หม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์ (10 เมษายน พ.ศ.
2452 — 1 มิถุนายน พ.ศ. 2508) เป็นพระธิดาใน นายพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ประสูติแต่หม่อมเชื้อ
หม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์ | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 4 | |
ประสูติ | 10 เมษายน พ.ศ. 2452 |
สิ้นชีพตักษัย | 1 มิถุนายน พ.ศ. 2508 (56 ปี) |
ราชสกุล | วัฒนวงศ์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ |
พระมารดา | หม่อมเชื้อ |
หม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์ เป็นพระธิดาองค์ที่ 4 ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ต้นราชสกุล “วัฒนวงศ์” ประสูติแต่หม่อมเชื้อ (สกุลเดิม บุนนาค; ธิดาของพระยาราชพงศานุรักษ์ (ชม บุนนาค) กับคุณหญิงสวาดิ) เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2452 มีโสทรเชษฐาและโสทรเชษฐภคินีรวม 3 องค์ คือ
ซึ่งพระนามของหม่อมเจ้าทั้ง 4 องค์นี้ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในบรรดาพระโอรสธิดาของหม่อมเชี้อนี้ ทุกองค์ทรงเรียกมารดาไม่เหมือนกัน หม่อมเจ้าสุวัฒนวิสัย ทรงเรียกว่า “คุณเช้อ” หม่อมเจ้าเกรียงไกรมรุพล ทรงเรียกว่า “คุณหมา” ทำให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ทรงเรียกชื่อหม่อมเชื้อตามพระโอรส กระทั่งประสูติหม่อมเจ้าสุวคนธ์ประทุม ซึ่งพอตรัสได้ก็ทรงเรียกหม่อมมารดาว่า “คุณแอ้” พระบิดาก็ทรงเรียกตามจนติดพระโอษฐ์ แม้กระทั่งเมื่อกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเรียกว่า “แอ้” เสมอ ภายหลังเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงหม่อมเชื้อก็ทรงเรียกว่า “แอ้” ด้วย ทั้งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ทรงเรียกอย่างคุ้นพระโอฐว่า “แอ้” เช่นกัน ส่วนหม่อมเจ้าจงกลนี ทรงเรียกหม่อมมารดาว่า “คุณแมะ”
พระโอรสและพระธิดา 4 องค์ ของหม่อมเชื้อนั้น 3 องค์แรกสิ้นชีพิตักษัยตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหลือหม่อมเจ้าจงกลนีเพียงองค์เดียว ซึ่งเมื่อยังเยาว์วัยไม่ทรงแข็งแรงนัก มักประชวรแม้เล็ก ๆ น้อย ๆ จึงต้องมีแพทย์ประจำอยู่ใกล้ชิดตลอดจนเจริญชันษา พลานามัยจึงปกติ
ในเบื้องต้นได้จ้างครูมาสอนที่วัง ต่อมาได้ทรงศึกษาพิเศษตามโรงเรียนและครูที่มีชื่อเสียงบางแห่ง แต่ไม่ได้ศึกษาจนมีการสอบไล่เป็นชั้น ๆ พระบิดาและมารดาเป็นห่วงเรื่องการศึกษามาก เพราะเหลือพระธิดาองค์เดียว ทั้งอนามัยก็ไม่สู้แข็งแรง จึงไม่ยอมให้ไปเรียนเป็นประจำ แม้จะมีความประสงค์อยากเรียนก็ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ก็ได้รับการอบรมในเรื่องการปกครองบ้านเรือนและกิจการอื่น ๆ จากพระบิดาและมารดาเป็นอย่างดี จนพระบิดาสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2466 ขณะนั้นหม่อมเจ้าจงกลนีมีชันษาเพียง 14 ปี จึงทรงขาดจากการเรียน แต่ก็ทรงค้นคว้าหาความรู้จากตำรับตำราหรือจากผู้ที่มีความรู้ โดยเห็นว่าต่อไปจะต้องปกครององค์เอง เพราะมารดาก็อายุมากแล้ว
ต่อมาในปี พ.ศ. 2482 หม่อมเชื้อถึงแก่อนิจกรรม หม่อมเจ้าจงกลนีต้องปกครององค์เองและทรงรักษาทรัพย์สมบัติตลอดมา ในระยะหลังทรงมีมานะศึกษาหาความรู้เพิ่มขึ้น เช่น ทรงเรียนภาษาอังกฤษและทรงอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับความรู้ต่าง ๆ สนทัยความรู้ทางศาสนามาก โปรดการศึกษาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ทรงเฉลียวฉลาดรอบคอบมีพระปฏิภาณดี จึงมีความรู้รอบองค์ ทรงประกอบกิจการงานด้วยองค์เอง ทรงเปิดร้าน “สุคนธาลัย” เมื่อปี พ.ศ. 2491 ข้างตำหนักถนนสุรวงศ์ ไม่โปรดอยู่เฉย ๆ ทรงทำน้ำอบไทย แป้งร่ำ แพรเพลาะห่มนอน เสื้อเด็กอ่อน และกางเกงแพร ขายหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาแก่พระญาติและเด็กที่อยู่ในพระอุปการะ
เมื่อเกิดสงครามอินโดจีน ในปี พ.ศ. 2484 ทรงสมัครเป็นสมาชิกอาสากาชาด ทรงเข้ารับการอบรมวิชาพยาบาล ทรงช่วยปฏิบัติงานแก่ทหารบาดเจ็บที่มาพักฟื้น ต่อมาทรงร่วมประดิษฐ์สิ่งของกับคุณหญิงถวิล ศรีเสนา และแนะนำสมาชิกอาสากาชาดใหม่ ๆ ให้ประดิษฐ์สิ่งที่เป็นเครื่องใช้สำหรับเด็กและใช้ในบ้านที่กองอาสากาชาดทุกสัปดาห์ เพื่อจำหน่ายและนำเงินมาบำรุงสภากาชาดไทย จนถึงปี พ.ศ. 2505 หม่อมเจ้าจงกลนีเริ่มประชวรจึงทรงยุติการทรงงาน ทรงเอื้อเฟื้อช่วยเหลือพระญาติทั้งสกุล ณ นคร และสกุลบุนนาค ใครเจ็บไข้ก็ทรงรับมารักษาที่วังเสมอ ส่วนน้องและหลานของหม่อมเชื้อ หม่อมเจ้าจงกลนีก็ทรงช่วยเหลือ และทรงขอให้นางพยาบาลมาอยู่ด้วยประจำ ภายหลังทรงสร้างวังขึ้นใหม่ที่ซอยสามมิตร ถนนสุขุมวิท
หม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์ สิ้นชีพิตักษัย เมื่อเวลา 21.00 น.พี่ ของวันอังคาร ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2508 สิริชันษา 56 ปี เมื่อความทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททั้งสองพระองค์ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ทุกอย่าง ได้เชิญศพไปสรงน้ำที่วังซอยสามมิตร ถนนสุขุมวิท พระราชทานโกศราชวงศ์เป็นเกียรติยศ พระราชทานไตรสดับปกรณ์ และสวดอภิธรรมตลอด 3 วัน
หม่อมเจ้าจงกลนีทรงทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนใหญ่ให้แก่สภากาชาดไทยเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 40 ล้านบาทเศษ โดยมีเงื่อนไขให้สภากาชาดไทยจ่ายเงินเลี้ยงชีพให้แก่ผู้อยู่ในพระอุปการะ บำรุงวัด และมูลนิธินักเรียนขาดแคลน และทรงขอให้สภากาชาดไทยเป็นผู้จัดการศพตามสมควรแก่เกียรติและฐานะ สภากาชาดไทยจึงเป็นผู้จัดการในงานศพโดยตลอด
This article uses material from the Wikipedia ไทย article หม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.