คิงกากูจิ

1397">ค.ศ. 1397 (พ.ศ. 1940) เพื่อเป็นที่พักของโชกุนอาชิกางะ โยชิมิตสึ ต่อมาผู้เป็นบุตรชายได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นวัดนิกายเซนสำนักรินไซ วัดถูกเผาทำลายหลายครั้งในระหว่างสงครามโอนิน ศาลาทองแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้หลานของโยชิมิตสึสร้างวัดอีกแห่งหนึ่งชื่อว่ากิงกากูจิ

โรกูอนจิ 鹿苑寺
ศาลา ชาริเด็ง ที่โรกูอนจิ หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า ศาลาทอง (คิงกากุ)
ข้อมูลทั่วไป
นามภูเขา	โฮกูซัง
นิกาย	เซน, ศาสนวิชชาลัยรินไซ
ศรัทธาต่อ	คันนน โบซัตสึ (เจ้าแม่กวนอิม)
สร้างเมื่อ	ค.ศ. 1397 (พ.ศ. 1940)
สร้างโดย	อาชิกางะ โยชิมิตสึ
บรรพชิตแรก	มูโซ โซเซกิ
ที่อยู่	1 Kinkakuji-chō, Kita-ku, Kyōto
ประเทศ	ญี่ปุ่น
เว็บไซต์	http://www.shokoku-ji.jp/k_about.html#

บทความนี้อ้างอิงคริสต์ศักราช/คริสต์ทศวรรษ/คริสต์ศตวรรษ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของเนื้อหา

ปี ค.ศ. 1994 โรกูอนจิ รวมทั้งศาลาทอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถานที่สำคัญอื่น ๆ ในเมืองเกียวโต

ตัวศาลาทองทั้งหลัง ยกเว้นชั้นใต้ดิน ปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุมีค่าอื่น ๆ บนยอดหลังคาของศาลามีรูปหล่อทองคำรูปนกโฮโอ

ในปี ค.ศ. 1950 ศาลาทองถูกเผาทำลายโดยพระวิกลจริต ศาลาที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1955

• 
  คิงกากูจิ มองจากฝั่งตรงข้ามของสระน้ำ
• 
  ศาลาทอง
• 
  ศาลาทอง
• 
  สวนในบริเวณคิงกากูจิ
• 
  คิงกากูจิในฤดูหนาว
• 
  ภาพถ่ายใกล้ของศาลาทอง
• 
  คิงกากูจิในเดือนกรกฎาคม
• 
  ยอดหลังคาศาลาทอง

 

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ คิงกากูจิ

• กิงกากูจิ