สงครามรัสเซีย-จอร์เจีย หรือสงครามเซาท์ออสซีเชีย (ในรัสเซียมีอีกชื่อหนึ่งว่า สงครามห้าวัน) เป็นความขัดแย้งด้วยอาวุธในเดือนสิงหาคม พ.ศ.
2551 ระหว่างจอร์เจียฝ่ายหนึ่ง กับรัสเซียและรัฐบาลผู้แบ่งแยกของเซาท์ออสซีเชียและอับฮาเซียอีกฝ่ายหนึ่ง
สงครามรัสเซีย-จอร์เจีย | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ตำแหน่งที่ตั้งของจอร์เจีย (รวมทั้งเซาท์ออสซีเชียและอับฮาเซีย) และคอเคซัสเหนือของรัสเซีย | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
รัสเซีย เซาท์ออสซีเชีย อับฮาเซีย | จอร์เจีย | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
เอดูอาร์ด โคคอยตี ดมิตรี มิดเวเดฟ วลาดีมีร์ ปูติน อะนาโตลี ครูลิออฟ วลาดีมีร์ ชามานอฟ มารัต คูลัคเมตอฟ เวียเชสลัฟ บอรีซอฟ เซียร์เกย์ บากัปช์ | มีเคอิล ซาคัชวีลี ดาวิต เคเซรัชวีลี ซาซา กอกาวา | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ในเซาท์ออสซีเชีย: 10,000 นาย ในอับฮาเซีย: 9,000 นาย ทหารประจำการ 2,900 นาย ทหารประจำการ 5,000 นาย | ในเซาท์ออสซีเชีย: 10,000–12,000 นาย | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
เสียชีวิต 72 นาย บาดเจ็บ 283 นาย สูญหาย 3 นาย เป็นเชลย 5 นาย | เสียชีวิต 171 นาย บาดเจ็บ 1,147 นาย สูญหาย 11 นาย เป็นเชลย 39 นาย | ||||||||
ความสูญเสียฝ่ายพลเรือน: |
สงครามเซาท์ออสซีเชียเมื่อ พ.ศ. 2534–2535 ระหว่างเชื้อชาติจอร์เจียกับออสเซเตียได้สิ้นสุดลงด้วยพื้นที่เกินกว่าครึ่งเล็กน้อยของเซาท์ออสซีเชียอยู่ภายใต้การควบคุมโดยพฤตินัยของรัฐบาลที่รัสเซียหนุนหลัง หากนานาชาติมิได้ให้การรับรองแต่อย่างใด เซาท์ออสซีเชียส่วนที่เชื้อชาติจอร์เจียอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่นั้นยังอยู่ภายใต้การควบคุมของจอร์เจีย (เขตอะฮัลโกรี และหมู่บ้านส่วนมากรอบซคินวาลี) โดยมีกำลังรักษาสันติภาพร่วมจอร์เจีย นอร์ทออสเซเตียและรัสเซียประจำอยู่ในพื้นที่ สถานการณ์คล้ายคลึงกันอุบัติขึ้นในอับฮาเซียหลังจากสงครามในอับฮาเซียเมื่อ พ.ศ. 2353–2536 ความตึงเครียดได้บานปลายขึ้นระหว่างฤดูร้อนของ พ.ศ. 2551 และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม รัสเซียตัดสินใจที่จะป้องกันเซาท์ออสซีเชียอย่างเป็นทางการ
ระหว่างคืนวันที่ 7 และ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551 จอร์เจียเปิดฉากการรุกทางทหารขนานใหญ่ต่อเซาท์ออสซีเชีย ในความพยายามที่จะยึดพื้นที่คืน จอร์เจียอ้างว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการสนองต่อเหตุโจมตีต่อผู้รักษาสันติภาพและหมู่บ้านของตนในเซาท์ออสซีเชีย และรัสเซียกำลังเคลื่อนหน่วยทหารที่มิใช่เพื่อการรักษาสันติภาพเข้ามาในพื้นที่ การโจมตีของจอร์เจียเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียในบรรดาผู้รักษาสันติภาพรัสเซีย ผู้ซึ่งต้านทานการโจมตีร่วมกับทหารอาสาสมัครออสเซเตีย จอร์เจียยึดซคินวาลีได้สำเร็จในไม่กี่ชั่วโมง รัสเซียสนองโดยการจัดวางกำลังกองทัพที่ 58 ของรัสเซีย และกำลังพลร่มรัสเซียในเซาท์ออสซีเชีย และเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกำลังจอร์เจียในเซาท์ออสซีเชียและเป้าหมายทางทหารและการส่งกำลังบำรุงในดินแดนจอร์เจีย รัสเซียอ้างว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการแทรกแซงทางมนุษยธรรมและการบังคับใช้สันติภาพที่จำเป็น
กำลังรัสเซียและออสเซเตียสู้รบกับกำลังจอร์เจียทั่วเซาท์ออสซีเชียเป็นเวลาสี่วัน โดยมีการสู้รบหนักที่สุดในซคินวาลี วันที่ 9 สิงหาคม ทัพเรือของรัสเซียปิดล้อมชายฝั่งจอร์เจียบางส่วน และยกนาวิกโยธินขึ้นบกบนชายฝั่งอับฮาเซีย ทัพเรือจอร์เจียพยายามจะขัดขวาง แต่พ่ายแพ้ในการปะทะกันทางทะเล กำลังรัสเซียและอับฮาเซียเปิดแนวรบที่สองโดยการโจมตีหุบโคโดรีที่จอร์เจียครองอยู่ กำลังจอร์เจียต้านทานได้เพียงเล็กน้อย และต่อมา กำลังรัสเซียได้ตีโฉบฉวยฐานทัพหลายแห่งในทางตะวันตกของจอร์เจีย หลังการสู้รบอย่างหนักในเซาท์ออสซีเชียเป็นเวลาห้าวัน กำลังจอร์เจียก็ร่นถอย ทำให้รัสเซียสามารถกรีธาเข้าสู่จอร์เจียส่วนที่ไม่พิพาทและยึดครองนครต่าง ๆ ของจอร์เจียได้จำนวนหนึ่ง
สหภาพยุโรปที่มีฝรั่งเศสเป็นประธานเข้าไกล่เกลี่ยสถานการณ์ และคู่กรณีบรรลุความตกลงหยุดยิงขั้นต้นในวันที่ 12 สิงหาคม โดยจอร์เจียลงนามเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมในกรุงทบิลิซี และรัสเซียลงนามเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมในกรุงมอสโก หลายสัปดาห์ให้หลังการลงนามในความตกลงหยุดยิงดังกล่าว รัสเซียเริ่มถอนทหารส่วนมากออกจากจอร์เจียส่วนที่ไม่พิพาท รัสเซียได้สถาปนาเขตกันชนรอบอับฮาเซียและเซาท์ออสซีเชีย ตลอดจนตั้งจุดตรวจในดินแดนจอร์เจีย ท้ายที่สุด กำลังเหล่านี้ได้ถูกถอนออกจากจอร์เจียส่วนที่ไม่พิพาท อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตะวันตกบางคนยืนยันว่า ทหารเหล่านี้ไม่ได้กลับไปประจำยังแนวที่ประจำอยู่เดิมก่อนหน้าที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้นตามที่ระบุไว้ในแผนสันติภาพ กำลังรัสเซียยังประจำอยู่ในอับฮาเซียและเซาท์ออสซีเชียความตกลงสองฝ่ายกับรัฐบาลทั้งสองดินแดน
บรรพบุรษของชาวออสซีเซียนั้นมาจากอิหร่าน มีถิ่นฐานเดิมอยู่ตามลำแม่น้ำดอน แต่ต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่เทือกเขาคอเคซัสเพราะถูกบุกรุกโดยจักรวรรดิมองโกลในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ภายหลังจากถูกขับไล่ออกจากถิ่นฐานบ้านเกิด ชาวออสซีเซียได้ตั้งรกรากถาวรอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ที่บริเวณสาธารณรัฐนอร์ทออสซีเซีย-อาลาเนีย (ปัจจุบันเป็นดินแดนของรัสเซีย) และเซาท์ออสซีเซีย (ปัจจุบันเป็นดินแดนของจอร์เจีย)
ในปี พ.ศ. 2537 ขณะที่สหภาพโซเวียตกำลังจะล่มสลายนั้น ผู้ที่ต่อต้านสหภาพโซเวียตคือ ซเวียด กัมซาคูร์เดีย ปรากฏตัวเป็นผู้นำของจอร์เจียเป็นคนแรก ในการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีบนเวทีปราศรัยแห่งชาติ เขาได้สร้างภาพว่าชาวจอร์เจียพื้นเมือง ซึ่งในขณะนั้นมีประมาณร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมดว่าเป็นประชาชนผู้รักชาติอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการทำให้ฐานะของชาวเซาท์ออสซีเซียตกต่ำลง
ปลายปี พ.ศ. 2537 ศาลฎีกาของจอร์เจียตัดสินให้ดินแดนเซาท์ออสซีเซียเป็นรัฐอิสระ จึงได้แยกตัวออกมา หลังจากนั้นรัฐบาลในกรุงทบิลิซีกำหนดให้ภาษาจอร์เจียเป็นภาษาประจำชาติ ในขณะที่ชาวออสซีเซียใช้ 2 ภาษาหลักคือ ภาษารัสเซียและภาษาออสซีเซีย
ท่ามกลางความตึงเครียดเนื่องจากความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติที่เพิ่มขึ้น สงครามเซาท์ออสซีเซียปะทุขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2534 จากเหตุที่กำลังทหารของจอร์เจียบุกเข้าไปในเมืองหลวงซคินวาลี ผลจากสงครามเชื่อกันว่าประชาชนประมาณ 2,000 คนถูกฆ่าตาย สงครามนี้ทำให้เกิดดินแดนเซาท์ออสซีเชียที่แยกตัวออกมาจากจอร์เจียและได้เอกราชมาอย่างไม่เป็นทางการ ดินแดนนี้มีชาวจอร์เจียประมาณ 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด (70,000 คน) หลังจากที่มีคำสั่งหยุดยิงในปี พ.ศ. 2535 ซคินวาลีถูกทอดทิ้งจากดินแดนของจอร์เจียรอบข้าง และรายงานข่าวการทารุณกรรม (ที่มีทั้งการข่มขืนและการฆ่าอย่างทารุณ) เพื่อต่อต้านชาวออสซีเซียนั้นก็วนเวียนอย่างไม่รู้จบ ทหารประจำการของจอร์เจีย รัสเซีย และเซาท์ออสซีเซีย เข้าประจำฐานภายใต้คำสั่งของเจซีซี (JCC) ที่สั่งให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ คำสั่งหยุดยิงในปี พ.ศ. 2535 นั้นยังได้กำหนดขอบเขตพื้นที่ของความขัดแย้งรอบเมืองหลวงของเซาท์ออสซีเซีย คือ ซคินวาลี และแนวเขตรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนอีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2549 มีการลงประชามติเกี่ยวกับการแยกตัวเป็นอิสระของเซาท์ออสซีเซีย ปรากฏว่ามีจำนวนผู้ออกเสียงสนับสนุนให้เซาท์ออสซีเซียเป็นอิสระถึงร้อยละ 99 ทั้ง ๆ ที่ชาวจอร์เจียพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวไม่ได้มีส่วนร่วมในการลงประชามติด้วยเลย และทางจอร์เจียยังกล่าวหารัสเซียด้วยว่า อาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้น ถือว่าเป็นการทำให้ดินแดนตรงส่วนนั้นถูกรับรองระหว่างประเทศ และการจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดที่นำโดยเอดูอาร์ด โคคอยตี ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้รับราชการทหารอยู่ใน หน่วยปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) และกองทัพรัสเซีย ส่วนการกลับคืนมาของเซาท์ออสซีเซียและอับฮาเซียเพื่อไปอยู่ในอาณัติของจอร์เจียนั้น ได้เป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีดมิตรี มิดเวดิฟ ตั้งแต่การปฏิวัติกุหลาบ
จอร์เจีย
รัสเซีย
หน่วยงานระหว่างประเทศ
สื่อมวลชน
สารคดี
This article uses material from the Wikipedia ไทย article สงครามรัสเซีย-จอร์เจีย, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.