ฌอร์ดี อัลบา อี ราโมส (กาตาลา: Jordi Alba i Ramos) หรือ ฌอร์ดี อัลบา ราโมส (สเปน: Jordi Alba Ramos; เกิดวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.
1989) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นให้กับอินเตอร์ไมแอมี สโมสรในเมเจอร์ลีก และทีมชาติสเปน เขามักได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ฌอร์ดี อัลบา ราโมส | ||||||||||||||||||
วันเกิด | 21 มีนาคม ค.ศ. 1989 | ||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | ลุสปิตาแล็ตดายูบรากัต บาร์เซโลนา สเปน | ||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.70 เมตร (5 ฟุต 7 นิ้ว) | ||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหลังซ้าย | ||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | อินเตอร์ไมแอมี | ||||||||||||||||||
หมายเลข | 18 | ||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||
1998–2005 | บาร์เซโลนา | ||||||||||||||||||
2005–2007 | กูร์นัลยา | ||||||||||||||||||
2007–2008 | บาเลนเซีย | ||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||
2007–2008 | บาเลนเซีย เม็สตัลยา | 18 | (5) | ||||||||||||||||
2008–2012 | บาเลนเซีย | 74 | (5) | ||||||||||||||||
2008–2009 | → ฌิมนัสติก (ยืมตัว) | 35 | (4) | ||||||||||||||||
2012–2023 | บาร์เซโลนา | 313 | (17) | ||||||||||||||||
2023– | อินเตอร์ไมแอมี | 1 | (0) | ||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||||
2006 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี | 6 | (1) | ||||||||||||||||
2009 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี | 9 | (0) | ||||||||||||||||
2008–2011 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี | 4 | (0) | ||||||||||||||||
2012 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี | 4 | (0) | ||||||||||||||||
2011– | สเปน | 85 | (8) | ||||||||||||||||
2008– | กาตาลุญญา | 5 | (0) | ||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19:23, 25 มิถุนายน ค.ศ. 2022 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2022 |
อัลบาเกิดในลุสปิตาแล็ตดายูบรากัต นครบาร์เซโลนา ในแคว้นกาตาลุญญา อัลบาเริ่มต้นอาชีพในศูนย์ฝึกเยาวชนลามาเซียของบาร์เซโลนา ซึ่งเขาเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย (left winger) แต่ได้รับการปล่อยตัวจากสโมสรเมื่อปี ค.ศ. 2005 เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่เล็กเกินไป จากนั้นเขาก็เข้าร่วมทีม กูร์นัลยา ซึ่งอยู่ในแคว้นคาตาลันเช่นกันและหลังจากผ่านไปเกือบสองปีเขาก็ตกลงย้ายเข้าสู่ บาเลนเซีย ในราคา 6,000 ยูโร และจบการศึกษาฟุตบอลที่นี่
หลังจากช่วยให้ทีมสำรองของบาเลนเซีย เลื่อนชั้นสู่เตร์เซราดิบิซิออน ในฤดูกาล 2007–08 อัลบาได้ถูกยืมตัวไปยังฌิมนัสติก ทีมในเซกุนดาดิบิซิออน โดยเขาได้ลงเล่น 36 นัดให้กับทีม และพาทีมจบลำดับที่ 10 บนตารางคะแนนในลีก
หลังจากกลับมาอยู่กับบาเลนเซียในฤดูกาล 2009–10 เมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2009 อัลบาได้ลงเล่นเป็นนัดแรกในเกมที่เอาชนะ เรอัลบายาโดลิด 4-2 โดยเขาถูกส่งมาเป็นตัวสำรองแทนที่ ดาบิด ซิลบา ในนาทีที่ 80 เมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 2009 เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งทีมของเขาพบกับ ล็อสก์ลีล ที่ สนามกีฬาลีล-เมโทรโปเลอ ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอกันที่ 1–1 หลังจากอัลบาได้รับบาดเจ็บ เขาได้เลือกที่จะเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นจากตำแหน่ง ปีกซ้าย มาเป็นตำแหน่ง แบ็กซ้าย (กองหลังด้านซ้าย) ในวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2010 อัลบาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในนัดที่บาเลนเซีย ออกไปเยือนมายอร์กา ในเกมลาลิกา ซึ่งผลจบลงด้วยการแพ้ 2–3
ในฤดูกาลถัดมา (2010–11) ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง อูไน เอเมรี เขาได้ลงเล่นในตำแหน่งกองหลังด้านซ้ายอยู่เป็นประจำ โดยมี เฌเรมี มาตีเยอ เป็นตัวสำรองของเขาในตำแหน่งนี้ เขาลงเล่น 27 นัดในลีกและพาทีมจบลำดับที่ 3 บนตารางคะแนนลาลิกา และทำให้บาเลนเซียได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไป
ในฤดูกาลถัดมา เอเมรี ได้ใช้วิธีการลงเล่นเปลี่ยนตำแหน่งบ่อยครั้งเพื่อทำเกมรุกและเกมรับ ระหว่าง เฌเรมี มาตีเยอ กับ อัลบา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เขาทดสอบใช้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพของเกมรับของทีม
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2012 อัลบาเซ็นสัญญากับบาร์เซโลนาเป็นระยะเวลา 5 ปีโดยมีค่าตัวจำนวน 14 ล้านยูโร เขาลงเล่นเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ในนัดเปิดฤดูกาลลาลิกาโดยเปิดกัมนอว์เอาชนะเรอัลโซซิเอดัด 5–1 ตัวเขายังเล่นครบ 90 นาที อีกด้วย
อัลบายิงประตูแรกของเขากับบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในนัดที่ออกไปเยือนเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา โดยเขายิงประตูขึ้นนำ 0–1 ในนาทีที่ 3 ก่อนที่ผลจะจบลงด้วยชัยชนะที่ 5–4 ในอีก 3 วันต่อมาในเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2012–13 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งบาร์เซโลนาเปิดบ้านพบกับ เซลติก เข้ายังเป็นคนทำประตูชัยในนาทีที่ 93 ช่วยให้บาร์เซโลนาชนะไปด้วยผล 2–1 โดยในฤดูกาลแรกของอัลบานี้เขาได้รับโอกาสลงเล่นจาก ตีโต บีลานอบา ผู้จัดการทีม 44 นัดในทุกรายการและทวงคืนแชมป์ลีกกลับสู่ทีมได้หลังจากเสียแชมป์ให้กับ เรอัลมาดริด เมื่อฤดูกาลก่อน
ในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 อัลบา ได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของโกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2014–15 เป็นเวลา 77 นาที ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไปโดยมีเฌเรมี มาตีเยอลงมาเล่นแทน ช่วยให้ทีมเอาชนะอัตเลติกบิลบาโอ 1–3 ซึ่งเป็นการชนะเลิศโกปาเดลเรย์เป็นครั้งแรกของเขาและเป็นสมัยที่ 27 ของทีมจากกาตาลัน ในอีก 3 วันถัดมา อัลบา ได้ต่อสัญญากับบาร์เซโลนาออกไปอีก 5 ปี จนถึงปี ค.ศ. 2020 โดยมีค่าฉีกสัญญา 150 ล้านยูโร โดยสี่วันหลังจากวันที่ต่อสัญญานั้น อัลบา ได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่โอลึมพีอาชตาดีอ็อน ในกรุงเบอร์ลิน กับยูเวนตุส โดยทีมของพวกเขาเอาชนะไป 3–1 ทำให้ทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จ ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 38 นัดและทำ 1 ประตู และพาทีมคว้าทุกแชมป์ที่บาร์เซโลนามีสิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้ ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2015 เขายังได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2015 พบกับริเบร์เปลต ช่วยให้ทีมเอาชนะ 3–0 ทำให้ อัลบา ชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเป็นสมัยแรกของตัวเขาและเป้นสมัยที่สามของสโมสร
ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 อัลบา พาทีมคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ โดยเขาสามารถทำประตูได้ในรอบชิงชนะเลิศ กับเซบียา ที่บิเซนเต กัลเดรอน ในช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 97 เป็นประตูขึ้นนำ 1–0 ก่อนที่เนย์มาร์จะทำประตูที่สองทำให้ผลจบลงที่ 2–0
ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2019 อัลบา ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีค่าฉีกสัญญา 500 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2020–21 เขาได้มีผลงานที่ยอดเยี่ยมโดยทำ 5 ประตู 13 แอสซิตส์ ในทุกรายการ และช่วยให้ทีมชนะเลิศโกปาเดลเรย์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2564 อัลบา ได้รับการประกาศให้เป็นกัปตันทีมลำดับที่สี่ของบาร์เซโลนา หลังจากที่กัปตันลิโอเนล เมสซิ ออกจากสโมสรไปในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2021–22
ในปี ค.ศ. 2008 อัลบา ได้รับเลือกให้เข้าร่วมทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เพื่อแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยเขาทำประตูได้ในเกมกับเยอรมนี แต่สเปนตกรอบแรกของการแข่งขัน ในปีต่อมา เขาคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเมดิเตอร์เรเนียนเกมส์ 2009 ณ กรุงเพสการา กับทีมชาติสเปนรุ่นดังกล่าวนี้โดยเขาได้ลงเล่น 4 นัด รวมถึงได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ประเทศอียิปต์
ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2011 อัลบา ได้ถูกเรียกตัวขึ้นสู่ทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก กับ สาธารณรัฐเช็ก และ สกอตแลนด์ โดยเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมกับสกอตแลนด์ในวันที่ 11 ตุลาคม ที่เอสตาดิโอโฆเซริโกเปเรซ ซึ่งสเปนเอาชนะไป 3–1 โดยเขายังสามารถทำแอสซิตส์ให้กับดาบิด ซิลบา เพื่อนร่วมทีมบาเลนเซียทำประตูได้อีกด้วย ในปี ค.ศ. 2012 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี สำหรับการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่สหราชอาณาจักร โดยเขาได้ลงเล่นครบทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มและสเปนก็ตกรอบที่รอบนี้หลังจากแพ้ 2 นัดและเสมอ 1 นัด
อัลบาได้รับเลือกจากบิเซนเต เดล โบสเกให้เป็น 1 ใน 23 คนของทีมชาติสเปน เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบสุดท้ายที่โปแลนด์และยูเครน โดยเขาลงเล่นครบทุกนัดและในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาได้เปิดบอลให้กับชาบี อาลอนโซ ทำประตูขึ้นนำ 2–0 เก็บชัยชนะเหนือฝรั่งเศส ด้วยคะแนนดังกล่าวได้สำเร็จ ในรอบชิงชนะเลิศกับอิตาลี เขาได้ทำประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 41 โดยผลการแข่งขันจบลงที่ชัยชนะ 4–0 ทำให้สเปนคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน
ในปีถัดมาเขาได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 ที่บราซิล โดยเขาสามารถทำ 2 ประตูได้ในเกมกับไนจีเรีย ในรอบแบ่งกลุ่มทำให้สเปนเอาชนะไป 3–0 โดยตลอดการแข่งขันเขาได้ลงเล่น 4 นัดรวมถึงในนัดชิงชนะเลิศกับบราซิลที่มารากานัง ทีมของพวกเขาแพ้ให้กับทีมเจ้าภาพไป 3–0
ในปีถัดมาเขาได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมทีมเพื่อแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 โดยเขาได้ลงเล่นครบทั้ง 3 นัดและทีมของพวกเขาตกรอบแรกของการแข่งขันครั้งนี้ ในปี ค.ศ. 2016 เขาได้เข้าแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ฝรั่งเศส โดยเขาได้ลงเล่นทั้ง 4 นัดตลอดการแข่งขันรวมถึงในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับอิตาลี ซึ่งสเปนแพ้ไป 2–0 ทำให้ทีมของพวกเขาตกรอบในรอบดังกล่าวนี้ในปี ค.ศ. 2018 เขาได้แข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ซึ่งเขาได้ลงเล่นในทุกนัดตลอดการแข่งขัน โดยทีมของเขาตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังจากแพ้การดวลลูกโทษ 4–3 ให้กับร้สเซียหลังเสมอกันใน 120 นาที 1–1
ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เขายังได้เป็นหนึ่งใน 24 คนในทีมของลุยส์ เอนริเก ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ซึ่งเขาได้ลงเล่นทุกนัด และทำได้หนึ่งประตูในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่เสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ 1–1 ในนาทีที่ 8 ก่อนที่สเปนเอาชนะได้ในช่วงการดวลลูกโทษ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนพ่ายแพ้ต่อทีมชนะเลิศอย่างอิตาลี ซึ่งเขายังได้รับหน้าที่เป็นกัปตันในช่วงท้ายของนัด
บาร์เซโลนา
สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
สเปน
รางวัลส่วนตัว
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ฌอร์ดี อัลบา, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.