วัคซีนโรคโปลิโอเป็นวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคโปลิโอ ชนิดหนึ่งใช้เชื้อไวรัสโปลิโอตายและให้โดยการฉีด (IPV) ส่วนอีกชนิดหนึ่งใช้เชื้อไวรัสโปลิโอเป็นและให้ทางปาก (OPV) องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนต้านโรคโปลิโอ วัคซีนทั้งสองชนิดกำจัดโรคโปลิโอไปจากส่วนใหญ่ของโลก และลดจำนวนผู้ป่วยต่อปีจากประมาณ 350,000 คนใน ค.ศ.
1988 เหลือ 359 คนใน ค.ศ. 2014
รายละเอียดวัคซีน | |
---|---|
โรคที่เป็นข้อบ่งชี้ | Poliomyelitis |
ชนิด | OPV: Attenuated; IPV: Killed |
ข้อมูลทางคลินิก | |
AHFS/Drugs.com | Multum Consumer Information |
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
ช่องทางการรับยา | ฉีด (IPV), ทางปาก (OPV) |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ตัวบ่งชี้ | |
ChemSpider |
|
(verify) | |
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดเชื้อตายปลอดภัยมาก อาจเกิดอาการแดงหรือปวดเล็กน้อย ณ จุดฉีด วัคซีนโรคโปลิโอทางปากทำให้เกิดโรคโปลิโออัมพาตที่สัมพันธ์กับวัคซีนประมาณสามต่อล้านขนาด โดยทั่วไปให้วัคซีนทั้งสองชนิดได้อย่างปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์และผู้ป่วยเอชไอวี
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดแรกเป็นวัคซีนโปลิโอชนิดเชื้อตาย ซึ่งพัฒนาโดยโจนัส ซอล์ก และมีใช้ใน ค.ศ. 1955 วัคซีนโรคโปลิโอทางปากพัฒนาโดยแอลเบิร์ต ซาบิน และมีใช้เชิงพาณิชย์ใน ค.ศ. 1961 ทั้งสองอยู่ในรายการยาหลักขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นยาสำคัญที่สุดที่จำเป็นในระบบสุขภาพพื้นฐาน ราคาขายส่งอยู่ที่ประมาณ 0.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อขนาดสำหรับรูปให้ทางปากใน ค.ศ. 2014 ในสหรัฐ มีราคาระหว่าง 25 ถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐในรูปเชื้อตาย
วัคซีนโรคโปลิโอเป็นวัคซีนเชื้อเป็นที่ถูกทำให้สิ้นฤทธิ์ จึงมีความปลอดภัยสูงมาก ผู้รับวัคซีนชนิดฉีดบางรายอาจมีอาการบวมแดงหรือเจ็บที่ตำแหน่งฉีดวัคซีน ส่วนวัคซีนชนิดกินพบว่าบางครั้งทำให้เกิดโรคโปลิโอจากวัคซีนจนมีอาการอ่อนแรง ซึ่งพบได้ 3 ครั้ง ต่อการให้วัคซีนหนึ่งล้านครั้ง โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยเพียงพอสามารถให้กับหญิงตั้งครรภ์ได้ และให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีสุขภาพดีได้ด้วย
โรคโปลิโอจากวัคซีนเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยมากของการใช้วัคซีนโปลิโอแบบกิน เกิดจากการที่เชื้อในวัคซีนเกิดการประกอบพันธุกรรมใหม่เป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบประสาทและทำให้มีอาการอ่อนแรงได้ อาการที่เกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอชนิดมาจากวัคซีน (vaccine-derived poliovirus, VDPV) นี้เหมือนกันทุกประการกับอาการที่เกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอในธรรมชาติ มีรายงานว่ามีการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอชนิดมาจากวัคซีนที่ออกสู่ธรรมชาติ (circulating vaccine-derived poliovirus, cVDPV) ทำให้เกิดโรคอัมพาตจากโปลิโอชนิดมาจากวัคซีน (vaccine-associated paralytic poliomyelitis, VAPP) ซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีการให้วัคซีนโปลิโอชนิดกินแต่ไม่ทั่วถึง เชื่อว่าเป็นเพราะเชื้อในวัคซีนทำให้คนในพื้นที่เกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในธรรมชาติ เมื่อเกิดโรคจึงพบเฉพาะชนิดที่เกิดจากเชื้อที่มาจากวัคซีน
เมื่อ ค.ศ. 2016 องค์การอนามัยโลกได้ใช้มาตรการเพื่อลดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ โดยให้แต่ละประเทศเปลี่ยนชนิดวัคซีนโปลิโอแบบกินจากชนิด 3 สายพันธุ์ มาเป็นชนิด 2 สายพันธุ์ ซึ่งไม่มีเชื้อโปลิโอชนิดที่ 2 อีกต่อไป เนื่องจากเชื้อโปลิโอชนิดนี้ถูกกำจัดหมดไปจากโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1999
สำหรับประเทศไทยพบการระบาดของโรคโปลิโอครั้งแรกในปี 2495 โดยมีรายงานผู้ป่วยจำนวน 425 ราย จากนั้นพบผู้ป่วยมาอย่างต่อเนื ่องจนสูงสุดในปี 2522 ซึ่งพบผู้ป่วยจำนวน 1,083 ราย แต่หลังจากเริ่มให้วัคซีน ป้องกันโรคโปลิโอตั้งแต่ปี 2520 นั้น จำนวนผู้ป่วยได้ลดลงมาเป็นลำดับ โดยพบผู้ป่วยโปลิโอสายพันธุ์ก่อโรคตามธรรมชาติ สายพันธุ์ที่ 1 เมื่อเดือน เมษายน 2540 เป็นรายสุดท้าย ของประเทศ สำหรับผู้ป่วยโปลิโอสายพันธุ์วัคซีนกลายพันธุ์พบรายสุดท้ายในปี 2546 และรักษาสถานะปลอด โรคโปลิโอมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
This article uses material from the Wikipedia ไทย article วัคซีนโรคโปลิโอ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.