โฆเซ อันโตนิโอ กามาโช อัลฟาโร (สเปน: José Antonio Camacho Alfaro; 8 มิถุนายน ค.ศ.
1955 – ) เป็นนักฟุตบอลผู้เกษียณตัวชาวสเปนซึ่งเล่นในตำแหน่งกองหลัง และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | โฆเซ อันโตนิโอ กามาโช อัลฟาโร | ||
วันเกิด | 8 มิถุนายน ค.ศ. 1955 | ||
สถานที่เกิด | ซิเอซา, แคว้นมูร์เซีย, ประเทศสเปน | ||
ส่วนสูง | 1.74 m (5 ft 8 1⁄2 in) | ||
ตำแหน่ง | แบ็คซ้าย | ||
สโมสรเยาวชน | |||
อัลบาเซเต | |||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
ค.ศ. 1972–1973 | อัลบาเซเต | ||
ค.ศ. 1973–1974 | กัสติยา | ||
ค.ศ. 1974–1989 | เรอัลมาดริด | 414 | (9) |
ทีมชาติ | |||
ค.ศ. 1973 | สเปน ยู-18 ปี | 3 | (0) |
ค.ศ. 1975–1976 | สมัครเล่นสเปน | 2 | (0) |
ค.ศ. 1975–1988 | ทีมชาติสเปน | 81 | (0) |
จัดการทีม | |||
ค.ศ. 1992–1993 | ราโยบาเยกาโน | ||
ค.ศ. 1994–1996 | อัสปัญญ็อล | ||
ค.ศ. 1996–1997 | เซบิยา | ||
ค.ศ. 1997–1998 | อัสปัญญ็อล | ||
ค.ศ. 1998–2002 | ทีมชาติสเปน | ||
ค.ศ. 2002–2004 | ไบฟีกา | ||
ค.ศ. 2004 | เรอัลมาดริด | ||
ค.ศ. 2007–2008 | ไบฟีกา | ||
ค.ศ. 2008–2011 | โอซาซูนา | ||
ค.ศ. 2011–2013 | ทีมชาติจีน | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
เขาลงแข่งขันเป็นระยะเวลา 15 ปีในระดับอาชีพร่วมกับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด โดยปรากฏตัวกว่า 500 นัดในการแข่งขันอย่างเป็นทางการและมีส่วนช่วยให้ทีมดังกล่าวชนะใน 19 รายการที่สำคัญ รวมถึงการแข่งขันลาลิกา ต่อจากนั้น เขาได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน รวมถึงสองช่วงเวลาสั้น ๆ กับสโมสรหลักของเขา
กามาโชได้ลงเล่นมากกว่า 80 นัดให้แก่ทีมชาติสเปน เป็นตัวแทนในฟุตบอลโลกสองสมัยและในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหลายครั้ง นอกจากนี้ เขาได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา โดยได้พาทีมดังกล่าวเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2002
กามาโชเกิดที่ซิเอซา แคว้นภูมิภาคมูร์เซีย ภายหลังจากที่เล่นฟุตบอลเยาวชนให้แก่อัลบาเซเตบาลอมปิเอ เขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ของลาลิกาอย่างเรอัลมาดริดขณะที่มีอายุได้ 18 ปี ซึ่งเกือบจะได้เข้าทีมชุดใหญ่ในทันที การเปิดตัวครั้งแรกของเขามาจากการส่งมอบโดยผู้จัดการทีมชื่อลุยส์ โมโลว์นิ
ในช่วงที่ย้ายมาอยู่กับเรอัลมาดริดของเขา กามาโชได้ลงเล่นในเกือบ 600 นัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ (414 นัดในลีกเพียงอย่างเดียว) โดยเข้าขาได้อย่างช่ำชองกับเพื่อนร่วมทีมปีกซ้ายที่มีชื่อว่าราฟาเอล กอร์ดิลโล ผู้ซึ่งเล่นเป็นกองกลางเป็นส่วนใหญ่ภายหลังจากนั้น ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1978 เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในการฝึกซ้อม ซึ่งทำให้อาชีพของเขาต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลาสองปี แต่แล้ว เขาก็กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง โดยเป็นฝ่ายช่วยให้ทีมจากเมืองหลวงเป็นฝ่ายชนะยูฟ่าคัพแบบติดต่อกัน
กามาโชยังได้ลงเล่น 81 ครั้งให้แก่ทีมชาติสเปน เขาปรากฏตัวครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุยังไม่ถึง 20 ปี โดยได้เปิดตัวครั้งแรก ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1975 และเป็นฝ่ายเสมอต่อทีมชาติสกอตแลนด์ที่ 1–1 ประตูในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976 รอบคัดเลือก ที่บาเลนเซีย
เป็นระยะเวลา 13 ปี ที่กามาโชทำหน้าที่เป็นกองหลังหลักสำคัญให้แก่ทีมชาติ โดยได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นตัวจริงอยู่ตลอดเวลาสำหรับฟุตบอลโลก 1982 และ 1986 ตลอดจนฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1984 และ 1988 หลังจากการเป็นฝ่ายแพ้ต่อทีมชาติเยอรมนีตะวันตกในการแข่งขันครั้งหลังที่ 0–2 ประตู เขาก็ได้อำลาออกจากการแข่งขันระหว่างประเทศขณะอายุได้ 33 ปี
หลังจากการเกษียณในฐานะผู้เล่นใน ค.ศ. 1989 กามาโชเริ่มต้นการฝึกสอนด้วยการเป็นสตาฟฟ์โค้ชของเรอัลมาดริด ประสบการณ์อาชีพครั้งแรกของเขาคือการใช้เวลาอยู่ร่วมกับทีมราโยบาเยกาโนและแอร์ราเซเด อัสปัญญ็อล ซึ่งเขาเป็นผู้มีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้แก่ทั้งสองทีมในการแข่งขันดิวิชันแรก
ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 1998 กามาโชเข้ารับทำหน้าที่ให้แก่เรอัลมาดริดชุดใหญ่ แต่ก็ออกจากทีมในช่วงเพียง 22 วันหลังจากนั้นเนื่องด้วยความขัดแย้งกับผู้บริหารของสโมสร
กามาโชได้รับช่วงต่อจากคาเบียร์ เคลเมนเต ในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 หลังจากเป็นฝ่ายแพ้ต่อทีมชาติไซปรัสที่ 2–3 ประตูในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2000 รอบคัดเลือก และทีมสามารถปรับเข้ากับผู้นำคนใหม่ได้อย่างรวดเร็วโดยสามารถเข้าสู่รอบสุดท้าย แต่ก็ได้ตกรอบไปเมื่อได้พบกับแชมป์อย่างทีมชาติฝรั่งเศสในรอบก่อนรองชนะเลิศ
สองปีต่อมา ทีมชาติของกามาโชได้เป็นฝ่ายแพ้ในรอบเดียวกันนี้ต่อทีมชาติเกาหลีใต้ในฟุตบอลโลก 2002 และตามมาซึ่งข้อถกเถียงจากความพ่ายแพ้ เขาได้ประกาศถึงการลาออกของเขาเอง และได้รับการแทนที่โดยอีญากี ซาเอซ
หลังจากนั้น กามาโชกลับไปร่วมงานกับสโมสร โดยได้รับการแต่งตั้งจากสปอร์ลิชบัวอีไบฟีกาของประเทศโปรตุเกสเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 เนื่องด้วยการปลดเชซูอัลโด แฟร์เรรา ออกจากสโมสร สองปีต่อมา ทีมของเขาก็ชนะการแข่งพอร์ชุกีสคัพโดยได้พบกับโชเซ มูรีนโย ผู้นำทีมสโมสรฟุตบอลโปร์ตูในช่วงทดเวลาพิเศษ รวมถึงได้อันดับสองในลีก ซึ่งจัดว่าเอาชนะได้ยากในวันที่เขาแสดงผลงาน นอกจากนี้เขายังได้แสดงให้เห็นตัวตนความเป็นมนุษย์ในอีกด้าน เมื่อเขาร่ำไห้รำลึกถึงหลังจากที่มิครอส เฟเฮอร์ ได้เสียชีวิตในสนาม ไม่นานหลังจากการแข่งขันระหว่างไบฟีกากับวีตอรียาดือกีมาไรช์
สำหรับฤดูกาล 2004–05 กามาโชได้กลับไปยังเรอัลมาดริดด้วยข้อตกลงเป็นระยะเวลาสองปี เพื่อเข้ารับหน้าที่แทนการถูกปลดของกาลูซ กายลอซ
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2011 กามาโชเข้ารับหน้าที่คุมทีมชาติจีน โดยเซ็นสัญญาข้อตกลงเป็นระยะเวลาสามปีด้วยค่าจ้างรายปีที่ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หัวหน้าสมาคมฟุตบอลจีนชื่อเหวยตี๋ได้อธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวที่จะช่วยให้ฟุตบอลทีมชาติมีความทัดเทียมกับทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติเกาหลีใต้ โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า "เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านของเราอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ วงการฟุตบอลจีนยังคงตามหลังอยู่ห่างไกล เราจำเป็นต้องทำงานด้วยวิสัยทัศน์ในระยะยาวและเริ่มที่จะกวดขันกับวิธีการปฏิบัติ แฟน ๆ จำนวนมากของเราคาดหวังว่าจีนจะผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2014 รอบชิงชนะเลิศที่ประเทศบราซิล พวกเขากลัวว่าการเปลี่ยนผู้ฝึกสอนในช่วงเวลาสุดท้ายอาจก่อให้เกิดผลร้ายต่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบของทีม ผมเข้าใจต่อสิ่งดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งเราจะไม่ให้มีการสูญเสียเวลาแต่อย่างใด"
รองประธานศูนย์บริหารฟุตบอลจีนชื่อหยู ฮงเฉิน ยังได้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า: "ในรอบคัดเลือกสู่ฟุตบอลโลก 2014 เป็นเพียงหน้าที่ชั่วคราวสำหรับเขา ถึงจะล้มเหลว กามาโชก็จะไม่สูญเสียงาน เมื่อเราเริ่มที่จะหาผู้ฝึกสอนคนใหม่ให้แก่ทีมชาติ เราได้มุ่งเน้นไปยังประเทศในทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่ เช่น ประเทศเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ และสเปน ประการแรก พวกเขามีแนวความคิดต่อฟุตบอลในระดับสูง และประการที่สอง พวกเขามีระบบการฝึกอบรมเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ได้ เราหวังว่าเขาจะสามารถหารูปแบบที่เหมาะสมแก่เราได้"
อย่างไรก็ตาม ทีมชาติจีนก็ล้มเหลวในการคัดเลือกเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2014 หลังจากการได้เพียงอันดับสามของกลุ่มในการคัดเลือกรอบที่สามด้วยการเป็นฝ่ายชนะสามครั้งและแพ้สามครั้ง กามาโชยังมีส่วนเกี่ยวข้องต่อความพ่ายแพ้ของทีมหนุ่มจีนให้แก่ทีมชาติบราซิลที่ 0–8 ประตู ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2012 ของการแข่งขันกระชับมิตร ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่หลวงที่สุดของทีมชาติเท่าที่เคยมีมา ทั้งยังส่งผลให้อันดับของทีมลดลงมาอยู่ที่ 109 ของอันดับโลกฟีฟ่า
ในเกมแรกของการแข่งขันเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก กามาโชกับทีมชาติจีนเป็นฝ่ายแพ้ต่อทีมชาติซาอุดีอาระเบียที่ 1–2 ประตู ตามมาด้วยความพ่ายแพ้สุดช็อกเมื่อพบกับทีมชาติไทยในนัดอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2013 ที่ 1–5 ประตู ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง และได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ฝึกสอนที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลจีน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article โฆเซ อันโตนิโอ กามาโช, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.