สนธิสัญญาการในการตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับดินแดนเยอรมนี (เยอรมัน: Vertrag über die abschließende Regelung in Bezug auf Deutschland) หรือเรียกว่า สนธิสัญญาสองบวกสี่ (เยอรมัน: Zwei-plus-Vier-Vertrag; เรียกสั้น ๆ ว่า: สนธิสัญญาเยอรมัน) มีการเจรจาขึ้นใน พ.ศ.
2533 ระหว่างสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี และอีกมหาอำนาจอีกสี่ชาติซึ่งยึดครองเยอรมนีตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ ได้แก่ ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในสนธิสัญญานี้ มหาอำนาจทั้งสี่ได้ถอนสิทธิทั้งหมดในเยอรมนี ทำให้สามารถรวมประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นรัฐเอกราชเต็มตัวในปีถัดมา
ประเภท | สนธิสัญญาเอกราช /สนธิสัญญาสันติภาพ |
---|---|
วันร่าง | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 |
วันลงนาม | 12 กันยายน พ.ศ. 2533 |
ที่ลงนาม | มอสโก, รัสเซียของโซเวียต, สหภาพโซเวียต |
วันมีผล | 15 มีนาคม พ.ศ. 2534 |
ผู้ลงนาม | สอง บวกสี่ |
ภาษา |
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ข้อตกลงพ็อทซ์ดัมได้มีการประกาศหลังจากการประชุมพ็อทซ์ดัม ซึ่งตกลงเงื่อนไขเริ่มต้นซึ่งฝ่ายสัมพันธมิตรจะปกครองเยอรมนีและข้อตกลงเกี่ยวกับพรมแดนเยอรมนี-โปแลนด์ ซึ่งรู้จักกันว่า แนวโอเดอร์-ไนเซอ ข้อตกลงที่บรรลุเป็นข้อตกลงที่อธิบายเพิ่มเติมซึ่งมีข้อสรุปว่า "สันติภาพสำหรับเยอรมนีจะได้รับรองโดยรัฐบาลเยอรมนีเมื่อรัฐบาลที่เหมาะสมสำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวได้ก่อตั้งขึ้น" ส่งผลให้ ปัญหาเยอรมัน กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดของสงครามเย็นที่กำลังดำเนินอยู่ และจนกระทั่งข้อตกลงดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 ได้มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการสร้างรัฐบาลเดียวของเยอรมนีตามจุดประสงค์ในข้อตกลงในขั้นสุดท้าย ซึ่งหมายความว่าเมื่อพิจารณาดูแล้วเยอรมนีมิได้มีอำนาจอธิปไตยอย่างสมบูรณ์: 42–43
หลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ชาวเยอรมันและรัฐบาลของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (เยอรมนีตะวันตก) และสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (เยอรมนีตะวันออก) มีจุดประสงค์อย่างชัดเจนที่จะสร้างรัฐเยอรมันอันหนึ่งเดียวที่เป็นประชาธิปไตย และเพื่อบรรลุความเป็นหนึ่งเดียวและเอกราชสมบูรณ์ พวกเขามีความปรารถนาที่จะยอมรับเงื่อนไขของข้อตกลงพ็อทซ์ดัมซึ่งมีผลกระทบต่อเยอรมนี จากนั้นจึงเป็นไปได้ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะเจรจาตกลงขั้นสุดท้ายตามที่ระบุในข้อตกลงพ็อทซ์ดัม
สนธิสัญญาการในการตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับดินแดนเยอรมนีได้มีการลงนาม ณ กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2533: 363 ซึ่งมีผลนำไปสู่การรวมประเทศเยอรมนีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2533
ภายใต้เงื่อนไขของสนธิสัญญา มหาอำนาจทั้งสี่ละทิ้งสิทธิทั้งหมดที่เคยถือครองในเยอรมนีทั้งหมดรวมถึงในเบอร์ลิน ผลที่ตามมาคือประเทศเยอรมนีภายใต้การรวมประเทศนั้นมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2534 กองทัพโซเวียตทั้งหมดจะต้องออกจากเยอรมนีภายในสิ้นปี พ.ศ. 2537 เยอรมนีตกลงที่จะจำกัดกองทัพให้มีทหารไม่เกิน 370,000 นาย โดยที่ในกองทัพบกและกองทัพอากาศจะต้องมีทหารไม่เกิน 345,000 นาย เยอรมนียังได้ยืนยันที่จะสละสิทธิ์การผลิต การถือครอง และการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ และอาวุธเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญางดการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์จะยังคงมีผลบังคับใช้เต็มในประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ไม่มีกองทัพต่างประเทศ อาวุธนิวเคลียร์ หรือการบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์จะต้องไม่คงอยู่ในอดีตประเทศเยอรมนีตะวันออก ทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์
อีกเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญของสนธิสัญญาคือให้เยอรมนีที่จะยอมรับและรับรองเส้นเขตแดนกับโปแลนด์ในระดับสากล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงดินแดนที่เกิดขึ้นหลังจาก พ.ศ. 2488 เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนทางตะวันออกของแนวโอเดอร์-ไนเซอร์ในอนาคต เยอรมนียังได้ตกลงที่จะลงนามในสนธิสัญญาอีกฉบับกับโปแลนด์ซึ่งยืนยันพรมแดนในปัจจุบันโดยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาพรมแดนเยอรมนี-โปแลนด์
This article uses material from the Wikipedia ไทย article สนธิสัญญาว่าด้วยการตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับดินแดนเยอรมนี, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.