ฮะดีษ บ้างก็สะกด หะดีษ, หาดีษ, ฮาดีษ (อาหรับ: حديث, ฮะดีษ, พหุ.
บางคนกล่าวถึงฮะดีษเป็น "กระดูกสันหลัง" ของอารยธรรมอิสลาม และสำหรับหลายคนถือว่าอำนาจของฮะดีษเป็นแหล่งนำทางทางศาสนาและศีลธรรมที่มีชื่อเรียกว่า ซุนนะฮ์ ซึ่งเป็นรองเพียงอัลกุรอาน (ซึ่งมุสลิมเชื่อว่าเป็นดำรัสจากพระเจ้าที่ประทานแก่มุฮัมมัด) มุสลิมส่วนใหญ่เชื่อว่าอำนาจในคัมภีร์สำหรับฮะดีษมาจากอัลกุรอานที่กำชับให้มุสลิมทำตามแบบอย่างของมุฮัมมัดและเชื่อฟังคำตัดสินของท่าน (ดังปรากฏในซูเราะฮ์ที่ 24:54 และ 33:21)
ในขณะที่โองการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายในอัลกุรอานมีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่หลายคนถือว่าฮะดีษเป็นแนวทางสำหรับทุกสิ่ง ตั้งแต่รายละเอียดของภาระหน้าที่ทางศาสนา (เช่น ฆุสล์ หรือ วุฎูอ์, การทำน้ำละหมาดเพื่อละหมาด) จนถึงวิธีการเคารพที่ถูกต้อง และความสำคัญของความเมตตากรุณาต่อทาส ดังนั้น สำหรับหลายคนถือว่ากฎหมายชะรีอะฮ์ (กฎหมายอิสลาม) "จำนวนมาก" มีที่มาจากฮะดีษมากกว่าอัลกุรอาน
ฮะดีษเป็นคำศัพท์ภาษาอาหรับที่หมายถึงคำพูด รายงาน บันทึก เรื่องเล่า: 471 ซึ่งมีความแตกต่างจากอัลกุรอานตรงที่ มุสลิมทุกคนไม่เชื่อว่ารายงานฮะดีษ (หรืออย่างน้องก็ไม่ใช่บันทึกฮะดีษทั้งหมด) ได้รับการประทานจากพระเจ้า ชุดสะสมฮะดีษที่แตกต่างกันจะนำมาซึ่งความแตกต่างในสาขาต่าง ๆ ของความเชื่ออิสลาม มุสลิมบางส่วนเชื่อว่าแนวทางอิสลามควรอิงตามอัลกุรอานเท่านั้น จึงปฏิเสธอำนาจของฮะดีษ บางคนถึงขั้นอ้างว่าฮะดีษส่วนใหญ่ถูกแต่งขึ้นมา (pseudepigrapha) ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ถึง 9 และระบุอย่างผิด ๆ ว่ามาจากมุฮัมมัด ในอดีต กลุ่มอัลมัวะอ์ตะซิละฮ์ก็ปฏิเสธฮะดีษที่เป็นพื้นฐานสำหรับกฎหมายอิสลาม แต่ยอมรับซุนนะฮ์และอิจญ์มาอ์
เนื่องจากฮะดีษบางส่วนมีข้อความที่น่าสงสัยและขัดแย้งกัน การรับรองความถูกต้องของฮะดีษจึงกลายเป็นสาขาวิชาหลักในศาสนาอิสลาม โดยในรูปแบบคลาสสิก ฮะดีษประกอบด้วยสองส่วน สายผู้รายงานที่ส่งผ่านรายงาน (อิสนัด) อลัข้อความหลักของรายงาน (มัตน์) นักกฎหมายมุสลิมและมุสลิมที่สอนศาสนาจำแนกฮะดีษตามบุคคลได้เป็นหมวดหมู่ เช่น เศาะเฮียะห์ ("แท้"), ฮะซัน ("ดี") หรือ เฎาะอีฟ ("อ่อน") อย่างไรก็ตาม นักวิชาการและกลุ่มต่าง ๆ จัดประเภทฮะดีษไม่เหมือนกัน
ในบรรดานักวิชาการของศาสนาอิสลามนิกายซุนนี คำว่าฮะดีษไม่ได้มีเพียงคำพูด คำแนพนำ การปฏิบัติ ฯลฯ ของมุฮัมมัดเท่านั้น แต่ยังรวมของผู้ติดตามท่านด้วย ส่วนชีอะฮ์ถือว่าฮะดีษเป็นศูนย์รวมซุนนะฮ์ คำพูดและการกระทำของมุฮัมมัดและอะฮ์ลุลบัยต์ ครอบครัวของท่าน (อิมามทั้งสิบสองและฟาฏิมะฮ์ ลูกสาวของท่าน)
ในภาษาอาหรับ รูปคำนาม ฮะดีษ (حديث) หมายถึง "รายงาน", "บันทึก" หรือ "เรื่องเล่า" ซึ่งมีรูปพหุพจน์เป็น อะฮาดีษ (أحاديث) ฮะดีษ ยังหมายถึงคำพูดของบุคคลด้วย
ฮะดีษ คือ คำพูด การกระทำ การยอมรับ และคุณลักษณะ ตลอดจนชีวประวัติของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ) อิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์ให้นิยามของฮะดีษว่า “ทุก ๆ สิ่งที่พาดพิงถึงท่านนบี (ศ)”
ประเภทของฮะดีษ
การจำแนกประเภทของฮะดีษนั้นนักวิชาการได้จำแนกฮะดีษเป็นดังนี้
1. จำแนกตามลักษณะของกระแสรายงาน แบ่งออกเป็นได้ สองประเภทคือ ฮะดีษมุตะวาติรและ ฮะดีษอาฮาด
2. จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ
2.1 ฮะดีษที่นำมาเป็นหลักฐานได้ คือ ฮะดีษศอฮีฮฺ และ ฮะดีษฮะซัน
2.2 ฮะดีษที่ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ คือ ฮะดีษฎออีฟ(ฮะดีษอ่อน)และฮะดีษเมาฎั๊วะ(ฮะดีษที่ถูกอุปโลกน์ขึ้น)
พระวจนานุกรมรวบรวมฮะดีษมีมากกว่า 10 พระวจนานุกรม ที่สำคัญคือ 6 พระวจนานุกรม คือ
1. เศาะฮีฮ์ อัลบุคอรี รวบรวมโดย อัลบุคอรีย์
2. เศาะฮีฮ์ มุสลิม รวบรวมโดย มุสลิม อิบน์ อัลฮัจญาจญ์
3. ญามิอ์ อัตติรมิซี รวบรวมโดย อัตตัรมีซี
4. ซุนัน อะบีดาวูด รวบรวมโดย อะบูดาวูด
5. ซุนัน อิบน์ มาญะฮ์ รวบรวมโดย อิบน์ มาญะฮ์
6. ซุนัน อัศศุฆรอ รวบรวมโดย อันนะซาอี
นอกจากนี้ยังมีพระวจนานุกรม
ฮะดีษ หมายถึงคำพูด การกระทำ และการยอมรับของนบีมุฮัมมัด และของบรรดามะอฺศูม
สายชีอะหฺได้มีการรวบรวมเป็นเล่ม ที่สำคัญที่สุดมี 4 เล่มคือ
1. อัลกาฟี รวมรวมโดย อัลกุลัยนีย์
2. มัน ลายะฮฺฎุรุฮุ อัลฟะกีหฺ รวมรวมโดย เชคศอดูก (ฮ.ศ.305-381)
3. ตะหฺซีบ อัลอะฮฺกาม รวบรวมโดย เชคอัตตูซีย์ (ฮ.ศ.385-460)
4. อัลอิสติบศอร รวบรวมโดย เชคอัตตูซีย์ เช่นเดียวกัน
Hadith by Topics and advice of PBUH เก็บถาวร 2022-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article หะดีษ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.