จารีตและวิถีประชา

ในทางสังคมวิทยา จารีต (อังกฤษ: mores) และ วิถีประชา (อังกฤษ: folkways) เป็นบรรทัดฐานอย่างไม่เป็นทางการของสังคม

จารีตและวิถีประชา
หนังสือสำหรับเด็กในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เขียนไว้ว่าชาวดัตช์เป็นเชื้อชาติที่ขยันขันแข็ง และชาวจีนเป็นเชื้อชาติที่เคารพเชื่อฟังญาติผู้อาวุโสอย่างสูง

จารีต

จารีตเป็นบรรทัดฐานที่กำหนดให้คนในสังคมประพฤติปฏิบัติอย่างเข้มงวด มีการควบคุมที่รุนแรงเพื่อป้องกันการฝ่าฝืน โดยคนในสังคมนั้นถือว่าแบบแผนการปฏิบัติดังกล่าวเป็นสิ่งดีสิ่งงาม ผู้ละเมิดเป็นคนผิดคนชั่ว เป็นต้น จารีตประเพณีจึงมีลักษณะเป็นข้อห้าม (อังกฤษ: taboo) เช่น การห้ามสมรสกันระหว่างญาติสืบสายโลหิต และขอให้ปฏิบัติ เช่น ต้องช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น อันใดจะเป็นจารีตประเพณีได้ ต้องเป็นแนวประพฤติปฏิบัติที่ดำเนินสืบ ๆ ต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน โดยผู้ปฏิบัตินั้นรู้สึกร่วมกันว่าจะต้องปฏิบัติตาม เป็นกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติเช่นเดียวกับกฎหมาย

จารีตประเพณีนั้นวิวัฒนามาจากศีลธรรม (อังกฤษ: morality) ซึ่งเกิดแต่ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์แต่ละคนว่าการกระทำอย่างไรชอบ อย่างไรไม่ชอบ เกิดจากมโนสำนึกและมโนธรรมของแต่ละคน มีขึ้นได้เพราะแต่ละคนมีสติปัญญาจะหยั่งรู้ว่าเมื่อตนกระทำอย่างไรไปแล้ว อีกฝ่ายจะรู้สึกนึกคิดอย่างไร และจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

ศีลธรรมนั้นมีอยู่ในทุกสังคมมาแต่โบราณกาล และเป็นกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติอย่างเดียวกับกฎหมายเช่นกัน แต่ก็มีความแตกต่างกับกฎหมายในหลาย ๆ ด้าน เช่น ศีลธรรมมีวัตถุประสงค์มุ่งเอาความสมบูรณ์ของจิตใจ เน้นมโนสำนึกเป็นหลัก ส่วนกฎหมายนั้นเน้นรักษาความสงบของส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งบางทีก็ไม่เกี่ยวกับมโนสำนึก เช่น การคิดปองร้ายผู้อื่นอยู่ในใจ กฎหมายไม่ถือว่าผิด แต่ทางศีลธรรมว่าเป็นผิดเป็นชั่ว อย่างไรก็ดี ศีลธรรมกับกฎหมายนั้นก็มีความสัมพันธ์กันในฐานะที่เป็นวิวัฒนาการแห่งกัน เป็นต้นว่า มีกฎหมายหลายบทหลายมาตราที่กำหนดว่าการกระทำที่ขัดต่อ "ศีลธรรมอันดีของประชาชน" เป็นสิ่งที่กฎหมายไม่รับรู้ แต่กรณีนี้ต้องเป็นศีลธรรมที่คนหมู่ยืดถือร่วมกัน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง และต้องเป็นศีลธรรมอันดีด้วย

อันศีลธรรมนั้น หากเป็นของที่คนหมู่ซึ่งประกอบอาชีพลักษณะเดียวกันถือร่วมกัน ศีลธรรมของวิชาชีพนั้นจะเรียก จริยธรรม (ethics) เช่น จริยธรรมของแพทย์ จริยธรรมของนักกฎหมาย

เมื่อศีลธรรมนั้นได้รับการประพฤติปฏิบัตินานเข้า ๆ และเกิดความรู้สึกร่วมกันว่าจะต้องปฏิบัติเช่นนั้น ก็กลายเป็นกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติที่เรียกว่า จารีตประเพณี ดังกล่าวมาแล้ว จารีตประเพณีนี้มีสภาพบังคับสำหรับกรณีที่มีการฝ่าฝืน คือ สมาชิกในสังคมนั้นจะร่วมกันประณามหรือเกิดความรู้สึกเป็นผิดเป็นชั่วสำหรับผู้ฝ่าฝืนจารีตประเพณี ซึ่งสภาพบังคับเช่นนี้บางทีก็ไม่ชัดเจน กระนั้น จารีตประเพณีเป็นเรื่องอันครอบคลุมทุกมิติของสังคมมากกว่ากฎหมาย กฎหมายจึงใช้จารีตประเพณีอุดช่องว่างของกฎหมาย เช่น ที่กำหนดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า ในกรณีที่กฎหมายไม่ครอบคลุม ก็ให้เอาจารีตประเพณีมาใช้

วิถีประชา

วิถีประชาเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่คนยอมรับนับถือจนเกิดความเคยชิน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของบุคคลในสังคม ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความดีความชั่วดังเช่นจารีต บ้างจึงเรียกวิถีประชาเรียกว่า "วิถีชาวบ้าน" เช่น การยกมือไหว้ หรือการสวมชุดดำในงานศพ โดยส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานทางพฤติกรรม ไม่มีการบังคับควบคุมอย่างเข้มงวด เมื่อมีการละเมิดผู้ละเมิดก็เพียงได้รับคำติฉินนินทา

วิถีประชาสามารถจำแนกได้ดังนี้

  1. สมัยนิยม (อังกฤษ: fashion) เป็นปทัสถานทางสังคมที่แสดงออกถึงความนิยมของกลุ่มคนซึ่งแพร่หลายไปรวดเร็วในช่วงเวลาหนึ่ง และก็เสื่อมไปรวดเร็วเช่นกัน ในช่วงแพร่ระบาดนั้น คนในสังคมทั่วไปมีความรู้สึกว่าตนถูกบังคับให้ปฏิบัติตาม มิเช่นนั้นก็ถูกว่า "เชย" เป็นต้น เช่น เรื่องแบบทรงผม แบบเครื่องแต่งกาย
  2. ความนิยมชั่วครู่ (อังกฤษ: fad) เป็นแบบพฤติกรรมเพียงผิวเผินและไม่จริงจัง เปลี่ยนแปลงง่าย รวดเร็ว มาเร็วไปเร็ว เช่น สมัยหนึ่งคนไทยเคยสนทนากันด้วยสำนวน "อย่าให้เซด"
  3. ความคลั่งไคล้ (อังกฤษ: craze) เป็นเรื่องราวของความไม่มีเหตุผล เมื่อครอบงำผู้ใดแล้วผู้นั้นก็มักประพฤติปฏิบัติในในทำนองโง่เขลาเบาปัญญา หมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ตนคลั่งไคล้เป็นต้น
  4. งานพิธี (อังกฤษ: ceremony) เป็นการแสดงออกซึ่งเกียรติยศ ความมีหน้ามีตา ยังผลให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน สนับสนุนความสมานฉันท์ภายในกลุ่ม แต่ใครจะปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ เช่น งานฉลองวันครบรอบวันเกิด งานฉลองวันครบรอบวันสมรส เป็นต้น
  5. พิธีการ (อังกฤษ: rite) เป็นแบบแผนพฤติกรรมที่มีลำดับขั้นตอนแน่นอน และต้องทำซ้ำ ๆ เช่น วันพระ วันสงกรานต์ วันทำบุญขึ้นบ้านใหม่ วันมาฆบูชา
  6. พิธีกรรม (อังกฤษ: ritual) เป็นแบบแผนพฤติกรรมตามความเชื่อที่มักไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนทั้งหมด เช่น พิธีรับน้องใหม่
  7. มารยาททางสังคม (อังกฤษ: etiquette) เป็นการปฏิบัติตนให้เหมาะสมแก่กาลเทศะในการสมาคม เช่น มารยาทในการรับประทานอาหาร การโดยสารรถประจำทางควรลุกให้เด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์นั่ง เป็นต้น

อ้างอิง

Tags:

บรรทัดฐานภาษาอังกฤษสังคมวิทยา

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

จังหวัดยะลาการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพินประเทศแอฟริกาใต้รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทยพระราชสันตติวงศ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวศุภชัย เจียรวนนท์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ประเทศญี่ปุ่นหม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุลอาณาจักรอยุธยาจังหวัดของประเทศญี่ปุ่นรายชื่อธนาคารในประเทศไทยบางกอกคณิกาไททานิค (ภาพยนตร์)สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ดหน้าไพ่ภาษาญี่ปุ่นเนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดาประเทศอิสราเอลฮารุ สุประกอบมรรคมีองค์แปดรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองมาตาลดารายชื่อโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครกวนอิมสโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลาจิรายุ ตั้งศรีสุขต่าย อรทัยหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากรชวน หลีกภัยวันวิสาขบูชาบรรดาศักดิ์ไทยนาฬิกาหกชั่วโมงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทยเดอะทอยส์ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญปตท.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุลอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุขศาสนาบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตจังหวัดสกลนครข้ามมิติ ลิขิตสวรรค์กระทรวงในประเทศไทยช่องวัน 31สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีหลวงปู่ทวดเพลงเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ29 เมษายนสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)พระศิวะสกีบีดีทอยเล็ตพรรคก้าวไกลสโมสรฟุตบอลลีดส์ยูไนเต็ดสมเด็จพระเพทราชาภาษาเกาหลีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงปักหมุดรักฉุกเฉินยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกประเทศเกาหลีใต้กระทรวงมหาดไทย (ประเทศไทย)รายชื่อละครโทรทัศน์ทางช่องวัน 31จุลจักร จักรพงษ์มูฮัมหมัด อุสมานมูซารายชื่อเขตของกรุงเทพมหานครรายชื่อท่าอากาศยานในประเทศไทยรัฐฉานรายชื่อประเทศเรียงตามจำนวนประชากรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถประเทศพม่าสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตีอสมทอี จู-บินทอร์นาโด🡆 More