อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือ อนุสาวรีย์ปราบกบฏ เป็นอนุสาวรีย์ที่เคยตั้งอยู่ ณ วงเวียนหลักสี่ จุดตัดระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ปราบกบฏบวรเดช และเพื่อรำลึกถึงทหารและตำรวจฝ่ายรัฐบาลที่เสียชีวิต ปัจจุบันมีสถานะสูญหาย ไม่ทราบว่าถูกเคลื่อนย้ายหรือถูกทำลาย
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ | |
---|---|
อนุสาวรีย์ปราบกบฏ อนุสาวรีย์ 17 ทหารและตำรวจ อนุสาวรีย์หลักสี่ อนุสาวรีย์หลวงอำนวยสงคราม | |
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ | |
ประเภท | เสาอนุสรณ์ |
ที่ตั้ง | แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร |
สร้างเมื่อ | พ.ศ. 2479 (เริ่มก่อสร้าง) 15 ตุลาคม พ.ศ. 2479 (พิธีเปิด) |
สร้างเพื่อ | ระลึกถึงชัยชนะของรัฐบาลคณะราษฎรในเหตุการณ์ปราบกบฏบวรเดช |
รื้อถอน | 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561 |
สถานะ | ถูกรื้อถอน, สูญหาย |
สถาปนิก | หลวงนฤมิตรเลขการ |
สถาปัตยกรรม | สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ |
ผู้ดูแล | กรมศิลปากร รัฐบาลไทย |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ |
ขึ้นเมื่อ | 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 |
เป็นส่วนหนึ่งของ | โบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานคร |
เลขอ้างอิง | 0005462 |
ชื่ออักษรไทย | อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ |
ชื่ออักษรโรมัน | Anusawari Phithak Ratthathammanun |
รหัสทางแยก | N110 |
ที่ตั้ง | แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร |
ทิศทางการจราจร | |
↑ | ถนนพหลโยธิน » สะพานใหม่ |
→ | ถนนรามอินทรา » แยกลาดปลาเค้า |
↓ | ถนนพหลโยธิน » แยกเกษตร |
← | ถนนแจ้งวัฒนะ » แยกหลักสี่ |
ในสมัยพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยในปี พ.ศ. 2475 โดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม รวมทั้งนายทหารอื่น ๆ ก่อการรัฐประหารโดยนำกองทหารเพชรบุรี นครราชสีมา และอุดรธานี บุกเข้ายึดพื้นที่ดอนเมืองและบางเขนไว้ ภายหลังการปราบกบฏแล้วนั้น รัฐบาลจึงมีดำริก่อสร้างอนุสาวรีย์เพื่อบรรจุอัฐินายทหารและตำรวจของรัฐบาลที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการดังกล่าว จึงดำเนินการก่อสร้างอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญในราวปี พ.ศ. 2479 โดยหลวงนฤมิตรเลขการเป็นผู้ออกแบบอนุสาวรีย์ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและทำพิธีเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2479 โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงประกอบพิธีเปิด
อนุสาวรีย์ได้รับการออกแบบโดยหลวงนฤมิตรเลขการ อาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยออกแบบลักษณะเป็นเสา และสื่อถึงหลักทางการเมืองของรัฐบาล 5 ประการ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กองทัพ และรัฐธรรมนูญ เสาของอนุสาวรีย์มีลักษณะคล้ายลูกปืน สื่อความหมายถึงกองทัพ ประดับกลีบบัว 8 ซ้อนขึ้นไป 2 ชั้น บนฐานรูปแปดเหลี่ยมซึ่งหมายถึงทิศทั้งแปดตามคติพราหมณ์ ฐานของอนุสาวรีย์มี 4 ทิศ มีบันไดวนรอบฐาน ส่วนบนสุดของเสาอนุสาวรีย์เป็นพานรัฐธรรมนูญซึ่งหมายถึง รัฐธรรมนูญ
ผนังของเสาแต่ละด้านของอนุสาวรีย์มีการจารึกและประดับในเรื่องราวที่ต่างกันไป โดยผนังด้านทิศตะวันตกหรือผนังที่อยู่ด้านหน้าของถนนพหลโยธินมีการจารึกรายนามของทหารและตำรวจ 17 นายที่เสียชีวิต ด้านทิศตะวันออกนั้นเป็นรูปแกะสลักของครอบครัวชาวนาคือ พ่อ แม่ และลูก โดย ผู้ชายถือเคียวเกี่ยวข้าว ผู้หญิงถือรวงข้าว และเด็กถือเชือก ซึ่งสื่อถึงชาติและประชาชนในชาติ ด้านทิศเหนือเป็นรูปธรรมจักรซึ่งหมายถึงศาสนา และด้านทิศใต้เป็นแผ่นทองเหลืองจารึกโคลงสยามานุสติ ซึ่งเป็นโคลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสื่อถึงพระมหากษัตริย์
โดยมีการบรรจุอัฐิทหารและตำรวจที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ภายในรวม 17 นาย จึงมีชื่อเรียกอื่น ๆ ได้แก่ อนุสาวรีย์ 17 ทหารและตำรวจ อนุสาวรีย์หลักสี่ หรืออนุสาวรีย์หลวงอำนวยสงคราม มีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญอยู่หลายครั้งโดยกรมทางหลวง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดโดยรอบอนุสาวรีย์ อาทิ การปรับภูมิทัศน์เป็นสี่แยกและการขุดอุโมงค์ลอดอนุสาวรีย์ และการก่อสร้างสะพานลอยด้านข้างอนุสาวรีย์เพื่อเชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะกับถนนรามอินทรา ปัจจุบันบริเวณอนุสาวรีย์มีการก่อสร้างสถานีวัดพระศรีมหาธาตุของทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต - คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ส่วนตัวอนุสาวรีย์นั้นถูกย้ายออกและไม่ทราบว่ามีการนำไปไว้ที่ใด
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญได้รับการออกแบบโดยหลวงนฤมิตรเลขการ อาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยยึดหลักทางการเมืองของรัฐบาล 5 ประการ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กองทัพ และรัฐธรรมนูญ การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2479 มีการทำพิธีเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม ปีเดียวกัน โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงประกอบพิธีเปิด
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เคยใช้เป็นสถานที่เพื่อนัดชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) ในปี พ.ศ. 2553 นอกจากนี้ยังมีประเพณีตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ ณ บริเวณอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นประจำทุกปี
การจราจรบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์มีความเนื่องแน่น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2536 กรมทางหลวงได้ปรับปรุงทางจราจรบริเวณอนุสาวรีย์โดยทุบพื้นที่โดยรอบเหลือเพียงแต่เสาอนุสาวรีย์ ทำเป็นสี่แยก ต่อมาได้ยกเลิกการใช้สี่แยกดังกล่าวเนื่องจากได้ขุดอุโมงค์ลอดอนุสาวรีย์แทน ในปี พ.ศ. 2553 กรมทางหลวงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยในบริเวณวงเวียนหลักสี่ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องเคลื่อนย้ายตัวอนุสาวรีย์ออกไปจากบริเวณเดิม กลุ่มนักอนุรักษ์โบราณคดี และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนชาวบ้านได้รวมตัวกันคัดค้านการเคลื่อนย้ายดังกล่าว หากทว่ากรมทางหลวงได้อ้างว่าได้พูดคุยกับกรมศิลปากรแล้ว แต่กรมศิลปากรปฏิเสธและไม่มีนโยบายที่จะเคลื่อนย้ายโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว
ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ได้ย้ายอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญไปไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างหนองบอน กรุงเทพมหานคร แต่นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้นำไปไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างหนองบอน และไม่ทราบว่าปัจจุบันตัวอนุสาวรีย์เก็บไว้ที่ใด
This article uses material from the Wikipedia ไทย article อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.