รถถังหลัก (อังกฤษ: Main Battle Tank: MBT) คือ รถถังที่เป็นกำลังสำคัญในการรบ องค์ประกอบที่สำคัญคือ อำนาจการยิง(ความแม่นยำ อำนาจการทำลาย ความรวดเร็วในการใช้อาวุธ) ความคล่องตัว และการป้องกันตนเอง(เกราะ) โดยรถถังหลักจะต้องเป็นรถถังที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 37-65 ตันขึ้นไป และสามารถติดปืนใหญ่ตั้งแต่ขนาด 90-125 มม.
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รถถังหลักในยุคแรกจะประกอบไปด้วยรถถังกลางที่ออกแบบและผลิตโดยตรงหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง โดยได้รับการนิยามใหม่ต่อมาเป็นรถถังหลัก
ชื่อรถถัง | ปีที่เริ่มประจำการ | ผู้ใช้งานเดิม | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
เซ็นจูเรียน | 1945 | สหราชอาณาจักร | เป็นรถถังลาดตระเวนที่มีประสิทธิภาพสูงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 |
ที-54 | 1947 | สหภาพโซเวียต | |
เอ็ม48 แพตตัน | 1953 | สหรัฐ | |
ที-55 | 1958 | สหภาพโซเวียต | ปรับปรุงจาก รถถัง T-54 |
ไทป์ 59 | 1959 | จีน | ผลิตภายใต้สิทธิบัตรของรถถัง T-54 |
ไทป์ 61 | 1961 | ญี่ปุ่น |
รถถังหลักในยุคที่สองนั้นได้เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ในเวลาคืน
ชื่อรถถัง | ปีที่เริ่มประจำการ | ผู้ใช้งานเดิม | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
ที-62 | 1961 | สหภาพโซเวียต | มีพื้นฐานมาจากรถถัง T-55 เป็นรถถังแบบแรกของโลกที่ใช้ปืนใหญ่รถถังแบบลำกล้องเรียบเป็นอาวุธหลัก |
เอ็ม60 แพตตัน | 1961 | สหรัฐ | |
เลพเพิร์ด 1 | 1965 | เยอรมนีตะวันตก | |
แพนเซอร์ 61 | 1965 | สวิตเซอร์แลนด์ | |
ที-64 | 1966 | สหภาพโซเวียต | รถถังแบบแรกของโลกที่ใช้เกราะแบบคอมโพสิต |
เอเอ็มเอ็กซ์-30 | 1966 | ฝรั่งเศส | |
ชีฟเทน | 1966 | สหราชอาณาจักร | ติดอาวุธด้วยปืนใหญ่ขนาด 120 มม. แบบ Royal Ordnance L11A5 |
วิคเกอร์ เอ็มบีที | 1967 | สหราชอาณาจักร | รถถังที่ร่วมพัฒนาระหว่างอินเดียและสหราชอาณาจักร ในชื่อVijayanta |
Stridsvagn 103 | 1968 | สวีเดน | รถถังหลักแบบไร้ป้อมปืนแบบเดียวในโลก ประจำการโดยสวีเดน |
ที-72[ต้องการอ้างอิง] | 1973 | สหภาพโซเวียต | เป็นรถถังที่ได้รับการพัฒนาอยู่ตลอด จึงถูกจัดอยู่ในรถถังยุคที่ 2.5 ในบางตำรา |
โอลิแฟนท์[ต้องการอ้างอิง] | 1974 | แอฟริกาใต้ | ปรับปรุงต่อยอดมาจากรถถังเซ็นจูเรี่ยน |
ไทป์ 74[ต้องการอ้างอิง] | 1975 | ญี่ปุ่น | |
เมอร์คาวา I[ต้องการอ้างอิง] | 1978 | อิสราเอล | |
โอเอฟ-40 | 1981 | อิตาลี | |
Tanque Argentino Mediano[ต้องการอ้างอิง] | 1983 | อาร์เจนตินา | |
ไทป์ 69/79 | 1983 | จีน | มีพื้นฐานมาจากรถถัง Type 59 |
เอ็ม-84 | 1984 | ยูโกสลาเวีย | รถถังที-72 รุ่นต่อยอดของยูโกสลาเวีย |
Ch'onma-ho | 1980s | สหภาพโซเวียต / เกาหลีเหนือ | รถถังที่เกาหลีเหนือได้รับสิทธิบัตรการผลิตของ T-62 ต่อมาได้มีออกมาอีกหลายรุ่น |
ไทป์ 88 | 1980s | จีน | รวมไปถึงรถถัง Type 80 และ Type 85 |
รถถังหลักในยุคที่3นั้นสามารถยิงกระสุนจรวดต่อสู้รถถังนำวิถีด้วยแสงเลเซอร์จากลำกล้องปืนใหญ่ได้ ทั้งยังมีระบบควบคุมการยิงแบบดิจิทัล มีกล้องเล็งและตรวจการณ์ทั้งผู้บัญชาการรถ และพลยิงที่ใช้กล้องแบบจับภาพด้วยรังสีความร้อน มีเกราะป้องกันทั้งที่เป็นแบบเชิงรับ สร้างเป็นตัวรถ และป้อมปืน
ชื่อรถถัง | ปีที่เริ่มประจำการ | ผู้ใช้งานเดิม | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
ที-80 | 1976 | สหภาพโซเวียต | รถถังที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์ไบน์แบบแรกของโลก |
เลพเพิร์ด 2 | 1979 | เยอรมนีตะวันตก | |
MBT-80 | 1979 | สหราชอาณาจักร | เป็นรถถังต้นแบบ แต่ไม่ได้เข้าประจำการ |
เอ็ม1 เอบรามส์ | 1980 | สหรัฐ | |
ชาลเลนเจอร์ 1 | 1983 | สหราชอาณาจักร | |
M-84 | 1984 | ยูโกสลาเวีย | |
อีอี ที1 โอโซริโอ | 1985 | บราซิล | เป็นรถถังต้นแบบ แต่ไม่ได้เข้าประจำการในกองทัพบกบราซิล |
เค1 | 1987 | เกาหลีใต้ | |
เมอร์คาวา III | 1989 | อิสราเอล | |
ไทป์ 90 | 1990 | ญี่ปุ่น | |
Pokpung-ho | 1992 | เกาหลีเหนือ | |
เอเอ็มเอ็กซ์ เลอแคลซ์ | 1993 | ฝรั่งเศส | |
ซัลฟิการ์ | 1993 | อิหร่าน | รถถังของอิหร่าน ที่ได้รวมความสามารถจากรถถัง T-72 และ M60 Patton. รถถังซุลฟิการ์ 3 คือรุ่นที่รับการพัฒนาสูงสุด |
พีที-91[ต้องการอ้างอิง] | 1995 | โปแลนด์ | |
ซี-1 อาเรียเต้ | 1995 | อิตาลี | |
เค1เอ1 | 1996 | เกาหลีใต้ | |
ที-90A | 1996 | รัสเซีย | พัฒนามาจากรถถังที-72 |
Stridsvagn 122 | 1997 | สวีเดน | พัฒนามาจากรถถังเลพเพิร์ด 2 |
ไทป์ 96 | 1997 | จีน | |
ชาลเลนเจอร์ 2 | 1998 | สหราชอาณาจักร | |
ที-84 | 1999 | ยูเครน | พัฒนามาจากรถถังที-80 |
ไทป์ 98/99 | 2001 | จีน | |
อัล-คาลิด | 2001 | ปากีสถาน/ จีน | |
Centurion Olifant Mk 2 | 2003 | แอฟริกาใต้ | รถถังรุ่นต่อยอดจากรถถัง Olifant Mk 1 |
T-72M4 CZ | 2003 | เช็กเกีย | รถถัง ที-72 รุ่นอัพเกรดโดยเช็กเกีย |
อาจัน | 2004 | อินเดีย |
เมื่อรถถังหลักในยุคที่3ไปเปลี่ยนเป็นยุคต่อไป จะทำให้รถถังหลักในยุคที่4 มีระบบขับเคลื่อนที่สามารถเดินหน้าและถอยหลังได้ด้วยความเร็วเท่ากันด้วยระบบ ที่เรียกว่า Continuously Variable Transmission หรือ (CVT) มีระบบโหลดกระสุนอัตโนมัติ มีระบบดูดซับแรงเมื่อทำการยิงที่ดีเยี่ยมทำให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขณะยิงได้ มีระบบกล้องรอบทิศทางรอบป้อมและรถ 360 องศาโดยไม่มีจุดอับสายตา สามารถใช้โหมดความร้อนและกล้องกลางคืนได้ทุกมุมมองรอบรถถัง และมีระบบโครงข่ายสื่อสารกับศูนย์บัญชาการได้จากในตัวรถถังเอง
Advanced Third Generation and Next Generation
ชื่อรถถัง | ปีที่เริ่มประจำการ | ผู้ใช้งานเดิม | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
Merkava Mk IVm Windbreaker | 2011 | อิสราเอล | Adv. 3rd with Active Protection (operational from 2011) |
Type 99A2 | 2009 | จีน | "Enhanced Third Generation Main Battle Tank" |
T-90MS | 2011 | รัสเซีย | Adv. 3rd |
ไทป์ 10 | 2012 | ญี่ปุ่น | 4th Generation |
เค2 แบล็คแพนเธอร์ | 2014 | เกาหลีใต้ | Adv. 3rd |
Leopard 2A7+ | 2014 | เยอรมนี | Adv. 3rd |
VT-4 | 2014 | จีน | 3rd Generation Advanced |
T-14 Armata | 2015 | รัสเซีย | 4th Generation of RAF MBT derived from "Armata" modular platform |
รถถังที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเข้าประจำการ
This article uses material from the Wikipedia ไทย article รถถังหลัก, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.