการล้วงคอให้ตัวเองอาเจียนและมีฟันสึกหรอ ผู้ป่วยบูลิเมียมักประสบอารมณ์ซึมเศร้า วิตกกังวลและปัญหาสารเสพติดร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
บูลิเมีย เนอร์โวซา | |
---|---|
ชื่ออื่น | Bulimia |
ฟันบนด้านหน้าสึกกร่อน เป็นผลมาจากโรคบูลิเมีย | |
สาขาวิชา | จิตเวชศาสตร์ |
อาการ | กินอาหารปริมาณมากในเวลาอันสั้น แล้วขับออกด้วยการอาเจียนหรือใช้ยาระบาย, ผู้ป่วยมักมีน้ำหนักตามเกณฑ์ |
ภาวะแทรกซ้อน | ฟันสึกกร่อน, ซึมเศร้า, วิตกกังวล, ปัญหาสารเสพติด, การฆ่าตัวตาย |
สาเหตุ | พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม |
วิธีวินิจฉัย | ประวัติของผู้ป่วย |
โรคอื่นที่คล้ายกัน | โรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจ, binge eating disorder, กลุ่มอาการไคลน์-เลวิน, ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง |
การรักษา | การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม |
ยา | Selective serotonin re-uptake inhibitors, ยาแก้ซึมเศร้าไตรไซคลิก |
พยากรณ์โรค | 50% ของผู้ป่วยที่รับการรักษาเกิน 10 ปี มีอาการดีขึ้น |
ความชุก | 3.6 ล้านคน (ค.ศ. 2015) |
โรคบูลิเมียมีเปอร์เซ็นต์ที่เกิดจากพันธุกรรมประมาณ 30-80% และอาจเกิดจากปัจจัยอื่นเช่น การถูกกดดันจากสังคมที่ให้คุณค่ากับความผอม โรคอ้วน ความเครียดและความภูมิใจแห่งตนต่ำ การวินิจฉัยจะใช้การซักประวัติ แต่บางครั้งอาจยากที่จะวินิจฉัยเนื่องจากผู้ป่วยปกปิดพฤติกรรมตัวเอง โรคบูลิเมียมีอาการบางอย่างที่คล้ายกับโรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจ binge eating disorder กลุ่มอาการไคลน์-เลวินและความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง
การรักษาหลักของโรคบูลิเมียคือการบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม ยาแก้ซึมเศร้าชนิด Selective serotonin re-uptake inhibitors และยาแก้ซึมเศร้าไตรไซคลิกให้ผลการรักษาที่ดีปานกลาง มีรายงานว่าผู้ป่วยประมาณ 50% ที่เข้ารับการรักษาเกินกว่า 10 ปี มักมีอาการดีขึ้น
ในปี ค.ศ. 2015 มีผู้ป่วยบูลิเมียทั่วโลกประมาณ 3.6 ล้านคน โรคนี้พบไม่บ่อยในประเทศกำลังพัฒนา ผู้หญิงประมาณ 2-3% จะประสบโรคบูลิเมียในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ผู้หญิงมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชายประมาณ 9 เท่า โดยมีอัตราการเกิดกับผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นมากที่สุด เจอรัลด์ รัสเซล จิตแพทย์ชาวอังกฤษเป็นผู้ตั้งชื่อและอธิบายโรคนี้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979 โดยมาจากคำในภาษากรีก βουλιμία (boulīmia) ที่แปลว่า "ผู้ที่กินอย่างตะกละ" ดังนั้น bulimia nervosa จึงมีความหมายว่า "ผู้ป่วยทางจิตที่กินอย่างตะกละตะกลาม"
This article uses material from the Wikipedia ไทย article โรคบูลิเมีย เนอร์โวซา, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.