การก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศมาเลเซีย (อังกฤษ: Communist insurgency in Malaysia) หรือรู้จักกันว่า วิกฤตการณ์มาลายาครั้งที่สอง (อังกฤษ: Second Malayan Emergency; มลายู: Perang Insurgensi Melawan Pengganas Komunis หรือ Perang Insurgensi Komunis และ Darurat Kedua) เป็นการขัดกันทางอาวุธที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ปี ค.ศ.
1968 ถึง 1989 ที่เกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (MCP) และกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งรัฐบาลกลางมาเลเซีย
การก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศมาเลเซีย | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเย็นและความต่อเนื่องของวิกฤตการณ์มาลายา | |||||||
หน่วยจู่โจมรัฐซาราวัก (ปัจจุบันเป็นส่วนของหน่วยจู่โจมมาเลเซีย) ซึ่งประกอบด้วยอีบันที่กระโดดจากเฮลิคอปเตอร์ยูเอช-1 ไอระควอยของกองทัพอากาศออสเตรเลีย เพื่อปกป้องชายแดนมาเลย์-ไทย จากการโจมตีของคอมมิวนิสต์ในปี ค.ศ. 1965 ซึ่งเป็นช่วงสองปีก่อนสงครามเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1968 | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
| กองกำลังคอมมิวนิสต์:
| ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
|
| ||||||
กำลัง | |||||||
8,000 คน 1,000 | |||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ถูกสังหาร 155 คน ได้รับบาดเจ็บ 854 คน | ถูกสังหาร 212 คน ถูกจับกุม 150 คน ยอมจำนน 117 คน |
หลังจากสิ้นสุดวิกฤตการณ์มาลายาในปี ค.ศ. 1960 กองทัพปลดปล่อยชนชาติมาลายาเชื้อสายจีนส่วนใหญ่, กองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ได้ถอยกลับไปที่ชายแดนมาเลเซีย-ไทย ซึ่งได้มีการจัดกลุ่มใหม่และฝึกสำหรับการโจมตีรัฐบาลมาเลเซียในอนาคต การก่อความไม่สงบเริ่มขึ้นเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์มลายาเข้าโจมตีกองกำลังความมั่นคงในโกรฮ์–เบตง ทางตอนเหนือของมาเลเซียตะวันตก ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1968 ความขัดแย้งยังสอดคล้องกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างชาติพันธุ์มาเลย์กับจีนในมาเลเซียตะวันตกและสงครามเวียดนาม
ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์มลายาได้รับการสนับสนุนอย่างจำกัดจากประเทศจีน การสนับสนุนนี้สิ้นสุดลงเมื่อกรุงกัวลาลัมเปอร์และปักกิ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1974 ในปี ค.ศ. 1970 พรรคคอมมิวนิสต์มลายาประสบการแตกความสามัคคีซึ่งนำไปสู่การเกิดขึ้นของสองกลุ่มแยก ได้แก่ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งมลายา–ลัทธิมากซ์-ลัทธิเลนิน (CPM–ML) และคณะปฏิวัติ (CPM–RF) แม้จะพยายามทำให้พรรคคอมมิวนิสต์มลายาดึงดูดความสนใจมาเลย์ก็ตาม ซึ่งองค์กรถูกครอบงำโดยกลุ่มเชื้อสายจีนตลอดสงคราม แทนที่จะประกาศ "สถานการณ์ฉุกเฉิน" อย่างที่อังกฤษเคยทำมาก่อน รัฐบาลมาเลเซียตอบโต้การก่อความไม่สงบด้วยการนำเสนอนโยบายหลายประการรวมถึงโครงการความมั่นคงและการพัฒนา (KESBAN), รูกุนเตตังกา (เพื่อนบ้านเฝ้าระวัง) และเหล่าเรลา (กลุ่มอาสาสมัครประชาชน)
การก่อความไม่สงบสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1989 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์มลายาได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลมาเลเซียที่หาดใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทย สิ่งนี้ใกล้เคียงกับการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์กลุ่มตะวันออก นอกจากการต่อสู้บนคาบสมุทรมลายูแล้ว การก่อความไม่สงบของพรรคคอมมิวนิสต์อื่นก็เกิดขึ้นในรัฐซาราวักของมาเลเซียในเกาะบอร์เนียว ซึ่งได้รวมเข้าด้วยกันเป็นสหพันธรัฐมาเลเซียเมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 1963
This article uses material from the Wikipedia ไทย article การก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศมาเลเซีย (ค.ศ. 1968–1989), which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.