พันเอก ณรงค์ กิตติขจร (21 ตุลาคม พ.ศ.
2476 —) เป็นอดีตนายทหาร, อดีตนักการเมือง และเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 10 อีกทั้งยังเป็นบุตรเขยของ จอมพล ประภาส จารุเสถียร
ณรงค์ กิตติขจร | |
---|---|
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา | |
ดำรงตำแหน่ง 24 เมษายน พ.ศ. 2526 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 | |
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 15 มีนาคม พ.ศ. 2534 – 21 มีนาคม พ.ศ. 2535 | |
หัวหน้าพรรคเสรีนิยม | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2529 – พ.ศ. 2535 | |
ก่อนหน้า | ปรีดา พัฒนถาบุตร |
ถัดไป | ตราชู บริสุทธิ์ (รักษาการ) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2476 |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | ชาติไทย (พ.ศ. 2526–2529) เสรีนิยม (พ.ศ. 2529–2535) |
คู่สมรส | สุภาพร กิตติขจร (พ.ศ. 2501–2548) |
บุตร | 4 คน |
บุพการี |
|
ญาติ | ประภาส จารุเสถียร (พ่อตา) |
ศิษย์เก่า | โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ไทย |
สังกัด | กองทัพบกไทย |
ยศ | พันเอก |
ผ่านศึก | |
เป็นหนึ่งใน 3 บุคคลของฝ่ายรัฐบาลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในเหตุการณ์ 14 ตุลา ปี 2516 ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 77 ราย ส่งผลให้ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร, จอมพล ถนอม กิตติขจร และจอมพล ประภาส จารุเสถียร ต้องออกจากประเทศภายหลังเหตุการณ์สงบลง พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย และได้ลงเล่นการเมือง โดยเข้าร่วมงานกับพรรคเสรีนิยม และเขาได้รับเลือกเป็น ส.ส. ด้วยกัน 2 สมัย นอกจากนี้แล้ว พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ยังถูกสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการบงการสั่งฆาตกรรมนักธุรกิจและศัตรูทางการเมืองอีกมากมาย โดยอาศัยอำนาจที่มีอยู่ในสมัยที่รุ่งเรือง ปิดคดีความต่างๆ และไม่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอีกเลย
พ.อ. ณรงค์ เป็นบุตรชายของจอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และเป็นบุตรเขยของ จอมพล ประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมตำรวจ เพราะได้สมรสกับนางสุภาพร กิตติขจร บุตรสาวคนที่ 3 ของจอมพล ประภาส ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับมาตั้งแต่อายุได้ 5-6 ขวบ และได้ขอแต่งงานเมื่อคุณสุภาพรอายุได้เพียง 18 ปีเท่านั้น (ในขณะนั้น พ.อ. ณรงค์ ติดยศ"ร้อยตรี") โดยมีบุตร-ธิดารวม 4 คน ได้แก่
พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร จบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แล้วศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จปร.รุ่นที่5 และโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ สหราชอาณาจักร (Royal Military Academy Sandhurst) ซึ่งเป็นโรงเรียนนายร้อยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในอังกฤษ
พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐประหาร (รัฐประหารในประเทศไทย 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514) เมื่อการรัฐประหารเสร็จสิ้นลง ได้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการตรวจและติดตามผลการปฏิวัติราชการ (ก.ต.ป.) และเป็นผู้บังคับบัญชากองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน.2 รอ.)
หลังจากเหตุการณ์รัฐประหารครั้งนี้แล้ว พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร เป็นที่คาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากจอมพล ถนอม กิตติขจร ผู้เป็นพ่อ เพราะด้วยสถานการณ์ในเวลานั้น ปรากฏข่าวการคอร์รัปชั่นกันอย่างกว้างขวางรวมทั้งการใช้อำนาจไปในทางที่มิชอบด้วย เช่น กรณีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกตกที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2516 เป็นต้น ทางรัฐบาลได้แก้ปัญหาด้วยการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามผลการปฏิบัติราชการ หรือ ก.ต.ป. ขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหาการคอร์รัปชั่น แต่กลับมี พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ซึ่งเป็นลูกชายนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแล จึงไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา ขึ้น ประชาชนส่วนหนึ่งที่โกรธแค้นจึงได้เผาทำลายอาคารของสำนักงานแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ ณ สี่แยกคอกวัว
ส่วนบทบาทของ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์และเป็นผู้กราดยิงกระสุนจริงจากเฮลิคอปเตอร์ลงมายังผู้ชุมนุมที่อยู่เบื้องล่าง แต่ พ.อ. ณรงค์ ได้ปฏิเสธในเรื่องนี้มาโดยตลอด
หลังสถานการณ์ทางการเมืองสงบลง พ.อ. ณรงค์ ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และลงสมัคร ส.ส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดพรรคชาติไทย ในปี พ.ศ. 2526 และเข้าร่วมกับพรรคการเมืองชื่อพรรค "เสรีนิยม" ซึ่งมี ปรีดา พัฒนถาบุตร เป็นหัวหน้าพรรค และต่อมาได้เปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารโดย พ.อ.ณรงค์ เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน เขาได้ลงสมัคร ส.ส. ในจังหวัดเดิม ได้รับเลือกตั้งมาอีก 2 สมัย ในปี พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 2531 และ ยังได้รับแต่งตั้งเป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2534
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ ได้เปิดตัวหนังสือมา 2 เล่ม ชื่อ "ลอกคราบ 14 ตุลา ดักแด้ประวัติศาสตร์การเมืองไทย" และ "พันเอก ณรงค์ กิตติขจร 30 ปี 14 ตุลา ข้อกล่าวหาที่ไม่สิ้นสุด" โดยมีเนื้อหาอ้างอิงจากเอกสารราชการลับในเหตุการณ์ 14 ตุลา ซึ่งมีเนื้อหาว่าทั้ง พ.อ. ณรงค์ และจอมพล ถนอม มิได้เป็นผู้สั่งการในเหตุการณ์ 14 ตุลา
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ณรงค์ กิตติขจร, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.