อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (อังกฤษ: Convention on the Elimination of all Forms of Discrimination against Women หรือย่อว่า CEDAW) เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติเห็นชอบในปี 2522 และสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศเดียวที่ลงนามในอนุสัญญานี้แล้วแต่มิยอมให้สัตยาบัน
ประเภท | อนุสัญญา |
---|---|
วันลงนาม | 18 ธันวาคม 2522 |
ที่ลงนาม | นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา |
วันมีผล | 3 กันยายน 2524 |
ภาคี | 187 (ดู รายชื่อ) |
ผู้เก็บรักษา | เลขาธิการสหประชาชาติ |
ภาษา | อาหรับ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และสเปน |
อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ที่ วิกิซอร์ซ |
ลงนามและให้สัตยาบันแล้ว ให้สัตยาบันโดยภาคยานุวัติหรือสืบสิทธิ รัฐซึ่งยังไม่เป็นที่รับรองแต่ยินยอมปฏิบัติตามอนุสัญญา | ลงนามเท่านั้น มิได้ลงนาม |
อนุสัญญานี้ให้บทอธิบายศัพท์ "การเลือกปฏิบัติต่อสตรี" ว่า (ข้อ 1)
"...การแบ่งแยก การกีดกัน หรือการจำกัดใด ๆ เพราะเหตุแห่งเพศ ซึ่งมีผลหรือความมุ่งประสงค์ที่จะทำลายหรือทำให้เสื่อมเสียการยอมรับ การได้อุปโภคหรือใช้สิทธิโดยสตรี โดยไม่คำนึงถึงสถานภาพด้านการสมรส บนพื้นฐานของความเสมอภาคของบุรุษและสตรี ของสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมของพลเมือง หรือด้านอื่น ๆ..."
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดวาระเพื่อดำเนินกิจกรรมยุติการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศ
บรรดารัฐที่ให้สัตยาบันแล้วมีหน้าที่พิทักษ์และธำรงความเสมอภาคระหว่างเพศในกฎหมายของประเทศตน มีหน้าที่ยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายบรรดาที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออนุสัญญานี้ และมีหน้าที่จัดให้มีกฎหมายใหม่เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติต่อสตรี กับทั้งยังต้องจัดให้มีตุลาการและสถาบันสาธารณะเพื่อประกันอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งการป้องกันการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบไม่ว่าที่เกิดโดยบุคคลธรรมดา องค์กรองค์การ และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
รัฐสมาชิกของสหประชาชาติจำนวนหกรัฐที่มิได้ลงนามในอนุสัญญานี้ ได้แก่ อิหร่าน นาอูรู ปาเลา โซมาเลีย ซูดาน และตองงา ซึ่งล้วนเป็นรัฐอิสลามไม่ก็เป็นรัฐที่เป็นเกาะแก่งบนทะเลแปซิฟิก นอกจากนี้ นีอูเอและนครรัฐวาติกันก็ยังมิได้ลงนาม ส่วนสหรัฐอเมริกานั้นเป็นประเทศเดียวที่ลงนามแล้วแต่ยังมิยอมให้สัตยาบัน
การควบคุมดูแลการปฏิบัติตามอนุสัญญานี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ชื่อ "คณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี" (Committee on the Elimination of Discrimination against Women) ประกอบด้วยกรรมการยี่สิบสองคน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านสตรีจากประเทศสมาชิกต่าง ๆ ของสหประชาชาติ โดยมีการกำหนดคุณสมบัติว่าเป็น "ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณธรรมและความสามารถสูงในสาขาที่ครอบคลุมโดยอนุสัญญานี้" กรรมการจะได้รับเลือกตั้งมาคราวละสี่ปี แต่วาระดำรงตำแหน่งของสมาชิกเก้าคนที่ได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งแรกจะสิ้นสุดหลังจากครบสองปี
คณะกรรมการประชุมกันปีละสองครั้งเป็นอย่างน้อยเพื่อพิจารณารายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญานี้ซึ่งรัฐภาคีมีหน้าที่ทำและจัดส่งมาทุก ๆ สี่ปี และคณะกรรมการนี้ยังเป็นหนึ่งในองค์กรด้านสิทธิมนุษย์ทั้งแปดแห่งสหประชาชาติด้วย
พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Optional Protocol to the Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women) เป็นความตกลงฝ่ายเดียวของอนุสัญญานี้ที่อนุญาตให้ภาคีของอนุญาตเลือกยอมรับในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ โดยพิธีสารเลือกรับนี้ได้รับมติเห็นชอบจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 254) และมีผลใช้บังคับในวันที่ 22 ธันวาคม 2543 ในเดือนสิงหาคม 2552 ปรากฏว่ามีภาคีแห่งพิธีสารเลือกรับนี้แล้วทั้งสิ้นหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้ารัฐ แบ่งเป็นรัฐที่ลงนามแล้วเจ็ดสิบเก้ารัฐ และรัฐภาคีเก้าสิบหกรัฐ
This article uses material from the Wikipedia ไทย article อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.