เคที เพร์รี: นักร้องชาวอเมริกัน

แคเทอรีน เอลิซาเบธ ฮัดสัน (อังกฤษ: Katheryn Elizabeth Hudson; เกิด 25 ตุลาคม ค.ศ.

1984) หรือชื่อในวงการคือ เคที เพร์รี (อังกฤษ: Katy Perry) เป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน หลังจากเธอร้องเพลงในโบสถ์ในวัยเด็ก เธอได้ทำงานดนตรีแนวเพลงกอสเปลขณะเป็นวัยรุ่น เพร์รีเซ็นสัญญากับสังกัดเรดฮิลล์เรเคิดส์ และออกสตูดิโออัลบั้มแรกในชื่อ เคที ฮัดสัน โดยใช้ชื่อเกิดของเธอ เมื่อ ค.ศ. 2001 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เธอย้ายไปที่ลอสแอนเจลิสเพื่อเปลี่ยนแนวดนตรีทางโลกมากขึ้นหลังค่ายเรดฮิลล์ปิดตัวลง ซึ่งต่อมาเธอได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เพลง เกล็น บัลลาร์ด ดร.ลู้ก และแมกซ์ มาร์ติน หลังจากเธอใช้ชื่อว่าเคที เพร์รี และหมดสัญญากับค่ายเพลงดิไอส์แลนด์เดฟแจมมิวสิกกรุ๊ปและโคลัมเบียเรเคิดส์ เธอได้เซ็นสัญญากับค่ายแคปิตอลเรเคิดส์ใน ค.ศ. 2007

เคที เพร์รี
เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ
เพร์รีในเดือนเมษายน 2023
เกิดแคเทอรีน เอลิซาเบธ ฮัดสัน
(1984-10-25) ตุลาคม 25, 1984 (39 ปี)
แซนตาบาร์บารา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
ชื่ออื่น
  • เคที ฮัดสัน
  • แคเทอรีน เพร์รี
อาชีพ
  • นักร้อง
  • นักแต่งเพลง
  • นักแสดง
  • นักธุรกิจ
  • นักการกุศล
คู่สมรสรัสเซลล์ แบรนด์ (สมรส 2010; หย่า 2012)
คู่รักออร์แลนโด บลูม (2016–ปัจจุบัน; หมั้น)
ญาติ
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
เครื่องดนตรี
  • ร้องนำ
  • กีตาร์
  • เปียโน
ช่วงปี2001–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
เว็บไซต์katyperry.com

เพร์รีเริ่มมีชื่อเสียงใน ค.ศ. 2008 หลังจากออกซิงเกิล "ไอคิสด์อะเกิร์ล" ที่ทำให้เกิดประเด็นเรื่องรักร่วมเพศ และซิงเกิล "ฮอตเอ็นโคลด์" จากอัลบั้มชุดที่สอง วันออฟเดอะบอยส์ อัลบั้มชุดที่สามในชื่อ ทีนเอจดรีม (ค.ศ. 2010) ดนตรีเปลี่ยนเป็นแนวดิสโก้ และมีซิงเกิลอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ได้แก่ "แคลิฟอร์เนียเกิลส์", "ทีนเอจดรีม", "ไฟร์เวิร์ก", "อี.ที." และ "ลาสต์ฟรายเดย์ไนต์ (ที.จี.ไอ.เอฟ.)" และซิงเกิลอันดับสาม "เดอะวันแด้ตก็อตอะเวย์" อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มแรกของศิลปินหญิงที่มีซิงเกิลอันดับหนึ่งของชาร์ตบิลบอร์ดถึง 5 เพลง และเป็นรองจากอัลบั้ม แบด ของไมเคิล แจ็กสัน ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 เธอออกอัลบั้มจำหน่ายซ้ำในชื่อ ทีนเอจดรีม: เดอะคอมพลีตคอนเฟกชัน มีซิงเกิล "พาร์ตออฟมี" และ "วายด์อะเวก" อัลบั้มที่สี่ ปริซึม ออกจำหน่ายใน ค.ศ. 2013 ดนตรีเป็นแนวป็อปและแดนซ์ เธอเป็นศิลปินคนแรกที่มิวสิกวิดีโอมียอดผู้ชมถึง 1 พันล้านครั้งในช่องวีโวมากกว่าหนึ่งเพลง ได้แก่มิวสิกวิดีโอเพลง "โรร์" และ "ดาร์กฮอร์ส"

เพร์รีได้รับรางวัลและได้เสนอเข้าชิงรางวัลมากมาย และได้บันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 4 หัวข้อ และได้อยู่ในรายชื่อ "สตรีที่มีรายได้สูงสุดด้านดนตรี" (2011–16) จัดโดยนิตยสารฟอบส์ เธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดตลอดกาล โดยขายได้ 100 ล้านหน่วยทั่วโลกตลอดการเป็นนักร้อง ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2012 เธอออกภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติแบบ 3 มิติเรื่อง เคที เพร์รี: พาร์ตออฟมี และพากย์เสียงให้ตัวละคร สเมิร์ฟเฟตต์ ในภาพยนตร์เรื่อง เดอะสเมิฟส์ (2011) และ เดอะสเมิฟส์ 2 (2013)

ชีวิตและอาชีพการงาน

1984–98: ชีวิตช่วงแรก

แคเทอรีน เอลิซาเบธ ฮัดสัน เกิดในแซนตาบาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นบุตรของศิษยาภิบาลลัทธิเพนเทคอสต์ชื่อแมรี คริสตีน (ชื่อเกิดคือ เพร์รี) และเมารีซ คีธ ฮัดสัน พ่อแม่ของเธอล้วนแต่เป็นคริสต์ศาสนิกชนเกิดใหม่ (born again Christians) แต่ละคนได้หันไปนับถือศาสนาหลังจากเคยมี "วัยหนุ่มสาวเป็นคนเถื่อน" (wild youth) เพร์รีมีบรรพบุรุษเป็นชาวอังกฤษ เยอรมัน ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส เธอเป็นหลานฝั่งแม่ของผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชื่อ แฟรงก์ เพร์รี (1930–1995) เธอยังมีน้องชายที่เป็นนักร้องเช่นกันชื่อ เดวิด ฮัดสัน (เกิด ค.ศ. 1988) เป็นนักร้อง และพี่สาวชื่อแองเจลา (เกิด ค.ศ. 1982) อายุ 3-11 ขวบ ครอบครัวของเพร์รีย้ายที่อยู่บ่อยครั้งเพื่อสร้างโบสถ์คริสต์ทั่วประเทศ ก่อนที่จะย้ายกลับมาที่แซนตาบาร์บาราอีกครั้ง เมื่อเติบโตขึ้น ในช่วงชั้นประถมศึกษา เธอเข้าโรงเรียนและค่ายสอนศาสนา รวมถึงโรงเรียนคริสต์พาราไดส์แวลลี ในรัฐแอริโซนา และโรงเรียนคริสต์แซนตาบาร์บารา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ครอบครัวของเธอขัดสนเงิน บางครั้งต้องใช้แสตมป์อาหาร และกินอาหารจากจากธนาคารอาหารที่มีไว้สำหรับกลุ่มคนในโบสถ์ของพ่อแม่ของเธอ

เมื่อเติบโตขึ้น เพร์รีและพี่น้องไม่ได้รับอนุญาตให้กินซีเรียลลักกีชาร์ม เพราะคำว่า "luck" ทำให้นึกถึงแม่ของลูซิเฟอร์ และต้องเรียกไข่ปีศาจ (deviled egg) ว่า "ไข่นางฟ้า" (angel egg) เพร์รีฟังเพลงกอสเปลเป็นหลัก เนื่องจากครอบครัวของเธอต่อต้านเพลงที่เกี่ยวกับทางโลก เธอรู้จักกับเพลงที่เป็นที่นิยมผ่านซีดีที่เธอแอบหยิบมาจากเพื่อนของเธอ แม้ว่าเพร์รีจะดูไม่เคร่งศาสนา แต่เพร์รีก็เคยกล่าวว่า "ฉันสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา เพื่อควบคุมตนเอง เพื่อความอ่อนน้อมถ่อมตน" เพร์รีเริ่มร้องเพลงตามอย่างพี่สาว โดยฝึกจากเทปคาสเซตของพี่สาว เธอร้องเพลงหลายเพลงต่อหน้าพ่อแม่ ซึ่งต่อมาแนะนำให้เธอเรียนร้องเพลง เธอเริ่มฝึกร้องเพลงเมื่ออายุ 9 ขวบ และได้ร่วมร้องเพลงในโบสถ์ของพ่อแม่เธอด้วย เธอร้องในโบสถ์ตั้งแต่อายุ 9-17 ปี เมื่ออายุ 13 ปี เพร์รีได้กีตาร์ตัวแรกเป็นของขวัญวันเกิด และร้องเพลงที่เธอแต่งต่อหน้าสาธารณชน เธอพยายาม "เป็นเด็กหญิงชาวแคลิฟอร์เนียธรรมดา" ขณะกำลังเติบโต และเริ่มเล่นโรลเลอร์สเกต สเกตบอร์ด และโต้คลื่น เดวิดมองว่าในช่วงวัยรุ่น เธอเป็นทอมบอยคนหนึ่ง เธอเคยเรียนเต้นรำ และสามารถเต้นท่าสวิง ลินดีฮอป และจิตเตอร์บัก (jitterbug)

1999–2006: เริ่มอาชีพงานดนตรี

ระหว่างการเรียนไฮสกูลปีแรก เพร์รีผ่านการสอบการพัฒนาการศึกษาทั่วไป (General Educational Development) หรือ GED ขณะอายุ 15 ปี และออกจากโรงเรียนโดสพวยโบลสไฮสกูล (Dos Pueblos High School) เพื่อทำงานดนตรี เพร์รีได้ศึกษาวิชาอุปรากรอิตาลี (Italian opera) เป็นเวลาสั้น ๆ ที่สถาบันดนตรีตะวันตก (Music Academy of the West) ในแซนตาบาร์บารา การร้องเพลงของเธอเป็นที่สนใจต่อสตีฟ โทมัส และเจนนิเฟอร์ แนปป์ จากแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เขาสองคนพาเธอไปฝึกฝนการแต่งเพลง ที่แนชวิลล์ เธอบันทึกเสียงเดโมและเรียนรู้การแต่งเพลงและเล่นกีตาร์ หลังจากเซ็นสัญญากับสังกัดเรดฮิลล์เรเคิดส์ เพร์รีบันทึกเสียงอัลบั้มแรก เป็นอัลบั้มเพลงแนวกอสเปลชื่อว่าเคที ฮัดสัน อัลบั้มออกจำหน่ายวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2001 และเธอร่วมทัวร์คอนเสิร์ต เดอะสเตรนจ์ลีนอร์มัลทัวร์ (The Strangely Normal Tour) ของฟิล โจล ขณะกำลังแสดงงานของตนเองในสหรัฐด้วยเช่นกัน อัลบั้มเคที ฮัดสัน ได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวก แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขาย โดยขายได้ประมาณ 200 ชุด ก่อนที่ค่ายเพลงจะปิดตัวลงในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001

หลังจากเปลี่ยนแนวเพลงจากกอสเปล เป็นเพลงทางโลก เพร์รีเริ่มแต่งเพลงกับโปรดิวเซอร์ เกล็น แบลลาร์ด และย้ายไปที่ลอสแอนเจลิสเมื่ออายุ 17 ปี ใน ค.ศ. 2003 เธอแสดงดนตรีในชื่อแคเธอรีน เพร์รี ชั่วคราวเพื่อไม่ให้สับสนกับนักแสดง เคต ฮัดสัน ต่อมาเธอหันไปใช้สเตจเนมว่า เคที เพร์รี โดยใช้นามสกุลเก่าของแม่เธอ

ใน ค.ศ. 2004 เพร์รีเซ็นสัญญากับสังกัดของแบลลาร์ด สังกัดจาวา ซึ่งเป็นสังกัดในเครือดิไอส์แลนด์เดฟแจมมิวสิกกรุ๊ป เธอเริ่มทำอัลบั้มเดี่ยว แต่อัลบั้มถูกพับไปหลังจากสังกัดจาวาปิดตัว จากนั้นแบลลาร์ดแนะนำเพร์รีให้รู้จักกับทิม เดวีน ผู้บริหารฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปินของสังกัดโคลัมเบียเรเคิดส์ และเธอได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเดี่ยว ผ่านไปสองปี เพร์รีเขียนและบันทึกเสียงสำหรับอัลบั้มแรกในสังกัดโคลัมเบีย และร่วมงานกับนักแต่งเพลงมากมาย เช่น เดสมอนด์ ไชลด์, เกร็ก เวลส์, บุตช์ วอล์กเกอร์, สกอตต์ คัตเลอร์/แอนน์ เพรวิน, ทีมเดอะแมทริกซ์, แครา ดิโอกวาร์ดี, แมกซ์ มาร์ติน และดร.ลู้ก นอกจากนี้ หลังจากเดวีนแนะว่าพวกเขาได้เป็น "กลุ่มของจริง" (real group) แล้ว เธอได้บันทึกเสียงกับเดอะแมทริกซ์ เพร์รีถูกถอดออกจากโคลัมเบียใน ค.ศ. 2006 ขณะที่ผลงานใกล้จะสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้น เพร์รีทำงานเป็นฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปินในบริษัทอิสระชื่อ แท็กซีมิวสิก

เพร์รีประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยก่อนจะมีชื่อเสียง หนึ่งในเพลงที่เธอบันทึกเสียงกับแบลลาร์ดในอัลบั้มคือเพลง "ซิมเพิล" ได้กลายเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2005 เรื่อง มนต์รักกางเกงยีนส์ (The Sisterhood of the Traveling Pants) เธอยังร้องเบื้องหลังให้กับเพลง "โอลด์แฮบิตส์ดายฮาร์ด" ของมิก แจ็กเกอร์ รวมอยู่ในอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์อัลฟี่ กิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ ไม่รักสักที (Alfie) ออกฉายปี ค.ศ. 2004 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2004 นิตยสารเบลนเดอร์ขนานนามเพร์รีว่าเป็น "บุคคลยิ่งใหญ่คนถัดไป" (The Next Big Thing) เธอยังร้องเบื้องหลังให้กับเพลง "กูดบายฟอร์นาว" ของพี.โอ.ดี. และแสดงในมิวสิกวิดีโอใน ค.ศ. 2006 ในปีนั้น เพร์รียังแสดงในมิวสิกวิดีโอเพลง "เลิร์นทูฟลาย" ของคาร์บอน ลีฟ รับบทเป็นคนรักกับนักร้องนำวงจิม คลาส ฮีโรส์ ชื่อ เทรวี แม็กคอย คนรักหนุ่มของเธอในขณะนั้น ในมิวสิกวิดีโอเพลง "คิวปิดส์โช้กโฮลด์" ด้วย

2007–09: ประสบความสำเร็จจากอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รีเป็นส่วนหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ต 2008 วาปต์ทัวร์

หลังจากสังกัดโคลัมเบียถอดเธอออก แองเจลิกา ค็อบ-แบเลอร์ ผู้บริหารสังกัดในขณะนั้น นำเดโมของเพร์รีมาเสนอเจสัน ฟลอม ประธานสังกัดเวอร์จินเรเคิดส์ ฟลอมเชื่อว่าเธอจะเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จ และเธอเซ็นสัญญากับแคปิตอลเรเคิดส์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2007 สังกัดนัดพบเธอเพื่อให้ร่วมงานกับดร.ลู้กเพื่อเพิ่ม "แนวคิดดีเยี่ยมอย่างไม่อาจปฏิเสธได้" (undeniable smash) ลงไปในงานเพลงที่มีอยู่ เพร์รีและดร.ลู้กร่วมเขียนเพลง "ไอคิสด์อะเกิร์ล" และ "ฮอตเอ็นโคลด์" ใส่สตูดิโออัลบั้มที่สองชื่อ วันออฟเดอะบอยส์ โครงการรณรงค์โครงการหนึ่งเริ่มขึ้นด้วยวิดีโอเพลง "ยัวร์โซเกย์" ที่ออกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 มีเป้าหมายคือทำให้เธอเป็นที่รู้จักในตลาดดนตรี ภายหลัง อีพีดิจิทัลชุดหนึ่งนำโดยเพลง "ยัวร์โซเกย์" ออกจำหน่ายเพื่อดึงดูดความสนใจ มาดอนนาช่วยส่งเสริมเพลงโดยกล่าวชื่นชมเธอในรายการวิทยุ จอห์นเจย์แอนด์ริช ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2008 กล่าวว่ามันเป็น "เพลงโปรดของเธอ" ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 เพร์รีปรากฏช่วงสั้น ๆ เป็นนักร้องในคลับในซีรีส์ ไวลด์ไฟร์ ตอน "Life's Too Short" และยังปรากฏในเรื่อง เดอะยังแอนด์เดอะเรสต์เลส ระหว่างถ่ายรูปนิตยสารเรสต์เลสสไตล์ ในเดือนมิถุนายน

เพร์รีออกซิงเกิลแรกกับสังกัดแคปิตอล "ไอคิสด์อะเกิร์ล" เมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2008 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ สถานีแรกที่เปิดเพลงนี้คือ WRVW ในแนชวิลล์ ที่หลังจากเล่นเพลงนี้เพียง 3 วัน ก็มีโทรศัพท์เข้ามาขอเพลงเป็นจำนวนมาก เพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 อัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ ออกจำหน่ายวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2008 ได้รับคำวิจารณ์แบบคละกัน และขึ้นถึงอันดับที่ 9 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200 อัลบั้มขายได้ถึง 7 ล้านชุดทั่วโลก เพลง "ฮอตเอ็นโคลด์" ออกมาในเดือนกันยายน กลายเป็นเพลงที่สองที่ประสบความสำเร็จ ขึ้นอันดับ 3 บนบิลบอร์ดฮอต 100 และขึ้นอันดับ 1 ในเยอรมนี แคนาดา เนเธอร์แลนด์ และออสเตรีย หลังจากนั้นมีซิงเกิลเพลง "ธิงกิงออฟยู" และ "เวกกิงอัปอินเวกัส" ออกมาใน ค.ศ. 2009 และขึ้น 30 อันดับแรกบนชาร์ตฮอต 100 อัลบั้มของเดอะแมทริกซ์ที่เพร์รีอัดเสียงด้วยเมื่อ ค.ศ. 2004 ได้ออกจำหน่ายหลังจากเพร์รีประสบความสำเร็จ เธอขอให้ชะลอการออกจำหน่ายไว้จนกว่าจะออกซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มวันออฟเดอะบอยส์ แต่อัลบั้ม เดอะแมทริกซ์ ออกจำหน่ายทางไอทูนส์ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2009 ก่อนซิงเกิลที่สี่ "เวกกิงอัปอินเวกัส"

หลังจากจบทัวร์คอนเสิร์ต วาปต์ทัวร์ 2008 (Warped Tour 2008) เพร์รีเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ 2008 ซึ่งเธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best New Act) ในงานประกาศรางวัลบริตอะวอดส์ 2009 เธอได้รับรางวัลศิลปินเดี่ยวหญิงสากล เพร์รีเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตของตนเองในชื่อ เฮลโลเคทีทัวร์ (Hello Katy Tour) ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 เพื่อส่งเสริมอัลบั้มวันออฟเดอะบอยส์ ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2009 เธอแสดงเป็นศิลปินเปิดให้กับทัวร์คอนเสิร์ตซัมเมอร์ทัวร์ 2009 ของวงดนตรีโนเดาต์ เพร์รียังเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ 2009 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 กลายเป็นคนแรกที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลสองครั้งติดต่อกัน ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เพร์รีบันทึกอัลบั้มแสดงสด เอ็มทีวีอันพลักด์ ที่นำเพลงจากอัลบั้มวันออฟเดอะบอยส์ 5 เพลงแรกมาทำเป็นฉบับอะคูสติก และมีเพลงใหม่ 2 เพลง อัลบั้มออกจำหน่ายวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 เพร์รียังปรากฏในซิงเกิลของศิลปินอื่น 2 ซิงเกิล ในเวอร์ชันทำใหม่ของเพลง "สตาร์สตรักก์" ของวงดนตรีจากโคโลราโดชื่อ ทรีโอ!ทรี เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 และผลงานคู่กับทิมบาแลนด์ในเพลง "อิฟวีเอเวอร์มีตอะเกน" จากอัลบั้ม ช็อกแวลยู II เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2010 บันทึกสถิติโลกกินเนสส์บันทึกให้เธอเป็น "ศิลปินหญิงที่เริ่มต้นได้ดีที่สุดบนชาร์ตดิจิทัลของสหรัฐ" (Best Start on the U.S. Digital Chart by a Female Artist) หลังจากที่เธอทำยอดขายดิจิทัลซิงเกิลได้มากกว่า 2 ล้านชุด

เพลง "ไอคิสด์อะเกิร์ล" ทำให้เกิดประเด็นในกลุ่มเคร่งศาสนาและกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มเคร่งศาสนาตำหนิเนื้อหาเชิงรักร่วมเพศ ขณะที่กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศกล่าวหาว่าเธอขายความฝักใฝ่ในสองเพศผ่านบทเพลง จากที่เธอเข้าใจว่าพ่อแม่ของเธอไม่สนับสนุนงานเพลงและอาชีพของเธอ เพร์รีกล่าวกับเอ็มทีวีในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 ว่า พ่อแม่ของเธอไม่มีปัญหาเรื่องความสำเร็จของเธอ หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม็กคอยจบลงในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 เพร์รีพบกับคนที่ต่อมาเป็นสามีของเธอ รัสเซลล์ แบรนด์ ในฤดูร้อน ค.ศ. 2009 ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง จับร็อคซ่าส์มาโชว์เฟี้ยว (Get Him to the Greek) ที่เขาแสดง ฉากที่เธอเล่นเป็นฉากที่ทั้งสองคนจูบกัน ไม่ปรากฏในภาพยนตร์ เธอเริ่มคบหากับแบรนด์หลังจากพบเขาอีกครั้งในเดือนกันยายนที่งานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2009 ทั้งคู่หมั้นกันในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ขณะพักร้อนที่รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย

2010–12: อัลบั้มทีนเอจดรีม และ การสมรส

หลังจากเป็นกรรมการรับเชิญในรายการอเมริกันไอดอล เพร์รีออกเพลง "แคลิฟอร์เนียเกิลส์" ร้องร่วมกับแร็ปเปอร์ สนูป ด็อกก์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 เป็นซิงเกิลนำของสตูดิโออัลบั้มชุดที่สาม ทีนเอจดรีม และขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เมื่อเดือนมิถุนายน เธอยังเป็นกรรมการรับเชิญในรายการดิเอ็กซ์แฟกเตอร์ สหราชอาณาจักร ในเดือนต่อมา ก่อนออกซิงเกิลที่สอง "ทีนเอจดรีม" เมื่อเดือนกรกฎาคม เพลง "ทีนเอจดรีม" ขึ้นอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดในเดือนกันยายน ส่วนอัลบั้มออกจำหน่ายในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 อัลบั้มได้รับคำวิจารณ์คละกัน และขายได้ 6 ล้านชุดทั่วโลก อัลบั้มทีนเอจดรีมได้รับรางวัลจูโนอะวอร์ด สาขาอัลบั้มสากลแห่งปี 2011 ในเดือนตุลาคม เพลง "ไฟร์เวิร์ก" เป็นซิงเกิลที่สามของอัลบั้ม กลายเป็นเพลงที่ติดอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นเพลงที่สามติดต่อกันในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2010

เพลง "อี.ที." ฉบับรีมิกซ์ ร้องรับเชิญโดยแร็ปเปอร์ คานเย เวสต์ ได้ออกเป็นซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้มทีนเอจดรีมในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เพลงติดอันดับ 1 บนชาร์ตฮอต 100 เป็นเวลา 5 สัปดาห์ไม่ติดต่อกัน ทำให้อัลบั้ม ทีนเอจดรีม เป็นอัลบั้มลำดับที่เก้าในประวัติศาสตร์ที่ทำเพลงอันดับ 1 บนชาร์ตฮอต 100 ได้ถึง 4 เพลง "ลาสต์ฟรายเดย์ไนต์ (ที.จี.ไอ.เอฟ.)" ตามมาเป็นซิงเกิลที่ห้าในเดือนมิถุนายน และเมื่อเพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ทำให้เพร์รีกลายเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มีเพลงติดอันดับ 1 บนชาร์ตฮอต 100 จากอัลบั้มเดียวกันถึง 5 เพลง และศิลปินคนที่สองถัดจากอัลบั้ม แบด ของไมเคิล แจ็กสัน เธอได้รับรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 และบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ค.ศ. 2013 ในวันที่ 7 กันยายน เธอทำสถิติศิลปินหญิงคนแรกที่มีเพลงติดสิบอันดับแรกบนชาร์ตฮอต 100 ได้นาน 69 สัปดาห์ ในเดือนตุลาคม "เดอะวันแด้ตก็อตอะเวย์" ออกเป็นซิงเกิลที่หก เพลงขึ้นอันดับ 3 บนชาร์ตฮอต 100 และอันดับ 2 ในแคนาดา ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 แคปิตอลออกซิงเกิลนำจากอัลบั้ม ทีนเอจดรีม: เดอะคอมพลีตคอนเฟกชัน เพลง "พาร์ตออฟมี" เปิดตัวอันดับที่ 1 บนชาร์ตฮอต 100 และเป็นซิงเกิลที่เจ็ดที่ขึ้นอันดับ 1 อัลบั้ม ทีนเอจดรีม: เดอะคอมพลีตคอนเฟกชัน ออกจำหน่ายวันที่ 23 มีนาคม เพลง "วายด์อะเวก" ออกในวันที่ 22 พฤษภาคมเป็นซิงเกิลที่สอง ขึ้นถึงอันดับที่ 2 บนชาร์ตฮอต 100 และอันดับ 1 ในแคนาดา และนิวซีแลนด์ ในวันที่ 5 มกราคม เธอเป็นนักร้องที่ขายเพลงดิจิทัลได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ในสหรัฐ ด้วยยอดขายทั้งหมด 37.6 ล้านหน่วยจากข้อมูลของนีลเซน ซาวด์สแกน และในเดือนนั้น เธอเป็นนักร้องคนแรกที่มีเพลงได้ขายได้มากกว่า 5 ล้านหน่วยดิจิทัลถึง 5 เพลง

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
ทัวร์คอนเสิร์ตแคลิฟอร์เนียดรีมส์ทัวร์ทำรายได้ได้ US$59.5 ล้าน

เพร์รีเริ่มทัวร์คอนเสิร์ต แคลิฟอร์เนียดรีมส์ทัวร์ เพื่อส่งเสริมอัลบั้มทีนเอจดรีม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ถึงมกราคม ค.ศ. 2012 ทัวร์ทำรายได้ได้ US$59.5 ล้าน จากทั่วโลก และได้รับรางวัลสาขาแสดงสดยอดเยี่ยม (Best Live Act) ในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ 2011

ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2011 เธอแสดงในวันเปิดงานร็อกอินริโอเฟสติวัล 2011 ร่วมกับเอลตัน จอห์น, คลาวเจอ เลชี และริอานนา ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010 เพร์รีได้ปรากฏตัวในตอนแรกของรายการเซซามี สตรีท ซีซันที่ 41 หลังจากฉากที่เธอแสดงถูกอัปโหลดขึ้นยูทูบ ผู้ชมวิจารณ์เรื่องชุดที่เผยให้เห็นร่องอก หลังจากออกอากาศ 4 วัน เซซามีเวิร์กช็อปประกาศว่าฉากนั้นจะไม่ออกอากาศในโทรทัศน์ แต่ยังสามารถรับชมได้ทางออนไลน์ หลังจากนั้น เพร์รีล้อเลียนประเด็นถกเถียงดังกล่าวในรายการแซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ ซึ่งเธอเป็นศิลปินรับเชิญ และสวมเสื้อธีมเอลโมแสดงส่วนเว้าขนาดใหญ่ในการแสดงฉากหนึ่ง

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 เพร์รีแสดงเป็นแฟนสาวของ Moe Szyslak ในฉากแสดงสดฉากหนึ่งของเดอะซิมป์สัน ตอนพิเศษช่วงคริสต์มาสในตอน "The Fight Before Christmas" ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เธอเป็นนักแสดงรับเชิญในละครฮาวไอเม็ตยัวร์มาเธอร์ ตอน "Oh Honey" แสดงเป็นผู้หญิงชื่อ ฮันนี บทบาทนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ สาขาดารารับเชิญโทรทัศน์ยอดนิยม (Favorite TV Guest Star) ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 เธอปรากฏในภาพยนตร์ครั้งแรกในภาพยนตร์การ์ตูนแนวครอบครัวเรื่อง เดอะสเมิฟส์ รับบทเป็น สเมิร์ฟเฟตต์ ในวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทั่วโลก ขณะที่นักวิจารณ์ให้ความเห็นด้านลบ เธอยังเป็นพิธีกรในรายการ แซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2011 ร่วมกับโรบิน ที่เป็นแขกรับเชิญ จากงานพิธีกรดังกล่าว เพร์รีได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ที่ยกย่องถึงจังหวะการแสดงมุกตลกและซีรีส์เรื่องสั้นที่เธอแสดงร่วมกับแอนดี้ แซมเบิร์ก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 เธอแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่องเรซิงโฮป รับบทเป็นผู้คุมนักโทษชื่อ ริกกี ในตอน "Single White Female Role Model" ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 เพร์รีได้ออกผลงานภาพยนตร์อัตชีวประวัติในชื่อ เคที เพร์รี: พาร์ตออฟมี ผ่านทางพาราเมาต์พิกเจอส์ ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีและทำรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้ US$30 ล้าน ทั่วโลก

เพร์รีเริ่มทำธุรกิจเมื่อเธอได้เซ็นรับรองน้ำหอมตัวแรกชื่อ เพอร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ตัวที่สองชื่อ เมียว! ออกจำหน่ายในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2011 น้ำหอมทั้งสองตัวออกวางขายที่ห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม อิเล็กทรอนิก อาตส์ ได้จ้างเธอให้ส่งเสริมภาคเสริมเกม เดอะซิมส์ 3: โชว์ไทม์ ก่อนจะออกภาคเสริมอีกภาคที่มีเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และทรงผมที่ได้แรงบันดาลใจจากเพร์รี ในชื่อ เดอะซิมส์ 3: เคที เพร์รีสวีตทรีตส์ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 ในเดือนต่อมา เธอเป็นโฆษกและทูตให้กับผลิตภัณฑ์ ป็อปชิปส์ และลงทุนในบริษัทดังกล่าวด้วย และนิตยสารบิลบอร์ดจัดให้เธอเป็น "ผู้หญิงแห่งปี" ค.ศ. 2012

เธอสมรสกับรัสเซลล์ แบรนด์ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2010 โดยจัดพิธีสมรสแบบฮินดูใกล้ ๆ เขตสงวนพันธุ์เสือรันทัมบอร์ ในรัฐราชสถาน แบรนด์ประกาศในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2011 ว่าพวกเขาได้หย่าร้างกันหลังจากใช้ชีวิตคู่กัน 14 เดือน ต่อมา เพร์รีกล่าวว่า ตารางเวลาที่ไม่ตรงกันและเขาต้องการมีบุตรโดยที่เธอยังไม่พร้อม ทำให้การสมรสสิ้นสุดลง และเขาไม่พูดกับเธออีกเลยหลังจากส่งข้อความขอหย่าถึงเธอ ขณะที่แบรนด์ยืนยันว่าเขาหย่ากับเพร์รีเพราะชื่อเสียงของเธอที่เพิ่มขึ้น ความสำเร็จ และความลังเลที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย แรกเริ่มเธอรู้สึกคุ้มคลั่งเรื่องหย่าร้าง และกล่าวว่าเธอเคยคิดฆ่าตัวตาย หลังจากการสมรสสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 2012 เพร์รีเริ่มต้นความสัมพันธ์กับนักร้อง จอห์น เมเยอร์ ในเดือนสิงหาคมนั้นเอง

2013–2015: อัลบั้มปริซึม ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 และการแสดงช่วงพักครึ่ง

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 เพร์รีเริ่มทำงานอัลบั้มชุดที่สี่ ปริซึม เธอกล่าวกับนิตยสารบิลบอร์ดว่า "ฉันรู้ว่าผลงานที่ฉันจะทำต่อไป ฉันรู้ปกอัลบั้ม สีสัน โทน" และ "ฉันรู้แม้กระทั่งทัวร์คอนเสิร์ตที่ฉันจะจัด ฉันจะพอใจมากถ้าภาพที่ฉันคิดในหัวออกมาเป็นความจริงได้" แม้ว่าเธอบอกกับ L'Uomo Vogue ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 ว่าเธอวางแผนไว้ว่าจะมี "องค์ประกอบที่มืดมนลง" (darker elements) ในอัลบั้มปริซึม หลังจากการสมรสสิ้นสุดลง เธอเผยกับเอ็มทีวีในระหว่างงานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2013 ว่าเธอได้เปลี่ยนทิศทางของอัลบั้มหลังจากเธอใช้เวลาไตร่ตรองตนเอง เธอออกความเห็นว่า "ฉันรู้สึกถึงแสงส่องดั่งปริซึม (prismatic) อย่างมาก" กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับชื่ออัลบั้ม เพลง "โรร์" ออกโรงเป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้ม ปริซึม ในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2013 เธอส่งเสริมเพลงนี้ผ่านการแสดงในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ และเพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เพลง "อันคอนดิชันเนิลลี" ออกเป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2013 และขึ้นถึงอันดับที่ 14 ในสหรัฐ

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รีแสดงในคอนเสิร์ตเดอะพริสมาติกเวิลด์ทัวร์ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2014

อัลบั้ม ปริซึม ออกจำหน่ายในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2013 และขายได้ 4 ล้านชุดนับถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2015 อัลบั้มได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวก และเปิดตัวที่อันดับที่ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200 สี่วันต่อมา เพร์รีแสดงเพลงใหม่จากอัลบั้มที่โรงละครไอฮาร์ตเรดิโอในลอสแอนเจลิส เพลง "ดาร์กฮอร์ส" ออกมาเป็นซิงเกิลที่สามในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2013 กลายเป็นเพลงที่ติดอันดับ 1 เป็นเพลงที่เก้าของเธอเมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2014 ใน ค.ศ. 2014 เพลง "เบิร์ธเดย์" และ "ดิสอิสฮาววีดู" ออกมาเป็นซิงเกิลที่สี่และห้าจากอัลบั้มปริซึม และขึ้นถึง 25 อันดับแรกบนชาร์ตฮอต 100 นอกจากนี้ เธอยังได้บันทึกเสียงและแต่งเพลงร่วมกับ จอห์น เมเยอร์ ในเพลง "ฮูยูเลิฟ" จากอัลบั้มของเขา พาราไดซ์แวลลี เพลงออกมาวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2013 เพร์รีเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สามในชื่อ เดอะพริสมาติกเวิลด์ทัวร์ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 และจบลงในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 ทำรายได้ได้ US$204.3 ล้าน จากทั่วโลก และเพร์รีได้รับรางวัล "แพ็กเกจสูงสุด" ในงานประกาศรางวัลบิลบอร์ดทัวริงอะวอดส์ 2014 เธอแสดงในเทศกาลดนตรีร็อกอินริโอ 2015 ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2015

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รีใน Super Bowl halftime show ครั้งที่ 49

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 เอ็นเอฟแอลประกาศว่าเพร์รีจะแสดงในช่วงพักครึ่งในงานซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 พร้อมกับแขกรับเชิญ เลนนี แครวิตซ์ และมิสซี เอลเลียต หลังการแสดงสองวัน บันทึกสถิติโลกกินเนสส์บันทึกว่าการแสดงของเพร์รีมีผู้ชม 118.5 ล้านคนในสหรัฐ กลายเป็นการแสดงที่มีผู้ชมมากที่สุดและมีเรตสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของซูเปอร์โบวล์ ยอดคนชมสูงกว่าตัวกีฬาเอง ซึ่งมีคนชมอยู่ที่ 114.4 ล้านคน

สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศตั้งให้เพร์รีเป็นศิลปินระดับโลกอันดับที่ห้าของปี ค.ศ. 2013 ในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2014 สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้เพร์รีเป็นศิลปินที่ได้รับการรับรองมากที่สุด (Top Certified Digital Artist Ever) หลังจากทำยอดขายได้ 72 ล้านหน่วยดิจิทัลในสหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ภาพนิ่งของเพร์รีที่วาดโดยมาร์ก ไรเดน ได้แสดงในนิทรรศการ "The Gay 90s" และแสดงที่ Kohn Gallery ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอยังได้บันทึกเสียงเพลงฉบับทำใหม่ "เดซีเบลล์ (ไบซีเคิลบิลต์ฟอร์ทู)" ร่วมกับศิลปินอื่นมากมายในอัลบั้มชื่อ เดอะเกย์ไนน์ทีส์โอลด์ไทม์มิวสิก: เดซีเบลล์ รุ่นจำกัดที่มาพร้อมกับนิทรรศการดังกล่าว ในเดือนเดียวกันนั้น ภาพนิ่งอีกภาพหนึ่งของเพร์รีวาดโดยวิล ค็อตตัน ได้แสดงอยู่ในแกลอรีภาพนิ่งแห่งชาติ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน เพร์รีแสดงในโครงการโฆษณาวันหยุดของ เอชแอนด์เอ็ม ซึ่งเธอแต่งและบันทึกเพลง "เอเวอรีเดย์อิสอะฮอลิเดย์" ให้

ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2014 เพร์รีประกาศว่าเธอได้ก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเองภายใต้สังกัดแคปิตอลเรเคิดส์ในชื่อ เมตามอร์โฟซิสมิวสิก เฟร์ราส์เป็นศิลปินคนแรกที่เซ็นสัญญาเข้าสังกัดดังกล่าว และเพร์รีเป็นหัวหน้าโปรดิวเซอร์ให้อีพีของเขา เธอยังบันทึกเสียงเพลง "เลเจนส์เนเวอร์ดาย" ร่วมกับเขาในอีพีด้วย ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 นิตยสารฟอบส์ประมาณรายได้สุทธิของเธออยู่ที่ US$125 ล้าน และติดอันดับที่หกในรายชื่อ "ผู้หญิงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวงการดนตรี" โดยมีรายได้ US$41 ล้าน

นอกจากงานดนตรี เพร์รีได้กลับมารับบทสเมิร์ฟเฟตต์ ในภาพยนตร์ เดอะสเมิฟส์ 2 ออกมาในวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 เช่นเดียวกับภาคก่อนหน้า ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แม้ว่าจะได้รับคำวิจารณ์แตกต่างกันไป ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014 เธอเป็นแขกรับเชิญรับบทเป็นตนเองในรายการโครลโชว์ ตอน "Blisteritos Presents Dad Academy Graduation Congraduritos Red Carpet Viewing Party" น้ำหอมตัวที่สามชื่อ คิลเลอร์ควีน ออกมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ผ่านทางบริษัทโคตี (Coty, inc.) ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2014 เธอเป็นภัณฑารักษ์รับเชิญให้มาดอนน่าในโครงการริเริ่ม อาร์ตฟอร์ฟรีดอม ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์สารคดีเรื่องแบรนด์: อะเซกันด์คัมมิง สารคดีที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงจากงานแสดงตลกไปเป็นนักกิจกรรมของอดีตสามี รัสเซลล์ แบรนด์ และออกภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่อง เคที เพร์รี: เดอะพริสมาติกเวิลด์ทัวร์ ออกอากาศทางช่องอีพิกซ์ เกิดขึ้นในระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตชื่อเดียวกัน เพร์รีแสดงรับเชิญในมิวสิกวิดีโอเพลง "บิตช์ไอม์มาดอนน่า" ของมาดอนน่าเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 ในเดือนต่อมา เธอออกน้ำหอมอีกรุ่นหนึ่งกับบริษัทโคตี ในชื่อ แมดโพชัน ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง เคที เพร์รี: เมกกิงออฟเดอะเปปซีซูเปอร์โบวล์ฮาล์ฟไทม์โชว์ ออกฉายหลังจากเพร์รีเตรียมตัวแสดงในงานซูเปอร์โบวล์ และเจเรมี สก็อตต์: เดอะพีเพิลส์ดีไซเนอร์ ที่เล่าเรื่องชีวิตและอาชีพนักออกแบบของเจเรมี สก็อตต์ เพร์รีออกโปรแกรมประยุกต์ชื่อ เคทีเพร์รีป็อป ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015 ผ่านตัวแทนจำหน่าย กลูโมไบล์ ซึ่งตัวละครของเธอทำให้ผู้เล่นกลายเป็นนักดนตรีชื่อดัง เธออธิบายถึงโปรแกรมนี้ว่าเป็น "โลกที่สนุกและมีสีสันสดใสที่สุดที่ช่วยนำทางสู่ฝันทางดนตรีของคุณ"

2016–2018: อัลบั้ม วิตนิสส์ และอเมริกันไอดอล

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รีตั้งท่าถ่ายรูปกับแฟนคลับในซิดนีย์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017

เมื่อต้นปี ค.ศ. 2016 เธอเริ่มทำเพลงใหม่ในเดือนมิถุนายน และอัดเพลงประกอบการออกอากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ทางช่องเอ็นบีซีสปอตส์ ชื่อ "ไรส์" ออกจำหน่ายวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 โดยเพร์รีเลือกจำหน่ายเป็นซิงเกิลแยกเดี่ยวแทนที่จะเก็บไว้ในอัลบั้มใหม่ 'เพราะตอนนี้ โลกต้องการให้เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว' เอ็นบีซีโอลิมปิกส์รู้สึกว่าเพลงนี้เป็นข้อความที่พูดถึงเนื้อหาของเพลงเป็นแรงบันดาลใจโดยตรงต่อจิตวิญญาณของโอลิมปิกส์และนักกีฬา เพลงเปิดตัวที่อันดับที่หนึ่งในประเทศออสเตรเลีย และอันดับที่ 11 ในสหรัฐ

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016 เพร์รีกล่าวว่าเธอต้องการทำเพลงที่ "เชื่อมโยง เกี่ยวข้องกัน และเป็นแรงบันดาลใจ"และบอกกับไรอัน ซีเครสต์ว่าเธอ "ไม่รีบ" ทำอัลบั้มที่ห้า และเสริมว่า "ฉันแค่กำลังสนุกอยู่ แต่ก็ทดลองทำดนตรีกับโปรดิวเซอร์หลาย ๆ คน ร่วมงานกับหลาย ๆ คนและดนตรีหลาย ๆ รูปแบบ" ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 เพร์รีออกซิงเกิล "เชนด์ทูเดอะริทึม" ร้องรับเชิญโดยสกิป มาร์เลย์ เพลงขึ้นอันดับหนึ่งในฮังการี และอันดับสี่ในสหรัฐ เพลงถูกสตรีมมากกว่าสามล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติซิงเกิลที่สตรีมมากที่สุดในวันแรกของศิลปินหญิง ซิงเกิลที่สอง "บอนาเพที" ร้องรับเชิญโดยมีโกส ออกจำหน่ายในเดือนเมษายน ซิงเกิลที่สาม "สวิชสวิช" ร้องรับเชิญโดยนิกกี มินาจ ออกตามมาในเดือนถัดไป เพลงขึ้นอันดับ 59 และ 46 ในสหรัฐ และขึ้นถึงสิบห้าอันดับแรกในแคนาดา

อัลบั้ม วิตนิสส์ วางจำหน่ายในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2017 ได้รับคำวิจารณ์ผสมกัน และเปิดตัวที่อันดับหนึ่งในสหรัฐ หลังออกอัลบัม เพร์รีถ่ายทอดสดตนเองบนยูทูบในวันที่วางจำหน่ายในชื่อรายการเคที เพร์รี ไลฟ์: วิตนิสส์เวิลด์ไวด์ จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน รายการสดมีผู้ชมมากกว่า 49 ล้านคนจาก 190 ประเทศ เพร์รีออกทัวร์คอนเสิร์ตชื่อ วิตนิสส์: เดอะทัวร์ เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2017 ถึงสิงหาคม ค.ศ. 2018 ในวันที่ 15 มิถุนายน แคลวิน แฮร์ริสออกเพลง "ฟีลส์" ซึ่งเพร์รีร้องรับเชิญ ร่วมกับบิกฌอน และฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ จากอัลบั้ม ฟังก์เวฟเบาน์ซิส วอลยุม 1 เพลงขึ้นอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักร

เพร์รีอัดเสียงร้องเพลงคัฟเวอร์ "เวฟวิงทรูอะวินโดว์" ประกอบละครเวทีเรื่องเดียร์อีวานแฮนเซน ลงอัลบั้มเพลงประกอบรุ่นพิเศษ วางจำหน่ายวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ผู้สร้างละคร เบน พาเซก และจัสติน พอล ขอให้เพร์รีร้องเพลงดังกล่าวเพื่อส่งเสริมทัวร์ละครเวทีในประเทศและสร้างความตระหนักต่อสุขภาพจิต ในวันที่ 15 พฤศจิกายน เพร์รีออกเพลง "โคซีลิตเทิลคริสต์มาส" เฉพาะในแอมะซอนมิวสิก เธออัดเพลง "อิมมอร์ทัลเฟลม" ให้เกมไฟนอลแฟนตาซีเบรฟเอกซ์เวียส และมีตัวละครเล่นได้ที่ออกแบบตามแบบเธอ ในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 61 เพร์รีร้องเพลง "เฮียร์ยูคัมอะเกน" ร่วมกับดอลลี พาร์ตันและเคซีย์ มัสเกรฟส์ แสดงความเคารพแก่พาร์ตัน และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 เธอออกเพลง "365" ร่วมกับดีเจเซดด์ สองเดือนถัดมา แดดดีแยงกีออกเพลง "กอนกอลมา" ฉบับรีมิกซ์ที่รวมเสียงเพร์รีและสโนว์ลงในเพลง เธอออกซิงเกิล "เนเวอร์เรียลลีโอเวอร์" ตามมาในวันที่ 31 พฤษภาคม และ "สมอลล์ทอล์ก" ในวันที่ 9 สิงหาคม

นอกเหนือจากงานเพลง เธอรับบทเป็นตนเองในภาพยนตร์เรื่อง ซูแลนเดอร์ 2 ออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 เพร์รีออกสินค้ารองเท้าในชื่อ "เคที เพร์รี คอลเลกชันส์" รองเท้าของเธอวางจำหน่ายในเว็บไซต์ เคที เพร์รี คอลเลกชันส์ ของเธอ และที่ร้านค้าปลีก เช่น ดิลลาร์ด และวอลมาร์ต เดือนสิงหาคม เธอเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2017 เธอเซ็นสัญญารับเงินเดือน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับตำแหน่งกรรมการตัดสินในรายการอเมริกันไอดอลซีซันใหม่ ออกอากาศทางช่องเอบีซี เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018< เพร์รีเริ่มคบหากับออร์แลนโด บลูมเมื่อต้นปี ค.ศ. 2016 และหมั้นกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 เธอปรากฏในมิวสิกวิดีโอเพลง "ยูนีดทูคาล์มดาวน์" ของเทย์เลอร์ สวิฟต์

หนึ่งเดือนถัดมา คณะลูกขุนในแคลิฟอร์เนียยื่นคำตัดสินคดีเพลง "ดาร์กฮอร์ส" ที่คัดลอกเพลง "จอยฟุลนอยส์" ปี ค.ศ. 2008 ของเฟลม หลังจากเขายื่นฟ้องคดีลิขสิทธิ์ว่าเพลงได้นำจังหวะเพลงของตนมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต คณะลูกขุนสั่งให้เธอชดใช้เขาเป็นเงิน 550,000 ดอลลาร์สหรัฐ จอช คลอส นักแสดงร่วมกับเพรรีในมิวสิกวิดีโอ "ทีนเอจดรีม" กล่าวหาเธอในเรื่องการคุกคามทางเพศ ในโพสต์โพสต์หนึ่งในอินสตาแกรม คลอสกล่าวหาว่า ระหว่างงานเลี้ยงที่ลานสเกต เพร์รีดึงกางเกงและกางเกงในของเขาลง ทำให้เพื่อนผู้ชายเห็นองคชาตของเขา คลอสยังเขียนอีกว่าเธอพยายามไม่ให้เขาพูดถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเธอ เพร์รียังไม่ได้ให้การใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

2019–ปัจจุบัน: อัลบั้ม สไมล์ และมีบุตร

หลังจากออกซิงเกิล "เนเวอร์วอร์นไวต์" ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2020 เพร์รีเปิดเผยในมิวสิกวิดีโอว่าเธอตั้งครรภ์บุตรคนแรกกับคู่หมั้น ออร์แลนโด บลูม ต่อมาวันที่ 15 พฤษภาคม เพร์รีออกซิงเกิล "เดซีส์" ซึ่งเป็นซิงเกิลนำของอัลบั้มที่หก สไมล์ อัลบั้ม สไมล์ ออกจำหน่ายในวันที่ 28 สิงหาคม สองวันก่อนอัลบั้มออกจำหน่าย เพร์รีให้กำเนิดบุตรสาวชื่อ เดซี ดัฟ บลูม อัลบั้ม สไมล์ ได้รับเสียงตอบรับแบบผสม เปิดตัวในอันดับที่ 5 ในชาร์ตบิลบอร์ด 200 ของสหรัฐ

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023 เธอได้ขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตฉลองพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรปราสาทวินด์เซอร์

งานดนตรี

อิทธิพล

อลานิส มอริสเซตต์ (ซ้าย) และ เฟรดดี เมอร์คูรี (ขวา) ต่างก็มีอิทธิพลต่อเพร์รีและงานดนตรีของเธอ

ในช่วงแรกของงานดนตรี แนวเพลงที่เพร์รีร้องบ่อย ๆ คือกอสเปล และเธอใฝ่ฝันจะประสบความสำเร็จเหมือนเอมี แกรนต์ เมื่ออายุ 15 ปี เธอได้รู้จักเพลง "คิลเลอร์ควีน" ของวงควีน และนับว่าเป็นเพลงที่บันดาลใจเธอให้ทำอาชีพดนตรี เธอกล่าวถึงนักร้องนำ เฟรดดี เมอร์คูรี ว่าเป็น "อิทธิพลใหญ่สุด" (biggest influence) ของเธอและอธิบายว่า "การผสมผสานของการแต่งเพลงแบบประชดประชันกับทัศนคติที่ว่า 'ฉันไม่ใส่ใจ' (I don't give a fuck) เป็นแรงบันดาลใจให้เธอได้อย่างไร" เธอแสดงความนับถือวงดังกล่าวโดยตั้งชื่อน้ำหอมตัวที่สามของเธอว่า คิลเลอร์ควีน เพร์รียังพูดถึงวงเดอะบีชบอยส์ และอัลบั้ม เพ็ตซาวส์ ในฐานะที่เป็นอัลบั้มที่มีอิทธิพลต่อเธออย่างมากว่า "เพ็ตซาวส์ เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ฉันโปรดปรานที่มีผลต่อเพลงที่ฉันแต่ง ทุก ๆ เมโลดีที่ฉันแต่งขึ้นก็มีที่มาจากอัลบั้มเพ็ตซาวส์" เพร์รีสรรเสริญอัลบั้มเดอะบีเทิลส์ ของวงเดอะบีเทิลส์ และอัลบั้ม เพ็ตซาวส์ อย่างมากและถือว่าเป็น "อัลบั้มที่ฉันฟังนานถึง 2 ปีติดต่อกัน"

เพร์รีกล่าวถึงอลานิส มอริสเซตต์ และอัลบั้ม แจกกิดลิตเทิลพิลล์ (ค.ศ. 1995) ว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญต่องานดนตรีของเธอ และมักจะได้ทำงานร่วมกับเกล็น แบลลาร์ด ซึ่งเคยทำงานกับมอริสเซตต์บ่อยครั้ง เพร์รีกล่าวว่า "อัลบั้มแจกกิดลิตเทิลพิลล์ เป็นอัลบั้มเพลงผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยทำมา มันมีเพลงที่แต่งไว้สำหรับทุกคน และเพลงทุกเพลงก็เกี่ยวกับฉันทั้งหมดด้วย เพลงเหล่านั้นยังคงอยู่เป็นนิรันดร์ตลอดมา" นอกจากนี้ เพร์รียังได้รับอิทธิพลจากอัลบั้ม เฟลมมิงเรด ของแพตตี กริฟฟิน และอัลบั้ม 10 เซนต์วิงส์ ของโจนาธา บรู๊ก เพร์รีใฝ่ฝันอยากจะเป็นอย่างคาโรล คิง, บอนนีย์ เรตต์ และโจนี มิตเชลล์ และตั้งใจจะเป็น "มากกว่าโจนี มิตเชลล์" โดยจะออกเพลงแนวโฟล์กและอะคูสติก ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของเพร์รีเรื่อง เคที เพร์รี: พาร์ตออฟมี มีอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่อง มาดอนน่า: ทรูธออร์แดร์ เธอยกย่องความสามารถของมาดอนน่าในการนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ได้ และกล่าวว่า "ฉันอยากจะค่อย ๆ พัฒนาตนเองให้เหมือนกับมาดอนน่า" และให้เครดิตว่ามาดอนน่าเป็นแรงบันดาลใจให้เธอทำอัลบั้ม ปริซึม "มืดมน"กว่าอัลบั้มก่อนหน้า

เพร์รีถือว่า ปีเยิร์ก เป็นอิทธิพลทางดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้เธอ "เต็มใจที่จะลองเสี่ยงอยู่เสมอ" นักดนตรีคนอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลกับเพร์รี ได้แก่ แอ็บบ้า เดอะคาร์ดิแกนส์ เอซออฟเบส ซินดี ลอเปอร์ ซีซี พีนิสตัน ซีแอนด์ซีมิวสิกแฟกทอรี แบล็กบ็อกซ์ คริสตัลวอเทอส์ มารายห์ แครี พิงก์ และเกว็น สเตฟานี เพลง "ไฟร์เวิร์ก" มีแรงบันดาลใจจากหนังสือชื่อ ออนเดอะโรด (On The Road) ของแจ็ก เครูแอ็ก ที่ผู้เขียนได้เปรียบเทียบคนที่มีชีวิตชีวาเป็นดั่งพลุที่พวยพุ่งไปบนท้องฟ้า และมองดูด้วยความเกรงขาม คอนเสิร์ตครั้งที่สองของเธอ แคลิฟอร์เนียดรีมส์ทัวร์ ทำให้รำลึกถึงนวนิยายเรื่องอลิซท่องแดนมหัศจรรย์ (Alice's Adventures in Wonderland) และพ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ ( The Wonderful Wizard of Oz) เธอยังให้เครดิตว่าภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1996 เรื่องสี่แหววพลังแม่มด (The Craft) ทำให้เกิดเพลง "ดาร์กฮอร์ส" และหนังสือเรื่องพลังแห่งจิตปัจจุบัน (The Power of Now) เขียนโดยเอคาร์ต ทอเลอ ที่ทำให้เกิดอัลบั้ม ปริซึม ขึ้นมา

แนวดนตรีและรูปแบบเพลง

"ตอนที่ฉันกำลังบันทึกเสียงเพลงอยู่ บางครั้งฉันไม่แน่ใจตัวเอง ฉันจะรู้สึกว่า ฉันแค่โชคดี หรือฉันได้ทำให้คนทั้งโลกคิดว่าเพลงทั้งเจ็ดเพลงนั้นเหมาะกับอันดับหนึ่งแล้ว จากนั้นฉันก็กลับไปยังสตูดิโอและเริ่มเขียนเพลง และเชื้อน้ำมันที่แท้จริงในตัวฉันก็เดือดปุด ๆ ขึ้นมาและเตือนให้ฉันรู้ว่ามันอยู่ในตัวฉันมาตลอด ไม่มีใครจะเอามันไปจากฉันได้ไม่ว่าใครจะให้ความเห็นว่าอะไร มันก็จะอยู่ในนั้นเพราะฉันเกิดมาพร้อมกับมันและฉันต้องทำงานกับมันไปตลอดชีวิต"

— เพร์รีกล่าวถึงความมั่นใจในฐานะนักแต่งเพลง

ขณะที่แนวเพลงเพร์รีจะเป็นแนวป็อป ร็อก และดิสโก้ แต่ "เคที ฮัดสัน" จะร้องแค่แนวกอสเปล อัลบั้มวันออฟเดอะบอยส์ และ ทีนเอจดรีม มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและความรัก อัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ เป็นงานเพลงแนวป็อปร็อก ขณะที่อัลบั้ม ทีนเอจดรีม จะมีแนวดิสโก้เพิ่มเข้ามาด้วย อัลบั้มที่สี่ ปริซึม เป็นดนตรีแนวแดนซ์และป็อปอย่างเห็นได้ชัด ในด้านเนื้อเพลง อัลบั้ม ปริซึม บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การไตร่ตรองตนเอง และชีวิตประจำวัน เพลงของเธอหลายเพลง โดยเฉพาะในอัลบั้ม ทีนเอจดรีม สะท้อนถึงความรักระหว่างวัยรุ่น นิตยสาร W บรรยายถึงการประชดประชันเรื่องเพศในอัลบั้มว่าเป็น "เมโลดีที่น่าจดจำอย่างไม่อาจต้านทานได้" (irresistible hook-laden melodies) เนื้อหาเพลงแบบให้อำนาจตนเองเป็นเนื้อหาหลักในเพลงของเพร์รี

เพร์รีระบุตนเองว่าเป็น "นักร้อง-นักแต่งเพลงสวมรอยเป็นดาราเพลงป็อป" และยืนยันว่าการแต่งเพลงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอ เธอกล่าวกับนิตยสาร มารี แคลร์ ว่า "ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าลูกเล่นเวทมนตร์ลับของฉันที่ทำให้ฉันต้องแยกจากเพื่อนเป็นเรื่องที่กล้าหาญมากที่ต้องยอมอ่อนแอ จริงใจ และซื่อสัตย์" ฉันคิดว่าคุณจะผูกมิตรกับใครได้เมื่อจะต้องอ่อนแอ" คริสเต็น วิก ให้ความเห็นว่า "เรียบง่าย เย็นสบาย และมีผลต่อผู้อื่นอย่างเพลงของเพร์รีสวมควรจะทำได้ ภายใต้พื้นผิวซ่อนทะเลอารมณ์ แรงจูงใจ และแรงกระตุ้นที่ขัดกันซับซ้อนมากพอที่จะเติมเต็มเพลงของคาโรล คิง" เกร็ก ค็อต แห่งหนังสือพิมพ์ชิคาโกทริบูน กล่าวว่า "การเอาจริงเอาจังอาจเป็นความท้าทายที่ดีที่สุดของเพร์รีแล้ว" หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์ส กล่าวว่า "เธอเป็นดาราป็อปที่มีศักยภาพที่สุดของวัน เพลงดังของเธอเป็นคำพูดเปรยจากการทดลองเท่านั้น" แรนดอล โรเบิตส์ จากหนังสือพิมพ์ ลอสแอนเจลิสไทม์ส วิพากย์การใช้สำนวนและอุปมา และการใช้ "สำนวนจำเจ" (cliché) บ่อยเกินไป ตลอดอาชีพของเธอ เพร์รีได้ร่วมเขียนเพลงให้กับศิลปินจำนวนมาก ได้แก่ เซลีนา โกเมซ แอนด์เดอะซีน เจสซี เจมส์ เคลลี คลาร์กสัน เลสลีย์ รอย บริตนีย์ สเปียส์ อิกกี อะเซเลีย และอะรีอานา กรานเด

เสียงร้อง

เพร์รีมีช่วงเสียงร้องต่ำแบบคอนทราลโต (contralto) การร้องเพลงของเธอได้รับทั้งคำชมและคำตำหนิ เบ็ตตี คลาร์ก แห่งหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ให้ความเห็นว่า "เสียงร้องของเธอทรงพลัง" (hard-edged) ขณะที่ร็อบ เชฟฟิลด์ จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ติว่าเสียงร้องของเพร์รี "มีปัญหาในเรื่องโน้ตสแตกคาโต" (staccato) จากในอัลบั้ม ทีนเอจดรีม ดาร์เรน ฮาร์วีย์ จากเว็บไซต์มิวสิกโอเอ็มเอช เปรียบเทียบเสียงเพร์รีจากอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ กับเสียงของอลานิส มอริสเซตต์ ว่าทั้งคู่มี "เสียงมีชีวิตชีวา ที่เปลี่ยนระดับเสียงในกลางพยางค์ของคำเป็นอ็อกเทฟได้" (perky voice shifting octaves mid-syllable) อเล็กซ์ มิลเลอร์ จากนิตยสาร เอ็นเอ็มอี รู้สึกว่าในอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ ปัญหาของเพร์รีคือเสียง... ในบางช่วงของท่อน มีคนทำให้เธอเชื่อว่าเธอเหมือนลูกไก่ร็อกใจกล้า (ballsy rock chick) แม้ว่าเบอร์นาเด็ตต์ แม็กทัลตี จาก เดอะเดลีเทเลกราฟ ชื่นชม "เสียงลูกไก่ร็อก" ของเธอในบทวิจารณ์ของคอนเสิร์ตส่งเสริมอัลบั้มปริซึม

ภาพลักษณ์สาธารณะ

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
ชุดเป็ปเปอร์มินต์หมุนวน (spinning peppermint swirl dress) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเพร์รี

เพร์รีถือว่าเป็นดาราที่เป็นสัญลักษณ์ทางเพศ (sex symbol) นิตยสาร GQ ตั้งให้เธอเป็น "จินตนิมิตไร้ขีดจำกัดของผู้ชาย" (full-on male fantasy) ขณะที่นิตยสาร แอล บรรยายร่างกายเธอว่า "ราวกับถูกร่างภาพขึ้นจากเด็กชายวัยรุ่น" นิตยสาร ไวซ์ บรรยายเธอว่าเป็น "ดาราป็อป/ผู้หญิง/สัญลักษณ์ทางเพศ ที่เอาจริงเอาจัง" เธอถูกจัดให้อยู่อันดับหนึ่งในรายชื่อแม็กซิมฮอต 100 ของนิตยสารแม็กซิม ใน ค.ศ. 2010 เป็น "ผู้หญิงที่ร้อนแรงที่สุดในโลก" (hottest woman on Earth) บรรณาธิการ โจ เลวี บรรยายเธอว่า "ร้อนแรงคูณสาม ไม่ใช่คูณสี่" (triple – no quadruple – kind of hot) นักอ่านนิตยสารเม็นส์เฮลต์ โหวตให้เธอเป็น "ผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในปี ค.ศ. 2013" ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 เพร์รีกล่าวกับนิตยสาร ฮาร์เปอส์บะซาร์ ว่าเธอภูมิใจและพอใจในตัวตนของเธอ

แฟชันเสื้อผ้าของเพร์รีจะมีอารมณ์ขัน มีสีสันฉูดฉาด และมีอาหารประดับ อย่างเช่น ชุดเป็ปเปอร์มินต์หมุนวน (spinning peppermint swirl dress) ของเธอที่มีเครื่องหมายการค้า นิตยสารโว้ก บรรยายตัวเธอว่า "เป็นคนที่ไม่เคยหลบเลี่ยงพวกที่ระรานหรือสุดโต่งในทุกอาณาบริเวณ" ขณะที่นิตยสาร แกลเมอร์ ตั้งชื่อให้เธอว่า "ราชินีนักเล่นสำนวน" (queen of quirk) ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 เพร์รีกล่าวกับนิตยสาร เซเวนทีน ว่ารูปแบบแฟชันของเธอเป็น "การประกอบสิ่งที่แตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าด้วยกัน" และกล่าวว่าเธอชอบแต่งตัวให้ดูมีอารมณ์ขัน เธอยังบรรยายตนเองว่าเป็นคน "หลายบุคลิกภาพ" (multipersonality disorder) ในเรื่องแฟชัน เพร์รีถือว่าเกว็น สเตฟานี, เชอร์ลีย์ แมนสัน, โคลอี เซเวอนี, แดฟนี กินเนส, นาตาลี พอร์ตแมน และตัวละคร โลลิตา เป็นสัญรูปแฟชันของเธอ

ในสื่อสังคม ทวิตเตอร์ของเพร์รีมียอดผู้ติดตามสูงที่สุด แซงจัสติน บีเบอร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 เธอทำสถิติในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ว่ามีผู้ติดตามทวิตเตอร์มากที่สุด และกลายเป็นคนแรกที่มีผู้ติดตามถึง 90 ล้านคนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 โดโรธี โพเมแรนซ์ นักเขียนนิตยสารฟอบส์ ยกย่องเพร์รีด้านการใช้สื่อสังคมว่า "เพร์รีใช้ทวิตเตอร์ได้อย่างฉลาด โดยพูดคุยกับแฟนคลับของเธอและแบ่งปันรูปภาพและวิดีโอตลก ๆ แบบที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเพร์รีเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของพวกเขา" คีธ คอลฟิลด์ จากนิตยสารบิลบอร์ด กล่าวว่า เธอเป็น "คนดังหายากที่มีความนิยมมหาศาลแต่มีปฏิสัมพันธ์กับเคทีแคตส์ (KatyCats) ที่เธอรัก แบบติดดินอย่างแท้จริง" ในปี ค.ศ. 2011 นิตยสารฟอบส์ จัดอันดับเพร์รีอยู่ที่ 3 ในรายชื่อ "ผู้หญิงที่ทำได้มากที่สุดจากวงการดนตรี" ด้วยรายได้ US$44 ล้าน และอันดับที่ 5 ในรายชื่อเดียวกันปี ค.ศ. 2012 ด้วยรายได้ US$45 ล้าน ต่อมา นิตยสารฟอบส์จัดให้เธอเป็น "ผู้หญิงที่ทำเงินได้มากที่สุดด้านดนตรี" อันดับที่ 7 ของปี ค.ศ. 2013 ด้วยรายได้ US$39 ล้าน และอันดับที่ 5 ของปี ค.ศ. 2014 ด้วยรายได้ US$40 ล้าน จากรายได้ US$135 ล้าน นิตยสารฟอบส์ จัดอันดับให้เพรรีเป็น "สตรีที่มีรายได้สูงสุดด้านดนตรี" อันดับหนึ่ง ประจำปี ค.ศ. 2015 และเป็นคนดังเพศหญิงที่มีรายได้สูงที่สุดอยู่อันดับที่ 3 ในรายชื่อ 100 คนดังของฟอบส์

กิจกรรมอื่น ๆ

องค์กรการกุศล

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รีเข้าร่วมงานยูนิเซฟสโนว์เฟลกบอลในปลายเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012

เพร์รีร่วมสนับสนุนองค์กรและหัวข้ออภิปรายการกุศลตลอดอาชีพด้านดนตรี เธออุทิศตนให้กับองค์กรที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและค่าธรรมเนียมของเด็ก ๆ เป็นพิเศษ ในเดือนเมษายน เธอเข้าร่วมองค์กรยูนิเซฟเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ในมาดากัสการ์ด้านการศึกษาและโภชนาการ ในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เธอกลายเป็นทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟอย่างเป็นทางการ "ด้วยความมุ่งเน้นในการช่วยคนหนุ่มสาวในองค์กรเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่อ่อนแอที่สุดของโลก" เงินส่วนหนึ่งที่ได้จากค่าตั๋วคอนเสิร์ตเดอะพริสมาติกเวิลด์ทัวร์ถูกบริจาคให้องค์การยูนิเซฟ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010 เธอช่วยสร้างและออกแบบสถานสงเคราะห์ความหวังเด็กชาย/ความหวังเด็กหญิง (Boys Hope/Girls Hope) ในบัลติมอร์เพื่อเป็นที่พักให้กับคนหนุ่มสาวร่วมกับเรเวน ซิโมน, ชาคีล โอนีล และนักแสดงจากรายการเรียลลิตีเรื่อง เอ็กซ์ตรีมเมกโอเวอร์: โฮมเอดิชัน

เธอยังสนับสนุนการศึกษาเด็ก ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 เพร์รีและนักร้องที่ได้รับเลือกจำนวนหนึ่งได้ร้องเพลง "เดซีเบลล์ (ไบซีเคิลบิลต์ฟอร์ทู)" จากอัลบั้มที่ออกควบคู่กับนิทรรศการศิลปะ "เดอะเกย์ 90s" ของจิตรกรชื่อ มาร์ก ไรเดน กำไรทั้งหมดจากยอดขายของอัลบั้มถูกบริจาคเข้าองค์กรการกุศลชื่อลิตเติลคิดส์ร็อก ที่สนับสนุนการศึกษาดนตรีให้กับโรงเรียนประถมด้อยโอกาส ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 เธอร่วมมือกับบริษัทสเตเปิลในโปรเจกต์ชื่อ "เมกโรร์แฮปเพิน" (Make Roar Happen) พร้อมบริจาคเงิน US$59.5 ล้านให้กับองค์การโดเนอส์ชูส องค์การที่สนับสนุนครูและหาทุนเพื่อสร้างห้องเรียนในโรงเรียนสาธารณะ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 เธอร่วมงานกับยูนิเซฟพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในประเทศเวียดนาม โดยหวังว่าจะ "ทำลายวัฏจักรความยากจนและเร่งพัฒนาสุขภาพ การศึกษา และชีวิตที่ดีขึ้นของเด็ก ๆ" ในเดือนถัดมา ยูนิเซฟประกาศว่าเพร์รีจะได้รับรางวัลมนุษยธรรมของออเดรย์ เฮปเบิร์น "สำหรับงานในฐานะทูตสันถวไมตรีให้กับยูนิเซฟที่สนับสนุนเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสที่สุดในโลก" ที่งานสโนว์เฟลกบอลประจำปีในเดือนพฤศจิกายน

เพร์รียังสนับสนุนองค์กรที่มุ่งช่วยเหลือผู้ป่วยโรคต่าง ๆ เช่นโรคมะเร็ง และเอดส์ ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต 2008 วาปต์ทัวร์ เธอทำเฝือกรูปหน้าอกที่จำลองแบบจากหน้าอกของเธอเพื่อหาเงินให้มูลนิธิคีปอะเบรสต์ เธอเป็นพิธีกรและแสดงดนตรีในคอนเสิร์ตวีแคนเซอร์ไวฟ์ ร่วมกับบอนนี แม็กคี, เคซี มัสเกรฟส์, ซารา บาเรลลิส, เอลลี โกลดิง และศิลปินคู่ ทีแกน และ ซารา ที่ฮอลลิวูดโบลในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2013 โดยบริจาคกำไรจากคอนเสิร์ตให้กับองค์การยังเซอร์ไวเวิลโคอะลิชัน องค์การที่ช่วยเหลือหญิงสาวที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 เธอออกแบบชิ้นส่วนประดับเสื้อผ้าให้เอชแอนด์เอ็มในโครงการรณรงค์ "แฟชันต่อต้านเอดส์" (Fashion Against AIDS) ที่ช่วยหาเงินให้กับโครงการความตระหนักโรคเอดส์ต่าง ๆ

รายได้จากซิงเกิล "พาร์ตออฟมี" ถูกบริจาคเข้าองค์การกุศลมิวสิแคส์ (MusiCares) ที่ช่วยนักดนตรียามตกทุกข์ได้ยาก ในขณะทัวร์คอนเสิร์ตแคลิฟอร์เนียดรีมส์ทัวร์ เธอนำเงินมากกว่า US$175,000 เข้ากองระดมทุนทิกเก็ตส์ฟอร์แชริตี เงินแบ่งให้กับ 3 มูลนิธิ ได้แก่ กองทุนสุขภาพเด็ก (Children's Health Fund) องค์การเอื้อเฟื้อน้ำ (Generosity Water) และองค์การส่งเสริมมนุษยธรรมแห่งสหรัฐ (The Humane Society of the United States) ในวันเกิดครบรอบ 27 ปี เพร์รีสร้างหน้าเว็บรับบริจาคสำหรับสมาคมป้องกันความรุนแรงต่อสัตว์ (Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ที่อ็อกแลนด์ และสร้างหน้าเว็บคล้าย ๆ กันให้กับมูลนิธิเดวิด ลินช์ (David Lynch Foundation) ในวันเกิดอายุ 28 ปี ในวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2014 เธอช่วยนำเงิน US$2.4 ล้าน ให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art) ในลอสแอนเจลิสร่วมกับคนดังเช่น ไรอัน ซีเครสต์, ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์, ทิม อัลเลน, ลิซา เอเดลสตีน และไรลีย์ คีโอ

เพร์รีแสดงที่คอนเสิร์ตวันเลิฟแมนเชสเตอร์ เพื่อหารายได้ให้เหยื่อเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์อะรีนา ร่วมกับศิลปินอีกหลายคน รวมถึงอารีอานา กรานเดด้วย

การเมือง

เคที เพร์รี: ชีวิตและอาชีพการงาน, งานดนตรี, ภาพลักษณ์สาธารณะ 
เพร์รี แสดงในพิธีการของผู้สมัครประธานาธิบดี ฮิลลารี คลินตันหลายพิธี

เพร์รีเป็นนักกิจกรรมสิทธิชายรักร่วมเพศคนหนึ่ง เธอสนับสนุนองค์กรการกุศลสโตนวอลล์ในโครงการรณรงค์ชื่อ "อิตเก็ตส์เบ็ตเทอร์.....ทูเดย์" เพื่อป้องกันการรังแกพวกรักร่วมเพศ และทำมิวสิกวิดีโอเพลง "ไฟร์เวิร์ก" อุทิศให้กับโครงการอิตเก็ตส์เบ็ตเทอร์โปรเจกต์ เพร์รีกล่าวกับองค์กรดูซัมธิงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 ว่าเธอภูมิใจที่ได้เป็นนักสงเคราะห์ชายรักร่วมเพศ "ฉันเป็นคนที่ใจกว้างอยู่เสมอ และเชื่อในความเสมอภาค" เธอยืนยันว่าเธอไม่เห็นด้วยกับญัตติข้อที่ 8 การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย (ซึ่งสุดท้ายถูกวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ) ที่นิยามการสมรสว่าเป็นการอยู่กินด้วยกันเฉพาะระหว่างชายกับหญิงเท่านั้นในรัฐแคลิฟอร์เนียตามกฎหมาย ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 เพร์รีตั้งความหวังต่อความเสมอภาคของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) กล่าวว่า "หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมองย้อนมาถึงเวลานี้และคิดอย่างที่เราคิดในขณะนี้เกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน[อื่น ๆ]" เราจะไม่ส่ายหน้าเป็นนัยว่าไม่เชื่อ บอกว่า 'ขอบคุณพระเจ้าที่เราวิวัฒนา' นั่นจะเป็นคำอธิษฐานของฉันในวันข้างหน้า" ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 เพร์รีได้รับรางวัลเทรเวอร์ฮีโรอะวอร์ด จากโครงการเดอะเทรเวอร์โปรเจกต์ สำหรับงานและนโยบายของเธอในฐานะคนหนุ่มสาวที่สนับสนุน LGBT เธอเป็นผู้สนับสนุนสิทธิสตรี และปรากฏในวิดีโอคลิปของโครงการ "ไชม์ฟอร์เชนจ์" เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมอำนาจให้แก่ผู้หญิง เธอยังกล่าวว่าความขาดแคลนการบริการทางสาธารณสุขฟรีในอเมริกาทำให้เธอ "บ้าจริงๆ" (absolutely crazy) จากเหตุยิงกันที่ไนต์คลับในออร์แลนโด ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 เพร์รีและศิลปินและผู้บริหารอีกเกือบ 200 คนลงชื่อในจดหมายจัดขึ้นโดยนิตยสารบิลบอร์ด จ่าหน้าถึงรัฐสภาสหรัฐ เรียกร้องให้เพิ่มข้อบังคับว่าด้วยอาวุธปืนในสหรัฐ

เพร์รีสนับสนุนประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในการลงเลือกตั้งสมัยที่สองและยกย่องที่เขาสนับสนุนการสมรส และความเสมอภาคในเพศเดียวกัน ผ่านทางทวิตเตอร์และการแสดงในงานชุมนุม เธอแสดงในงานชุมนุมให้แก่โอบามา 3 ครั้งในลอสแอนเจลิส ลาสเวกัส และวิสคอนซิน โดยร้องเพลง "เล็ตส์สเตย์ทูเก็ดเดอร์" และเพลงของเธออีกหลายเพลง ในระหว่างการแสดง เธอสวมชุดที่ทำเลียนแบบใบลงคะแนนเลือกตั้งที่กาช่องเลือกโอบามา ในทวิตเตอร์ เธอเชิญชวนให้ผู้ติดตามเลือกโอบามาด้วย ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 เพร์รีรณรงค์ให้สาธารณชนไม่เลือกโทนี แอ็บบอตต์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เพราะว่าเขาต่อต้านการสมรสกับชายรักร่วมเพศ และบอกว่าแอ็บบอตต์ว่า "ฉันรักคุณในฐานะมนุษย์คนหนึ่งแต่ฉันไม่อาจเลือกคุณได้" ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2014 เธอเข้าร่วมงานแถลงข่าวทางการเมืองเพื่อสนับสนุนมาเรียน วิลเลียมสัน ในโครงการรณรงค์ของเขตรัฐสภาที่ 33 ของแคลิฟอร์เนีย เพร์รียังสนับสนุนห้อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี คลินตัน ให้เป็นประธานาธิบดีใน ค.ศ. 2016 ด้วย และมอบเงิน US$2,700 ให้กับโครงการรณรงค์ของคลินตัน เธอแสดงในการชุมนุมเพื่อคลินตันที่รัฐไอโอวาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 และแสดงร่วมกับเอลตัน จอห์น ที่คอนเสิร์ตระดมทุนแก่คลินตันที่นครนิวยอร์กในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2016 เพร์รีได้กล่าวและแสดงดนตรีในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต ค.ศ. 2016 ที่ฟิลาเดลเฟีย เพื่อสนับสนุนฮิลลารี คลินตัน เธอกระตุ้นให้ประชาชนเลือกคลินตัน ให้ความเห็นว่าพวกเขาจะ "มีอำนาจเหมือนกับนักวิ่งเต้นของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ" และ "จะมีอำนาจเทียบเท่ากับเศรษฐีพันล้าน" ในการเลือกตั้งครั้งนี้

ความสำเร็จ

ตลอดอาชีพนักร้องของเธอ เพร์รีได้รับรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 5 สาขา รางวัลพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ 14 สาขา และบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 4 หัวข้อ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2012 บิลบอร์ดขนานนามให้เธอเป็น "ผู้หญิงแห่งปี" (Woman of the Year) เธอมีเพลงอยู่บน 10 อันดับแรกของชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 นานติดต่อกันมากที่สุดถึง 69 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 ถึงกันยายน ค.ศ. 2011 อัลบั้ม ทีนเอจดรีม เป็นอัลบั้มของนักร้องผู้หญิงอัลบั้มแรกที่มีเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100ได้ทั้งหมด 5 เพลง และเป็นอัลบั้มที่สองรองจากอัลบั้ม แบด ของไมเคิล แจ็กสัน สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศประกาศให้เธอเป็น ศิลปินหญิงระดับโลกแห่งปี ค.ศ. 2013 (Top Global Female Recording Artist of 2013) นับจนถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2014 เธอมีเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตฮอต 100 ทั้งหมด 9 เพลง เพลงล่าสุดคือ "ดาร์กฮอร์ส" ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 มิวสิกวิดีโอเพลง "ดาร์กฮอร์ส" กลายเป็นวิดีโอเพลงของผู้หญิงตัวแรกที่มียอดผู้ชมเกิน 1 พันล้านครั้งในวีโว เดือนต่อมา มิวสิกวิดีโอเพลง "โรร์" มียอดผู้ชมเกิน 1 พันล้านครั้งในวีโว ทำให้เธอเป็นนักร้องคนแรกที่มีวิดีโอยอดผู้ชม 1 พันล้านครั้งมากกว่า 1 ตัว

จากข้อมูลของสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา เพร์รีเป็นศิลปินที่มีดิจิทัลซิงเกิลขายดีที่สุดอันดั้บที่สามในสหรัฐ ขายได้ทั้งหมด 83.5 ล้านซิงเกิลผ่านช่องทางออนดีมานด์สตรีมมิง (on-demand streaming) เพลง "ไฟร์เวิร์ก", "อี.ที.", "แคลิฟอร์เนียเกิลส์", "ฮอตเอ็นโคลด์", "โรร์" และ "ดาร์กฮอร์ส" ต่างขายได้ซิงเกิลละมากกว่า 5 ล้านหน่วยดิจิทัล ตลอดอาชีพของเธอ เพร์รีขายเพลงได้ 100 ล้านหน่วยทั่วโลก และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

ผลงานเพลง

ผลงานภาพยนตร์

ทัวร์

คอนเสิร์ตของตัวเอง

คอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินอื่น

อ้างอิง

Tags:

เคที เพร์รี ชีวิตและอาชีพการงานเคที เพร์รี งานดนตรีเคที เพร์รี ภาพลักษณ์สาธารณะเคที เพร์รี กิจกรรมอื่น ๆเคที เพร์รี ความสำเร็จเคที เพร์รี ผลงานเพลงเคที เพร์รี ผลงานภาพยนตร์เคที เพร์รี ทัวร์เคที เพร์รี อ้างอิงเคที เพร์รี

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

สหประชาชาติประเทศตุรกีคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัสราณี แคมเปนรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกคณะองคมนตรีไทยอิสระ ศรีทะโรกีบ (สกุลเงิน)ถนนเยาวราชจิรภพ ภูริเดชพิมพ์ภัทรา วิชัยกุลพาทิศ พิสิฐกุลจ้าว ลู่ซืออาแอ็ส แซ็งเตเตียนรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาช้อปปี้เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้วภาษาอังกฤษรายพระนามและชื่อภรรยาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจังหวัดพะเยาพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคประเทศรัสเซียมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีปักหมุดรักฉุกเฉินอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)จังหวัดชลบุรีเซเว่น อีเลฟเว่นเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพนกกะรางหัวขวานรายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยรามาวดี นาคฉัตรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพระราชาคณะเจ้าคณะรองสังคายนาในศาสนาพุทธอาทิตย์ กำลังเอกงูเขียวพระอินทร์ซิลลี่ ฟูลส์สหภาพโซเวียตสูตรลับตำรับดันเจียนหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโตข้าราชการพลเรือนสามัญสุจาริณี วิวัชรวงศ์พฤษภาคมหน้าหลักรายชื่ออักษรย่อของโรงเรียนในประเทศไทย/กสุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตรเปรม ติณสูลานนท์แอทลาสวรนุช ภิรมย์ภักดีก็อตซิลลาภาคตะวันออก (ประเทศไทย)บรรดาศักดิ์อังกฤษวันมูหะมัดนอร์ มะทาสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยูฟ่ายูโรปาลีกอสมทโชติกา วงศ์วิลาศเจ้าหญิงดิสนีย์สมณะโพธิรักษ์อานาปานสติ23 เมษายนสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีการบินไทยมหาวิทยาลัยสวนดุสิตจังหวัดเพชรบูรณ์วิทยาศาสตร์จังหวัดเลยประเทศเวียดนามกรณิศ เล้าสุบินประเสริฐรายชื่อช่องที่มียอดติดตามสูงสุดในยูทูบประเทศโมนาโกประเทศอิหร่านภาษาเกาหลีสุภาพบุรุษจุฑาเทพพระคเณศ🡆 More