เราะมะฎอน (อาหรับ: رَمَضَان, อักษรโรมัน: Ramaḍān, ; บางครั้งสะกดเป็น Ramzan, Ramadhan หรือ Ramathan) เป็นเดือนที่เก้าของปฏิทินอิสลาม ที่ถือปฏิบัติโดยมุสลิมทั่วโลกในฐานะ เดือนแห่งการถือศีลอด, ละหมาด, การครุ่นคิดใคร่ครวญ และการร่วมในประชุมชน เป็นเดือนระลึกถึงโองการแรกของศาสดามุฮัมมัด, การรับนับถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนทุกปีถือเป็นหนึ่งในห้าหลักการอิสลาม โดยเดือนเราะมะฎอนจะมีระยะเวลา 29 หรือ 30 วัน นับจากการเห็นดวงจันทร์เสี้ยวครั้งหนึ่งไปยังครั้งต่อไป
เราะมะฎอน رَمَضَان | |
---|---|
ดวงจันทร์เสี้ยวเหนือต้นปาล์มที่มานามา ในวันเริ่มต้นเดือนเราะมะฎอนของศาสนาอิสลามที่ประเทศบาห์เรน | |
ชื่ออื่น | |
จัดขึ้นโดย | มุสลิม |
ประเภท | ศาสนา |
การเฉลิมฉลอง | การละศีลอดและละหมาดร่วม |
การถือปฏิบัติ |
|
เริ่ม | คืนสุดท้ายของเดือนชะอ์บาน |
สิ้นสุด | คืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน |
วันที่ | เราะมะฎอน |
ความถี่ | ทุกปี (ปฏิทินจันทรคติ) |
ส่วนเกี่ยวข้อง | อีดิลฟิฏร์, ลัยละตุลก็อดร์ |
การถือศีลอดตั้งแต่ย่ำรุ่งถึงพระอาทิตย์ตกเป็น วาญิบ (จำเป็น) ต่อมุสลิมวัยผู้ใหญ่ทุกคนที่ไม่ป่วยรุนแรงหรือเรื้อรัง, เดินทาง, ชรา, เลี้ยงลูกด้วยนมแม่, เบาหวาน และมีประจำเดือน การรับประทานอาหารก่อนย่ำรุ่งคือ ซะฮูร และการกินเพื่อละศีลอดในช่วงค่ำคือ อิฟฏอร ถึงแม้จะมี ฟัตวา ว่ามุสลิมที่อาศัยในแถบขั้วโลกที่มีดวงอาทิตย์เที่ยงคืนหรือกลางคืนแถบขั้วโลกควรตามตารางเวลาของมักกะฮ์ แต่ส่วนใหญ่จะตามตารางเวลาของประเทศใกล้ที่สุดที่มีกลางวันหรือกลางคืน
ผลตอบแทนทางจิตวิญญาณ (ษะวาบ) ของการถือศีลอดเชื่อว่าจะทวีคูณในเดือนเราะมะฎอน ตามรายงานแล้ว มุสลิมไม่ได้ห้ามแค่อาหารกับน้ำ แต่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ, เพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมที่เป็นบาป โดยทุ่มเทไปกับ การละหมาด และอ่านอัลกุรอานแทน
คำว่า เราะมะฎอน มาจากรากภาษาอาหรับว่า R-M-Ḍ (ر-م-ض) "ร้อนจัด" โดยเราะมะฎอนเป็นหนึ่งในพระนามของพระเจ้าในศาสนาอิสลาม และมีรายงานในหลายฮะดีษว่า ห้ามพูดแค่ "เราะมะฎอน" ในการเรียกชื่อเดือน และจำเป็นต้องเรียกว่า "เดือนแห่งเราะมะฎอน" ตามรายงานของซุนนี, ชีอะฮ์ และซัยดี
ในภาษาเปอร์เซีย อักษร ض (ฎ๊อด) ออกเสียงเป็น /z/ ประเทศมุสลิมบางประเทศที่มีอิทธิพลของเปอร์เซีย เช่น อาเซอร์ไบจาน, อิหร่าน, อินเดีย, ปากีสถาน และตุรกี ใช้คำว่า Ramazan หรือ Ramzan คำว่า Romjan ถูกใช้ในบังกลาเทศ
“ | เดือนรอมฏอนนั้น เป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำสำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเกี่ยวกับสิ่งที่จำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น และผู้ใดป่วย หรืออยู่ในการเดินทาง ก็จงถือใช้ในวันอื่นแทน อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้มีความสะดวกแก่พวกเจ้า และไม่ทรงให้มีความลำบากแก่พวกเจ้าและเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ให้ครบถ้วน ซึ่งจำนวนวัน (ของเดือนรอมฏอน) และเพื่อพวกเจ้าจะได้ให้ความเกรียงไกรแด่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พระองค์ทรงแนะนำแก่พวกเจ้า และเพื่อพวกเจ้าจะขอบคุณ[อัลกุรอาน 2:185] | ” |
มุสลิมถือว่าคัมภีร์ทั้งหมดถูกประทานในเดือนเราะมะฎอน ทั้งม้วนกระดาษของอิบรอฮีม, เตารอต, ซะบูร, อินญีล และอัลกุรอานถูกประทานในวันที่ 1, 6, 12, 13 (บางรายงานคือวันที่ 18) และ 24 เราะมะฎอนตามลำดับ ศาสนทูตมุฮัมมัดกล่าวว่า ท่านได้รับโองการแรกของอัลกุรอานในคืน ลัยละตุลก็อดร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าคืนคี่ในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน
ถึงแม้ว่ามุสลิมถูกสั่งให้ถือศีลอดในปีที่ 2 ของ ฮิจเราะฮ์ (ค.ศ. 624) แต่พวกเขาก็เชื่อว่าการถือศีลอดไม่ได้เป็นนวัตกรรมของเอกเทวนิยมแต่อย่างใด แต่อาจเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ศรัทธาเพื่อ ตักวา (ความกลัวต่อพระเจ้า)[อัลกุรอาน 2:183] พวกเขาเห็นว่าพวกลัทธินอกศาสนาก่อนการมาของอิสลามในมักกะฮ์ก็ถือศีลอดมาก่อนแล้ว ในวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม เพื่อชะล้างบาปและเลี่ยงภัยแล้ง ฟิลิป เจนกินส์โต้แย้งว่าการยึดถือปฏิบัติศีลอดเดือนเราะมะฎอน เติบโตอย่างรวดเร็วจาก "กฎระเบียบการบวชอย่างเคร่งครัดของคริสตจักรซีเรีย" สัจพจน์นี้เป็นที่ยืนยันโดยนักวิชาการท่านอื่น เช่น Paul-Gordon Chandler นักเทววิทยา แต่ยังเป็นที่โต้แย้งโดยนักวิชาการมุสลิมบางท่าน
วันแรกและวันสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอนถูกกำหนดโดยปฏิทินอิสลามแบบจันทรคติ
เนื่องจาก ฮิลาล หรือดวงจันทร์เสี้ยว มักเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากจันทร์ดับ มุสลิมมักคาดการณ์จุดเริ่มต้นของเดือนเราะมะฎอนได้; อย่างไรก็ตาม การเริ่มเดือนเราะมะฎอนอาจประกาศโดยการสังเกตดวงจันทร์เสี้ยวโดยตรง
ลัยละตุลก็อดร์ ถือเป็นคืนที่ศักดิ์สิทธิ์ของปี โดยทั่วไปเชื่อว่า เป็นคืนที่เกิดขึ้นในคืนคี่ของช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน ดะวูลี โบะฮ์ราเชื่อว่า คืนลัยละตุลก็อดร์ อยู่ในคืนที่ 23 ของเดือนเราะมะฎอน
วันหยุด อีดิลฟิฎร์ (عيد الفطر) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเดือนเราะมะฎอน และเป็นจุดเริ่มต้นของ เชาวาล เดือนต่อไปทางจันทรคติ โดยการประกาศเห็นเสี้ยวหนึ่งของจันทร์ดับ หรือถ้าไม่เห็นดวงจันทร์ ก็ต้องถือศีลอดเป็นวันที่ 30 การฉลอง อีด คือการกลับมาของนิสัย (ฟิฏเราะฮ์) การกิน, ดื่ม และความสัมพันธ์ทางเพศตามธรรมชาติ
การปฏิบัติศาสนกิจโดยทั่วไปคือถือศีลอดตั้งแต่ย่ำรุ่งถึงพระอาทิตย์ตก โดยมื้ออาหารก่อนย่ำรุ่งคือ ซะฮูร ในขณะที่มื้อในช่วงพระอาทิตย์ตกเพื่อละศีลอดคือ อิฟฏอร
มุสลิมอุทิศเวลาในเดือนนี้ต่อการละหมาดและการบริจาค โดยทนหิวเพื่อพัฒนาระเบียบวินัยของตัวเอง ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากฮะดีษ: "เมื่อเราะมะฎอนมาถึง ประตูสวรรค์จะถูกเปิด และประตูนรกจะถูกปิด และชัยฏอนจะถูกล่ามโซ่"
เราะมะฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญทางจิตวิญญาณ, การพัฒนาตนเอง ความจงรักภักดีและการสักการะที่สูงส่งยิ่งกว่าเดิม มุสลิมจะพยายามทำตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามให้มากกว่าเดิม การถือศีลอดเริ่มตั้งแต่ย่ำรุ่งจนสิ้นสุดที่พระอาทิตย์ตกดิน นอกจากหยุดกินและดื่มแล้ว มุสลิมจะเลี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ aและพฤติกรรมกับคำพูดที่เป็นบาปในช่วงเดือนเราะมะฎอน การถือศีลอดเป็นการทำให้หัวใจออกห่างจากกิจกรรมทางโลก ซึ่งมีจุดประสงค์ให้ทำจิตวิญญาณให้ความสะอาดโดยการปลดปล่อยจากสิ่งสกปรกที่เป็นอันตราย มุสลิมเชื่อว่าเราะมะฎอนสอนให้พวกเขาบังคับตนเอง, ควบคุมตนเอง, เสียสละ และร่วมรู้สึกแก่ผู้ที่ไม่ค่อยโชคดี จึงทำให้มีความเอื้ออาทรและเป็นการกุศลภาคบังคับ (ซะกาต)
มุสลิมเชื่อว่าคนจนที่ไม่มีอะไรกินควรถือศีลอด ซึ่งทำให้พวกเขามีอาหารเพียงพอที่จะกิน โดยทำให้พวกเขารู้ว่าคนจนรู้สึกอย่างไรในตอนที่กำลังหิว จุดประสงค์หลักของการถือศีลอดให้มีความเห็นอกเห็นใจแก่คนยากจน
ข้อยกเว้นสำหรับผู้ถือศีลอดคือคนที่เดินทาง, มีประจำเดือน, เจ็บไข้ได้ป่วย, ตั้งท้อง และให้นมเด็ก คนที่ถือศีลอดไม่ได้จะต้องถือชดในภายหลัง
แต่ละวันก่อนรุ่งอรุณ มุสลิมจะกินมื้อก่อนศีลอดที่เรียกว่า ซะฮูร หลังหยุดกินเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนรุ่งอรุณ มุสลิมจะเริ่มละหมาด ซุบฮี
ตอนพระอาทิตย์ตก ครอบครัวจะละศีลอดด้วย อิฟฎอร ตามธรรมเนียมจะเปิดด้วยอินทผลัมซึ่งเป็นแบบอย่างของศาสดามุฮัมมัดโดยการกินไปสามลูก แล้วเตรียมละหมาด มัฆริบ
มื้อละศีลอดส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์บุฟเฟตซึ่งมีทั้งของหวานที่ทำในช่วงเราะมะฎอน เช่น น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่น้ำผลไม้กับนมก็มีขาย เช่นเดียวกันกับน้ำอัดลมกับเครื่องดื่มคาเฟอีน
ในตะวันออกกลาง มื้อ อิฟฏอร จะมีน้ำ น้ำผลไม้ สลัด และอาหารกินเล่น; เมนูหลัก 1 จานหรือมากกว่านั้น และของหวาน โดยถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในเมนูหลักได้แก่สตูแกะที่มีเบอร์รี่ข้าวสาลี กะบาบแกะกับผักย่าง และไก่ย่างที่เสริฟด้วย chickpea-studded rice pilaf. ของหวานได้แก่ ลุก็อยมัต, บาคลาวา หรือ คานาเฟ
ตลอดเวลานั้น การละศีลอดอาจรวมคนไปถึงร้อยหรือแม้แต่พันคน ที่มัสยิดเชคซาเยดในอาบูดาบี มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้อาหารคนถึง 30,000 คนทุกคืน ส่วนที่เทวสถานอิหม่ามเรซาในแมชแฮด จุคนถึง 12,000 คน
ตะรอเวียะฮ์ (อาหรับ: تراويح) เป็นเวลาละหมาดพิเศษในเดือนเราะมะฎอน ตามความเชื่อส่วนใหญ่ ไม่ถือภาคบังคับ
มุสลิมตั้งใจที่จะอ่านกุรอานทั้งเล่ม ซึ่งมีถึง 30 ยุซ (ส่วน) ใน 30 วันของเดือนเราะมะฎอนโดยอ่านที่ละ ยุซ ต่อวันในเดือนนี้
ในประเทศอิสลามบางประเทศ จะมีการแขวนไฟทั่วจัตุรัสและถนน โดยเชื่อว่าสืบมาตั้งแต่รัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ ในรัชสมัยของเคาะลีฟะฮ์อัลมุอิซซ์ ลิดีนัลลอฮ์
บนเกาะชวา มีคนหลายคนอาบน้ำในน้ำซับศักดิ์สิทธิ์ในพิธีที่รู้จักในชื่อ ปาดูซัน ที่เมืองเซอมารังเป็นจุดเริ่มต้นของเราะมะฎอน โดยมีขบวนแห่ดุกเดอรัน และวารักเงินดก สิ่งมีชีวิตผสมระหว่างม้ากับมังกรที่ได้แรงบันดาลใจจากบุร็อก ในจาการ์ตา มีการจุดประทัดในบริเวณที่มีอิทธิพลของจีนอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ตอนสิ้นสุดเราะมะฎอน คนงานส่วนใหญ่ได้โบนัสหนึ่งเดือนที่เรียกว่า ตุนจางันฮารีรายา อาหารบางชนิดได้รับความนิยมในเดือนนี้ เช่น เนื้อโคหรือควายขนาดใหญ่ในอาเจะฮ์และหอยทากในจังหวัดชวากลาง ในช่วงมื้ออิฟฎอรทุกเย็นจะมีการตีเบอดุก กลองใหญ่ที่มัสยิด
การทักทายหลักในช่วงเราะมะฎอนคือ เราะมะฎอนมุบาร็อก และ เราะมะฎอนกะรีม
|
ในประเทศมุสลิมบางประเทศ การกินตอนกลางวันต่อสาธารณะในช่วงเดือนเราะมะฎอนเป็นอาชญากรรม การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเดือนเราะมะฎอน เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศอียิปต์ บทลงโทษของการกิน ดื่ม หรือสูบบุหรี่ในที่สาธารณะจะต้องจ่ายค่าปรับ และ/หรือจำคุกในประเทศคูเวต, ซาอุดีอาระเบีย, แอลจีเรีย และมาเลเซีย ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บทลงโทษคือทำงานบริการชุมชน
ในบางประเทศ การสังเกตเดือนเราะมะฎอนเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ในสหภาพโซเวียต การฝึกฝนในเราะมะฎอนถูกยกเลิกโดยข้าราชการ ในประเทศแอลเบเนีย การฉลองเราะมะฎอนถูกแบนในช่วงสมัยโซเวียต อย่างไรก็ตาม ชาวแอลเบเนียหลายคนแอบถือศีลอดอย่างลับ ๆ ในช่วงนั้น มีการรายงานในจีนว่าได้แบนการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ คนที่จับได้ว่าถือศีลอดจะถูกส่งไปยัง "ค่ายปรับทัศนคติ"
บางประเทศได้จัดเวลาทำงานใหม่ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลูกจ้างทำงานไม่มากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน และ 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ประเทศกาตาร์, โอมาน, บาห์เรน และคูเวตก็มีกฎหมายที่คล้าย ๆ กัน
มีการรายงานถึงสุขภาพของการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนอยู่หลายแบบ โดยรายงานหนึ่งกล่าวว่าการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนเป็นเรืองที่ปลอดภัยแก่คนที่มีสุขภาพดี นักวิชาการอิสลามส่วนใหญ่ถือว่าคนป่วยไม่จำเป็นต้องถือศีลอด ที่มากไปกว่านั้น คนชราและเด็กก่อนบรรลุนิติภาวะได้รับข้อยกเว้นเช่นกัน เจ้าหน้าที่บางคนรายงานว่าหญิงที่ตั้งท้องหรือให้นมไม่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกกลุ่มกล่าวว่า จะได้รับข้อยกเว้น ถ้าพวกเธอกลัวว่าการถือศีลอดอาจทำอันตรายต่อพวกเธอหรือเด็กทารก
มีผลทางสุขภาพในช่วงเราะมะฎอน ได้แก่ มีความไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น และภาวะดื้อต่ออินซูลินลดลง และมีรายงานว่ามีการพัฒนาของความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจในเวลา 10 ปี และปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ ได้แก่ การตรวจไขมัน (lipids profile), ความดันโลหิตซิสโตลิก, น้ำหนัก, ดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอว ในการตรวจสอบประวัติผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดในอดีต ช่วงการถือศีลอดมักมีความสัมพันธ์กับการลดน้ำหนักเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นอาจจะกลับมาเป็นน้ำหนักเดิม
การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน มีส่วนในการเปลื่ยนพฤติกรรมการกินแทนแบบเดิม อาจมีผลต่อสุขภาพทั้งด้านการนอนและสุขภาพโดยทั่วไป
การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนทำให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการนอน และมีความสัมพันธ์กับการผลิตฮอร์โมน
ในศาสนาอิสลาม หญิงที่ตั้งท้องและคนที่ให้นมเด็กทารกถูกยกเว้นจากการถือศีลอด การถือศีลอดอาจเป็นเรื่องอันตรายต่อหญิงที่ตั้งครรภ์เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์และก่อให้เกิดเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ปรากฏว่ามีผลต่อน้ำหนักของเด็ก แต่เป็นที่แนะนำว่าไม่ควรถือศีลอดถ้ามันทำลายชีวิตของผู้หญิงหรือเด็ก ถ้าแม่ถือศีลอดในช่วงที่ตั้งท้อง อาจมีผลให้ลูกมีสติปัญญาน้อยลง, ความสามารถทางการรู้คิดต่ำกว่าเดิม และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 นักวิชาการอิสลามหลายคนโต้แย้งว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่หญิงตั้งท้อง ไม่ควร ถือศีลอดถ้าหมอแนะนำว่าไม่ควรถือศีลอด
การถือศีลอดในเราะมะฎอนที่เรื่องที่ปลอดภัยของคนที่มีสุขภาพดีโดยมีน้ำและอาหารเพียงพอ แต่ผู้ที่ต้องกินยาควรปรึกษาทางการแพทย์ว่าอาจมีปัญหาสุขภาพก่อนหรือระหว่างถือศีลอดหรือไม่
บางศึกษาได้เชื่อมการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนกับการมีปัญหาด้านการนอน ซึ่งทำให้หลับในเวลากลางวันมากขึ้น และลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ทางกระทรวงศึกษาธิการเบอร์ลินกับสหราชอาณาจักรพยายามไม่ให้นักศึกษาถือศีลอดในช่วงเราะมะฎอน โดยอ้างว่าการไม่กินหรือดื่มอาจนำมาสู่ปัญหาด้านสมาธิและได้เกรดแย่
นักวิจารณ์วรรณกรรมโดยกลุ่มชาวอิหร่านแนะนำว่า การถือศีลอดในช่วงเราะมะฎอนอาจก่อให้เกิดไตวายต่อผู้ป่วยระดับปานกลาง (การทำหน้าที่ของไต น้อยกว่า 60 มิลลิลิตร/นาที) หรือเป็นโรคไต แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นปลูกถ่ายไต สำหรับผู้ป่วยที่มีไตที่ทำงานปกติหรือเป็นโรคนิ่วไตส่วนใหญ่
ความสัมพันธ์ระหว่างเดือนเราะมะฎอนกับอัตราการก่อเหตุผสมกัน: สถิติบางอันแสดงว่าอัตราการก่อเหตุลดลงในช่วงเราะมะฎอน ในขณะที่อีกอันแสดงว่าเพิ่มขึ้น การลดลงของอัตราการก่อเหตุถูกรายงานโดยตำรวจในบางเมืองของประเทศตุรกี (อิสตันบูล กับคอนยา) และจังหวัดตะวันออกของประเทศซาอุดีอาระเบีย จากการศึกษาปี 2005 พบว่า การก่อเหตุอาชญากรรมประเภททำร้าย, โจรกรรม และอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงในช่วงเดือนเราะมะฎอนของประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ความสำคัญของอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงทางสถิติอย่างเห็นได้ชัด มีรายงานอัตราการก่อเหตุในเดือนเราะมะฎอนเพิ่มขึ้นในประเทศตุรกี, จาการ์ตา, ส่วนหนึ่งของประเทศแอลจีเรีย, เยเมน และอียิปต์
กลไกการเสนอเกี่ยวกับผลของเราะมะฎอนต่อการก่อเหตุอาชญากรรมมีหลายแบบ:
ระยะเวลาระหว่างย่ำรุ่งถึงพระอาทิตย์ตกนั้นมีเวลาหลากหลายทั่วโลกตามครีษมายันกับเหมายันของดวงอาทิตย์ มุสลิมส่วนใหญ่ถือศีลอดเป็นเวลา 11 ถึง 16 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในแถบขั้วโลก ระยะเวลาระหว่างย่ำรุ่งถึงพระอาทิตย์ตกอาจยืดถึง 22 ชั่วโมงในฤดูร้อน เช่น ในปีค.ศ. 2014 มุสลิมในเรคยาวิก, ประเทศไอซ์แลนด์ และทร็อนไฮม์, ประเทศนอร์เวย์ ถือศีลอดไปเกือบ 22 ชั่วโมง ในขณะที่มุสลิมในซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย ถือศีลอดไปประมาณ 11 ชั่วโมง ในบริเวณที่มีกลางคืนหรือกลางวันยาวนาน มุสลิมบางคนถือศีลอดตามเมืองที่ใกล้ที่สุดที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและตก ในขณะที่บางส่วนตามเวลาของมักกะฮ์
นักบินอวกาศมุสลิมในอวกาศทำพิธีทางศาสนาตามเขตเวลาสุดท้ายบนโลก นั่นหมายความว่า นักบินอวกาศจากประเทศมาเลเซีย ถูกปล่อยจากศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดา จะตั้งเวลาถือศีลอดตามเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตกตามเขตเวลาตะวันออก ซึ่งรวมไปถึงเวลาละหมาดประจำวัน และช่วงดวงอาทิตย์ขึ้นและตกสำหรับเดือนเราะมะฎอน
มุสลิมยังคงทำงานในเดือนเราะมะฎอนต่อ; อย่างไรก็ตาม ในประเทศอิสลามบางประเทศ เช่นโอมานกับเลบานอน ได้มีการลดเวลาทำงานลง โดยมีการแนะนำว่ามุสลิมควรแจ้งนายจ้างว่าตนถือศีลอดแต่บทความจากอาหรับนิวส์รายงานว่า นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียไม่ค่อยมีความสุขในการทำงานที่สั้นกว่าเดิมในเดือนเราะมะฎอน มีบางคนรายงานว่าได้มีการยกเลิกการผลิตตั้งแต่ 35 ถึง 50%. นักธุรกิจชาวซาอุจะได้เงินเดือนพิเศษถ้าทำงานนานกว่าเดิม ถึงแม้ว่าการผลิตจะลดลง พ่อค้ายังคงได้กำไรสูงในช่วงเราะมะฎอนเพราะความต้องการสูงขึ้น
This article uses material from the Wikipedia ไทย article เราะมะฎอน, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.