พฤหัสเจ้าศาสตรา เป็นหนังสือเล่มที่ 4 ในหนังสือชุด อาณาจักรแห่งกาลเวลา เป็นหนังสือประเภท วรรณกรรมนวนิยายแฟนตาซี ของการ์ธ นิกซ์ นักเขียนชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว โดยสำนักพิมพ์แจ่มใส ปัจจุบันออกจำหน่ายแล้ว 6 เล่ม อีก 5 เล่มคือ จันทร์มหันตภัย อังคารอหังการ พุธเพชฌฆาต ศุกร์รัตติกาล และเสาร์มนตรา
พฤหัสเจ้าศาสตรา | |
---|---|
ผู้ประพันธ์ | การ์ธ นิกซ์ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | Sir Thursday |
ผู้แปล | แสงตะวัน |
ศิลปินปก | หริรักษ์ มงคลพร |
ประเทศ | ประเทศไทย |
ภาษา | ไทย |
ชุด | อาณาจักรแห่งกาลเวลา |
ประเภท | นวนิยายแฟนตาซี, วรรณกรรมเยาวชน |
สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ในเครือสำนักพิมพ์แจ่มใส |
วันที่พิมพ์ | พ.ศ. 2550 |
ชนิดสื่อ | หนังสือปกอ่อน พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา |
หน้า | 264 หน้า |
ISBN | ISBN 974-94843-6-3 |
เรื่องก่อนหน้า | อาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน พุธเพชฌฆาต |
เรื่องถัดไป | อาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน ศุกร์รัตติกาล |
หลังจากผ่านการผจญภัยที่ยาวนานในทะเลกั้นอาณาเขต อาเธอร์ เพนฮาลิกอน ช่วยเหลือลีฟได้สำเร็จและได้กลับมาประชุมกับพินัยกรรมที่ห้องกลางวันของวันจันทร์อีกครั้ง แต่ด้วยอุบายบางอย่าง ทำให้อาเธอร์ต้องกลายเป็นทหารเกณฑ์ของกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก ซึ่งบัญชาการโดยเซอร์พฤหัสบดี ผู้ดูแลจอมโมโห และต้องไปเป็นทหารอยู่ในวงกตยิ่งใหญ่ถึงหนึ่งศษวรรษ พินัยกรรมบอกให้อาเธอร์ชิงกุญแจดอกที่สี่จากท่านเซอร์ เพื่อที่จะได้หลุดจากการเป็นทหารเกณฑ์ และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพแทนเซอร์พฤหัสบดี
เริ่มแรกอาเธอร์ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เขาได้รู้จักเฟรด ทองเลขนำซึ่งเคยทำงานอยู่ในบ้านเบื้องกลางมาก่อน ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดจากการล้างระหว่างหู ผ่านการฝึกที่ทรหดทรมาน สู้รบกับข้าศึกตัวร้ายจำนวนมหาศาล นิทลิ่งใหม่ซึ่งอยู่ในการควบคุมของผู้บัญชาการลึกลับที่มีแผนการขัดแย้งกับเจตจำนงของมหาสถาปนิก รวมถึงการค้นหาพินัยกรรมและชิงกุญแจจากเซอร์พฤหัสบดีจอมโมโหให้จงได้
อาเธอร์เองยังไม่สามารถกลับสู่โลกของตนได้ เนื่องจากถูกเด็กชายไร้หนัง ตัวกินวิญญาณแสนอันตรายสวมรอยแทนตัวเขา และไปปรากฏตัวบนโลก มันสามารถแพร่เชื้อราเพื่อควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกๆ ตัวที่มันแตะต้อง อาเธอร์กลับบ้านไม่ได้เพราะปฏิกิริยาระหว่างเขากับเด็กชายไร้หนังจะระเบิดโลก ลีฟขอเสนอตัวช่วยอาเธอร์ด้วยการกลับไปยังโลกและเอาวัตถุต้นกำเนิดที่ใช้สร้างเด็กชายไร้หนังเพื่อขว้างเข้าสู่สุญญะเพื่อทำลายเด็กชายไร้หนัง นี่คือแผนร้ายของวันข้างหน้าผู้ชั่วร้ายและอกตัญญู ที่กำลังท้าทายความกล้าหาญของอาเธอร์ เพนฮาลิกอน
ดูเพิ่มที่ เฟรด ทองเลขนำ
ดูเพิ่มที่ เด็กชายไร้หนัง
ในตอนต้นของเรื่อง หลังจากที่เธอได้ผนึกตนเข้ากับส่วนที่สามของพินัยกรรมแล้ว เธอกลายเป็นหญิงสาวสูงเจ็ดฟุตครึ่ง สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวอ่อนทอประกายสีฟ้าเรืองรอง เธอตาโปน และมีเสียงแหบต่ำคล้ายเสียงหลงตัวเองของคาร์พ เธอได้จัดการประชุมและขอร้องให้อาเธอร์อยู่ที่บ้านต่อ แต่แล้วอาเธอร์ก็ต้องถูกเกณฑ์ทหาร
ในตอนท้ายของเรื่อง หลังจากส่วนที่สี่ของพินัยกรรมได้ผนึกกับตัวเธอ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เกรี้ยวกราด (จากความอารมณ์ร้อนของส่วนที่สี่) สูงแปดฟุต สวมชุดสีเหลืองคล้ายของคนเป่าปี่ และโจมตีนิทลิ่งที่บุกป้อมกลางด้วยกุญแจและสายฟ้าฟาด
พลเมืองผู้บังคับบัญชาหน่วยของกองพันที่ทำหน้าที่ป้องกันค่ายเขตแดน เขาได้รับการถ่ายทอดคำสั่งจากพราวิลซึ่งได้มาจากเซอร์พฤหัสบดีให้เปิดประตูทั้ง 4 บานและรับเอานิทลิ่งใหม่เป็นแสนๆ ตัวเข้ามาในวงกตยิ่งใหญ่ ถึงแม้เขาจะสังเกตเห็นว่าพันตรีพราวิลมีกลิ่นของการเมืองคลุ้งไปหมด แต่เขาก็มิอาจโต้แย้งคำสั่งของเซอร์พฤหัสบดีได้ เขาตายในการป้องกันค่ายเขตแดน
เป็นนายพลหญิงที่พันเอกแนจติดต่อเรื่องการปล่อยนิทลิ่งจำนวนมากเข้ามาในวงกตยิ่งใหญ่ สวมเกราะชุบทองของทูตประจำกองพัน หมวกเหล็กที่มีขนนกยาวประดับ เครื่องแบบนี้แสดงถึงตำแหน่งที่เทียบได้กับนายพลในกองบัญชาการทั้งหลาย
เป็นพลเมืองที่ประจำหน้าที่อยู่ในกองทัพ เขามีหน้าที่มาพาตัวอาเธอร์ไปฝึกเป็นทหารที่ค่ายเปลี่ยนแปลง ตอนนั้นเขาเป็นนายทหารสัสดีซึ่งมาทำตามหน้าที่ เขาไม่ได้แจ้งเซอร์พฤหัสบดีเรื่องการเกณฑ์อาเธอร์เพราะกลัวถูกทำร้ายเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำให้ท่านเซอร์โกรธ เลยถูกถอนยศไปเป็นพลทหารธรรมดา
เป็นนายทหารที่ประจำการอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลง สูงประมาณหกฟุตครึ่ง ไหล่กว้าง ถูกพิษของสุญญะทำให้ใบหน้ามีรอยไหม้ตั้งแต่หูซ้ายจนถึงคาง ศีรษะล้าน ถ้าเคยมีผมก็คงถูกโกนไปแล้ว เกลียดการเมืองและเป็นคนเปลี่ยนชื่อจากอาเธอร์ เป็นเรย์ เขียว เพื่อไม่ให้ทหารใหม่ๆ คนอื่นๆ รู้ เขาชอบโผล่มาตอนที่ทหารใหม่กำลังเดินเพื่อดุว่าให้เดินอย่างมีระเบียบ
เป็นนายทหารที่ประจำการอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลง สูงประมาณหกฟุต หุ่นล่ำสัน หน้าตาผิดรูปเพราะแผลเป็นจากสุญญะ หูและจมูกทั้งสองข้างโดนสุญญะละลายไปด้วย จึงใส่หูไม้และจมูกเงินแทนที่เหมือนใช้กาวติด ใส่เครื่องแบบสีแดง บนแขนเสื้อมีแถบสีทองสองแถบ อาเธอร์พบเขากำลังสอนทหารใหม่ใช้เตารีดแยกส่วน
เป็นนายทหารประจำหน่วยพลตระเวนชายแดน เขาเกลียดการเมือง มีรอยแผลสุญญะอยู่บนใบหน้าและมือ ปรากฏครั้งแรกที่ค่ายเขตแดน หลังจากกองกำลังนิทลิ่งใหม่เข้ายึดค่ายได้สำเร็จ เขาก็หลบหนีมาพร้อมกับนายทหารอีกคน ในอีกหกสัปดาห์ต่อมา พวกเขาพบการขนเดือยสุญญะที่จะมุ่งหน้าไปยังช่อง 500/500 หลังพระอาทิตย์ตกดิน
เป็นนายทหารที่เดินทางมาอย่างรวดเร็วเพื่อแจ้งแผนการรบกับพวกนิทลิ่งใหม่ที่พยายามจะบุกค่ายเปลี่ยนแปลง เป็นผู้แจ้งว่าอาเธอร์กับเฟรดผ่านการฝึกที่ค่ายเปลี่ยนแปลงแล้ว แล้วพาอาเธอร์ไปเปลี่ยนชุดเป็นพลทหาร กบญ.
ผู้บังคับบัญชาหมวดทหารใหม่หมวดหนึ่ง เป็นผู้ที่สังเกตได้ว่านิทลิ่งใหม่มีความคล้ายพลเมืองมากผิดปกติ และได้อธิบายเรื่องนี้กับอาเธอร์และเฟรด
เป็นนายทหารประจำกองทัพพื้นเมือง มีไหล่แคบมาก สวมหนวดปลอมที่อาเธอร์เชื่อว่าทำจากลวดและแทงเป็นแนวตั้งฉากกับจมูกอย่างที่ไม่มีหนวดที่ไหนทำได้ เขามาสอนการขี่อสินธพให้อาเธอร์กับเฟรด
เป็นนายทหารประจำกองทัพพื้นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่อง และเป็นทหารที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นทหารโดยเฉพาะ เขามาพาอาเธอร์กับเฟรดขี่อสินธพจากค่ายเปลี่ยนแปลงไปยังป้อมกลาง
เป็นทหารที่ประจำการอยู่ใน กบญ. เขาเป็นคนที่รู้วิธีการใช้โทรศัพท์ดีที่สุด
เป็นผู้บังคับบัญชาของร้อยโทคอร์บี้ ประจำอยู่ที่ค่ายหอคอยขาว
เป็นเพื่อนของพันเอกแนจ ประจำเหล่าทหารปืนใหญ่
เป็นเพื่อนของพันเอกแนจ ประจำการอยู่ที่ กบญ.
เป็นผู้ส่งข่าวมาจาก กบญ.สวมเสื้อนอกสีแดงกระดุมทอง สวมหมวกสีดำถือไม้เท้า เป็นคนๆ เดียวกับพราวิลในจันทร์มหันตภัย ในสายตาของร้อยโทคอร์บี้ พราวิลเป็นนายทหารที่ไม่เหมือนคนอื่น มีกลิ่นของการเมืองที่บ่งบอกว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษจากบ้านเบื้องบน
ดูเพิ่มที่ วงกตยิ่งใหญ่
หรือ ป้อมกลาง (The Citadel) เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการทหารในวงกตยิ่งใหญ่ อันเป็นที่อยู่ของเซอร์พฤหัสบดี มันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่คงที่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวงกตยิ่งใหญ่ มีแกนเป็นป้อมปราการ และคูรูปครึ่งวงกลมซ้อนกันสี่ชั้น ตามกำแพงและเชิงเทินต่างๆ ติดตั้ง ปืนใหญ่ และ ปืนคาบศิลา ทางเข้าป้อมถูกป้องกันด้วยเครื่องยิงลูกไฟ ภายในวงชั้นที่สามคิอป้อมกลางชั้นใน และค่ายดวงดาว และมีเนินดินสำหรับปืนใหญ่ขนาดใหญ่ 16 กระบอก ขนาดกลาง 32 กระบอก และขนาดเล็กหรือซัคเกอร์ 72 กระบอก นอกจากนั้นยังมีแนวป้องกันน้ำตะวันออก ซึงเป็นตำแหน่งคงที่อีกแห่งหนึ่ง ห้องที่ปรากฏอยู่ในหนังสือมีดังนี้
เป็นห้องสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ภายในศูนย์บัญชาการของจอมพลยามเที่ยง มีขนาดเล็กกว่าห้องประชุมในห้องกลางวันของวันจันทร์ พื้นเป็นไม้ขัดเงา มีโต๊ะทำงานที่มีขาที่ค่อนข้างบอบบางตั้งอยู่มุมหนึ่ง มีฉากกั้นชักเงาสีดำซึ่งมีแผนที่ติดอยู่ บนกำแพงมีอาวุธมากมาย มีหัวสัตว์ประหลาดที่ดูคล้ายปลาปิรันย่ายาวสามสิบฟุตประดับอยู่บนกำแพงด้วยเช่นกัน
มีขนาด "เล็กจนน่าแปลกใจ" มีความกว้างเพียง 30 ฟุต และยาวเพียง 50 ฟุตเท่านั้น ในสายตาของอาเธอร์ดูเหมือนห้องเก็บอาวุธมากกว่าห้องทำงาน เพราะผนังทุกด้านตกแต่งด้วยอาวุธ มีภาพวาดและภาพพิมพ์ฉากสงคราม ซึ่งมีรูปของยามเที่ยงอยู่ทุกภาพ กลางห้องมีโต๊ะไม้มะฮอกกานีตัวใหญ่ตั้งอยู่บนฐานสามฐาน บนโต๊ะมีเพียงคทาจอมพลเลี่ยมทองและงาช้างวางอยู่
อยู่ภายในถ้าที่ขุดจากหินใต้ป้อมดวงดาว มีอาวุธและเกราะราวแล้วราวเล่าเรียงกันเป็นแถวยาวอย่างน้อยก็ร้อยหลา มีอาวุธทุกอย่างเตรียมพร้อม
เป็นห้องวงกลม มีหลังคาโค้งเป็นโดม ตอนที่อาเธอร์กับเซอร์พฤหัสบดีโผล่พรวดเข้ามานั้น เต็มไปด้วยทหารจากกรมต่างๆ มากมาย ทั้งนายทหารจากกองบัญชาการ (เครื่องแบบสีแดง) และนายทหารจากกองพลตระเวนชายแดน (เครื่องแบบสีเขียว) ในศุกร์รัตติกาล ภายหลังจากที่อาเธอร์อ้างสิทธิ์แล้ว เขาตื่นขึ้นมาและมาพบคุณหญิงพรีมัสที่นี่ มีโต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ซึ่งใช้บอกรายละเอียดของแต่ละแห่งในวงกต
เป็นห้องนอนที่กว้างใหญ่มาก ปูพรมสีแดงส้มจากเปลวไฟที่ทอเป็นลายฉากการรบกับพวกนิทลิ่ง มีเตียงสี่เสาทำจากไม้มะฮอกกานี เสาทั้งสี่ต้นสลักลวดลายของฉากการรบ ผ้าห่มเป็นผ้าซาตินผืนหนา มีเก้าอี้นวมหนานุ่มกะไหล่ทองหลายตัว มีอ่างล้างหน้าเป็นอ่างทองคำแท้และผ้าขนหนูฟูนุ่มหลายผืน รวมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินสำหรับใส่เครื่องแบบและเครื่องเคียงของแต่ละกองร้อย กองพัน และกรมในกองทัพ
ค่ายเปลี่ยนแปลง (Fort Tranformation) คือค่ายที่ทำหน้าที่รับทหารเกณฑ์ใหม่เข้ามาฝึกในกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก อันเป็นตำแหน่งคงที่อีกแห่งหนึ่ง เป็นกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าหากไม่เต็มใจหรือขัดขืนการเข้ารับการฝึก ก็จะถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นห่อของขนาดเล็ก หุ้มกระดาษสีน้ำตาลและผูกเชือก ห้อง อาคารต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือมีดังนี้
เป็นสถานที่เรียน พักผ่อน และนอนของทหารใหม่หมวดที่สอง ซึ่งควบคุมด้วยสิบโทแอ๊กฟอร์ธ มีขนาดใหญ่ประมาณสนามฟุตบอล เพดานอยู่สูงขึ้นไปอีก 20 ฟุต มีหน้าต่างอยู่ทุกฝั่ง แต่ทุกบานถูกปิด มีตะเกียงเจ้าพายุดวงใหญ่ประมาณยี่สิบดวงแขวนลงมาจากขื่อเป็นแหล่งกำเนิดแสง ด้านหนึ่งของห้องมีเตียงผ้าใบประมาณร้อยเตียงและตู้เสื้อผ้าไม้ใบใหญ่ประจำเตียงเตียงละ 1 ใบ อีกฝั่งหนึ่งเปิดโล่ง มีราวประมาณสามสิบราวเรียงอยู่ตามแถว ราวสูงสิบฟุต ยาว 30 ฟุต มีอาวุธและเกราะทุกชนิดแขวนอยู่เต็ม
เป็นอาคารอีกแห่งหนึ่งภายในค่ายเปลี่ยนแปลง ภายในใหญ่กว่าภายนอก มีเพียงเคาน์เตอร์ไม้ยาวที่มีกระดิ่งอยู่ข้างบนตัวเดียว ควบคุมโดยกองไปรษณีย์หน่วยเสบียง มักจะถูกปิดอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นเมื่อถึงกำหนดรับจดหมาย
เป็นอาคารประหลาดที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน แต่อยู่ในวงกตแน่นอน เพราะพระจันทร์มีสีเขียว หลังคาเปิดโล่ง ยาวสุดลูกหูลูกตา มีอ่างล้างมือนับร้อยเรียงเป็นแถวแต่ไม่มีก๊อกน้ำ เป็นที่สำหรับโกนหนวด ล้างมือล้างหน้าของทหาร โดยมีทางประหลาดเชื่อมแต่ละที่ในวงกตยิ่งใหญ่มาที่นี่ ทหารหมวดเดียวกันจะไม่มีตัวตนในสายตาของหมวดอื่น ดังนั้นจึงสามารถเดินทะลุร่างกายของทหารหมวดอื่นไปได้
คล้ายกับห้องน้ำรวม คือเป็นที่รวมตัวของทหารจากหน่วยต่างๆ ซึ่งเดินทางมารับประทานอาหารผ่านทางประหลาด มีเพดานสูงขึ้นไปประมาณ 50-60 ฟุต มีม้านั่งยาวหลายตัว ประจำโต๊ะของแต่ละหมวด
- ชิลเดรนลิทเทอเรเจอร์
- VOYA
- อลัน รีวิว
- สคูลไลบรารี่จัวแนล
This article uses material from the Wikipedia ไทย article พฤหัสเจ้าศาสตรา, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.