พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ม.ป.ช.
ม.ว.ม. ป.ภ. ท.จ.ว. ม.ร. ภ.ป.ร. ๔ (เกิด 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475) เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 22 อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง อดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ผู้บัญชาการทหารบก และรักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับสมญา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบก" เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ขณะดำรงตำแหน่งทางทหาร เป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคความหวังใหม่คนแรก และเป็น ส.ส.หลายสมัย
ชวลิต ยงใจยุทธ | |
---|---|
ชวลิต ใน พ.ศ. 2540 | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 22 | |
ดำรงตำแหน่ง 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 (0 ปี 349 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
รอง | |
ก่อนหน้า | บรรหาร ศิลปอาชา |
ถัดไป | ชวน หลีกภัย |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 30 มีนาคม พ.ศ. 2533 – 21 มิถุนายน พ.ศ. 2533 (0 ปี 83 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชาติชาย ชุณหะวัณ |
ดำรงตำแหน่ง 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 – 25 ตุลาคม พ.ศ. 2537 (0 ปี 103 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ดำรงตำแหน่ง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (1 ปี 134 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | บรรหาร ศิลปอาชา |
ดำรงตำแหน่ง 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 (4 ปี 23 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ดำรงตำแหน่ง 24 กันยายน พ.ศ. 2551 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 (0 ปี 13 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สมชาย วงศ์สวัสดิ์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 30 มีนาคม พ.ศ. 2533 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2533 (0 ปี 72 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชาติชาย ชุณหะวัณ |
ดำรงตำแหน่ง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (1 ปี 134 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | บรรหาร ศิลปอาชา |
ดำรงตำแหน่ง 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 (0 ปี 345 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ตนเอง |
ดำรงตำแหน่ง 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 (1 ปี 228 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 29 กันยายน พ.ศ. 2535 – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2537 (2 ปี 73 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ก่อนหน้า | เภา สารสิน |
ถัดไป | สนั่น ขจรประศาสน์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม | |
ดำรงตำแหน่ง 23 กันยายน พ.ศ. 2536 – 7 มกราคม พ.ศ. 2537 (0 ปี 106 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | ไพฑูรย์ แก้วทอง |
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร | |
ดำรงตำแหน่ง 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 – 16 มิถุนายน พ.ศ. 2535 (0 ปี 32 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สุจินดา คราประยูร |
ก่อนหน้า | ประมาณ อดิเรกสาร |
ถัดไป | ประมาณ อดิเรกสาร |
ดำรงตำแหน่ง 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 – 30 เมษายน พ.ศ. 2543 (2 ปี 155 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ก่อนหน้า | ชวน หลีกภัย |
ถัดไป | ชวน หลีกภัย |
รักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (2 ปี 181 วัน) | |
ก่อนหน้า | พลเรือเอก สุภา คชเสนี |
ถัดไป | พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ |
ผู้บัญชาการทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (3 ปี 308 วัน) | |
ก่อนหน้า | พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก |
ถัดไป | พลเอก สุจินดา คราประยูร |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 จังหวัดนนทบุรี ประเทศสยาม |
พรรคการเมือง | ความหวังใหม่ (2533–2545, 2554–2558) ไทยรักไทย (2545–2548) พลังประชาชน (2550–2551) เพื่อไทย (2552–2554) |
คู่สมรส |
|
บุตร |
|
บุพการี |
|
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ไทย |
สังกัด | กองทัพไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2503–2533 |
ยศ | พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก |
บังคับบัญชา | กองบัญชาการทหารสูงสุด (รักษาการ) กองทัพบก |
ผ่านศึก | สงครามเวียดนาม |
พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของร.อ. ชั้น ยงใจยุทธ และนางสุรีย์ศรี (นามเดิม: ละมุน) ยงใจยุทธ มีพี่สาวต่างบิดาชื่อ สุมน สมสาร และน้องชายต่างมารดาชื่อธรรมนูญ ยงใจยุทธ ในวัยเด็ก พลเอก ชวลิต มีชื่อเล่นเดิมว่า “ตึ๋ง” หรือ “หนู” แต่ต่อมาเพื่อน ๆ นายทหารมักเรียกว่า “จิ๋ว” เข้าศึกษาชั้นมัธยมที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากนั้น จึงไปสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2496 และ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2507
ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา ยงใจยุทธ ครั้งที่ 2 กับพิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) สมรสครั้งที่ 3 กับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (ลิมปภมร) และสมรสครั้งที่สี่กับอรทัย ยงใจยุทธ ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ
ชวลิตเป็นพระภาดา (ลูกพี่ลูกน้อง) ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชทางพระมารดา โดยหม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา มีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ ของเขา
ภายหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในพ.ศ. 2518 ด้วยชัยชนะของฝ่ายเวียดนามเหนือ และกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังออกจากภูมิภาคอินโดจีน ทำให้กองทัพเวียดนามเริ่มรุกรานประเทศกัมพูชา จนเกิดเป็นสงครามกัมพูชา–เวียดนามขึ้นและทำให้รัฐบาลเขมรแดงซึ่งมีจีนคอมมิวนิสต์หนุนหลังอยู่หมดอำนาจลง แต่กองกำลังของเขมรแดงนี้ได้ถอยร่นมาอยู่บริเวณภาคตะวันตกของกัมพูชา นอกจากนี้กองทัพเวียดนามยังมีการประกาศว่ามีศักยภาพที่จะยึดกรุงเทพได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ไทยต้องตรึงกำลังทหารตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 กองทัพเวียดนามส่งทหารเข้าโจมตีกองกำลังเขมรแดงจนลึกเข้ามาถึงในอาณาเขตของไทย ทำให้เกิดการปะทะกับทหารไทยเป็นระยะ ๆ ประกอบกับกองทัพสหรัฐได้ถอนกำลังจากประเทศไทยไปแล้ว ทำให้รัฐบาลไทยมีความวิตกกังวลในเรื่องการรับมือเวียดนามเป็นอันมาก
ในระหว่างนั้นรัฐบาลไทยได้ส่งคณะนายทหารจำนวนสามนายปฏิบัติราชการลับ ซึ่งประกอบด้วย
เดินทางไปเจรจาความกับเติ้ง เสี่ยวผิง ที่ประเทศจีน โดยจีนได้ตกลงที่จะเลิกให้ที่พักพิงกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และยังได้สนับสนุนยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งให้แก่กองทัพไทยและตัดสินใจก่อสงครามกับเวียดนาม โดยพ.อ. ชวลิต ยงใจยุทธได้รับเกียรติจากกองทัพจีนให้ยิงปืนใหญ่นัดแรกจากกว่างซีเข้าสู่ดินแดนเวียดนาม ทำให้เวียดนามต้องถอนกำลังจากกัมพูชาเพื่อไปต้านการรุกรานจากจีน
พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วเข้าสู่การเมือง ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 พล.อ. ชวลิต เป็นหนึ่งในผู้ที่ปราศรัยขับไล่ พล.อ. สุจินดา คราประยูร ที่สนามหลวง เป็นคนแรกด้วย การเมืองหลังจากนั้น พรรคความหวังใหม่กลายเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในภาคอีสาน
ต่อมาเมื่อพรรคความหวังใหม่ชนะในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจึงขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาได้ลาออกเนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ก่อนที่จะย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ พล.อ. ชวลิต ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สมัยแรกด้วย
หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 พล.อ. ชวลิต พยายามจะเป็นผู้เสนอตัวไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้ที่ขับไล่ทักษิณ และกลุ่มผู้ที่สนับสนุนทักษิณ ให้ "สมานฉันท์" กันโดยเรียกบทบาทตัวเองว่า"โซ่ข้อกลาง" รวมทั้งมีการข่าวว่าอาจจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่แล้วตำแหน่งนี้ในที่สุดก็ตกเป็นของสมัคร สุนทรเวช
ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ. ชวลิตได้เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะ แต่หลังจากรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้าอาคารรัฐสภา พล.อ. ชวลิตก็ขอลาออกทันที
ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ชี้มูลความผิดในกรณีเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แล้วนั้น พลเอกชวลิตก็ได้สมัครเข้าสู่พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาเพื่อสมานฉันท์ โดยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และหลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีมติให้เขาดำรงตำแหน่งประธานพรรค
ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 พล.อ. ชวลิต ขึ้นเวทีของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ โดยประกาศตอนหนึ่งว่า ว่า นายวีระ นายแน่มาก และไม่เคยเห็นมหาชนที่ประกอบภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน และทำสำเร็จแล้ววันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะทำอะไรอย่าไปสนใจ
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พล.อ. ชวลิต และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงหยุดวิกฤตการเมือง
ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554 ท่ามกลางข่าวลือที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ. ชวลิต ก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ. ชวลิต อ้างว่า ไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทางแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน
ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เขากล่าวให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระวังเกิดการรัฐประหารซ้ำ ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวตอนนึงว่า การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่นั้นต้องไปถามประชาชนว่ากินอิ่ม นอนหลับหรือไม่ ถ้าหากประชาชนยังไม่มีกินก็ต้องไปแก้ปัญหาตรงนี้ ซึ่งนับเป็นปัญหาของทุกรัฐบาล ในขณะที่คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ แสดงความเห็นว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเคารพ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ
สนับสนุนให้มีการผลักดันพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นการเฉพาะ การศึกษาของคณะสงฆ์ไทยที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2540 สุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอให้รัฐสภาตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย (ฝ่ายธรรมยุตินิกาย) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย (ฝ่ายมหานิกาย) ส่งผลให้มหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทยทั้งสองแห่ง มีพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เน้นจัดการศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์แขนงอื่น ๆ
รัฐบาลของพล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย และลุกลามไปทั่วโลกและส่งผลต่อสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2540 เนื่องจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงถึง 554.26 จุด ไปปิดที่ 7161.15. จุด คิดเป็นร้อยละ 7.18 ด้วยการทำเงินคงคลังทั้งหมดของประเทศเข้าไปอุ้มค่าเงินบาท ซึ่งถูกปล่อยขายในขณะนั้น ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชุดนี้ ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการณ์แต่อย่างใด ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลโดยทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายเป็นจำนวนมาก จนมีการประท้วงโดยประชาชนส่งผลทำให้พลเอกชวลิตต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดน
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้
ลำดับสาแหรกของชวลิต ยงใจยุทธ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ก่อนหน้า | ชวลิต ยงใจยุทธ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
บรรหาร ศิลปอาชา | นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม.52) (25 พฤศจิกายน 2539 – 9 พฤศจิกายน 2540) | ชวน หลีกภัย | ||
ประมาณ อดิเรกสาร | ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (15 พฤษภาคม 2535 – 16 มิถุนายน 2535) | ประมาณ อดิเรกสาร | ||
ชวน หลีกภัย | ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (26 พฤศจิกายน 2540 – 2 มิถุนายน 2541) (2 กันยายน 2541 – 27 เมษายน 2542) (12 พฤษภาคม 2542 – 30 เมษายน 2543)) | ชวน หลีกภัย | ||
พลเรือเอก สุภา คชเสนี | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ) (1 ตุลาคม 2530 – 31 มีนาคม 2533) | พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ | ||
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก | ผู้บัญชาการทหารบก (27 พฤษภาคม 2529 – 28 มีนาคม 2533) | พลเอก สุจินดา คราประยูร |
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ชวลิต ยงใจยุทธ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.