ราชกิจจานุเบกษา: วารสารทางการของประเทศไทย

ราชกิจจานุเบกษา เป็นหนังสือข่าวสารรัฐบาลของประเทศไทย ซึ่งลงประกาศต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย

ราชกิจจานุเบกษา
ราชกิจจานุเบกษา: ชื่อ, ประวัติ, ประเภท
ราชกิจจานุเบกษา: ชื่อ, ประวัติ, ประเภท
ราชกิจจานุเบกษา: ชื่อ, ประวัติ, ประเภท
ราชกิจจานุเบกษา ฉบับ 1 มิถุนายน ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2451) ซึ่งลงประกาศกฎหมายลักษณะอาญา
ประเภทหนังสือข่าวสารรัฐบาล
ขนาดแบบพิมพ์และแบบอิเล็กทรอนิกส์
เจ้าของรัฐบาลไทย
ผู้ก่อตั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้เผยแพร่กลุ่มงานราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ก่อตั้งเมื่อ15 มีนาคม พ.ศ. 2401; 166 ปีก่อน (2401-03-15)
ภาษาไทย
สำนักงานใหญ่ทำเนียบรัฐบาลไทย 1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
เมืองกรุงเทพมหานคร
ประเทศประเทศไทย
เว็บไซต์ratchakitcha.soc.go.th

หนังสือนี้ออกครั้งแรกใน พ.ศ. 2400 (ตามปฏิทินเก่า) หรือ 2401 (ตามปฏิทินใหม่) ตามรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เพื่อเป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของรัฐบาล โดยเฉพาะในการประกาศกฎหมาย ซึ่งมีการรับรองในกฎหมายว่า กฎหมายทั้งหลายต้องลงเผยแพร่ในหนังสือนี้ก่อนจึงจะมีผลใช้บังคับได้

หนังสือนี้เป็นสิ่งพิมพ์ฉบับแรกของไทยที่คนไทยจัดทำ เป็นวารสารฉบับแรกของรัฐบาลไทย และเป็นสิ่งพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทยซึ่งยังเผยแพร่อยู่ในปัจจุบัน

ตั้งแต่ พ.ศ. 2566 หนังสือนี้เผยแพร่แบบออนไลน์เท่านั้น และพิมพ์ขึ้นเป็นรูปเล่มในจำนวนจำกัดเฉพาะเพื่อเก็บรักษาเป็นหลักฐาน

ชื่อ

ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา นั้น รัชกาลที่ 4 ทรงบัญญัติขึ้นจากภาษาสันสกฤต แปลว่า "ที่เพ่งดูราชกิจ"

ประวัติ

หนังสือ ราชกิจจานุเบกษา ออกเผยแพร่ครั้งแรกในรัชกาลที่ 4 ตาม "ประกาศออกหนังสือราชกิจจานุเบกษา" ลงวันจันทร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเมีย จ.ศ. 1219 ตรงกับวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2400 (ตามปฏิทินเก่า) หรือ 2401 (ตามปฏิทินใหม่) ประกาศดังกล่าวระบุวัตถุประสงค์ในการออกหนังสือนี้ว่า "ถ้าเหตุแลการในราชการแผ่นดินประการใด ๆ เกิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินแลเสนาบดีพร้อมกันบังคับไปอย่างไร บางทีก็จะเล่าความนั้นใส่มาในราชกิจจานุเบกษานี้บ้าง เพื่อจะได้รู้ทั่วกัน มิให้เล่าลือผิด ๆ ไปต่าง ๆ ขาด ๆ เกิน ๆ เป็นเหตุให้เสียราชการและเสียพระเกียรติยศแผ่นดินได้" มานิจ สุขสมจิตร เห็นว่า หนังสือนี้ออกเพื่อลงข่าวสารชี้แจงข้อมูลคลาดเคลื่อนที่แดน บีช แบรดลีย์ หมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน พิมพ์ในวารสาร บางกอกรีคอร์เดอร์

ในสมัยนั้น รัชกาลที่ 4 ทรงอำนวยการผลิตและเป็นบรรณาธิการหนังสือนี้ด้วยพระองค์เองทั้งหมด และทรงให้ตั้งโรงพิมพ์ชื่อ โรงอักษรพิมพการ ขึ้นที่ใกล้พระที่นั่งภาณุมาศจำรูญ อาคารที่บรรทมของพระองค์ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อรับผิดชอบพิมพ์หนังสือนี้ โดยมีฐานะเป็นกรมลอย (ไม่มีสังกัด) ชื่อว่า กรมอักษรพิมพการ มีอธิบดีบังคับบัญชา 1 คน ครั้งนั้น เนื้อหาที่ลง ได้แก่ ข่าวต่าง ๆ จากราชสำนัก และข่าวทั่วไปของบ้านเมือง เช่น ข่าวแต่งตั้งขุนนาง ข่าวประสูติ ข่าวเพลิงไหม้ รายงานน้ำฝน และข่าวเบ็ดเตล็ด เผยแพร่ทุก 15 วันโดยไม่คิดราคา แต่เผยแพร่ได้ 1 ปีเศษก็เลิกไป

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงให้รื้อฟื้นหนังสือนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2417 เผยแพร่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง คือ ทุกวันขึ้น 1 ค่ำ วันขึ้น 9 ค่ำ วันแรม 1 ค่ำ และวันแรม 9 ค่ำ รวมเป็นเดือนละ 4 ครั้ง โดยทรงให้คิดราคาเป็นรายปีปีละ 8 บาท เพราะทรงเห็นว่า การแจกให้เปล่าเหมือนครั้งก่อนทำให้ผู้รับไม่เห็นค่า เงินที่เก็บได้นั้นนำส่งพระคลัง อย่างไรก็ดี กรมอักษรพิมพการประกาศว่า มีผู้ยอมเสียเงินซื้อหนังสือนี้น้อยมาก จากที่พิมพ์ไม่ต่ำกว่า 500 ฉบับ มีผู้รับไปเพียง 50–60 ราย ทำให้คณะผู้จัดทำรู้สึกว่า "เสียแรงทำเสียแรงแต่งด้วย ทำแล้วเปนประโยชน์แก่คนตั้งร้อยขึ้นไป เปนที่ยินดี ทำให้ชวนแต่งชวนเรียงขึ้นอีก ถ้าจะเปนประโยชน์แต่แก่คนสักห้าหกสิบคนเท่านั้น ก็เปนที่น่าเสียดายแรงนักอยู่" สุดท้ายแล้ว หนังสือนี้เผยแพร่ได้ 5 ปีก็เลิกไปอีก ฉบับสุดท้าย ลงวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2422

ภายหลัง รัชกาลที่ 5 ทรงให้รื้อฟื้นหนังสือนี้อีกเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2424 โดยเปลี่ยนเป็นเผยแพร่ทุกวันอาทิตย์ และทรงให้ยกกรมอักษรพิมพการขึ้นสังกัดกรมพระอาลักษณ์ด้วย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีราชการอื่นล้นมือ พิมพ์ได้พักหนึ่งจึงหยุดไปอีก จนมารื้อฟื้นขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2427 โดยมีประกาศว่า ครั้งนี้ ตั้งใจ "จะไม่ให้หยุดให้ขาดเหมือนดังแต่ก่อนได้เลย" และหลังมีประกาศเชิญชวนหลายครั้ง หนังสือนี้ก็เป็นที่สนใจและมีผู้สมัครรับมากขึ้น จนใน พ.ศ. 2435 มีประกาศจากกรมอักษรพิมพการว่า "ได้รับความอุดหนุนจากท่านผู้รับราชกิจจานุเบกษามีทวีมากขึ้น แลที่ได้รับอยู่แล้วก็มิได้ลดถอนลงไปกี่นามนัก ทั้งการเก็บเงินในระหว่างเจ้าพนักงานผู้เก็บกับผู้ให้ก็เปนการได้โดยสดวกขึ้นกว่าปีที่ล่วงแล้วมา เมื่อราชกิจจานุเบกษาได้รับผลทั้ง 3 ประการเปนอาหารบำรุงชีวิตดำรงตลอดมาดังนี้ จึ่งทำให้เปนเรื่องยินดี" ในปีนั้น รัชกาลที่ 5 ยังทรงตั้งกระทรวงมุรธาธรขึ้น และให้กรมพระอาลักษณ์มาขึ้นกระทรวงมุรธาธร งานจัดทำหนังสือนี้จึงเข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมุรธาธร

ในการเผยแพร่สมัยหลังนี้ รัฐบาลจ้างโรงพิมพ์เอกชนดำเนินงาน เช่น โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ และบางคราวโรงพิมพ์เอกชนก็จัดทำให้โดยไม่คิดราคา

ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 งานด้านอาลักษณ์ของกระทรวงมุรธาธรตกมาเป็นความรับผิดชอบของกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่จัดตั้งขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรี การเผยแพร่หนังสือนี้จึงอยู่ในความรับผิดชอบของกรมดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันคือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยจัดตั้งกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาขึ้นรับผิดชอบเป็นการเฉพาะ และมีสำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษาเป็นผู้พิมพ์ฉบับรูปเล่ม เดิมเผยแพร่รายสัปดาห์ แต่ปัจจุบันไม่มีกำหนดตายตัว สุดแล้วแต่ความเร่งด่วนของสิ่งเผยแพร่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2566 หนังสือนี้เผยแพร่แบบออนไลน์เท่านั้น ส่วนฉบับรูปเล่มจะพิมพ์ขึ้นเฉพาะเพื่อเก็บรักษาเป็นหลักฐานไว้ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 1 ชุด และหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร อีก 3 ชุด รวม 4 ชุด

ประเภท

ปัจจุบัน หนังสือ ราชกิจจานุเบกษา มี 4 ประเภท คือ

  • ประเภท ก เรียกว่า ฉบับกฤษฎีกา สำหรับลงประกาศกฎหมายและคำพิพากษาของศาล
  • ประเภท ข เรียกว่า ฉบับทะเบียนฐานันดร สำหรับลงประกาศเกี่ยวกับราชสำนักและคณะสงฆ์ เช่น หมายกำหนดการ การพระราชทานหรือถอดถอนเครื่องราชอิสริยาภรณ์และสมณศักดิ์ และข่าวต่าง ๆ ในราชสำนัก
  • ประเภท ค เรียกว่า ฉบับทะเบียนการค้า สำหรับลงประกาศเกี่ยวกับทะเบียนขององค์กรทางการค้า เช่น บริษัท และห้างหุ้นส่วน
  • ประเภท ง เรียกว่า ฉบับประกาศและงานทั่วไป สำหรับลงประกาศและงานอื่น ๆ

ความมีผลของกฎหมาย

ในระบบกฎหมายไทย กฎหมายจะมีผลใช้บังคับได้ ต้องลงเผยแพร่ในหนังสือ ราชกิจจานุเบกษา ก่อน หลักการนี้ได้รับการรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ซึ่งระบุในมาตรา 38 ว่า ร่างพระราชบัญญัตินั้น เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในหนังสือนี้แล้ว จึงมีผลใช้บังคับได้

ต้นฉบับ

หนังสือ ราชกิจจานุเบกษา สมัยรัชกาลที่ 4 ได้ตีพิมพ์ขึ้นหลายร้อยฉบับ แต่เหลือรอดมาเพียง 19 ฉบับเท่านั้น

ฉบับซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงรื้อฟื้นช่วง พ.ศ. 2417–2422 นั้น ต้นฉบับที่สมบูรณ์เหลือน้อยมาก มีการพิมพ์ซ้ำเมื่อ พ.ศ. 2540 และ 2546 โดยการถ่ายจากต้นฉบับดั้งเดิม

ส่วนฉบับซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงรื้อฟื้นเมื่อ พ.ศ. 2424 นั้น ต้นฉบับเหลือรอดเพียง 1 เล่ม ขาดหายบางหน้า มีการพิมพ์ซ้ำเมื่อ พ.ศ. 2513

ต้นฉบับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา มีเก็บรักษาเป็นคลังเอกสารที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และเปิดให้เข้าใช้บริการได้โดยต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน

อ้างอิง

บรรณานุกรม

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ราชกิจจานุเบกษา ชื่อราชกิจจานุเบกษา ประวัติราชกิจจานุเบกษา ประเภทราชกิจจานุเบกษา ความมีผลของกฎหมายราชกิจจานุเบกษา ต้นฉบับราชกิจจานุเบกษา อ้างอิงราชกิจจานุเบกษา บรรณานุกรมราชกิจจานุเบกษา แหล่งข้อมูลอื่นราชกิจจานุเบกษาประเทศไทยรัฐบาลไทยหนังสือข่าวสารรัฐบาล

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

จักรราศีปรมาจารย์ลัทธิมาร (ละครโทรทัศน์)ราชวงศ์จักรีจัน ดารา (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2544)พรรคเพื่อไทยพัก มิน-ย็องเขมนิจ จามิกรณ์จังหวัดชลบุรีจังหวัดเชียงรายเฟาเอ็ฟเอ็ล ว็อลฟส์บวร์คดราก้อนบอล ซูเปอร์สกีบีดีทอยเล็ตสุรยุทธ์ จุลานนท์ศิริลักษณ์ คองสโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกวัดหนองป่าพงอนิเมะกองทัพ พีคเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกนิษฐา คูหาเปรมกิจอรสา อิศรางกูร ณ อยุธยามาสค์ไรเดอร์ซีรีส์บรรดาศักดิ์ไทยเอราวัณ การ์นิเยร์ข่าวช่อง 7HDไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซินอิษยา ฮอสุวรรณธนวรรธน์ วรรธนะภูติรายชื่อตัวละครในยอดนักสืบจิ๋วโคนันมหาวิทยาลัยมหิดลโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาข้าราชการไทยฮ่องกงแอร์เบ ไลพ์ซิชมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นประเทศพม่าสติปัฏฐาน 4ดารัณ บุญยศักดิ์สโมสรฟุตบอลอุทัยธานีโชกุน (ละครโทรทัศน์ปี 2024)ทุเรียนชาลิดา วิจิตรวงศ์ทองภาษาไทย21 เมษายนภาสวิชญ์ บูรณนัติเครื่องคิดเลขสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเศรษฐา ทวีสินสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรายพระนามพระพุทธเจ้าพรรคเพื่อไทรวมพลังประเทศออสเตรเลียพระพุทธเจ้าบูมเมอแรง (ประเทศไทย)พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์รายชื่อประเทศเรียงตามจำนวนประชากรยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกีบ (สกุลเงิน)เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้วอิงฟ้า วราหะสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์สมเด็จพระเพทราชานักเตะแข้งสายฟ้าฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพวัดโสธรวรารามวรวิหารอินสตาแกรมไทยลีก 2 ฤดูกาล 2566–67อาทิตยา ตรีบุดารักษ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์เวนส์เดย์สังโยชน์สุจาริณี วิวัชรวงศ์จิรายุ ตันตระกูลรัฐของสหรัฐสโมสรฟุตบอลวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล🡆 More