เจ้าจอมมารดาจันทร์ในรัชกาลที่ 4 เป็นบุตรีคนรองสุดท้องของพระยาพิพิธสมบัติ (ทองสุก) ผู้สำเร็จราชการเมืองตราด มีมารดาเป็นชาวจังหวัดตราด คุณตาชื่อ “หยง” เป็นจีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาตั้งหลักแหล่งค้าขายที่เมืองตราด คุณยายชื่อ “อิ่ม” เป็นคนพื้นเพเมืองตราด
เจ้าจอมมารดาจันทร์ ในรัชกาลที่ 4 | |
---|---|
เกิด | จันทร์ สุขสถิตย์ สยาม |
เสียชีวิต | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 สยาม |
คู่สมรส | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
บุตร | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทักษิณชา นราธิราชบุตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามัณยาภาธร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ |
บิดามารดา | พระยาพิพิธสมบัติ (สุก) ชาวเมืองตราด (ธิดาหยง จีนฮกเกี้ยน และอิ่ม) |
เมื่อพระยาพิพิธสมบัติถึงแก่อนิจกรรมในตอนต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บุตรชายคนหนึ่งของพระยาพิพิธสมบัติได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองตราดสืบต่อจากบิดา ท่านเจ้าเมืองคนใหม่นี้ภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาพิพิธฤทธิเดชวิเศษสิงหนาถ” และพระยาพิพิธฤทธิเดชวิเศษสิงหนาถนี้เองที่เป็นผู้ชักชวนให้เจ้าจอมมารดาจันทร์ซึ่งขณะนั้นอยู่ในวัยรุ่นสาวมีรูปโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองตราด ให้เข้ามารับราชการสนองพระเดชพระคุณในพระบรมมหาราชวัง จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยงให้เป็นพระสนมเอก พระราชทานเครื่องยศพานทองคำ เครื่องใช้สอยทองคำ หีบทองลงยาราชาวดี กับได้เบี้ยหวัดเงินปี ปีละ 10 ชั่ง
เจ้าจอมมารดาจันทร์ได้รับราชการสนองคุณพระกรุณา ฯ ถวายพระประสูติกาลพระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสิ้น 4 พระองค์ คือ
ในระหว่างการรับราชการในพระบรมมหาราชวังเพื่อสนองคุณพระกรุณานั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชบายที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยในเรื่องศิลปะการแสดง โดยพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หัดละครแสดงโดยสตรีล้วนขึ้นเป็นครั้งแรก และยังพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำบทพระราชนิพนธ์ไปเล่นได้ โดยโปรดเกล้าฯ ให้ทำประกาศว่าด้วย ละครผู้หญิง พ.ศ. 2398 อนุญาตให้เจ้านาย ขุนนาง และผู้มีบรรดาศักดิ์หัดละครผู้หญิงขึ้นได้ แต่ได้ขอจำกัดสิทธิ์บางประการไว้สำหรับละครหลวง เช่น รัดเกล้ายอด เครื่องแต่งตัวลงยา พานทอง หีบทอง ซึ่งใช้เป็นเครื่องยศ เครื่องประโคมแตรสังข์ และห้ามมิให้บังคับผู้ที่ไม่สมัครใจเล่นละครให้ได้รับความเดือดร้อน เจ้าจอมมารดาจันทร์จึงได้ตั้งโรงละครขึ้นคณะหนึ่งในพระบรมมหาราชวังเพื่อสนองพระบรมราโชบายนี้ ทำการฝึกซ้อม และจัดแสดงจนเป็นที่รู้จัก ซึ่งตัวละครจากโรงละครของเจ้าจอมมารดาจันทร์นี้ ต่อมาได้เป็นครูหัดละครให้โรงละครอื่น ๆ ต่อไปอีกหลายคน
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว เจ้าจอมมารดาจันทร์ได้ย้ายออกมาอยู่กับพระราชโอรส คือ พระองค์เจ้าศุขสวัสดี ที่วังท้ายวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ฐานะทางยศศักดิ์มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมเนียมสำหรับเจ้าจอมมารดาในรัชกาลก่อน คือ เครื่องยศหีบหมากทองลงยาราชาวดีก็เปลี่ยนเป็นหีบทองเกลี้ยง นามก็เรียกว่า “จันทร์เจ้าจอมมารดา” แต่ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เรียกนามอย่างเดิมกับบ่งรัชกาลไว้ท้ายว่า “เจ้าจอมมารดาจันทร์ในรัชกาลที่ 4”
ในปัจฉิมวัย ท่านได้ป่วยเป็นโรคชรามาตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 ได้รับพระราชทานหมอหลวงไปรักษาอาการแต่หาคลายไม่ ครั้นถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน เวลาบ่ายห้าโมงก็ถึงแก่กรรม
This article uses material from the Wikipedia ไทย article เจ้าจอมมารดาจันทร์ ในรัชกาลที่ 4, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.