โกรนิงเงิน

2020 มีพื้นที่ 180.21 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นความหนาแน่นประชากร 2,963 คนต่อตารางกิโลเมตร เมื่อนับรวมเขตมหานครโกรนิงเงิน-อาสเซินจะมีประชากรรวม 5 ล้านคน โกรนิงเงินเป็นเมืองเก่าอายุกว่า 950 ปี เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจทางตอนเหนือของเนเธอร์แลนด์ เป็นนครรัฐกึ่งเสรีและเป็นสมาชิกของสันนิบาตฮันเซอ โกรนิงเงินเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโกรนิงเงิน มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษาราว 31,000 คน (ตุลาคม ค.ศ. 2018) และวิทยาลัยฮันเซอที่มีนักศึกษาราว 28,000 คน

โกรนิงเงิน
เมืองและเขตเทศบาล
ธง ตราอาร์ม
ที่ตั้งของโกรนินเกน
พิกัด: 53°13′N 6°34′E / 53.217°N 6.567°E / 53.217; 6.567
การปกครอง
• องค์กร	สภาเทศบาล
• นายกเทศมนตรี	Peter den Oudsten

มีการค้นพบหลักฐานว่าโกรนิงเงินมีชุมชนมนุษย์อาศัยอยู่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 3 แต่ปรากฏในหลักฐานบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1040 ต่อมาในศตวรรษที่ 13 โกรนิงเงินเติบโตขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการค้า ชาวเมืองสร้างกำแพงเมืองเพื่อป้องกันศัตรู เริ่มมีภาษาสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ และเริ่มเรืองอำนาจขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 15 เมื่อจังหวัดฟรีสลันด์ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของโกรนิงเงิน มีการสร้างหอคอยมาร์ตินิโตเรินสูง 127 เมตรขึ้นตระหง่านอยู่กลางเมือง

อิสรภาพของโกรนิงเงินสิ้นสุดในปี ค.ศ. 1536 เมื่อตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คปกครองโกรนิงเงินจนถึง ค.ศ. 1594 สาธารณรัฐดัตช์ที่ประกาศเอกราชจากการปกครองของสเปนก็ยึดโกรนิงเงินได้ และกลายเป็นจังหวัดหนึ่งของสาธารณรัฐ

มหาวิทยาลัยโกรนิงเงินก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1614 โดยมีจุดประสงค์แรกเริ่มเพื่อการศึกษาทางศาสนา ในขณะเดียวกันเมืองโกรนิงเงินเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่ ก่อนจะถูกโจมตีในสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่ 3 กำแพงเมืองต่อต้านการรุกรานของข้าศึกจากมึนสเตอร์ได้ เป็นที่มาของการประเพณีเฉลิมฉลองด้วยเพลงและดอกไม้ไฟในวันที่ 28 สิงหาคมของทุกปี

โกรนิงเงินได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อกองทัพนาซีเยอรมนีบุกยึดเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะเขตตลาดหลักของเมืองถูกทำลายลงอย่างราบคาบในเดือนเมษายน ค.ศ. 1945 ในยุทธการโกรนิงเงิน อย่งไรก็ตาม โบสถ์หลัก หอคอยประจำเมือง และกำแพงเมืองไม่ได้รับความเสียหายนักและยังหลงเหลือให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้