ชาวคีร์กีซ (Kyrgyz Kyrghyz หรือ Kirghiz) เป็นคนชาติพันธุ์เติร์กกลุ่มหนึ่ง เป็นคนพื้นเมืองของเอเชียกลาง โดยมากอยู่ในคีร์กีซสถาน
Кыргыздар Qırğızdar قىرغىزدار | |
---|---|
ประชากรทั้งหมด | |
ป. 5 ล้าน | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
คีร์กีซสถาน | 4,587,430[a] |
อุซเบกิสถาน | 250,000 |
จีน | 202,500 |
รัสเซีย | 103,422 |
ทาจิกิสถาน | 62,000[ต้องการอ้างอิง] |
คาซัคสถาน | 23,274 |
ตุรกี | 1,600[ต้องการอ้างอิง] |
อัฟกานิสถาน | 1,130 |
ยูเครน | 1,128 |
แคนาดา | 1,055 |
ภาษา | |
คีร์กีซ (ภาษาแม่) รัสเซียและจีน (ภาษาที่สอง) | |
ศาสนา | |
อิสลามแบบซุนนีเป็นส่วนใหญ่
| |
^a การสำรวจสำมะโนปี ค.ศ. 2009 พบว่าประมาณร้อยละ 71 ของประชากรคีร์กีซสถานเป็นคนจากกลุ่มชาติพันธุ์คีร์กีซ (5.36 ล้านคน) |
มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของการใช้คำว่า "คีร์กีซ" เป็นชาติพันธุนาม เอกสารหลายชิ้นระบุว่า คำนี้เกิดจากคำว่า "กีร์ก" (kyrk) ซึ่งในภาษาเติร์กต่าง ๆ แปลว่า "สี่สิบ" ส่วน -อีซ (iz) เป็นคำปัจจัยโบราณที่แสดงพหูพจน์ ฉะนั้น "กีร์ก-อีซ" หรือ "กีร์กีซ" (Kyrgyz) มีความหมายตามตัวอักษรว่า "กลุ่มชนเผ่าทั้ง 40" แต่อาจมีความหมายอื่นว่า "ไม่มีวันตาย" "ดับไม่ได้" "อมตะ" "พิชิตไม่ได้" หรือ "ปราบไม่ได้" นอกจากนี้ ยังมีความเกี่ยวข้องกับวีรบุรุษในมหากาพย์ชื่อ มนัส ซึ่งตามเรื่องปรัมปราเกี่ยวกับต้นกำเนิด มนัสเป็นผู้สร้างเอกภาพให้แก่ทั้ง 40 เผ่าเพื่อต่อต้านชาวคีตัน แต่เรื่องปรัมปราคู่แข่งบันทึกเมื่อ ค.ศ. 1370 ในเอกสารทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์หมิงชื่อ หยวนสื่อ (元史) หรือ ประวัติศาสตร์หยวน กลับได้เล่าถึงผู้หญิง 40 คนที่มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เป็นมาตุภูมิ
การบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของชื่อชาติพันธุ์คีร์กีซปรากฏอยู่ในการถอดเสียงในเอกสารจีนโบราณ ได้แก่ "เก๋อคุน" (鬲昆, ภาษาจีนเก่า: *k.reg-ku:n, เกรกกูน) และ "เจียนคุน" (堅昆, จีนเก่า: *ki:n-ku:n, กีนกูน) ทั้งสองนี้ชี้ให้เห็นว่า ชื่อชาติพันธุ์เดิมคือ "กิรกุร" และ/หรือ "กิรกฺวิน" (*kirkur ~ kirgur และ/หรือ *kirkün) ซึ่งอาจมีความหมายว่า "ชาวทุ่งหญ้า" หรือ "ชาวหุนจากทุ่งหญ้า" (渾) การถอดเสียงอีกแบบหนึ่งได้แก่ "เจี๋ยกู่" (結骨, ภาษาจีนยุคกลาง: *kέt-kwət, แกดเกวิด) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเสียงเดิมคือ "กิรกุต" (*kirkut / kirgut) แต่พอถึงสมัยจักรวรรดิมองโกล ความหมายของคำว่า "กิรกุน" (*kirkun) ก็ถูกลืมเลือนไป ซึ่งเห็นได้จากความแตกต่างในการอ่านคำนี้ในฉบับย่อต่าง ๆ ของ ประวัติศาสตร์หยวน นอกจากนี้ นักวิชาการชาวจีนภายหลังได้ถอดเสียงชื่อชาติพันธุ์คีร์กีซต่างกัน ได้แก่ "เหอกู่" (紇骨) "เหอกู่ซือ" (紇扢斯) และ "จฺวีอู้" (居勿) จากนั้นในสมัยจักรพรรดิถังอู่จงแห่งราชวงศ์ถัง คำว่า "เสียเจี๋ยซือ" หรือ "สฺยาจฺย๋าซือ" (黠戛斯) ได้กลายเป็นคำเรียกชาวคีร์กีซ โดยเชื่อกันว่าคำว่า "เสียเจี๋ยซือ" แปลว่า "หัวเหลืองและหน้าแดง"
ในศตวรรษที่ 18 และ 19 นักเขียนชาวยุโรปได้ใช้ "Kirghiz" เป็นการสะกดชื่อเรียกทั้งชาวคีร์กีซและชาวเติร์กจากทิศเหนืออื่น ๆ อีกหลายกลุ่ม เช่น ชาวคาซัค การสะกดแบบนี้เป็นการถอดอักษรจากคำว่า "киргизы" (กีรกีซี) ในภาษารัสเซียเป็นอักษรละติน เมื่อมีความจำเป็นในการแยกแยะกลุ่มชาติพันธุ์อย่างชัดเจน ก็มีชื่อเรียกชาติพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น ชาวคีร์กีสจึงมีชื่อใหม่ว่า "การา-คีร์กีซ" (Kara-Kirghiz อันแปลตามตัวอักษรว่า "คีร์กีซดำ" ซึ่งมาจากสีดำของเต็นท์ของชาวคีร์กีซ) ส่วนชาวคาซัคมีชื่อใหม่ว่า "ไกซัก" (Kaisak) หรือ "กีร์กีซ-กาซัก" (Kirghiz-Kazak)
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ชาวคีร์กีซ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.