ฟุตบอลทีมชาติไทย

ฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ อยู่ภายใต้การบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

ทีมชาติไทย
Shirt badge/Association crest
ฉายาช้างศึก
สมาคมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาพันธ์ย่อยสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
สมาพันธ์สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (ทวีปเอเชีย)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนมาซาตาดะ อิชิอิ
กัปตันธีราทร บุญมาทัน
ติดทีมชาติสูงสุดเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (134)
ทำประตูสูงสุดเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (71)
สนามเหย้าราชมังคลากีฬาสถาน
รหัสฟีฟ่าTHA
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 101 Steady (4 เมษายน 2024)
อันดับสูงสุด43 (กันยายน พ.ศ. 2541)
อันดับต่ำสุด165 (ตุลาคม พ.ศ. 2558)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติไทย ไทย 1–6 จีน ธงชาติจีน
(กรุงเทพ ประเทศไทย; 20 สิงหาคม พ.ศ. 2491)
ชนะสูงสุด
ธงชาติไทย ไทย 10–0 บรูไน ธงชาติบรูไน
(กรุงเทพ ประเทศไทย; 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2514)
แพ้สูงสุด
ธงชาติสหราชอาณาจักร บริเตนใหญ่ 9–0 ไทย ธงชาติไทย
(เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย; 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499)
เอเชียนคัพ
เข้าร่วม8 (ครั้งแรกใน 1972)
ผลงานดีที่สุดอันดับที่ 3 (1972)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน
เข้าร่วม14 (ครั้งแรกใน 1996)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ (1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020, 2022)
เกียรติยศ

ทีมชาติไทยเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 7 สมัย และซีเกมส์ 9 สมัย (นับเฉพาะทีมชาติชุดใหญ่) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในทั้งสองรายการ แต่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จในระดับทวีปและระดับโลก โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าอันดับสามในรายการเอเชียนคัพ 1972 ในฐานะเจ้าภาพ อันดับสี่ในเอเชียนเกมส์ 2 ครั้ง และเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2 ครั้ง อันดับโลกฟีฟ่าที่ดีที่สุดของทีมชาติไทย คือ อันดับที่ 43 ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 101

ของโลก ทีมชาติไทยยังไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มีผลงานที่ดีที่สุดคือการผ่านเข้าถึงรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ใน พ.ศ. 2545 และ 2561

ประวัติ

ลำดับเหตุการณ์โดยสรุป
พ.ศ. เหตุการณ์
2459 ก่อตั้ง
2468 เข้าร่วมฟีฟ่า
2500 เข้าร่วมเอเอฟซี
2537 เข้าร่วมเอเอฟเอฟ

ก่อตั้งทีม (2458–2482)

ฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2458 ในนาม คณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม โดยนักฟุตบอลทีมชาติสยาม 11 คนแรก มีรายชื่อดังนี้ อิน สถิตยวณิช (ผู้รักษาประตู) – แถม ประภาสะวัต, ต๋อ ศุกระศร, ภูหิน สถาวรวณิช (กองหลัง) – ตาด เสตะกสิกร, กิมฮวด วณิชยจินดา (กองกลาง) – หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร, ชอบ หังสสูต, โชติ ยูปานนท์, ศรีนวล มโนหรทัต, จรูญ รัตโนดม (กองหน้า) และลงเล่นในการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกพบกับทีมสปอร์ตคลับฝ่ายยุโรปซึ่งใช้นักเตะอังกฤษทั้งหมด โดยแข่งขันกันที่สนามราชกรีฑาสโมสร ในวันที่ 20 ธันวาคม 2458 ซึ่งทีมชาติสยามเอาชนะไปได้ 2–1 จากชัยชนะดังกล่าวทำให้กระแสความสนใจในกีฬาฟุตบอลในสยามประเทศเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ กระทั่งวันที่ 25 เมษายน 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งสยามฯ ขึ้นอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งตราข้อบังคับสมาคมฯ และแต่งตั้งคณะสภากรรมการชุดแรก ประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ 7 ท่าน โดยมีพระยาประสิทธิ์ศุภการ เป็นนายกสภาฯ และพระราชดรุณรักษ์ เป็นเลขาธิการ ในปีเดียวกันได้ริเริ่มจัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ (ถ้วยพระราชทาน ก) และฟุตบอลถ้วยน้อย (ถ้วยพระราชทาน ข) ขึ้นเป็นครั้งแรก

ทีมชาติสยามได้ลงแข่งขันในเกมระหว่างประเทศครั้งแรกในปี 2473 พบกับทีมชาติอินโดจีน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เล่นเวียดนามใต้ และ ฝรั่งเศส เพื่อต้อนรับการเสด็จประพาสอินโดจีนของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยต่อมาชื่อของทีมชาติและชื่อของสมาคมได้ถูกเปลี่ยนชื่อในปี 2482 เมื่อรัฐบาล จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ประกาศนโยบาย “รัฐนิยม” ฉบับแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2481 ให้เปลี่ยนชื่อประเทศ ประชาชน และสัญชาติ จาก “สยาม” เป็น “ไทย” จึงเป็นสาเหตุให้มีการเปลี่ยนชื่อจากสมาคมฟุตบอลแห่งชาติสยามเป็นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อฟุตบอลทีมชาติสยามเป็นฟุตบอลทีมชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน

การแข่งขันโอลิมปิกและซีเกมส์

ในปี 2499 พล.ต.เผชิญ นิมิบุตร ซึ่งเป็นนายกสมาคม ได้มีการหาผู้เล่นจากหลายสโมสรเพื่อจัดตั้งทีมที่จะลงแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1956 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นครั้งแรกของทีมชาติไทยที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิก ในการแข่งขันครั้งนั้นเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก โดยทีมไทยซึ่งมี บุญชู สมุทรโคจร เป็นผู้ฝึกสอนคนแรก จับฉลากพบกับทีมสหราชอาณาจักร ในวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยทีมไทยแพ้ไป 0–9 (นับเป็นความพ่ายแพ้ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์) และตกรอบทันที โดยหนังสือพิมพ์สยามนิกร ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน ได้พาดหัวข่าวหน้ากีฬาว่า "ทีมชาติอังกฤษเฆี่ยนทีมชาติไทย 9–0" ซึ่งภายหลังจบการแข่งขัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งถึงสมาคมฟุตบอลฯ ให้ส่ง พล.ต.ดร.สำเริง ไชยยงค์ หนึ่งในนักฟุตบอลชุดโอลิมปิกไปศึกษาพื้นฐานการเล่นฟุตบอลจากประเทศเยอรมนี เพื่อให้กลับมาสอนการเล่นฟุตบอลให้แก่ทีมไทย

จนกระทั่งในปี 2508 ทีมชาติไทยก็สามารถคว้าเหรียญทองแรกในกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันคือกีฬาซีเกมส์) ครั้งที่ 3 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้สำเร็จ และหากนับจนถึงปัจจุบันทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ซีเกมส์ได้รวม 16 สมัย ถือเป็นสถิติสูงสุด (รวมทั้งทำสถิติคว้าแชมป์ติดต่อกัน 8 สมัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2536–2550) ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนเป็นครั้งที่สองในปี 2511 ภายใต้การคุมทีมของ พลเอก ประเทียบ เทศวิศาล โดยแพ้บัลแกเรีย 0–7, แพ้กัวเตมาลา 1–4 และแพ้เช็กโกสโลวาเกีย 0–8 ตกรอบแรกในการแข่งขัน และนั่นเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกเป็นครั้งล่าสุดของทีมชาติไทยจนถึงปัจจุบัน

การแข่งขันเอเชียนคัพ, คิงส์คัพ, เอเชียนเกมส์ และ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน

ในปี 2515 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 1972 ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งที่ 5 โดยทีมชาติไทยได้อันดับที่ 3 โดยยิงลูกโทษตัดสินเอาชนะกัมพูชา 5–3 หลังจากเสมอกัน 2–2

ในปี 2519 ทีมชาติไทยได้แชมป์คิงส์คัพเป็นสมัยแรกโดยเป็นแชมป์ร่วมกับทีมชาติมาเลเซีย ภายหลังจากที่มีการเริ่มมีการจัดคิงส์คัพในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2511 โดยต่อมาทีมชาติไทยได้เป็นแชมป์คิงส์คัพรวมทั้งสิ้น 11 ครั้ง

สำหรับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ทีมชาติไทยยังไม่เคยคว้าแชมป์ โดยความสำเร็จสูงสุดคือเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2533 เช่นเดียวกับเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่ กรุงเทพมหานคร ในปี 2541 และเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่ ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2545 และล่าสุดในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่ โดฮา ประเทศกาตาร์ ในปี 2549 ทีมชาติไทยทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเป็นทีมเดียวในอาเซียนที่ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และยังผ่านเข้ารอบโดยเป็นที่ 1 ของกลุ่ม

ในปี 2537 ทีมชาติไทยได้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ร่วมกับอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการเชิญสโมสรชั้นนำจากทั่วโลกมาแข่งขันในประเทศไทยหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เอฟซีปอร์โต (2540) อินเตอร์มิลาน (2540) โบคาจูเนียร์ (2540) ลิเวอร์พูล (2544) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (2547) เอฟเวอร์ตัน (2548) โบลตันวันเดอร์เรอร์ (2548) แมนเชสเตอร์ซิตี (2548 ที่ไทย และ 2550 ที่อังกฤษ) รวมถึงเรอัลมาดริด, บาร์เซโลนา, เชลซี และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ถัดมาในปี 2539 ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของธวัชชัย สัจจกุล ได้มีผู้เล่นชื่อดังหลายคน อาทิ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, นที ทองสุขแก้ว, และ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ จนได้รับการขนานนามจากสื่อว่าเป็น "ทีมชาติไทยชุดดรีมทีม (Dream Team)" โดยมีผลงานโดดเด่นคือการชนะเลิศรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน (ปัจจุบันคือรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยชนะมาเลเซียในรอบชิงชนะเลิศ 1–0 คว้าแชมป์สมัยแรก

ทีมอันดับหนึ่งของอาเซียน (2540–2560)

ต่อมา ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2541 ได้มีเหตุการณ์สำคัญในนัดที่ทีมไทยพบกับอินโดนีเซียในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย โดยทั้งสองทีมต่างก็ไม่ต้องการชนะ เพื่อจะได้เลี่ยงการพบเจ้าภาพเวียดนามในรอบรองชนะเลิศ เนื่องจากผู้ชนะของกลุ่มต้องเดินทางไกลจากโฮจิมินห์ไปแข่งกับเวียดนามที่ฮานอย ซึ่งก่อนเกมทีมไทยต้องการเล่นเอาผลเสมอเพื่อเข้ารอบเป็นอันดับสอง ในขณะที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มต้องการแพ้และให้ทีมไทยเป็นอันดับหนึ่งแทน การแข่งขันจบลงโดยไทยชนะ 3–2 โดยผู้เล่นอินโดนีเซียเจตนาทำเข้าประตูตัวเองในช่วงทดเวลา และฟีฟ่าได้ลงโทษทั้งสองทีมโดยปรับเงิน 40,000 ดอลลาร์ และทีมไทยเข้าไปแพ้เวียดนาม 0–3 ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในปี 2543 และชนะอินโดนีเซียในรอบชิงชนะเลิศที่ราชมังคลากีฬาสถาน 4–1 และป้องกันแชมป์ได้อีกครั้งในปี 2545 ชนะจุดโทษอินโดนีเซียเจ้าภาพร่วมไปได้อีกครั้ง หลังเสมอกัน 2–2 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3

อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทยทำผลงานย่ำแย่ในเอเชียนคัพ ปี 2547 โดยตกรอบแบ่งกลุ่ม และแพ้รวดสามนัดที่พบกับญี่ปุ่น อิหร่าน และโอมาน ถือเป็นผลงานในเอเชียนคัพที่ย่ำแย่ที่สุดของทีม ก่อนจะทำผลงานดีขึ้นในการแข่งขันปี 2550 ในฐานะเจ้าภาพร่วมและมีลุ้นเข้ารอบจนถึงนัดสุดท้าย ด้วยการเสมออิรัก, ชนะโอมาน ก่อนจะแพ้ออสเตรเลีย ซึ่งในรายการนั้นยังเป็นการอำลาทีมชาติของผู้เล่นคนสำคัญ ได้แก่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน และ พิพัฒน์ ต้นกันยา

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
โลโก้ทีมชาติไทยปี 2549–2560

ในปี 2551 ไทยตกรอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในรอบ 20 ทีมสุดท้าย โดยได้อยู่สายเดียวกับญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน โดยมีผลงานคือเสมอ 1 นัด และแพ้ไปถึง 5 นัด ทำให้ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลาออก หลังจากนั้น ปีเตอร์ รีด อดีตนักเตะสโมสรเอฟเวอร์ตันและทีมชาติอังกฤษได้เข้ามารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนต่อ แต่ทีมชาติไทยก็พลาดแชมป์สำคัญในรายการอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007 โดยแพ้เวียดนามรวมผลประตูสองนัด 2–3 และยังพลาดแชมป์คิงส์คัพโดยดวลจุดโทษแพ้ทีมชาติเดนมาร์ก ทำให้ในเดือนกันยายน 2552 ปีเตอร์ รีด ถูกปลด

ในวันที่ 23 กันยายน 2552 ไบรอัน ร็อบสัน ได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน และในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 ร็อบสันนำทีมชาติไทยคว้าชัยชนะนัดแรกในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือกโดยชนะสิงคโปร์ 3–1 แต่ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ร็อบสันนำทีมไทยแพ้นัดแรกต่อสิงคโปร์เช่นกันด้วยผลประตู 0–1 โดยเป็นการแพ้ที่ประเทศไทย ต่อมา ทีมชาติไทยสามารถยันเสมอกับจอร์แดนและอิหร่าน 0–0 ทั้งสองนัดในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้

ในวันที่ 11 สิงหาคม 2553 ร็อบสันนำทีมชาติไทยชนะสิงคโปร์ 1–0 ในการแข่งขันกระชับมิตรที่ประเทศไทย ถัดมา ในเดือนกันยายน ร็อบสันก็นำทีมเอาชนะอินเดียได้ 2–1 ในการแข่งขันกระชับมิตรเช่นกัน แต่ในเดือนธันวาคม ทีมไทยทำผลงานน่าผิดหวังในการตกรอบแบ่งกลุ่มเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 โดยเสมอ 2 นัดกับลาว และ มาเลเซีย และแพ้อินโดนีเซีย ทำให้ร็อบสันถูกยกเลิกสัญญา

ในเดือนมิถุนายน 2554 วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตผู้จัดการทีมเฟาเอฟเบชตุทท์การ์ทในบุนเดิสลีกา และอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติแคเมอรูน ได้เข้ามาเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย โดยงานแรกคือการนำทีมไทยไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โดยนัดแรก ไทยบุกไปแพ้ออสเตรเลีย 1–2 และในนัดต่อมาเอาชนะโอมานได้ 3–0 โดยเป็นชัยชนะนัดที่สองของทีมในการแข่งขันรอบคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งนัดแรกคือการชนะปาเสลสไตน์ 3–2 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 และยังสามารถยันเสมอกับซาอุดีอาระเบียได้ 0–0 ในนัดถัดมา ก่อนจะแพ้ 3 นัดรวด ยุติเส้นทางการแข่งขันไว้ที่รอบคัดเลือกรอบที่ 3 ถัดมา ในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ทีมไทยเข้าชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์ โดยในนัดแรก ไทยบุกไปแพ้ 1–3 และในนัดที่สองที่กรีฑาสถานแห่งชาติ ไทยชนะ 1–0 แต่รวมผลประตูสองนัดแพ้ 2–3 ได้แค่รองแชมป์ ต่อมา เชเฟอร์นำทีมไปแข่งเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก ก่อนจะแพ้ทั้ง 2 นัด ทำให้เชเฟอร์ยกเลิกสัญญาในเดือนมิถุนายน 2556

ต่อมาทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แต่งตั้งร้อยตำรวจโท เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตนักฟุตบอลชื่อดังเป็นผู้ฝึกสอนคนใหม่ โดยให้คุมทีมชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีก่อน ซึ่งนัดแรกของเกียรติศักดิ์ในการคุมทีมชาติไทยคือการแข่งขันกระชับมิตรพบกับทีมชาติจีน โดยทีมชาติไทยบุกไปชนะจีนได้ถึง 5–1

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
ทีมชาติไทยชนะเลิศรายการ ซูซูกิ คัพในปี 2557 ที่ประเทศมาเลเซีย

ในเดือนสิงหาคม 2556 ทางสมาคมได้แต่งตั้งให้ สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังเป็นผู้ฝึกสอนและเตรียมทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปแข่งกับทีมชาติอิหร่านในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2015 รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่เกียรติศักดิ์จะมาคุมทีมชุดใหญ่ต่อ และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี โดยเอาชนะมาเลเซียในรอบชิงชนะเลิศด้วยผลประตูรวมสองนัด 4–3 ตามด้วยการคว้ารองแชมป์คิงส์คัพในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ถัดมา ในปี 2559 ทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มเอฟในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบที่ 2 ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพ 2019 ได้สำเร็จ ซึ่งยังเป็นการผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และยังคว้าแชมป์ได้อีก 2 รายการ คือ คิงส์คัพ ครั้งที่ 44 และเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เอาชนะจอร์แดนและอินโดนีเซียตามลำดับ แต่ในรอบที่ 3 ของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทีมไทยทำผลงานย่ำแย่โดยนับจนถึงเดือนมีนาคม 2560 ทำได้เพียงเสมอ 1 นัด และแพ้รวดในนัดที่เหลือ ทำให้เกียรติศักดิ์ลาออก

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
ทีมชาติไทยในการแข่งขัน คิงส์ คัพ ปี 2560
ฟุตบอลทีมชาติไทย 
ทีมชาติไทยในการแข่งขันเอเชียน คัพ ปี 2562

ในเดือนพฤษภาคม 2560 มิลอวัน ราเยวัตส์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติกานาซึ่งพาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และพาทีมไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 45 โดยชนะจุดโทษเบลารุส แต่ผลงานโดยรวมยังไม่ดีขึ้น โดยแพ้ 8 นัด และเสมออีก 2 นัดรวมทุกรายการ ต่อมา ในปี 2561 ไทยลงแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 โดยในนัดแรกเสมอกาบอง 0–0 ก่อนจะชนะจุดโทษ แต่ไปแพ้สโลวาเกีย 2–3 ในรอบชิงชนะเลิศ ตามด้วยการตกรอบรองชนะเลิศเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 โดยแพ้มาเลเซียด้วยกฎประตูทีมเยือน และในนัดแรกของเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทยถูกอินเดียถล่ม 1–4 ทำให้ราเยวัตส์ถูกปลด

สมาคมแต่งตั้ง ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นรักษาการเป็นผู้ฝึกสอนชั่วคราว และทีมไทยทำผลงานดีขึ้นกว่าเดิม โดยเอาชนะบาห์เรน 1–0 และเสมอยูเออีเจ้าภาพ 1–1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จซึ่งนี่ถือเป็นการผ่านเข้ารอบแพ้คัดออก (Knockout) ในรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2515 ก่อนจะแพ้จีน 1–2 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อมา ในการแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ทีมไทยแพ้เวียดนามและอินเดีย 0–1 ทั้งสองนัด จบเพียงอันดับ 4

สร้างทีมใหม่ (2562–ปัจจุบัน)

ทีมชาติไทยแต่งตั้ง อากิระ นิชิโนะ อดีตนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่นทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทั้งทีมชาติชุดใหญ่และทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเขาถือเป็นผู้ฝึกสอนชาวเอเชียคนแรก (ที่ไม่ใช่ชาวไทย) ที่ได้เป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในวันที่ 24 มกราคม 2563 นิชิโนะได้รับการขยายสัญญาไปถึงปี 2565 แต่ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ทีมชาติไทยได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับนิชิโนะ เนื่องจากผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก

ในวันที่ 29 กันยายน 2564 ทีมชาติไทยแต่งตั้ง อาเลชังดรี ปอลกิง อดีตผู้ฝึกสอนในไทยลีกเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ โดยงานแรกของปอลกิงคือการพาทีมลงแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ในเดือนธันวาคม โดยทีมชาติไทยผ่านรอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะ 4 นัดรวด และเอาชนะเวียดนามในรอบรองชนะเลิศด้วยผลประตูรวมสองนัด 2–0 ผ่านเข้าไปพบกับอินโดนีเซียในรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 4 ในรายการนี้ และชนะไปด้วยผลประตูรวมสองนัด 6–2 คว้าแชมป์สมัยที่ 6

ต่อมา ในเดือนมิถุนายน 2565 ทีมชาติไทยลงแข่งขันเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก – รอบที่ 3 และผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่แปดจากผลงานชนะสองนัด (พบมัลดีฟส์ และ ศรีลังกา) และแพ้หนึ่งนัด (พบอุซเบกิสถาน) ตามด้วยการแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 22–25 กันยายน 2565 มีผลงานคือการคว้าอันดับสามโดยแพ้มาเลเซียในนัดแรกจากการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันด้วยผลประตู 1–1 และเอาชนะตรินิแดดและโตเบโกในนัดชิงอันดับสามด้วยผลประตู 2–1

ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022 ในเดือนมกราคม 2566 โดยเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มจากการชนะ 3 นัด และเสมอ 1 นัด ตามด้วยการชนะมาเลเซียในรอบรองชนะเลิศด้วยผลประตูรวมสองนัด 3–1 และเอาชนะเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศด้วยผลรวมสองนัด 3–2 คว้าแชมป์สมัยที่ 7 ต่อมา ไทยลงแข่งฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 แต่ทำได้เพียงรองแชมป์โดยแพ้การดวลจุดโทษอิรักหลังเสมอกันในเวลาปกติด้วยผลประตู 2–2 ถัดมาในเดือนตุลาคม 2566 ทีมไทยมีโปรแกรมลงแข่งกระชับมิตรที่ทวีปยุโรปสองนัดโดยพบทีมชาติจอร์เจียและทีมชาติเอสโตเนีย โดยปราศจากผู้เล่นตัวหลักหลายรายและต้องใช้ผู้เล่นดาวรุ่ง ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ทีมชาติไทยต้องพบความพ่ายแพ้ที่มากที่สุดในศตวรรษที่ 21 โดยแพ้จอร์เจียด้วยผลประตู 0–8 ณ เมืองทบิลีซี ต่อมา ทีมชาติไทยลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2 โดยมีทีมร่วมกลุ่มได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน ทีมไทยมีเป้าหมายคือการจบอันดับสองของกลุ่มเพื่อผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 3 แต่พวกเขาลงประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเปิดบ้านแพ้จีนด้วยผลประตู 1–2 แม้จะแก้ตัวได้ในนัดต่อมาจากการบุกไปชนะสิงคโปร์ด้วยผลประตู 3–1 และขึ้นไปอยู่อันดับสองของกลุ่มด้วยผลต่างประตูได้–เสียที่ดีกว่าจีน แต่ปอลกิงก็ถูกปลด

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยประกาศแต่งตั้งมาซาตาดะ อิชิอิ เป็นผู้ฝึกสอนคนใหม่ โดยอิชิอิถือเป็นผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่นคนที่สองต่อจากนิชิโนะที่ได้คุมทีมชาติไทย เขาพาทีมลงแข่งขันนัดแรกในเกมกระชับมิตรพบทีมชาติญี่ปุ่น และแพ้ไปอย่างขาดลอยด้วยผลประตู 0–5 ตามด้วยการลงแข่งขันเอเชียนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ โดยทีมไทยอยู่ร่วมกลุ่มกับคีร์กีซสถาน, โอมาน และซาอุดีอาระเบีย ทีมชาติไทยลงประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเอาชนะคีร์กีซสถานด้วยผลประตู 2–0 ซึ่งถือเป็นชัยชนะในนัดเปิดสนามเป็นครั้งแรกในรายการนี้ ในนัดต่อมา ทีมชาติไทยพบกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าอย่างโอมานซึ่งคุมทีมโดยบรันกอ อิวานกอวิช ผู้ฝึกสอนชาวโครเอเชีย ผู้มีประสบการณ์ในด้านการคุมทีมในทวีปเอเชีย และไม่เคยแพ้ทีมไทยตลอดอาชีพการคุมทีม และการแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอ 0–0 และในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทีมไทยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดครั้งหนึ่งในการแข่งขันเอเชียนคัพสมัยใหม่ โดยเสมอทีมใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย 0–0 รวมทั้งรอดพ้นการเสียประตูจากการป้องกันลูกโทษโดยสรานนท์ อนุอินทร์ ยุติการแพ้ซาอุดีอาระเบียอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 อย่างไรก็ตาม ทีมไทยต้องยุติเส้นทางด้วยการแพ้อุซเบกิสถานในรอบ 16 ทีมด้วยผลประตู 1–2 แม้จะตกรอบแต่ทีมชุดนี้ก็ได้รับเสียงชื่นชมในด้านวิธีการเล่น และผู้ฝึกสอนอย่างอิชิอิได้รับการยกย่องในด้านการวางรูปแบบการเล่น โดยอิชิอิได้รับสัญญาระยะยาวเพื่อช่วยทีมผ่านเข้ารอบสองรายการสำคัญ ได้แก่ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และ เอเชียน คัพ 2027

ภาพลักษณ์ทีม

ชุดแข่งขัน

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
ชุดแข่งขันของทีมชาติไทยในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน พ.ศ. 2511

แต่เดิมชุดแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดที่หนึ่งประกอบด้วย เสื้อสีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดง ส่วนชุดที่สองประกอบด้วย เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำเงิน และ ถุงเท้าสีน้ำเงิน เอฟบีทีเป็นผู้ผลิตชุดแข่งขันตั้งแต่ปี 2545–2550 ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 ไนกี้ เข้ามาเป็นผู้ผลิตชุดแข่งขันของทีมชาติไทย และในเดือนตุลาคม สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่งไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นเสื้อสีเหลือง กางเกงสีเหลือง และถุงเท้าสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 ที่ประชุมกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติให้ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่งไปยังฟีฟ่า กลับมาเป็นเสื้อสีแดง กางเกงสีแดงและถุงเท้าสีแดงอีกครั้ง

ทีมชาติไทยเซ็นสัญญากับแกรนด์สปอร์ตด้วยสัญญามูลค่า 96 ล้านบาทในการเป็นผู้ผลิตชุดแข่งขันตั้งแต่ปี 2555–2559 และในปี 2560 วอริกซ์ สปอร์ตเข้ามาเป็นผู้ผลิตชุดแข่งขันรายล่าสุดจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนั้น สมาคมฯ ได้ขอทางฟีฟ่าเปลี่ยนสีเสื้อทั้งเหย้าและเยือนเป็นสีดำและขาว เพื่อเป็นการถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของรัชกาลที่ 9 เป็นเวลา 1 ปี

ถัดมาในปี 2561 ทีมชาติไทยทำการเปิดตัวชุดแข่งขันทีมเหย้าสีน้ำเงิน, ชุดทีมเยือนสีแดง รวมถึงชุดแข่งขันที่สามซึ่งเป็นสีขาว/ดำ เพื่อใช้ในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 รวมถึงฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 และในปีเดียวกันนั้น วอริกซ์ได้เปิดตัวชุดแข่งขันใหม่อีกครั้งเป็นเสื้อสีเหลืองและกางเกงสีขาว เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562.

สัญลักษณ์บนอกเสื้อของนักฟุตบอลทีมชาติอย่าง “โลโก้ช้างศึก” เป็นภาพลักษณ์สำคัญอีกประการหนึ่ง โดยสัญลักษณ์นี้ออกแบบมาด้วยความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ตัวช้างศึกมีสัณฐานที่สง่างาม แข็งแรง และน่าเกรงขาม แต่ก่อนที่จะมีโลโก้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ทีมชาติไทยเคยใช้ตราสัญลักษณ์แบบอื่นมาก่อน โลโก้แรกสุดคือ “ตราพระมหามงกุฎ” ที่ได้รับพระราชทานเมื่อปี พ.ศ. 2458 ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “ธงไตรรงค์” ในปี พ.ศ. 2475  และก็ได้เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์ “ช้างศึก (ช้างน้อย)” ในปี พ.ศ. 2545 เพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้นผนวกกับความต้องการให้สื่อถึงประเทศไทยและมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นก็มีการปรับปรุงโลโก้อยู่หลายครั้ง เช่น การเพิ่มงา การปรับแถบสีธงชาติ การปรับตัวอักษร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2560 ก็มีการออกแบบตราสัญลักษณ์ช้างศึกอันโดดเด่นขึ้นมาใหม่ และด้วยเหตุนี้เองที่นักเตะทุกคนได้รับฉายานามว่าเป็นช้างศึกหรือขุนพลของไทย

นอกจากนี้ทีมชาติไทยยังมีภาพลักษณ์ที่เป็นสีสีนท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดอย่าง “มาสคอตไทยลีก” ซึ่งล่าสุดในปี พ.ศ. 2565 ได้ออกแบบให้มีรูปร่างเป็นช้างน้อยสุดน่ารักสอดคล้องกับฉายาขุนพลช้างศึกที่มีชื่อเล่นว่า “น้องจอมทัพ” โดยจะปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มทุกครั้งก่อนนักกีฬาลงสนามเพื่อมอบความสุขให้กับบรรดาแฟน ๆ กีฬาทุกคน มาสคอตตัวนี้กลายเป็นลายเซ็นอันโดดเด่นของฟุตบอลทีมชาติไทยที่คอยมอบบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและสร้างเสียงเชียร์อยู่เบื้องหลัง และจะกลายเป็นตัวแทนจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งและความสำเร็จของทีมไทยไม่ต่างจากมาสคอตฟุตบอลโลกที่เป็นตำนานมาแล้ว

ผู้ผลิตชุดแข่งทีมชาติไทย
ปี ผู้ผลิต ชุดแข่ง
2545–2550 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอฟบีที
  • 2545 (เหย้า–เยือน)
  • 2546–2547 (เหย้า–เยือน)
  • 2547-2548 (เหย้า–เยือน)
  • 2549–2550 (เหย้า–เยือน)
2550–2554 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ไนกี
  • เอเชียนคัพ 2550 (เหย้า–เยือน)
  • 2550 (ชุดที่สาม)
  • 2551–2553 (เหย้า–เยือน)
  • 2553–2555 (เหย้า–เยือน)
2555–2559 ฟุตบอลทีมชาติไทย  แกรนด์สปอร์ต
  • 2555–2557 (เหย้า–เยือน)
  • 2557–2559 (เหย้า–เยือน)
  • คิงส์คัพ 2559
  • 2559 (เหย้า–เยือน)
2560–2571 ฟุตบอลทีมชาติไทย  วอริกซ์
  • 2560–2563 (เหย้า–เยือน–ชุดที่สาม)
  • 2564–2571 (เหย้า–เยือน–ชุดที่สาม)

สนามเหย้า

ปัจจุบันทีมชาติไทยใช้ราชมังคลากีฬาสถานเป็นสนามเหย้า ความจุ 49,722 ที่นั่ง เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2541 เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 1998 โดยทีมชาติไทยลงแข่งขัน ณ สนามแห่งนี้เป็นครั้งแรกในนัดที่เสมอกับทีมชาติคาซัคสถาน 1–1 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ซึ่งในยุคนั้นยังมีการใช้สนามเหย้าทั้งกรีฑาสถานแห่งชาติ และราชมังคลากีฬาสถานสำหรับเกมนานาชาติสลับหมุนเวียนไป ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ราชมังคลากีฬาสถานเป็นสนามเหย้าของทีมชาติไทยในเกมระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียว (อาจใช้สนามแห่งอื่นในบางโอกาส)

สนามที่ฟุตบอลทีมชาติไทยเคยใช้งาน
รูปภาพ สนาม ความจุ ที่ตั้ง เกมล่าสุดที่ใช้งาน
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ราชมังคลากีฬาสถาน 49,722 เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
(สนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้
(26 มีนาคม 2567; ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี 25,000 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
(สนามเหย้าของเชียงใหม่)
v ฟุตบอลทีมชาติไทย  อิรัก (10 กันยายน 2566; ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ รังสิต 25,000 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
(สนามเหย้าของทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด)
v ฟุตบอลทีมชาติไทย  เวียดนาม
(16 มกราคม 2566; ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจีสเตเดียม 10,114 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
(สนามเหย้าของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  บาห์เรน
(31 พฤษภาคม 2565; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย 
สนามกีฬากลางจังหวัดศรีสะเกษ 9,773 อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

(สนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย)

v   ฟุตบอลทีมชาติไทย  เติร์กเมนิสถาน
(27 พฤษภาคม 2565; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ชลบุรีสเตเดียม 8,600 อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

(สนามเหย้าของ ชลบุรี)

v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เนปาล
(24 มีนาคม 2565; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ช้างอารีนา 32,600 อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
(สนามเหย้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  อินเดีย
(8 มิถุนายน 2562; ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี 15,000 อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
(สนามเหย้าของสุพรรณบุรี)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  ตรินิแดดและโตเบโก
(14 ตุลาคม 2561; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสซีจี สเตเดียม 15,000 อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
(สนามเหย้าของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เคนยา
(8 ตุลาคม 2560; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ 19,793 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
(ภายใต้การดูแลของกรมพลศึกษา)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้
(27 มีนาคม 2559; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 24,641 อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
(สนามเหย้าของนครราชสีมา มาสด้า)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์
(26 มีนาคม 2558; เกมกระชับมิตร)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามสุระกุล 15,000 อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
(สนามเหย้าของ ภูเก็ต)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  มาเลเซีย
(10 ธันวาคม 2551; เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008)
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สนามกีฬาติณสูลานนท์ 45,000 อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
(สนามเหย้าของ สงขลา)
v  ฟุตบอลทีมชาติไทย  จีน
(19 ธันวาคม 2541; เอเชียนเกมส์ 1998)

ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ

ในปี 2565 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เตรียมการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติแบบครบวงจรแห่งใหม่ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 300 ไร่ ในโครงการ FIFA Forward 3.0 ต่อ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ภายในจะพื้นที่ศูนย์ฝึกจะประกอบไปด้วยสนามฟุตบอลมาตรฐานระดับฟีฟ่าตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ อาคารที่พัก อาคารสำนักงาน อาคารสำหรับวิจัยวิทยาศาสตร์การกีฬา และพื้นที่สาธารณะให้กับชุมชน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความสามารถ สนับสนุนกิจกรรมทุกด้าน และเตรียมความพร้อมให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง นักกีฬาเยาวชน ผู้ฝึกสอน กรรมการผู้ตัดสิน นักกายภาพบำบัด และการฝึกอบรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลในระดับภูมิภาค

คู่แข่งสำคัญ

ทีม ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ผลต่าง เปอร์เซ็นต์ชนะ
ฟุตบอลทีมชาติไทย  จีน 29 5 5 19 25 63 −38 017.24
ฟุตบอลทีมชาติไทย  มาเลเซีย 97 29 31 37 136 140 −4 029.90
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อินโดนีเซีย 71 34 19 18 127 84 +43 047.89
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์ 63 34 17 12 109 62 +47 053.97
ฟุตบอลทีมชาติไทย  พม่า 50 22 14 14 99 62 +37 044.00
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เวียดนามใต้ 27 4 3 20 27 58 −31 014.81
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อุซเบกิสถาน 11 6 0 5 23 20 +3 054.55
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เวียดนาม 26 15 8 3 45 19 +26 057.69

ทีมชาติไทยมีคู่ปรับสำคัญในสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และพม่า

มาเลเซียเป็นชาติที่มีสถิติการพบกับทีมชาติไทยมากที่สุดจำนวน 97 ครั้ง โดยก่อนที่มาเลเซียจะประสบเหตุการณ์อื้อฉาวจากการติดสินบนการแข่งขันภายในประเทศในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งทำให้วงการฟุตบอลมาเลเซียตกต่ำลงนั้น พวกเขาถือเป็นคู่แข่งสำคัญที่ทีมไทยเอาชนะได้ยากที่สุด และไทยไม่สามารถบุกไปชนะที่ประเทศมาเลเซียได้เลยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา และมาเลเซียยังมีสถิติการพบกันในทุกรายการที่เหนือกว่าทีมชาติไทย โดยเอาชนะไปได้ 37 ครั้ง, เสมอ 31 ครั้ง และแพ้ 29 ครั้ง

สิงคโปร์ถือเป็นชาติคู่แข่งของทีมชาติไทยมาหลายทศวรรษเช่นกัน โดยสิงคโปร์เป็นชาติที่ชนะเลิศรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนมากที่สุดเป็นอันดับสอง (4 สมัย) รองจากไทย (7 สมัย) และทั้งคู่ต่างก็เป็นหนึ่งในมหาอำนาจในภูมิภาคตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1990 ทีมไทยมีสถิติการพบกันที่เหนือกว่า โดยชนะ 34 ครั้ง, เสมอ 17 ครั้ง และแพ้ 12 ครั้ง นโยบายการพัฒนาทีมฟุตบอลของทั้งสองชาตินั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง โดยทีมไทยอาศัยการพัฒนาผู้เล่นในประเทศเป็นหลัก ในขณะที่สิงคโปร์เน้นนโยบายการพึ่งพานักเตะต่างชาติซึ่งโอนสัญชาติ

การแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทยกับเวียดนาม ได้ยกระดับความเข้มข้นขึ้นตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ในอดีตตั้งแต่ช่วงที่เวียดนามแยกประเทศ และมีทีมฟุตบอลสองทีมคือเวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ ไทยมีสถิติการพบกันที่เป็นรองเวียดนามใต้อย่างมาก โดยเอาชนะได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้นจาก 27 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ทีมไทยมีสถิติที่เหนือกว่าเวียดนามมากนับตั้งแต่มีการรวมประเทศเวียดนาม โดยเอาชนะได้ 15 ครั้ง แพ้เพียง 3 ครั้ง แต่เวียดนามก็ถือเป็นชาติที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแย่งความสำเร็จจากทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนได้ รวมทั้งแย่งการเป็นทีมอันดับหนึ่งในภูมิภาคในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชัยชนะที่สำคัญที่เวียดนามมีต่อทีมชาติไทยคือรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2008

สงครามพม่า–สยาม ส่งผลให้การแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยและพม่ามีความเข้มข้นมาถึงปัจจุบัน พม่าเคยเป็นทีมมหาอำนาจในภูมิภาคในช่วงทศวรรษ 1960–70 ก่อนจะตกต่ำลงจากสถานการณ์ในประเทศในยุคของเนวี่น การพัฒนากีฬาฟุตบอลของพม่าก็ชะงักลง ทำให้ทีมไทยมีผลงานที่เหนือกว่ามากในปัจจุบัน ทั้งในแง่ของความสำเร็จและผลการแข่งขันระหว่างสองทีม

อินโดนีเซียพบกับทีมชาติไทยในรายการสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2000, 2002, 2016 และ 2020 ซึ่งทีมชาติไทยสามารถเอาชนะและคว้าแชมป์ไปได้ทั้ง 4 ครั้ง และไทยมีสถิติที่เหนือกว่าในการพบกันทุกรายการ โดยชนะ 34 ครั้ง, เสมอ 19 ครั้ง และแพ้ 18 ครั้ง

จีนกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของทีมชาติไทยหลังหมดยุคทองของทีมชาติจีนในทศวรรษที่ 2000 และหลังจากที่ไทยลีกได้โควตาสัมประสิทธิ์อัตโนมัติในศึกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในระดับสโมสร จีนกลายเป็นคู่ปรับสำคัญในการแย่งชิงโควตาระดับสโมสรเอเชีย ประกอบกับปัญหาการจัดการภายในของสมาคมฟุตบอลจีน ทำให้ทั้งสองชาติร่นระดับกลายเป็นคู่แข่งที่สูสีกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จีนยังคงมีผลงานที่ดีกว่าในการแข่งขันระดับทางการ แต่ไทยก็สามารถเอาชนะจีนในการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับทางการในวันฟีฟ่าเดย์ได้หลายครั้งเช่นกัน

หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อุซเบกิสถานกลายเป็นประเทศที่พัฒนาในด้านฟุตบอลก้าวหน้าได้ไวที่สุดเมื่อเทียบกับทีมฟุตบอลในภูมิภาคเอเชียกลางทั้งหมด พวกเขาได้เหรียญทองในเอเชียนเกมส์ 1994 ที่ฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ทีมชาติไทยก้าวกระโดดขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1990 จึงทำให้อุซเบกิสถานกลายเป็นคู่ปรับกลาย ๆ ต่อกันกับทีมชาติไทย แม้จะไม่มีความขัดแย้งกันทางประวัติศาสตร์ก็ตาม โดยไทยมีสถิติชนะมากกว่าหนึ่งนัด คือชนะ 6 แพ้ 5 เมื่อพบกับอุซเบกิสถาน

บุคลากร

ผู้ฝึกสอนปัจจุบัน

    ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
ตำแหน่ง ชื่อ
ผู้อำนวยการเทคนิค ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรงยศ กลิ่นศรีสุข
หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลทีมชาติไทย  มาซาตาดะ อิชิอิ
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ฟุตบอลทีมชาติไทย  มิซูโอะ คาโตะ
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู ฟุตบอลทีมชาติไทย  เซาโล เอเดรียน
ผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนส ฟุตบอลทีมชาติไทย  กฤตพจน์ แดงกุลา
นักวิเคราะห์เกม ฟุตบอลทีมชาติไทย  นฤเบศ แสงสว่าง
ล่ามแปลภาษา ฟุตบอลทีมชาติไทย  เฉลิมชัย ชินเชิดพงษ์
แพทย์ประจำทีม ฟุตบอลทีมชาติไทย  นพ. ภคภณ อิสรไกรศีล
ฟุตบอลทีมชาติไทย  นพ. กีรติ สุรการ
นักกายภาพ ฟุตบอลทีมชาติไทย  โยเฮ ชิรากิ
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สุวิชชา นอรดี
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ภาณุวัฒน์ ชุติโชติลิ่มสกุล
หมอนวด ฟุตบอลทีมชาติไทย  อำนวย สักเล็บประดู่
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรงวุฒิ ขำฟุ้ง
เจ้าหน้าที่ทีม ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิริชัย กิโมโต
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สุพัฒน์ พลยุทธภูมิ
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ศุภกิตติ์ วิเศษอนุพงษ์
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ศรายุทธ กล่ำถาวร

ผู้เล่น

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

รายชื่อผู้เล่น 23 คน สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2 พบกับ ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้ ในวันที่ 21 และ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

จำนวนนัดที่ลงเล่นให้ทีมชาติและจำนวนประตูที่ยิงได้นับถึงวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567 หลังแข่งขันกับ ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้

0#0 ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร
1 1GK ปฏิวัติ คำไหม (1994-12-24) 24 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 11 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
20 1GK สรานนท์ อนุอินทร์ (1994-03-24) 24 มีนาคม ค.ศ. 1994 (30 ปี) 1 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เชียงราย ยูไนเต็ด
23 1GK บุญเกียรติ วงค์ษาแจ่ม (1994-06-29) 29 มิถุนายน ค.ศ. 1994 (29 ปี) 0 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  อุทัยธานี

3 2DF ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม) (1990-02-06) 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (34 ปี) 103 7 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
17 2DF พรรษา เหมวิบูลย์ (1990-07-08) 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 (33 ปี) 46 6 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
21 2DF ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (1993-10-10) 10 ตุลาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 20 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ
4 2DF เอเลียส ดอเลาะ (1993-04-24) 24 เมษายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 16 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บาหลี ยูไนเต็ด
16 2DF สุพรรณ ทองสงค์ (1994-08-26) 26 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 15 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
12 2DF นิโคลัส มิคเกลสัน (1999-07-24) 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 (24 ปี) 12 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  โอเดนเซ
2 2DF สันติภาพ จันทร์หง่อม (1996-09-23) 23 กันยายน ค.ศ. 1996 (27 ปี) 3 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

6 3MF สารัช อยู่เย็น (1992-05-30) 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 81 6 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
18 3MF ชนาธิป สรงกระสินธ์ (1993-10-05) 5 ตุลาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 65 12 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
15 3MF ปกเกล้า อนันต์ (1991-03-04) 4 มีนาคม ค.ศ. 1991 (33 ปี) 47 6 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
11 3MF บดินทร์ ผาลา (1994-12-20) 20 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 41 6 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ
7 3MF สุภโชค สารชาติ (1998-05-22) 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 34 8 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ฮกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโระ
5 3MF กฤษดา กาแมน (1999-03-18) 18 มีนาคม ค.ศ. 1999 (25 ปี) 32 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
22 3MF วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (1996-09-19) 19 กันยายน ค.ศ. 1996 (27 ปี) 31 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด
8 3MF พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (1992-09-15) 15 กันยายน ค.ศ. 1992 (31 ปี) 23 2 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
13 3MF เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (1997-05-18) 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 (26 ปี) 13 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด
14 3MF รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (1992-05-17) 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 7 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด

9 4FW ศุภชัย ใจเด็ด (1998-12-01) 1 ธันวาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 37 7 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
10 4FW ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (2002-08-02) 2 สิงหาคม ค.ศ. 2002 (21 ปี) 19 7 ฟุตบอลทีมชาติไทย  โอฮา เลอเฟิน
19 4FW ปรเมศย์ อาจวิไล (1998-10-20) 20 ตุลาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 11 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่เคยถูกเรียกตัว

รายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยในรอบ 12 เดือนล่าสุด:

ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร ถูกเรียกครั้งล่าสุด
GK ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (1984-04-20) 20 เมษายน ค.ศ. 1984 (40 ปี) 33 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2023
GK กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (1992-07-29) 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1992 (31 ปี) 10 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ราชบุรี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์, 21 พฤศจิกายน 2566
GK จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ (1998-07-26) 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1998 (25 ปี) 0 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ขอนแก่น ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
GK สุเมธี โคกโพธิ์ (1998-11-05) 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1998 (25 ปี) 0 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
GK ฉัตรชัย บุตรพรม (1987-02-04) 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 (37 ปี) 19 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49
GK สมพร ยศ (1993-06-23) 23 มิถุนายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 0 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 28 มีนาคม 2566

DF จักพัน ไพรสุวรรณ (1994-08-16) 16 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 12 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2023
DF ทริสตอง โด (1993-01-31) 31 มกราคม ค.ศ. 1993 (31 ปี) 51 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์, 21 พฤศจิกายน 2566
DF เฉลิมศักดิ์ อักขี (1994-08-25) 25 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 9 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์, 21 พฤศจิกายน 2566
DF นิติพงษ์ เสลานนท์ (1993-05-25) 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 6 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์, 21 พฤศจิกายน 2566
DF เควิน ดีรมรัมย์ (1997-09-11) 11 กันยายน ค.ศ. 1997 (26 ปี) 4 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์, 21 พฤศจิกายน 2566
DF มานูเอล บีร์ (1993-09-17) 17 กันยายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 20 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  จีน, 16 พฤศจิกายน 2566
DF เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด (2002-04-17) 17 เมษายน ค.ศ. 2002 (22 ปี) 1 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  อุทัยธานี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
DF ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (2002-05-09) 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 (21 ปี) 4 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ชลบุรี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
DF อดิศร พรหมรักษ์ (1993-10-21) 21 ตุลาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 32 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ราชบุรี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
DF พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (1993-02-04) 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 (31 ปี) 36 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49

MF ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (1994-04-21) 21 เมษายน ค.ศ. 1994 (29 ปี) 24 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ เอเชียนคัพ 2023
MF วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (1997-08-24) 24 สิงหาคม ค.ศ. 1997 (26 ปี) 17 2 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ เอเชียนคัพ 2023
MF ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (2001-04-17) 17 เมษายน ค.ศ. 2001 (23 ปี) 14 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ชลบุรี เอเชียนคัพ 2023
MF พิชา อุทรา (1996-01-07) 7 มกราคม ค.ศ. 1996 (28 ปี) 9 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด เอเชียนคัพ 2023
MF เอกนิษฐ์ ปัญญา (1999-10-21) 21 ตุลาคม ค.ศ. 1999 (24 ปี) 20 1 ฟุตบอลทีมชาติไทย  อูราวะ เรดไดมอนส์ เอเชียนคัพ 2023WD
MF พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล (1995-02-01) 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1995 (29 ปี) 26 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  ญี่ปุ่น, 1 มกราคม 2567
MF เบน เดวิส (2000-11-24) 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 (23 ปี) 1 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ชลบุรี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
MF ชานุกูล ก๋ารินทร์ (1997-04-24) 24 เมษายน ค.ศ. 1997 (26 ปี) 3 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
MF จักรกฤษ ลาภตระกูล (1994-12-02) 2 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 3 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  พีที ประจวบ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
MF ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท (2001-05-09) 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 (22 ปี) 1 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  เมืองทอง ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
MF อาทิตย์ เบิร์ก (1998-01-11) 11 มกราคม ค.ศ. 1998 (26 ปี) 2 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  นครปฐม ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย, 17 ตุลาคม 2566
MF ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (1993-09-01) 1 กันยายน ค.ศ. 1993 (30 ปี) 56 7 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49
MF ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (1993-05-17) 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 3 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 28 มีนาคม 2566

FW ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (2002-09-21) 21 กันยายน ค.ศ. 2002 (21 ปี) 9 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  การท่าเรือ เอเชียนคัพ 2023
FW ยศกร บูรพา (2005-06-08) 8 มิถุนายน ค.ศ. 2005 (18 ปี) 2 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ชลบุรี v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  ญี่ปุ่น, 1 มกราคม 2567
FW ธีรศิลป์ แดงดา (1988-06-06) 6 มิถุนายน ค.ศ. 1988 (35 ปี) 127 64 ฟุตบอลทีมชาติไทย  บีจี ปทุม ยูไนเต็ด v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  ญี่ปุ่น, 1 มกราคม 2567INJ
FW อนันต์ ยอดสังวาลย์ (2001-07-09) 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2001 (22 ปี) 0 0 ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลำพูน วอร์ริเออร์ v. ฟุตบอลทีมชาติไทย  ฮ่องกง, 19 มิถุนายน 2566

INJ ผู้เล่นที่ถูกเรียกแต่ถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
PRE ผู้เล่นชุดเบื้องต้น
RET ผู้เล่นที่เลิกเล่นให้กับทีมชาติ
WD ผู้เล่นที่ถูกเรียกแต่ถอนตัวเนื่องจากปัญหาส่วนตัว

กัปตันทีม

หมายเลขเสื้อ ผู้เล่น ดำรงตำแหน่ง
5 กฤษดา กาแมน พ.ศ. 2566–

ฟุตบอลกระชับมิตร อุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ พบ ทีมชาติจอร์เจีย และ ทีมชาติเอสโตเนีย

18 ชนาธิป สรงกระสินธ์ พ.ศ. 2564 (ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020), พ.ศ. 2565–
10 ธีรศิลป์ แดงดา พ.ศ. 2564 (ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020)
23 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน พ.ศ. 2562-2564 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก
4

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
1 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ พ.ศ. 2560–2561
10 ธีรศิลป์ แดงดา พ.ศ. 2559–รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016, พ.ศ. 2562–
3 ธีราทร บุญมาทัน พ.ศ. 2558– ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย
19 อดุลย์ หละโสะ พ.ศ. 2557–2558
18 สินทวีชัย หทัยรัตนกุล พ.ศ. 2556–2557
2 ภานุพงศ์ วงศ์ษา พ.ศ. 2555–2556
6 ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ พ.ศ. 2553–2554
7 ดัสกร ทองเหลา พ.ศ. 2551–2552
10 ตะวัน ศรีปาน พ.ศ. 2550–2551
17 สุธี สุขสมกิจ พ.ศ. 2549
1

5

กิตติศักดิ์ ระวังป่า

นิเวส ศิริวงศ์

พ.ศ. 2549, พ.ศ. 2551
6 รุ่งโรจน์ สว่างศรี พ.ศ. 2547–2548
8 เทิดศักดิ์ ใจมั่น พ.ศ. 2546
12 สุรชัย จิระศิริโชติ พ.ศ. 2545
13 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พ.ศ. 2544–พ.ศ. 2545, พ.ศ. 2547, พ.ศ. 2550
5 โชคทวี พรหมรัตน์ พ.ศ. 2542–พ.ศ. 2543, พ.ศ. 2546
7 นที ทองสุขแก้ว พ.ศ. 2539–พ.ศ. 2541
14 วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ พ.ศ. 2538
9 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พ.ศ. 2536

ทำเนียบผู้ฝึกสอน

หัวหน้าผู้ฝึกสอนตั้งแต่ พ.ศ. 2499–ปัจจุบัน

ชื่อ สัญชาติ ช่วงเวลา สถิติ ผลงาน
แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ Win %
บุญชู สมุทรโคจร ฟุตบอลทีมชาติไทย  2499–2507 ? ? ? ? ?
ประเทียบ เทศวิศาล ฟุตบอลทีมชาติไทย  2508–2511 ? ? ? ? ?
กึนเทอร์ กลอมบ์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2511–2518 ? ? ? ? ? โอลิมปิกฤดูร้อน 1968 - รอบแบ่งกลุ่ม

เอเชียนคัพ 1972 - อันดับ 3

เนาวรัตน์ ปทานนท์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2518 ? ? ? ? ?
เพเทอร์ ชนิทเกอร์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2519–2521 ? ? ? ? ?
แวร์เนอร์ บิคเคลเฮาพท์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2522 ? ? ? ? ?
วิชิต แย้มบุญเรือง ฟุตบอลทีมชาติไทย  2522 ? ? ? ? ?
ศุภกิจ มีลาภกิจ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2523 ? ? ? ? ?
ประวิทย์ ไชยสาม ฟุตบอลทีมชาติไทย  2524–2526 ? 2 3 ? ?
ยรรยง ณ หนองคาย ฟุตบอลทีมชาติไทย  2526 ? 2 3 ? ?
เสนอ ไชยยงค์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2527 ? 2 3 ? ?
บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2528–2529 ? ? ? ? ?
เชิดศักดิ์ ชัยบุตร ฟุตบอลทีมชาติไทย  2530 ? ? ? ? ?
ประวิทย์ ไชยสาม ฟุตบอลทีมชาติไทย  2531–2532 ? ? ? ? ?
การ์ลูส โรเบร์ตู จี การ์วัลยู ฟุตบอลทีมชาติไทย  2532–2534 ? ? ? ? ? ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 20ชนะเลิศ
เอเชียนเกมส์ 1990 - อันดับ 4
ปีเตอร์ สตัปป์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2534–2537 ? 6 2 1 ? เอเชียนคัพ 1992 - รอบแบ่งกลุ่ม
ซีเกมส์ 1993 - ชนะเลิศ
วรวิทย์ สัมปชัญญสถิตย์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2537 ? 2 3 ? ?
ชัชชัย พหลแพทย์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2537–2538 ? ? ? ? ? ซีเกมส์ 1995 - ชนะเลิศ
ธวัชชัย สัจจกุล ฟุตบอลทีมชาติไทย  2539 ? ? ? ? ? ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 1996 - ชนะเลิศ
อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2539 15 9 3 3 60.0 เอเชียนคัพ 1996 - รอบแบ่งกลุ่ม
เด็ทมาร์ คราเมอร์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2540 ? ? ? ? ?
วิทยา เลาหกุล ฟุตบอลทีมชาติไทย  2540–2541 24 10 9 5 41.7 ซีเกมส์ 1997 - ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 1998 - อันดับ 4
ปีเตอร์ วิธ ฟุตบอลทีมชาติไทย  2541–2546 101 46 25 30 45.5 เอเชียนเกมส์ 1998 - อันดับ 4
ซีเกมส์ 1999 - ชนะเลิศ
เอเชียนคัพ 2000 - รอบแบ่งกลุ่ม
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2000 - ชนะเลิศ
คิงส์คัพ 2000 - ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2002 - ชนะเลิศ
เอเชียนเกมส์ 2002 - อันดับ 4
การ์ลูส โรเบร์ตู จี การ์วัลยู ฟุตบอลทีมชาติไทย  2546–2547 13 6 2 5 46.1
ชัชชัย พหลแพทย์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  มิถุนายน – สิงหาคม 2547 8 2 1 5 25.0 เอเชียนคัพ 2004 - รอบแบ่งกลุ่ม
ซีคฟรีท เฮ็ลท์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงหาคม 2547–2548 11 4 4 3 36.4 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2004 - รอบแบ่งกลุ่ม
ชาญวิทย์ ผลชีวิน ฟุตบอลทีมชาติไทย  2548–มิถุนายน 2551 39 18 11 10 46.1 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 37 - ชนะเลิศ
2006 T&T Cup - ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 - ชนะเลิศ
เอเชียนคัพ 2007 - รอบแบ่งกลุ่ม
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2007- รองชนะเลิศ
ปีเตอร์ รีด ฟุตบอลทีมชาติไทย  กันยายน 2551–กันยายน 2552 15 8 4 3 53.3 2008 T&T Cup - ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2008 - รองชนะเลิศ
ไบรอัน ร็อบสัน ฟุตบอลทีมชาติไทย  กันยายน 2552–มิถุนายน 2554 18 7 4 7 38.8 ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป คัพ 2009 (รายการการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมสโมสร)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2010 – รอบแบ่งกลุ่ม
วินฟรีท เชเฟอร์ ฟุตบอลทีมชาติไทย  กรกฎาคม 2554–มิถุนายน 2556 28 14 6 8 50.0 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 – อันดับ 4
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2012 – รองชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 – อันดับ 3
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กรกฎาคม 2556–31 มีนาคม 2560 42 21 7 14 50.0 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 – รองชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2014ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2016ชนะเลิศ
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบ 12 ทีม
มิลอวัน ราเยวัตส์
ฟุตบอลทีมชาติไทย  5 พฤษภาคม 2560–7 มกราคม 2562 20 8 7 5 40.0 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 – รองชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 – รอบรองชนะเลิศ
เอเชียนคัพ 2019 (นัดที่ 1)
ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  7 มกราคม 2562–14 มิถุนายน 2562 7 2 1 4 28.0 เอเชียนคัพ 2019 – รอบ 16 ทีม
ไชนาคัพ 2019 – รองชนะเลิศ

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 – อันดับ 4

อากิระ นิชิโนะ ฟุตบอลทีมชาติไทย  17 กรกฎาคม 2562–29 กรกฎาคม 2564 11 2 5 4 18.2 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2
อาเลชังดรี ปอลกิง ฟุตบอลทีมชาติไทย  28 กันยายน 2564–22 พฤศจิกายน 2566 37 21 8 8 56.8 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020ชนะเลิศ

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 – อันดับ 3
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022 – ชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 – รองชนะเลิศ

มาซาตาดะ อิชิอิ ฟุตบอลทีมชาติไทย  22 พฤศจิกายน 2566– 6 1 3 2 16.7 ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
เอเชียนคัพ 2023 – รอบ 16 ทีม

การแข่งขัน

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
ทีมชาติที่เคยแข่งขันพบกับไทย (เน้นสีเขียว)

สถิติการแข่งขันแบบเฮดทูเฮด

ผลการแข่งขันเฮดทูเฮดของทีมชาติไทย
ทีม ตั้งแต่ ถึง ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง สมาพันธ์
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อัฟกานิสถาน 2015 2015 1 1 0 0 2 0 +2 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ออสเตรเลีย 1982 2017 7 0 1 6 4 17 −13 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บาห์เรน 1980 2022 9 2 4 3 9 11 −2 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บังกลาเทศ 1973 2012 14 9 3 2 29 11 +18 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เบลารุส 2017 2017 1 0 1 0 0 0 0 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ภูฏาน 2012 2012 1 1 0 0 5 0 +5 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บราซิล 2000 2000 1 0 0 1 0 7 −7 CONMEBOL
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บรูไน 1971 2022 8 7 1 0 38 5 +33 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  บัลแกเรีย 1968 1996 2 0 0 2 0 13 −13 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กัมพูชา 1957 2023 16 9 5 2 39 18 +21 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  แคเมอรูน 2015 2015 1 0 0 1 2 3 −1 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  จีน 1975 2023 29 5 5 19 25 63 −38 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  จีนไทเป 1963 2023 11 4 2 5 18 19 −1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สาธารณรัฐคองโก 2019 2019 1 0 1 0 1 1 0 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เช็กเกีย 1968 1968 1 0 0 1 0 8 −8 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เดนมาร์ก 2009 2010 2 0 1 1 2 5 −3 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อียิปต์ 1998 1998 1 0 1 0 1 1 0 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เอสโตเนีย 2000 2023 3 1 2 0 3 2 +1 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ฟินแลนด์ 1996 2000 4 3 1 0 11 3 +8 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กาบอง 2018 2018 1 0 1 0 0 0 0 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  จอร์เจีย 2023 2023 1 0 0 1 0 8 −8 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เยอรมนี 2004 2004 1 0 0 1 1 5 −4 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กานา 1982 1983 2 0 0 2 2 6 −4 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กัวเตมาลา 1968 1968 1 0 0 1 1 4 −3 CONCACAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ฮ่องกง 1961 2023 27 10 6 11 40 33 +7 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อินเดีย 1962 2019 23 11 6 6 37 26 +11 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อินโดนีเซีย 1957 2022 72 34 20 18 128 85 +43 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อิหร่าน 1972 2013 14 0 3 11 5 32 −27 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อิรัก 1972 2023 18 2 6 10 20 47 −27 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อิสราเอล 1973 1973 1 0 0 1 0 6 −6 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ญี่ปุ่น 1962 2024 30 3 6 21 25 76 −51 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  จอร์แดน 2004 2016 7 1 5 1 4 3 +1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  คาซัคสถาน 1998 2006 4 2 2 0 5 3 +2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เคนยา 1990 2017 2 2 0 0 3 1 +2 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  คูเวต 1972 2014 12 4 1 7 18 30 −12 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  คีร์กีซสถาน 2001 2024 2 2 0 0 5 1 +4 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลาว 1961 2010 14 12 1 1 50 15 +35 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลัตเวีย 2005 2005 1 0 1 0 1 1 0 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เลบานอน 1998 2023 8 4 2 2 14 16 −2 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ไลบีเรีย 1984 1984 1 0 0 1 1 2 −1 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลิเบีย 1977 1977 1 0 1 0 2 2 0 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลีชเทินชไตน์ 1981 1981 1 1 0 0 2 0 +2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ลักเซมเบิร์ก 1980 1980 1 0 0 1 0 1 −1 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  มาเก๊า 2007 2007 2 2 0 0 13 2 +11 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  มาเลเซีย 1959 2023 115 34 38 43 154 163 −9 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  มัลดีฟส์ 1996 2022 4 4 0 0 22 0 +22 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  มอลตา 1981 1981 1 0 0 1 0 2 −2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  โมร็อกโก 1980 1980 1 0 0 1 1 2 −1 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  พม่า 1957 2022 50 22 14 14 99 62 +37 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เนปาล 1982 2022 4 4 0 0 14 1 +13 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เนเธอร์แลนด์ 2007 2007 1 0 0 1 1 3 −2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  นิวซีแลนด์ 1976 2014 5 2 2 1 9 7 +2 OFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ไนจีเรีย 1983 1983 1 0 1 0 0 0 0 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ไอร์แลนด์เหนือ 1997 1997 1 0 1 0 0 0 0 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีเหนือ 1978 2017 20 5 4 11 18 32 −14 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  นอร์เวย์ 1965 2012 2 0 0 2 0 8 −8 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  โอมาน 1986 2024 13 5 2 6 11 10 1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ปากีสถาน 1960 2001 5 4 0 1 16 7 +9 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ปาเลสไตน์ 2011 2011 2 1 1 0 3 2 +1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ปาปัวนิวกินี 1984 1984 1 0 0 1 1 4 −3 OFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ฟิลิปปินส์ 1971 2022 23 19 2 2 71 11 +60 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  โปแลนด์ 2010 2010 1 0 0 1 1 3 −2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  กาตาร์ 1992 2016 11 4 3 4 15 15 0 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ซาอุดีอาระเบีย 1982 2024 17 1 2 14 9 42 −33 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สิงคโปร์ 1957 2023 64 35 17 12 112 63 +49 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สโลวาเกีย 2004 2018 2 0 1 1 3 4 −1 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  แอฟริกาใต้ 2010 2010 1 0 0 1 0 4 −4 CAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้ 1961 2024 63 8 13 42 44 124 −80 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ศรีลังกา 1979 2022 6 6 0 0 17 2 +15 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ซูรินาม 2022 2022 1 1 0 0 1 0 +1 CONCACAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สวีเดน 1962 2003 5 0 1 4 4 13 −9 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ซีเรีย 1978 2023 6 3 2 1 13 10 +3 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ทาจิกิสถาน 2003 2021 3 1 1 1 3 3 0 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ติมอร์-เลสเต 2004 2021 3 3 0 0 17 0 +17 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ตรินิแดดและโตเบโก 2003 2022 3 3 0 0 6 3 +3 CONCACAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  ตุรกี 1980 1980 1 0 0 1 0 2 −2 UEFA
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เติร์กเมนิสถาน 1998 2022 2 1 1 0 4 3 +1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1986 2023 13 2 3 8 12 21 −9 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  สหรัฐ 1987 1987 1 0 0 1 0 1 −1 CONCACAF
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อุรุกวัย 2019 2019 1 0 0 1 0 4 −4 CONMEBOL
ฟุตบอลทีมชาติไทย  อุซเบกิสถาน 1994 2024 11 6 0 5 23 20 +3 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เวียดนาม 1956 2023 56 20 13 23 76 77 -1 AFC
ฟุตบอลทีมชาติไทย  เยเมน 1988 2007 6 2 4 0 9 5 +4 AFC
83 ประเทศ 1948 2024 846 315 205 327 1291 1246 +45 ทั้งหมด
การแข่งขันนัดล่าสุด: พบทีมชาติเกาหลีใต้ ฟุตบอลทีมชาติไทย  26 มีนาคม 2024

ฟุตบอลโลก

ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ปี ผล อันดับ ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1930 -
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1970
ไม่ได้เข้าร่วม ไม่ได้คัดเลือก
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1974 ไม่ผ่านเข้ารอบ 4 0 0 4 0 13
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1978 4 1 0 3 8 12
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1982 3 0 1 2 3 13
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1986 6 1 2 3 4 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1990 6 1 0 5 2 14
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1994 8 4 0 4 13 7
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1998 4 1 1 2 5 6
ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย  2002 14 5 5 4 25 20
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2006 6 2 1 3 9 10
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2010 10 3 2 5 20 17
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2014 8 2 2 4 7 10
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2018 16 4 4 8 20 30
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2022 8 2 3 3 9 9
ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย  2026 กำลังคัดเลือก - - - - - - - 2 1 0 1 4 3
ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย  2030 ยังไม่ถึงกำหนดแข่งขัน - - - - - - -
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2034 ยังไม่ถึงกำหนดแข่งขัน - - - - - - -
รวม - - - - - - - - 99 27 21 51 129 168

โอลิมปิก

(ใช้ทีมชาติอายุไม่เกิน 23 ปีตั้งแต่ พ.ศ. 2535)

สถิติในกีฬาโอลิมปิก
ปี รอบ อันดับ ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1900 to
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1952
ไม่เข้าร่วม - - - - - - -
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1956 รอบที่ 1 11/11 1 0 0 1 0 9
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1960 ไม่เข้าร่วม - - - - - - -
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1964 ไม่ผ่านเข้ารอบ - - - - - - -
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1968 รอบที่ 1 16/16 3 0 0 3 1 19
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1972 ถึง
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1988
ไม่ผ่านเข้ารอบ - - - - - - -
รวม 2/19 - 4 0 0 4 1 28

เอเชียนคัพ

ฟุตบอลทีมชาติไทย 
เอเชียนคัพ นัดแข่งขันกับโอมาน ในปี 2550
ฟุตบอลทีมชาติไทย 
เอเชียนคัพ นัดแข่งขันกับอินเดีย ในปี 2562
เอเชียนคัพรอบสุดท้าย เอเชียนคัพรอบคัดเลือก
ปี ผลการแข่งขัน อันดับ ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย ลงเล่น ชนะ เสมอ* แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1956 ถึง ฟุตบอลทีมชาติไทย  1960 ไม่ได้เข้าร่วม
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1964 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 3 0 1 2 4 9
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1968 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 4 2 0 2 5 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1972 อันดับ 3 5 0 3 2 6 9 2 1 0 1 10 1
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1976 ถอนทีมหลังจากผ่านรอบคัดเลือก 4 3 0 1 8 2
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1980 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 5 3 0 2 11 3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1984 5 3 0 2 9 10
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1988 5 1 2 2 5 12
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1992 รอบที่ 1 3 0 2 1 1 5 2 2 0 0 3 1
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1996 รอบที่ 1 3 0 0 3 2 13 6 4 2 0 31 5
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2000 รอบที่ 1 3 0 2 1 2 4 6 4 1 1 13 8
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2004 รอบที่ 1 3 0 0 3 1 9 6 3 0 3 10 7
ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย  2007 รอบที่ 1 3 1 1 1 3 5 เข้ารอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพร่วม
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2011 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 6 1 3 2 3 3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2015 6 0 0 6 7 21
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2019 รอบ 16 ทีม 4 1 1 2 4 7 6 4 2 0 14 6
ฟุตบอลทีมชาติไทย  2023 รอบ 16 ทีม 4 1 2 1 3 2 10 4 3 3 14 9
รวม ดีที่สุด: อันดับ 3 28 3 11 14 22 54 78 36 15 27 150 105

เอเชียนเกมส์

(ใช้ทีมชาติอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2545)

เอเชียนเกมส์
ปี รอบ ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1951 ถึง
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1962
ไม่ได้เข้าร่วม
-
-
-
-
-
-
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1966
รอบก่อนรองชนะเลิศ
4
1
1
2
5
8
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1970
รอบก่อนรองชนะเลิศ
4
1
2
1
6
6
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1974
รอบที่ 1
2
0
0
2
2
4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1978
รอบที่ 2
5
2
0
3
6
12
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1982
รอบที่ 1
3
1
0
2
3
5
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1986
รอบที่ 1
4
1
1
2
8
4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1990
รอบรองชนะเลิศ
6
3
1
2
5
3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1994
รอบที่ 1
4
0
1
3
8
12
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1998
รอบรองชนะเลิศ
8
4
1
3
12
10
รวม
ดีที่สุด: รอบรองชนะเลิศ
43 13 7 23 59 74

อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ

การแข่งขันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อไทเกอร์คัพ, เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ และ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ

ซีเกมส์

ใช้ทีมชาติอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2015 ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2017

ซีเกมส์
เจ้าภาพ/ปี รอบ ลงเล่น ชนะ เสมอ แพ้ ประตูได้ ประตูเสีย
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1959 รองชนะเลิศ 4 2 0 2 9 10
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1961 อันดับ 3 3 1 2 0 7 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1965 ชนะเลิศ 3 2 1 0 6 3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1967 อันดับ 3 4 2 0 2 9 8
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1969 รองชนะเลิศ 3 1 1 1 4 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1971 อันดับ 3 5 1 2 2 7 8
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1973 รอบที่ 1 2 0 1 1 1 2
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1975 ชนะเลิศ 3 1 2 0 5 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1977 รองชนะเลิศ 4 1 1 2 3 6
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1979 อันดับ 3 5 2 2 1 6 5
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1981 ชนะเลิศ 4 2 2 0 9 6
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1983 ชนะเลิศ 5 3 1 1 10 4
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1985
ชนะเลิศ
4
3
1
0
17
1
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1987
อันดับ 3
4
2
1
1
7
3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1989
รอบรองชนะเลิศ
4
1
2
1
5
3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1991
รองชนะเลิศ
4
2
1
1
10
2
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1993
ชนะเลิศ
6
6
0
0
18
6
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1995
ชนะเลิศ
6
5
1
0
19
2
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1997
ชนะเลิศ
6
4
2
0
15
3
ฟุตบอลทีมชาติไทย  1999
ชนะเลิศ
6
5
1
0
24
1
รวม
ดีที่สุด: ชนะเลิศ
127 70 29 19 330 109

เกียรติยศอื่น ๆ

สถิติ

ติดทีมชาติสูงสุด

  •   ผู้เล่นที่ยังลงเล่นให้กับทีมชาติอยู่
ผู้เล่นติดทีมชาติสูงสุด
# ผู้เล่น ลงเล่น ประตู ปีที่ลงเล่น
1 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 134 71 พ.ศ. 2536–2550
2 ธีรศิลป์ แดงดา 127 64 พ.ศ. 2550–ปัจจุบัน
3 ธชตวัน ศรีปาน 110 19 พ.ศ. 2536–2552
4 ธีราทร บุญมาทัน 103 7 พ.ศ. 2553–ปัจจุบัน
5 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 100 70 พ.ศ. 2524–2540
ดัสกร ทองเหลา 100 11 พ.ศ. 2546–2560
7 ดุสิต เฉลิมแสน 96 14 พ.ศ. 2537–2547
8 นิเวส ศิริวงศ์ 90 3 พ.ศ. 2538–2555
9 นที ทองสุขแก้ว 87 1 พ.ศ. 2529–2543
10 สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ 86 7 พ.ศ. 2534–2545
11 นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ 85 28 พ.ศ. 2510–2522
อรรถพล บุษปาคม 85 13 พ.ศ. 2528–2541
13 วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ 84 29 พ.ศ. 2528–2538
สถิติปรับปรุงล่าสุดในนัดที่พบกับ  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้
ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

ผู้ทำประตูสูงสุด

  •   ผู้เล่นที่ยังลงเล่นให้กับทีมชาติอยู่
ผู้ทำประตูสูงสุด
# ผู้เล่น ประตู ลงเล่น ปีที่ลงเล่น ประตูเฉลี่ยต่อนัด
1 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 71 134 พ.ศ. 2536–2550 0.53
2 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 70 100 พ.ศ. 2524–2540 0.70
3 ธีรศิลป์ แดงดา 64 127 พ.ศ. 2550–ปัจจุบัน 0.50
4 ศรายุทธ ชัยคำดี 31 49 พ.ศ. 2546–2554 0.63
5 วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ 29 84 พ.ศ. 2528–2538 0.35
6 ดาวยศ ดารา 28 70 พ.ศ. 2518–2529 0.40
วรวุฒิ ศรีมะฆะ 28 63 พ.ศ. 2538–2546 0.44
นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ 28 85 พ.ศ. 2510–2522 0.33
9 เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง 27 79 พ.ศ. 2514–2524 0.34
10 ชลอ หงษ์ขจร 25 67 พ.ศ. 2522–2530 0.37
เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ 25 55 พ.ศ. 2538–2540 0.45
สุทธา สุดสะอาด 25 51 พ.ศ. 2521–2531 0.49
13 ประพนธ์ ตันติยานนท์ 23 63 พ.ศ. 2514–2523 0.37
14 เทิดศักดิ์ ใจมั่น 22 75 พ.ศ. 2537–2554 0.29
สถิติปรับปรุงล่าสุดในนัดที่พบกับ  ฟุตบอลทีมชาติไทย  เกาหลีใต้
ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ฟุตบอลทีมชาติไทย ประวัติฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพลักษณ์ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย คู่แข่งสำคัญฟุตบอลทีมชาติไทย บุคลากรฟุตบอลทีมชาติไทย ผู้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย กัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทำเนียบผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย การแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย สถิติฟุตบอลทีมชาติไทย อ้างอิงฟุตบอลทีมชาติไทย แหล่งข้อมูลอื่นฟุตบอลทีมชาติไทยประเทศไทยฟุตบอลสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

ปราโมทย์ ปาทานหม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุลมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นประเทศไทยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีฌ้อปาอ๋องอนิเมะโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตนักเรียนกาจบัณฑิต ใจดีศีล 227สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพวินัย ทองสองญาณี จงวิสุทธิ์หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินกรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ประเทศอินโดนีเซียพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสครับบ์ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2023–24นกน้อย อุไรพรพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สุทัตตา อุดมศิลป์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชรายชื่อตอนในโปเกมอนปักหมุดรักฉุกเฉินเข็มอัปสร สิริสุขะFBภาสวิชญ์ บูรณนัติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ธนนท์ จำเริญเลเวอร์คูเซินกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์จังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดตราดจังหวัดสระบุรีเจนี่ อัลภาชน์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)ซิลลี่ ฟูลส์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโป๊กเกอร์วันไหลประเทศจอร์เจียนพเก้า เดชาพัฒนคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไทย)สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าลมเล่นไฟสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาจังหวัดลพบุรีสโมสรฟุตบอลเซบิยารายชื่อรัฐวิสาหกิจไทยเมตาสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพ.ศ. 2564ศิวกร อดุลสุทธิกุลอสุภสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สโมสรฟุตบอลอินแตร์นาซีโอนาเลมีลาโนชานน สันตินธรกุลรายชื่อตัวละครในเกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้วพรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์บาปเจ็ดประการกองทัพอากาศไทยณฐพร เตมีรักษ์ชาคริต แย้มนามรายชื่ออักษรย่อของโรงเรียนในประเทศไทย/สฟุตซอลทีมชาติไทย🡆 More