วันเด็กแห่งชาติ ของประเทศไทย ตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่ไม่ได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีไทย เริ่มต้นจัดงานวันเด็กครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
2498 โดยได้กำหนดให้เป็นวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม เป็นวันเด็กแห่งชาติ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2507 ได้มีมติเปลี่ยนแปลงเป็นวันเด็กแห่งชาติมาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม โดยเริ่มจัดงานวันเด็กในปี พ.ศ. 2508
วันเด็กแห่งชาติ | |
---|---|
วันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 มกราคม 2563 | |
จัดขึ้นโดย | รัฐบาลไทย |
ประเภท | วันเฉลิมฉลอง |
ความสำคัญ | ส่งเสริมให้ประชาชนคนเห็นความสำคัญของเด็ก ซึ่งจะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ |
การเฉลิมฉลอง | ครอบครัวพาเด็กมาร่วมกิจกรรมที่หน่วยงานต่าง ๆ จัด |
การถือปฏิบัติ | การให้คำขวัญ |
วันที่ | วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม |
วันที่ในปี 2566 | 14 มกราคม |
วันที่ในปี 2567 | 13 มกราคม |
วันที่ในปี 2568 | 11 มกราคม |
วันที่ในปี 2569 | 10 มกราคม |
ความถี่ | ทุกปี |
ครั้งแรก | 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 |
ริเริ่มโดย | วี เอ็ม กุลกานี |
ส่วนเกี่ยวข้อง | วันเยาวชนแห่งชาติ วันครอบครัว วันแม่แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ วันผู้สูงอายุแห่งชาติ |
ปี พ.ศ. 2498 อันเป็นปีที่ทั่วโลกเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติกันขึ้น ซึ่งจะเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ตามความเห็นคล้อยตามกับองค์การสหประชาชาติที่นำปัญหาเรื่องเด็กมาร่างเป็นปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของเด็ก
ประเทศไทยได้รับข้อเสนอของ วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย ว่า ประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่
ขณะนั้น สภาวัฒนธรรมแห่งชาติยังมิได้ถูกยุบเลิกไป คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในที่สุดที่ประชุมได้เห็นชอบนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการ ให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานนั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ
ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ และจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ. 2507 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้น มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่เพื่อความเหมาะสม ด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคม ประเทศไทยยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กไม่สะดวกในการมาร่วมงาน ประการต่อมาก็คือ วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครอง จึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด อีกทั้งการที่กำหนดให้วันเด็กต้องจัดในช่วงต้นปี มีความหมายว่า ทุกภาคส่วนของประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับเด็กเป็นอันดับแรก ๆ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสนอ ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 ประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ปี พ.ศ. 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว
งานวันเด็กแห่งชาติจึงได้เริ่มจัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2508 โดยมีคำขวัญวันเด็กในปีนั้นว่า "เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี"และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
คำขวัญวันเด็ก เป็นคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กให้ จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
วันที่ | นายกรัฐมนตรี | คำขวัญ | อ้างอิง |
---|---|---|---|
1 ต.ค. 2499 | จอมพล แปลก พิบูลสงคราม | จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม | |
5 ต.ค. 2502 | จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ | ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า | |
3 ต.ค. 2503 | ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด | ||
2 ต.ค. 2504 | ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย | ||
1 ต.ค. 2505 | ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด | ||
7 ต.ค. 2506 | ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด | ||
9 ม.ค. 2508 | จอมพล ถนอม กิตติขจร | เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี | |
8 ม.ค. 2509 | เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น สมานสามัคคี | ||
14 ม.ค. 2510 | อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรง เรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อย | ||
13 ม.ค. 2511 | ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย มีความเฉลียวฉลาด รักชาติยิ่ง | ||
11 ม.ค. 2512 | รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ | ||
10 ม.ค. 2513 | เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส | ||
9 ม.ค. 2514 | ยามเด็กจงหมั่นเรียนเพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ | ||
8 ม.ค. 2515 | เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ | ||
13 ม.ค. 2516 | เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ | ||
12 ม.ค. 2517 | สัญญา ธรรมศักดิ์ | สามัคคีคือพลัง | |
11 ม.ค. 2518 | เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี | ||
10 ม.ค. 2519 | ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช | เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดีมีวินัยเสียแต่บัดนี้ | |
8 ม.ค. 2520 | ธานินทร์ กรัยวิเชียร | รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย | |
14 ม.ค. 2521 | พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ | เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง | |
13 ม.ค. 2522 | เด็กไทยคือหัวใจของชาติ | ||
12 ม.ค. 2523 | อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย | ||
10 ม.ค. 2524 | พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ | เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม | |
9 ม.ค. 2525 | ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย | ||
8 ม.ค. 2526 | รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย คุณธรรม | ||
14 ม.ค. 2527 | รักวัฒนธรรมไทย | ||
12 ม.ค. 2528 | สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม | ||
11 ม.ค. 2529 | นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม | ||
10 ม.ค. 2530 | |||
9 ม.ค. 2531 | |||
14 ม.ค. 2532 | พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ | รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม | |
13 ม.ค. 2533 | |||
12 ม.ค. 2534 | รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา | ||
11 ม.ค. 2535 | อานันท์ ปันยารชุน | สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม | |
9 ม.ค. 2536 | ชวน หลีกภัย | ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม | |
8 ม.ค. 2537 | |||
14 ม.ค. 2538 | สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม | ||
13 ม.ค. 2539 | บรรหาร ศิลปอาชา | มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด | |
11 ม.ค. 2540 | พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ | รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด | |
10 ม.ค. 2541 | ชวน หลีกภัย | ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย | |
9 ม.ค. 2542 | |||
8 ม.ค. 2543 | มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย | ||
13 ม.ค. 2544 | |||
12 ม.ค. 2545 | ทักษิณ ชินวัตร | เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส | |
11 ม.ค. 2546 | เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี | ||
10 ม.ค. 2547 | รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน | ||
8 ม.ค. 2548 | เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด | ||
14 ม.ค. 2549 | อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด | ||
13 ม.ค. 2550 | พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ | มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข | |
12 ม.ค. 2551 | สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม | ||
10 ม.ค. 2552 | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี | |
9 ม.ค. 2553 | คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม | ||
8 ม.ค. 2554 | รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ | ||
14 ม.ค. 2555 | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร | สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี | |
12 ม.ค. 2556 | รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน | ||
11 ม.ค. 2557 | กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง | ||
10 ม.ค. 2558 | พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา | ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต | |
9 ม.ค. 2559 | เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต | ||
14 ม.ค. 2560 | เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง | ||
13 ม.ค. 2561 | รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี | ||
12 ม.ค. 2562 | เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ | ||
11 ม.ค. 2563 | เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย | ||
9 ม.ค. 2564 | เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม | ||
8 ม.ค. 2565 | รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม | ||
14 ม.ค. 2566 | รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี | ||
13 ม.ค. 2567 | เศรษฐา ทวีสิน | มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย |
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 กรมอนามัยแนะนำให้มีมาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่อาจกระทบต่อสุขภาพของเด็ก เนื่องจากหลายพื้นที่รวมถึง กทม. ยังมีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article วันเด็กแห่งชาติ (ประเทศไทย), which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.