Cirrepidesmus leschenaultii
นกหัวโตทรายใหญ่ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | สัตว์ (Animalia) |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง (Chordata) |
ชั้น: | สัตว์ปีก (Aves) |
อันดับ: | นกหัวโต (Charadriiformes) |
วงศ์: | นกหัวโต (Charadriidae) |
สกุล: | นกหัวโตเล็ก (Charadrius) |
สปีชีส์: | นกหัวโตทรายใหญ่ (C. leschenaultii ) |
ชื่อทวินาม | |
Charadrius leschenaultii (Lesson, 1826) | |
ชื่อพ้อง | |
นกหัวโตทรายใหญ่ (Charadrius leschenaultii ) เป็นนกชายเลนในสกุลนกหัวโต และเป็นนกอพยพในกลุ่มที่ผลัดขนในฤดูผสมพันธุ์ และมีความแตกต่างระหว่างเพศในฤดูผสมพันธุ์ โดยฤดูผสมพันธุ์มีถิ่นอาศัยบริเวณกึ่งทะเลทรายในประเทศตุรกี ต่อเนื่องถึงเอเชียกลาง ส่วนฤดูหนาวจะอพยพมาทางเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศไทย พบได้ในแหล่งน้ำใกล้ป่าชายเลน ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามันช่วงประมาณเดือน พฤศจิกายน ถึง มกราคม
ชื่อสกุล Charadrius เป็นคำในภาษาละตินยุคปลายซึ่งกล่าวถึง นกสีค่อนข้างเหลือง ในพระคัมภีร์วัลเกต ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ซึ่งกลายมาจากคำในภาษากรีกโบราณว่า คาราดริออส (กรีกโบราณ: Χαραδριος) ซึ่งหมายถึงผู้อยู่ในร่องธาร ชื่อชนิดทางวิทยาศาสตร์ leschenaultii นำมาจากชื่อของบุคคลคือ Jean Baptiste Leschenault de la Tour (ค.ศ. 1773-1826) นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ผู้พบและจำแนกชนิดได้ครั้งแรก ที่เมืองพอนดิเชอร์รี ในประเทศอินเดีย
นกหัวโตทรายใหญ่ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ในข้อตกลงเกี่ยวกับการอนุรักษ์นกน้ำอพยพแอฟริกัน-ยูเรเชีย (The Agreement on the Conservation of African-Eurasian Migratory Waterbirds; AEWA)
ชนิดพันธุ์นี้มักจะแบ่งออกเป็นสามชนิดย่อย ที่มีการกระจายดังต่อไปนี้:
นกหัวโตทรายใหญ่ มีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกับนกชนิดอื่นในสกุลนกหัวโตเล็ก โดยลักษณะพิเศษประจำพันธุ์คือ เป็นนกขนาดเล็ก ความยาวจากปลายปากจรดปลายหาง ยาว 19-22 เซนติเมตร คล้ายนกหัวโตทรายเล็ก แต่ ตัวโตกว่าเล็กน้อย ปากมีสีดำ สันขากรรไกรบน ยาวมากกว่า 2 ซม. ขาและนิ้วสีเทาออกเขียว หรือ ออกเหลือง โดยขาท่อนบน ยาวเท่ากับ หรือเกือบเท่ากับขาท่อนล่าง
ขนคลุมลำตัวด้านบนมีสีน้ำตาล ขนคลุมหน้าผากจะมีสีน้ำตาลอ่อน และมีขีดคล้ายคิ้วสีขาวลากเหนือตาไปถึงตอนบนของขนคลุมหู มีแถบสีน้ำตาลลากจากโคนปาก ลากผ่านใต้ตาไปจนถึงขนคลุมหู หน้าอกมีแถบคาดอกสีน้ำตาล แต่ไม่ต่อกันตรงกลาง ด้านล่าง ใต้คอถึงอกตอนบน และ ท้องลงไปจนถึงขนคลุมใต้หาง สีขาว ปีกมีสีน้ำตาล แต่ขนปลายปีกจะมีสีดำ ขณะบินจะเห็นแถบสีขาวที่ปีกเช่นเดียวกับนกหัวโตทรายเล็ก แต่แถบจะใหญ่และชัดกว่า
ในตอนต้นฤดูผสมพันธุ์ นกตัวผู้จะมีการผลัดขนหน้าผากเป็นสีดำ และมีแต้มสีขาวล้อมรอบด้วยเส้นสีดำ แถบคาดตาสีขาว กระหม่อมและคอด้านบนสีน้ำตาลแดง ใต้คอและคอตอนล่างสีขาว อกสีแถบสีน้ำตาลแดง แต่ตอนกลางฤดูผสมพันธุ์จะมองไม่เห็นแต้มสีขาวที่หน้าผาก แต่กระหม่อม หน้าผาก และ แถบคาดอก จะเป็นสีส้ม หรือ น้ำตาลแดงเข้มชัดเจน แถบคาดอกจะต่อเป็นแถบเดียวกัน
พบการรวมฝูงเป็นฝูงขนาดเล็กหรือกลาง ตั้งแต่ 2-50 ตัว แต่อาจพบการสะสมฝูงได้ถึง 1,000 ตัวในจุดแวะพัก หากินในช่วงน้ำลงทั้งกลางวันและกลางคืน บินได้ดีมากและเร็ว เมื่อถูกรบกวนจะบินหนีในทันที อาจหากินอยู่รวมกับนกชายเลนอื่น ๆ โดยเฉพาะนกหัวโตทรายเล็ก ส่วนอาหาร ได้แก่ แมลง ตัวหนอน สัตว์น้ำต่าง ๆ เช่น หอย ปู ปลา กุ้ง บางครั้งกินผล ยอด และต้นอ่อนของพืชที่ขึ้นในน้ำเค็มบางชนิด กินอาหารด้วยการวิ่งในระยะทางที่สั้น ๆ และหยุด แล้วเก็บอาหารด้วยปากแทนที่จะใช้เทคนิคการจับเหยื่อแบบทั่วไป
ทำรังอยู่บนพื้นโดยตรง โดยวางไข่หนึ่งครั้งต่อฤดูการผสมพันธุ์ โดยมากมักจะมี 3 ฟองโดยวางบนพื้นในหลุมที่ขุดขึ้น ไข่จะถูกฟักเป็นเวลา 24 วันโดยเฉลี่ย ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะคอยดูแลตัวรังด้วยกัน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article นกหัวโตทรายใหญ่, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.