ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม นีทเชอ (เยอรมัน: Friedrich Wilhelm Nietzsche) เป็นนักปรัชญา, นักวิจารณ์วัฒนธรรม, คีตกวี, นักกวี, ปราชญ์ภาษากรีกและละติน และนักนิรุกติศาสตร์ชาวเยอรมัน ผลงานของเขามีอิทธิพลต่อปรัชญาตะวันตกและองค์ปัญญายุคใหม่อย่างล้นหลาม เขาเริ่มทำงานเป็นนักนิรุกติศาสตร์คลาสสิกก่อนจะผันตัวมาเป็นนักปรัชญา นีทเชอเป็นอาจารย์นิรุกติศาสตร์ที่อายุน้อยที่สุดของมหาวิทยาลัยบาเซิลในปีค.ศ.
1869 ด้วยวัยเพียง 24 ปี เขาลาออกในปีค.ศ. 1879 ด้วยปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ต่อมาในปีค.ศ. 1889 นีทเซอในวัย 44 ทุกข์ทรมานจากอาการป่วยจนสภาพจิตใจย่ำแย่ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ใช้ชีวิตภายใต้การดูแลของมารดาและพี่สาวจนเขาเสียชีวิตในปีค.ศ. 1900
ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม นีทเชอ Friedrich Wilhelm Nietzsche | |
---|---|
เกิด | ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม นีทเชอ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1844 ราชอาณาจักรปรัสเซีย |
เสียชีวิต | 25 สิงหาคม ค.ศ. 1900 ไวมาร์,ซัคเซิน จักรวรรดิเยอรมัน | (55 ปี)
อาชีพ | นักปรัชญา, นักเขียน |
สัญชาติ | เยอรมัน |
แนว | นวนิยาย, เรื่องสั้น, บทความ |
หัวข้อ | ปรัชญา, ศาสนา |
แนวร่วมในทางวรรณคดี | อัตถิภาวนิยม |
ผลงานที่สำคัญ | คือพจนาซาราทุสตรา |
ลายมือชื่อ |
เขาเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1844 ในหมู่บ้านเริคเคิน (Röcken) ใกล้กับเมืองไลพ์ซิช ในมณฑลซัคเซิน ราชอาณาจักรปรัสเซีย เป็นบุตรคนโตของคาร์ล ลูทวิช นีทเซอ (Carl Ludwig Nietzsche) บาทหลวงนิกายลูเทอแรน กับนางฟรันซิสคา เออเลอร์ (Franziska Oehler) บิดามารดาตั้งชื่อเขาตามพระนามของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮ็ล์มที่ 4 แห่งปรัสเซีย ซึ่งมีวันคล้ายวันประสูติตรงกับวันที่เด็กชายนีทเชอเกิด เขายังมีน้องอีกสองคนชื่อเอลีซาเบ็ท (Elisabeth) และลูทวิช โยเซฟ (Ludwig Joseph) บิดาของเขาเสียชีวิตในปี 1849 ส่วนน้องชายคนเล็กเสียชีวิตในอีกหกเดือนให้หลังบิดา สมาชิกที่เหลืออยู่จึงย้ายไปอยู่กับครอบครัวฝ่ายแม่ที่เมืองนามบวร์ค (Naumburg)
ผลงานของนีทเซอครอบคลุมอยู่ในหลายศาสตร์วิชา ทั้งศิลปศาสตร์, ปรัชญา, ประวัติศาสตร์, ศาสนา, โศกนาฏกรรม, วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ งานเขียนของเขามีทั้งบทโจมตีเชิงปรัชญา, บทกวี และบทวิจารณ์วัฒนธรรม ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยคำคมและคำเสียดสี บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจของนีทเชอในช่วงแรกคือเหล่านักปรัชญาแถวหน้าทั้งหลายของยุคนั้น เช่นอาร์ทัวร์ โชเพินเฮาเออร์, ริชชาร์ท วากเนอร์ และโยฮัน ว็อล์ฟกัง ฟ็อน เกอเทอ เป็นต้น งานด้านปรัชญาชิ้นเด่นของนีทเชอมีทั้งบทวิจารณ์สุดโต่งของความเที่ยงแท้ในแบบมุมมองนิยม (Perspectivism), บทวิจารณ์เชิงวงศ์ตระกูลของศาสนาและศีลธรรมชาวคริสต์ (Christian morality) ตลอดจนทฤษฎีศีลธรรมของนาย–บ่าว (Master–slave morality) นีทเชอยังเป็นเจ้าของวลีสุดคมคายที่ว่า "พระเจ้าตายแล้ว" ("Gott ist tot") เขามองว่าสังคมยุคใหม่ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยหลักธรรมคำสอนอีกแล้ว แต่เป็นวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม แม้แต่ศีลธรรมก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ฟรีดริช นีทเชอ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.