ฟัตมา เนสลีชาห์ ซุลตาน (ตุรกีออตโตมัน: فاطمه نسل شاہ سلطان; 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2464 – 2 เมษายน พ.ศ. 2555) เป็นเจ้าหญิงออตโตมัน เป็นพระธิดาของเชห์ซาเด เออเมร์ ฟารุก กับซาบีฮา ซุลตาน ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงเป็นพระราชนัดดาของเคาะลีฟะฮ์อับดุลเมจิดที่ 2 กับเชห์ซูวาร์ ฮานึม พระมเหสีองค์แรก และเป็นพระราชนัดดาของสุลต่านเมห์เมดที่ 6 กับนาซีเคดา คาดึน พระมเหสีองค์แรก
เนสลีชาห์ ซุลตาน | |
---|---|
เจ้าหญิงแห่งออตโตมัน เจ้าหญิงแห่งอียิปต์ | |
ประสูติ | 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 คอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิออตโตมัน |
สิ้นพระชนม์ | 2 เมษายน พ.ศ. 2555 (91 ปี) อิสตันบูล ประเทศตุรกี |
พระสวามี | มุฮัมมัด อับดุล อัลมุนาอิม |
พระบุตร | เจ้าชายอับบาส ฮิลมี เจ้าหญิงอิกบาล |
ราชวงศ์ | ออตโตมัน |
พระบิดา | เชห์ซาเด เออเมร์ ฟารุก |
พระมารดา | ซาบีฮา ซุลตาน |
ศาสนา | อิสลาม |
หลังราชวงศ์ออตโตมันล่มสลาย เนสลีชาห์เสด็จลี้ภัยออกจากแผ่นดินแม่ขณะมีพระชันษาเพียงสามปี เจริญพระชันษาที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส
เจ้าหญิงเนสลีชาห์เป็นพระธิดาพระองค์แรกจากทั้งหมดสามพระองค์ของเชห์ซาเด เออเมร์ ฟารุก (Șehzade Ömer Faruk) กับซาบีฮา ซุลตาน (Sabiha Sultan) พระชนกและพระชนนีต่างเป็นชนชั้นเจ้า พระชนกเป็นพระราชโอรสในเคาะลีฟะฮ์อับดุลเมจิดที่ 2 ส่วนพระชนนีเป็นพระราชธิดาในสุลต่านเมห์เมดที่ 6 หลังการล่มสลายของราชวงศ์ออตโตมันเนสลีชาห์เสด็จลี้ภัยออกจากแผ่นดินแม่ขณะมีพระชันษาเพียงสามปี เจริญพระชันษาที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส
พ.ศ. 2483 เนสลีชาห์เสกสมรสกับมุฮัมมัด อับดุล อัลมุนาอิม พระราชโอรสในเคดิฟอับบาส ฮิลมีที่ 2 ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงมีพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงแห่งอียิปต์ อีกตำแหน่งหนึ่ง แต่สองปีก่อน มุฮัมมัดเคยขอพระราชานุญาตและใช้พระราชทรัพย์จำนวน 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐจากพระเจ้าฟารูกแห่งอียิปต์เพื่อสู่ขอเจ้าหญิงมือเซเยน (2452–2512) พระขนิษฐาของพระเจ้าซ็อกที่ 1 แห่งแอลเบเนีย แต่ไม่สำเร็จ จึงเสกสมรสกับเจ้าหญิงเนสลีชาห์แทน
หลังเกิดการปฏิวัติเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2495 มุฮัมมัดพระภัสดาถูกเลือกเป็นประธานผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่มีอยู่สามคน ต่อมากลุ่มผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สามคนถูกยุบเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2495 มุฮัมมัดจึงกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองคืเพียงพระองค์เดียว ส่วนเนสลีชาห์ในฐานะพระชายาของเจ้าชายผู้สำเร็จราชการได้กลายเป็นพระราชินีโดยพฤตินัย ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงเสด็จพระกอบพระกรณียกิจเกี่ยวกับงานการกุศลของพระสวามี และทรงร่วมเข้าแข่งขันกีฬาโปโลและเทนนิสระดับนานาชาติ
หลังการดำรงตำแหน่งในการเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของเจ้าชายมูฮัมหมัด ท้ายที่สุดอียิปต์ก็ทำการปฏิวัติยกเลิกระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1953 ต่อมาในปี ค.ศ. 1957 พระสวามีและพระองค์ถูกจับกุมด้วยข้อหาวางแผนต่อต้านนายพลกาเมล อับเดล นัสซอร์ ในเวลาต่อมาทั้งสองได้ถูกเนรเทศอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เจ้าหญิงฟัตมาทรงพำนักในยุโรประยะหนึ่ง ก่อนที่จะเสด็จนิราศไปประทับในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี จนท้ายที่สุดเจ้าชายโมฮัมหมัดได้สิ้นพระชนม์ลงที่นั้นในปี ค.ศ. 1979
เจ้าหญิงฟัตมา เนสลีชาห์ ทรงใช้ชีวิตบั้นปลายพระชนม์พำนักอยู่ในนครอิสตันบูลร่วมกับพระธิดาที่ไม่เสกสมรสคือ เจ้าหญิงอิกบาล และเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงองค์สุดท้ายของราชวงศ์ออตโตมัน
เจ้าหญิงฟัตมา เนสลีชาห์ เจ้าหญิงองค์สุดท้ายของราชวงศ์ออตโตมัน สิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2012 ด้วยพระอาการพระหทัยพิการ สิริพระชนมายุได้ 91 พรรษา และมีพิธีฝังพระศพในวันอังคารที่ 3 เมษายนปีเดียวกัน ณ นครอิสตันบูล อดีตราชธานีของจักรวรรดิออตโตมัน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article เนสลีชาห์ ซุลตาน, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.