ระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบ (อังกฤษ: exhaustive ballot) เป็นระบบการลงคะแนนที่ใช้เลือกผู้ชนะเพียงรายเดียว โดยในระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบนี้ผู้ลงคะแนนเสียงเดียวเพื่อเลือกผู้สมัครโดยปกติ อย่างไรก็ตามหากไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด ผู้สมัครรายที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะตกรอบและจะมีการลงคะแนนในรอบถัดไป โดยกระบวนการนี้จะทำซ้ำจนกว่าจะได้ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด
ระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบนี้มีความคล้ายคลึงกับระบบสองรอบโดยแตกต่างเพียงแค่ประเด็นหลัก ๆ เท่านั้น ในระบบสองรอบนั้นหากไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาดในรอบแรกนั้น จะเลือกเพียงแค่ผู้สมัครสองรายที่มีคะแนนสูงสุดเพื่อเข้าแข่งขันในรอบที่สอง (รอบตัดสิน) โดยในรอบที่สองผู้ชนะคือผู้ที่ได้คะแนนเสียงข้างมาก ส่วนในระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบนี้มีการกำจัดผู้สมัครเพียงรอบละหนึ่งคนดังนั้นจะต้องทำกระบวนการเดิมซ้ำ ๆ จนกว่าจะได้ผู้สมัครที่มีคะแนนเสียงข้างมาก (ในบางสถานการณ์นั้น ผู้สมัครมากกว่าสองรายอาจจะตกรอบพร้อมกันได้หากเมื่อนำคะแนนเสียงทุกคนรวมกันแล้วได้น้อยกว่าผู้สมัครลำดับที่สูงขึ้นถัดไป โดยการ "การกำจัดหมู่" นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลำดับของการกำจัดผู้สมัครได้ไม่เหมือนในระบบสองรอบ)
เนื่องจากระบบนี้จำเป็นจะต้องให้ผู้ลงคะแนนลงคะแนนเสียงหลายครั้งจึงไม่เหมาะกับการใช้ในการเลือกตั้งขนาดใหญ่ โดยมากนิยมใช้ในการเลือกตั้งที่มีผู้ลงคะแนนเพียงหลักร้อยคน เช่น การเลือกนายกรัฐมนตรี หรือการเลือกประธานสภา ในปัจจุบันใช้ระบบนี้ในรูปแบบแตกต่างกันไปเพื่อเลือกตั้งคณะมนตรีสมาพันธรัฐสวิส มุขมนตรีสกอตแลนด์ ประธานรัฐสภายุโรป และประธานสภาสามัญชนแคนาดา สภาสามัญชนสหราชอาณาจักร และรัฐสภาสกอตแลนด์ การคัดเลือกเมืองเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลโลก]
ในแต่ละรอบนั้นผู้ลงคะแนนสามารถกาเครื่องหมายเลือกผู้สมัครที่ต้องการ หากไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (เกินครึ่งหนึ่ง) ในรอบแรก จะต้องตัดผู้สมัครรายที่ได้คะแนนน้อยที่สุดออกในขณะที่ผู้สมัครทั้งหมดที่เหลือผ่านเข้าไปในรอบที่สอง และหากยังไม่มีผู้สมัครรายใดที่ได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาดอีกผู้สมัครที่ได้คะแนนน้อยที่สุดก็จะตกรอบ ในรอบที่สามหากยังไม่มีผู้สมัครรายใดที่ได้คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาดอีกผู้สมัครที่ได้คะแนนน้อยที่สุดในรอบก็จะตกรอบ โดยกระบวนการนี้จะถูกทำซ้ำหลายรอบจนกว่าจะได้ผู้สมัครรายเดียวที่มีคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด หากจำเป็น จะทำการเลือกตั้งจนกว่าจะเหลือเพียงผู้สมัครสองคนสุดท้าย และหากเกิดกรณีนี้ขึ้นผู้ชนะจะต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด
ในระหว่างการลงคะแนนในแต่ละรอบ ผู้ลงคะแนนสามารถเปลี่ยนใจไปเลือกผู้สมัครรายอื่นได้โดยอิสระ ยกเว้นรายที่ตกรอบไปแล้ว
สมมติว่าประชากรในรัฐเทนเนสซีของสหรัฐนั้นออกเสียงเลือกเมืองหลวงสำหรับรัฐใหม่ โดยประชากรนั้นหนาแน่นอยู่รอบ ๆ เมืองหลักทั้งสี่เมืองซึ่งอยู่คนละด้านของรัฐ ในตัวอย่างนี้ให้สมมติว่าเขตเลือกตั้งทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตเมืองทั้งสี่ และประชากรทั้งหมดต้องการให้เมืองหลวงอยู่ใกล้กับเมืองของพวกเขามากที่สุด
ผู้สมัครชิงตำแหน่งเมืองหลวงของรัฐเทนเนสซีได้แก่
รอบที่ 1 ในรอบแรกนั้นทุกคนออกเสียงเลือกเมืองของตัวเองซึ่งได้ผลลัพธ์ดังนี้
รอบที่ 2 เนื่องจากไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งในรอบแรก ดังนั้นแชตตานูกา ซึ่งได้คะแนนน้อยที่สุดในรอบแรกนั้นตกรอบ และเหลือผู้สมัครเพียงแค่สามรายเข้าแข่งขันต่อในรอบที่ 2 ในรอบนี้ผู้สนับสนุนแชตตานูกานั้นหันไปเลือกลงคะแนนให้น็อกซ์วิลล์แทน เนื่องจากอยู่ใกล้ที่สุด โดยในเมืองอื่นนั้นไม่มีใครเปลี่ยนผลการลงคะแนน ดังนั้นผลลัพธ์ในรอบที่สองเป็นดังนี้
รอบที่ 3 แนชวิลล์เป็นผู้ตกรอบในรอบที่สอง ดังนั้นเหลือเพียงแค่ผู้สมัครเพียงสองรายในรอบตัดสิน ในรอบนี้ผู้สนับสนุนแนชวิลล์ย้ายไปสนับสนุนน็อกซ์วิลล์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดแทน ผลลัพธ์จึงได้ดังนี้
ผลลัพธ์ ในรอบที่สามน็อกซ์วิลล์ได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาดจึงเป็นผู้ชนะ
This article uses material from the Wikipedia ไทย article ระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบ, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.