รัฐหลังสหภาพโซเวียต (อังกฤษ: post-Soviet states) หรือที่รู้จักกันในชื่อ อดีตสหภาพโซเวียต (former Soviet Union, FSU), อดีตสาธารณรัฐโซเวียต (former Soviet Republics) และในรัสเซียในชื่อ ต่างประเทศใกล้เคียง (รัสเซีย: бли́жнее зарубе́жье, อักษรโรมัน: blizhneye zarubezhye) คือรัฐเอกราช 15 รัฐที่เคยเป็นสาธารณรัฐองค์ประกอบของสหภาพโซเวียต โดยเกิดขึ้นและเกิดขึ้นอีกครั้งจากสหภาพโซเวียตหลังการล่มสลายของสหภาพใน ค.ศ.
1991
รัสเซียเป็นรัฐผู้สืบสิทธิ์หลักของสหภาพโซเวียตที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติโดยพฤตินัยหลังสงครามเย็น ในขณะที่ยูเครนประกาศตนเองตามกฎหมายว่าเป็นรัฐผู้สืบสิทธิ์ของทั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครนและสหภาพโซเวียต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้ข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียต
รัฐบอลติกทั้งสามเป็นสาธารณรัฐกลุ่มแรกที่ประกาศเอกราชในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1990 โดยอ้างความต่อเนื่องจากรัฐเดิมที่ดำรงอยู่ก่อนการผนวกของสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1940 สาธารณรัฐที่เหลือ 12 แห่งทั้งหมดทยอยแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต โดย 12 ใน 15 รัฐ (ไม่รวมรัฐบอลติก) ร่วมก่อตั้งเครือรัฐเอกราช (ซีไอเอส) และส่วนใหญ่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (ซีเอสทีโอ) ในขณะที่รัฐบอลติกเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและเนโท เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปกับรัฐหลังสหภาพโซเวียต
นอกจากนี้ ยังมีดินแดนพิพาทที่ได้รับการรับรองในระดับแตกต่างกันที่ตั้งอยู่ในดินแดนอดีตสหภาพโซเวียต ได้แก่ ทรานส์นีสเตรียในภาคตะวันออกของมอลโดวา, อับคาเซียและเซาท์ออสซีเชียในภาคเหนือของจอร์เจีย และสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่ ค.ศ. 2014 สาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ในภาคตะวันออกไกลของยูเครนได้อ้างตนเองเป็นเอกราช ดินแดนที่ไม่ได้รับการรับรองจากนานาชาติส่วนใหญ่เหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือทางทหารและการเงินจากรัสเซีย ยกเว้นสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคซึ่งรวมอยู่กับอาร์มีเนียในทางพฤตินัยแต่ยังคงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัสเซีย ก่อนการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซียในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014 ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ไม่ให้การรับรองนั้น ไครเมียเคยประกาศตนเองเป็นเอกราชเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
ในภาษาทางการเมืองของรัสเซียและรัฐหลังสหภาพโซเวียตบางรัฐ ศัพท์ ต่างประเทศใกล้เคียง สื่อถึงสาธารณรัฐเอกราช (นอกเหนือจากรัสเซีย) ที่กำเนิดขึ้นหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต การใช้ศัพท์ดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นในภาษาอังกฤษถูกนำไปเชื่อมโยงกับการยืนยันจากต่างชาติ (โลกที่พูดภาษาอังกฤษ) ถึงสิทธิ์ของรัสเซียที่จะรักษาอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาคนี้ วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศให้ภูมิภาคนี้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของ "เขตอิทธิพล" ของรัสเซีย และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อผลประโยชน์ของรัสเซีย มีผู้เปรียบเทียบแนวคิดนี้กับลัทธิมอนโร
ภูมิภาค | ชื่อประเทศ | ตราแผ่นดิน | ธง | เมืองหลวง | เป็นเอกราช | พื้นที่ | ประชากร | ความหนาแน่น | หมายเหตุ | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ตารางกิโลเมตร | ตารางไมล์ | คน/ตารางกิโลเมตร | คน/ตารางไมล์ | |||||||||
ยุโรปตะวันออก | รัสเซีย (สหพันธรัฐรัสเซีย) | มอสโก | 12 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | 17,098,242 | 6,601,668 | 146,171,015 | 9 | 23 | ||||
ยูเครน | เคียฟ | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 577,528 | 222,985 | 41,383,182 | 72 | 186 | |||||
เบลารุส (สาธารณรัฐเบลารุส) | มินสค์ | 10 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | 207,600 | 80,155 | 9,349,645 | 46 | 119 | |||||
มอลโดวา (สาธารณรัฐมอลโดวา) | คีชีเนา | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 33,843 | 13,067 | 2,597,100 | 79 | 205 | |||||
เอเชียกลาง | อุซเบกิสถาน (สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน) | ทาชเคนต์ | 31 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 444,103 | 171,469 | 35,064,893 | 76 | 197 | ||||
คาซัคสถาน (สาธารณรัฐคาซัคสถาน) | อัสตานา | 16 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | 2,724,900 | 1,052,090 | 19,000,336 | 7 | 18 | |||||
คีร์กีซสถาน (สาธารณรัฐคีร์กีซ) | บิชเคก | 31 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 199,945 | 77,199 | 6,663,000 | 33 | 85 | |||||
ทาจิกิสถาน (สาธารณรัฐทาจิกิสถาน) | ดูชานเบ | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | 143,100 | 55,251 | 9,504,000 | 64 | 166 | |||||
เติร์กเมนิสถาน (อดีตคือ สาธารณรัฐเติร์กเมนิสถาน) | อาชกาบัต | 27 ตุลาคม ค.ศ. 1991 | 491,210 | 189,657 | 6,118,000 | 11 | 28 | |||||
ทรานส์คอเคเซีย | จอร์เจีย (อดีตคือ สาธารณรัฐจอร์เจีย) | ทบิลีซี | 9 เมษายน ค.ศ. 1991 | 69,700 | 26,911 | 3,728,573 | 53 | 137 | ||||
อาเซอร์ไบจาน (สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน) | บากู | 30 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 86,600 | 33,436 | 10,139,196 | 115 | 298 | |||||
อาร์มีเนีย (สาธารณรัฐอาร์มีเนีย) | เยเรวาน | 21 กันยายน ค.ศ. 1991 | 29,743 | 11,484 | 2,963,300 | 100 | 259 | |||||
รัฐบอลติก | ลิทัวเนีย (สาธารณรัฐลิทัวเนีย) | วิลนีอัส | 11 มีนาคม ค.ศ. 1990 | 65,300 | 25,212 | 2,786,006 | 43 | 111 | ||||
ลัตเวีย (สาธารณรัฐลัตเวีย) | รีกา | 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 | 64,562 | 24,928 | 1,882,200 | 30 | 78 | |||||
เอสโตเนีย (สาธารณรัฐเอสโตเนีย) | ทาลลินน์ | 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 | 45,339 | 17,505 | 1,330,068 | 29 | 75 | |||||
รวมอดีตสหภาพโซเวียต | 22,307,815 | 8,613,096 | 296,582,638 | 9 | 23 |
รัฐหลังสหภาพโซเวียตเรียงตามคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ใน ค.ศ. 2020
การพัฒนามนุษย์ระดับสูงมาก:
การพัฒนามนุษย์ระดับสูง:
การพัฒนามนุษย์ระดับปานกลาง:
This article uses material from the Wikipedia ไทย article รัฐหลังสหภาพโซเวียต, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.