กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (อังกฤษ: acute respiratory distress syndrome) หรือ ARDS เดิมเรียกว่า กลุ่มอาการหายใจลำบาก (อังกฤษ: respiratory distress syndrome, RDS) , กลุ่มอาการหายใจลำบากในผู้ใหญ่ (อังกฤษ: adult respiratory distress syndrome) หรือ shock lung เป็นภาวะการหายใจล้มเหลวชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยจะมีการอักเสบทั่วไปในเนื้อปอดอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก หายใจเร็ว และตัวเขียวได้ ผู้รอดชีวิตบางรายจะมีคุณภาพชีวิตที่ถดถอยลง
กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (Acute respiratory distress syndrome) | |
---|---|
ชื่ออื่น | Respiratory distress syndrome (RDS), adult respiratory distress syndrome, shock lung |
ภาพเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วย ARDS แสดงให้เห็นรอยทึบแบบกระจกฝ้ากระจายทั่วปอดทั้งสองข้าง | |
สาขาวิชา | เวชบำบัดวิกฤติ |
อาการ | หายใจลำบาก, หายใจเร็ว, ตัวเขียวคล้ำ |
การตั้งต้น | ภายใน 1 สัปดาห์ |
วิธีวินิจฉัย | สำหรับผู้ใหญ่: PaO2/FiO2 ratio of less than 300 mm Hg สำหรับเด็ก: oxygenation index > 4 |
โรคอื่นที่คล้ายกัน | หัวใจวายเลือดคั่ง |
การรักษา | การใช้เครื่องช่วยหายใจ, การใช้เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด |
พยากรณ์โรค | โอกาสเสียชวิต 35 - 50 % |
ความชุก | ปีละ 3 ล้านคน |
สาเหตุของภาวะนี้มีหลายอย่าง เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด ตับอ่อนอักเสบ การบาดเจ็บ ปอดอักเสบ และการสูดสำลัก กลไกเบื้องหลังการเจ็บป่วยคือการเกิดการบาดเจ็บต่อเซลล์ปอดส่วนที่กั้นแบ่งถุงลม การทำงานผิดปกติของสารลดแรงตึงผิวในถุงลม การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเกินปกติ และภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ผลจากกลไกเหล่านี้ทำให้เนื้อปอดมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนก๊าซ (ออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์) ลดลง การวินิจฉัยภาวะนี้ในผู้ใหญ่อาศัยอัตราส่วน PaO2/FiO2 (อัตราส่วนระหว่างความดันออกซิเจนในหลอดเลือดแดงเทียบกับอัตราส่วนออกซิเจนในอากาศที่หายใจ) ที่น้อยกว่า 300 mmHg เมื่อตั้งค่าเครื่องช่วยหายใจให้ PEEP สูงกว่า 5 cmH2O แล้ว นอกจากนี้ต้องตรวจว่าไม่ใช่ภาวะอื่นที่คล้ายกันคืออาการปอดบวมน้ำที่มีสาเหตุจากหัวใจ
การรักษาที่สำคัญที่สุดคือการใช้เครื่องช่วยหายใจและรักษาภาวะอื่นที่เป็นสาเหตุของ ARDS แนวทางช่วยหายใจที่เป็นที่แนะนำคือการใช้ปริมาตรหายใจต่ำ และความดันอากาศต่ำ หากยังไม่เพียงพอสามารถใช้การระดมถุงลม (lung recruitment maneuver) และการใช้ยาหย่อนกล้ามเนื้อชนิดยับยั้งสารสื่อประสาทกับกล้ามเนื้อ (neuromuscular blocking agent) หากยังไม่เพียงพออีกอาจใช้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนนอกร่างกาย (ECMO) เป็นทางเลือกได้ ผู้ป่วยภาวะนี้จะมีอัตราตายสูง อยู่ที่ 35-50%
ทั่วโลกมีผู้ป่วย ARDS ประมาณ 3 ล้านรายต่อปี ภาวะนี้ถูกบรรยายไว้ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1967 เดิมถูกเรียกชื่อว่า "adult respiratory distress syndrome" (กลุ่มอาการหายใจลำบากในผู้ใหญ่) เพื่อแยกจากกลุ่มอาการหายใจลำบากในทารกแรกเกิด ("infant respiratory distress syndrome") ปัจจุบันที่ประชุมนานาชาติได้มีมติให้เรียกโรคนี้ว่า "acute respiratory distress syndrome" เนื่องจากภาวะนี้สามารถเกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เกณฑ์การวินิจฉัยโรคนี้จะแตกต่างออกไปจากเกณฑ์ข้างต้น หากต้องการวินิจฉัยภาวะนี้ในผู้ป่วยเด็ก หรือผู้ป่วยในประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด
เกณฑ์การวินิจฉัย ARDS มีการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่องตามองค์ความรู้ในพยาธิสรีรวิทยาของโรคที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ มติที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติฉบับ ค.ศ. 2012 เป็นฉบับล่าสุด ได้ออก "นิยามเบอร์ลิน" เพื่อประกอบการวินิจฉัย ARDS มีการเปลี่ยนแปลงคือ ขยายผู้ป่วยเข้านิยามให้กว้างขึ้น ไม่สนับสนุนให้ใช้คำว่า "ปอดเสียหายเฉียบพลัน" (acute lung injury) และนิยามระดับความรุนแรงของ ARDS ตามความรุนแรงของการลดลงของปริมาณออกซิเจนในเลือด
นิยามของ ARDS ในผู้ใหญ่ ตามนิยามเบอร์ลิน ค.ศ. 2012 มีดังนี้
ทั้งนี้ นิยามเบอร์ลินฉบับ ค.ศ. 2012 เป็นการดัดแปลงเพิ่มเติมจากนิยามตามมติที่ประชุมฯ เมื่อ ค.ศ. 1994
โดยภาพรวมแล้วผู้ป่วย ARDS มีพยากรณ์โรคที่ไม่ดีนัก โดยมีอัตราตายสูงถึง 40% แม้ในผู้ที่รอดชีวิตก็อาจมีผลตามมาได้หลายอย่าง เช่น ออกกำลังกายได้ลดลง ผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ คุณภาพชีวิตลดลง เป็นต้น
การจำแนกโรค | |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |
|
This article uses material from the Wikipedia ไทย article กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.