รัฐประหารในประเทศไทย เป็นการถอดถอนรัฐบาลด้วยวิถีทางนอกกฎหมาย ซึ่งมักเป็นการใช้กำลังทหารเพื่อโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้ง หรือแม้แต่รัฐบาลชุดที่หัวหน้าคณะรัฐประหารเองเป็นผู้นำก็มี
ประเทศไทยขาดเสถียรภาพทางการเมืองสูงและมีรัฐประหารหลายครั้ง ประเทศไทยมีรัฐประหารมากที่สุดในโลกในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ในปี 2559 "ประเทศไทยมีทหารหรืออดีตทหารเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศไทยเป็นเวลา 57 จาก 85 ปีนับแต่ล้มสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี 2475" รัฐประหารครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2557 โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผู้ก่อการรัฐประหารในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จ ส่วนใหญ่เกิดจากกองทัพบก ส่วนทหารเรือเคยพยายามก่อรัฐประหารมาแล้วครั้งหนึ่งในกบฏวังหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2492 และกบฏแมนฮัตตัน เมื่อปี พ.ศ. 2494 แต่กระทำการไม่สำเร็จ ทำให้ทหารเรือเสียอำนาจในการเมืองไทยไป
สาเหตุที่ผู้ก่อการอ้างมักเป็นเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง การดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และความแตกแยกในหมู่ประชาชน อย่างไรก็ตาม นิธิ เอียวศรีวงศ์ มองว่า รัฐประหารในประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นจากการตัดสินใจโดยลำพังของกองทัพ แต่ต้องอาศัยความเห็นชอบจากชนชั้นนำกลุ่มอื่น และมองว่ารัฐประหารในประเทศไทยจะยังมีอยู่ตราบเท่าที่การเมืองไทยยังเป็นเพียงเรื่องการจัดสรรอำนาจในหมู่ชนชั้นนำ
ในกรณีประเทศไทย เมื่อคณะรัฐประหารได้ทำการยึดอำนาจได้สำเร็จคณะรัฐประหารในไทยมักจะใช้วิธีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวและเสนอให้พระมหากษัตริย์ลงนามประกาศใช้ โดยมีหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ (Countersign the Royal Command) มีการออกบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวรับรองสถานะของประกาศและคำสั่งของคณะรัฐประหารให้ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ อาจมีการรับรองความสมบูรณ์สถานะทางกฎหมายของคำสั่งหรือประกาศ และรวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องของคณะรัฐประหารให้ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญในรัฐธรรมนูญฉบับถาวรอีกด้วย
ทั้งนี้ บางตำราระบุว่า การปิดสภาผู้แทนราษฎร และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 เป็นรัฐประหารครั้งแรกของไทย และมิได้แยกเหตุการณ์วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 เป็นรัฐประหารอีกครั้ง
การปฏิวัติ หมายถึง การเปลี่ยนรูปแบบหรือระบอบการปกครองประเทศไทย จากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง หรือมีการเปลี่ยนแปลงประมุขของรัฐเพื่อเปลี่ยน รูปแบบประมุขของรัฐ ดังนั้น การปฏิวัติต้องเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจหรือการเมืองใหม่ทั้งหมด ซึ่งในประวัติศาสตร์สยามและไทยยังเคยเกิดขึ้นครั้งเดียว คือ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
รัฐประหาร หมายถึง การใช้กำลังเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหารประเทศโดยฉับพลันเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล โดยการยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลเดิมแต่ไม่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรือประมุขของประเทศ
ในปี 2563 รองศาสตราจารย์ หริรักษ์ สูตะบุตร รองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ้างว่า พระมหากษัตริย์จะปฏิเสธไม่รับรองคณะรัฐประหารและบรรดาคำสั่งต่าง ๆ ไม่ได้ เพราะจะเป็นการถือฝ่ายทางการเมือง และ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ อ้างว่า เมื่อคณะรัฐประหารยึดอำนาจได้แล้ว คณะรัฐประหารจะถือเป็นรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าพระมหากษัตริย์เสียด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะที่ไม่อาจปฏิเสธการรับรองคณะรัฐประหารหรือคำสั่งต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่าพระมหากษัตริย์เคยปฏิเสธการรับรองรัฐประหารมาแล้ว ได้แก่ กบฏยังเติร์กปี 2524 แม้ว่าจะมีประชาชนส่วนหนึ่งสนับสนุนด้วยซ้ำ ทำให้การก่อการครั้งนั้นล้มเหลว ด้านพันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร หัวหน้าคณะจะได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้าคณะ (ในส่วนนี้มีข้อสังเกตว่า ยังไม่มีการอ้างอิงทางวิชาการ) จะเห็นว่าเป็นการเกื้อกูลกันระหว่างกองทัพกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ปี 2490 คณะใดที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้า คณะนั้นก็จะเป็นกบฏ
ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์และนักการเมือง เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต โดยมีแนวทาง เช่น การปฏิรูปกองทัพ การเปิดกลไกเพื่อเอาผิดกับคณะรัฐประหารในอนาคต ตลอดจนการห้ามองค์การตุลาการรับรองอำนาจคณะรัฐประหาร ส่วนเมื่อปี 2563 ในการชุมนุม "#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" มีการเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์โดยมีข้อเรียกร้องหนึ่งว่าห้ามพระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยรับรองรัฐประหารอีก
This article uses material from the Wikipedia ไทย article รัฐประหารในประเทศไทย, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.