พรรคไทยรักไทย (ย่อ: ทรท.
อังกฤษ: Thai Rak Thai Party) เป็นพรรคการเมืองไทยที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2541 ในช่วงเวลาสั้น ๆ พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปสามครั้ง 8 เดือนหลังการรัฐประหารทำให้ทักษิณต้องลี้ภัย พรรคถูกยุบเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเนื่องจากละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ทักษิณ ชินวัตร ได้มีบทบาทในการก่อตั้งพรรคพลังประชาชน และต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบอีก พรรคเพื่อไทยจึงมีบทบาททางการเมืองแทนพรรคไทยรักไทย
พรรคไทยรักไทย | |
---|---|
ผู้ก่อตั้ง | ทักษิณ ชินวัตร |
หัวหน้า | จาตุรนต์ ฉายแสง (รักษาการ) |
รองหัวหน้า | |
เลขาธิการ | วิเชษฐ์ เกษมทองศรี (รักษาการ) |
โฆษก | ศิธา ทิวารี |
นโยบาย | คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน (พ.ศ. 2544) ไทยรักไทย หัวใจคือประชาชน (พ.ศ. 2548) |
ก่อตั้ง | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 |
ถูกยุบ | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 (8 ปี 320 วัน) |
รวมตัวกับ | (หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544) พรรคความหวังใหม่ (สมาชิกส่วนใหญ่) พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) พรรคเสรีธรรม (พ.ศ. 2535) |
แยกจาก | พรรคพลังธรรม |
ถัดไป | พรรคพลังประชาชน (สมาชิกส่วนใหญ่) พรรคมัชฌิมาธิปไตย (กลุ่มมัชฌิมา) พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคเพื่อไทย (บ้านเลขที่ 111) |
ที่ทำการ | เลขที่ 1770 (อาคารไอเอฟซีที) ถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร |
อุดมการณ์ | ชาตินิยมใหม่ ลัทธิอิงสามัญชน ปฏิรูปนิยม เสรีนิยมใหม่ |
จุดยืน | ขวากลาง |
สี | สีน้ำเงิน สีแดง |
เพลง | บทเพลงแห่งนโยบาย (พ.ศ. 2547) |
เว็บไซต์ | |
www.thairakthai.or.th (ปัจจุบันใช้การไม่ได้แล้ว) | |
การเมืองไทย รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
พรรคไทยรักไทยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 โดย ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจโทรคมนาคม พร้อมผู้ร่วมก่อตั้ง
พรรคไทยรักไทยใช้วิธีดึงตัวนักการเมืองหน้าเก่าจากพรรคต่างๆ เข้าร่วม จนทำให้พรรคไทยรักไทยกลายสภาพเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในเวลาเพียงครึ่งปี โดยมี สส. เก่าอยู่แล้วประมาณ 130 คน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพลังธรรม – พลังไทย, กลุ่มวังน้ำเย็น, กลุ่มพรรคความหวังใหม่, กลุ่มพรรคชาติพัฒนา, กลุ่มพรรคชาติไทย, กลุ่มพรรคกิจสังคม, และกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
พรรคไทยรักไทยมีนโยบายประชานิยม ดึงดูดเกษตรกรที่เป็นหนี้ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 โดยสัญญาว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พรรคยังเข้าถึงหมู่บ้านในชนบทและธุรกิจที่กำลังดิ้นรน นโยบายของพรรคไทยรักไทย ได้แก่ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเวลาการพักชำระหนี้สำหรับเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการประกาศสงครามกับสิ่งชั่วร้าย 3 ประการ ได้แก่ สงครามความยากจน สงครามยาเสพติดและสงครามคอร์รัปชั่น
อย่างไรก็ตาม เขาละเลยพื้นที่ชนบทบางแห่งและจังหวัดทางภาคใต้ เนื่องจากทักษิณระบุว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอะไรให้กับพื้นที่ที่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เขา
ลำดับ | รูป | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | ตำแหน่งสำคัญ |
1 | ทักษิณ ชินวัตร (26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 — ปัจจุบัน) | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 |
| |
– | จาตุรนต์ ฉายแสง (รักษาการ) (1 มกราคม พ.ศ. 2499 — ปัจจุบัน) | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 |
ลำดับ | รูป | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | ตำแหน่งสำคัญ |
1 | ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | 27 มกราคม พ.ศ. 2545 | ||
2 | สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ | 27 มกราคม พ.ศ. 2545 | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 |
| |
– | วิเชษฐ์ เกษมทองศรี (รักษาการ) | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 |
อันดับ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | ทักษิณ ชินวัตร | หัวหน้าพรรค |
2 | คณิต ณ นคร | รองหัวหน้าพรรค |
3 | ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ | เลขาธิการพรรค |
4 | พันธุ์เลิศ ใบหยก | รองเลขาธิการพรรค |
5 | สิริกร มณีรินทร์ | เหรัญญิกพรรค |
6 | กันตธีร์ ศุภมงคล | โฆษกพรรค |
7 | สารสิน วีระผล | กรรมการบริหารพรรค |
8 | สุวรรณ วลัยเสถียร | กรรมการบริหารพรรค |
9 | ปภัสรา ตรังคิณีนาถ | กรรมการบริหารพรรค |
อันดับ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | จาตุรนต์ ฉายแสง | รักษาการหัวหน้าพรรค |
2 | คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ | รองหัวหน้าพรรค |
3 | ไชยยศ สะสมทรัพย์ | รองหัวหน้าพรรค |
4 | พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา | รองหัวหน้าพรรค |
5 | เนวิน ชิดชอบ | รองหัวหน้าพรรค |
6 | ประชา มาลีนนท์ | รองหัวหน้าพรรค |
7 | พงศ์เทพ เทพกาญจนา | รองหัวหน้าพรรค |
8 | โภคิน พลกุล | รองหัวหน้าพรรค |
9 | เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ | รองหัวหน้าพรรค |
10 | วันมูหะมัดนอร์ มะทา | รองหัวหน้าพรรค |
11 | วิเชษฐ์ เกษมทองศรี | รักษาการเลขาธิการพรรค |
12 | นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช | รองเลขาธิการพรรค |
13 | ชานนท์ สุวสิน | รองเลขาธิการพรรค |
14 | พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล | รองเลขาธิการพรรค |
15 | นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี | โฆษกพรรค |
16 | กันตธีร์ ศุภมงคล | กรรมการบริหารพรรค |
17 | จำลอง ครุฑขุนทด | กรรมการบริหารพรรค |
18 | ประจวบ ไชยสาส์น | กรรมการบริหารพรรค |
19 | พวงเพ็ชร ชุนละเอียด | กรรมการบริหารพรรค |
20 | ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ | กรรมการบริหารพรรค |
21 | วิชิต ปลั่งศรีสกุล | กรรมการบริหารพรรค |
22 | สุชัย เจริญรัตนกุล | กรรมการบริหารพรรค |
23 | เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช | กรรมการบริหารพรรค |
24 | อดิศร เพียงเกษ | กรรมการบริหารพรรค |
25 | อดิศัย โพธารามิก | กรรมการบริหารพรรค |
26 | อนุทิน ชาญวีรกูล | กรรมการบริหารพรรค |
27 | เอกพร รักความสุข | กรรมการบริหารพรรค |
28 | เกรียง กัลป์ตินันท์ | กรรมการบริหารพรรค |
29 | ประชาธิปไตย คำสิงห์นอก | กรรมการบริหารพรรค |
30 | ว่าที่ร้อยตรี ไพโรจน์ สุวรรณฉวี | กรรมการบริหารพรรค |
31 | วิชัย ชัยจิตวณิชกุล | กรรมการบริหารพรรค |
32 | ศักดิ์สยาม ชิดชอบ | กรรมการบริหารพรรค |
33 | อรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ | กรรมการบริหารพรรค |
34 | ชาญชัย ปทุมารักษ์ | กรรมการบริหารพรรค |
35 | พงษ์ศักดิ์ วรปัญญา | กรรมการบริหารพรรค |
36 | พิมพา จันทร์ประสงค์ | กรรมการบริหารพรรค |
37 | ลิขิต หมู่ดี | กรรมการบริหารพรรค |
38 | ว่าที่ร้อยโท นายแพทย์ วัลลภ ยังตรง | กรรมการบริหารพรรค |
39 | พรชัย เตชะไพบูลย์ | กรรมการบริหารพรรค |
40 | อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ | กรรมการบริหารพรรค |
41 | ทศพล สังขทรัพย์ | กรรมการบริหารพรรค |
42 | ปกรณ์ บูรณุปกรณ์ | กรรมการบริหารพรรค |
43 | ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร | กรรมการบริหารพรรค |
44 | มยุรา มนะสิการ | กรรมการบริหารพรรค |
45 | วิสาร เตชะธีราวัฒน์ | กรรมการบริหารพรรค |
46 | วีระกร คำประกอบ | กรรมการบริหารพรรค |
47 | กฤษ ศรีฟ้า | กรรมการบริหารพรรค |
48 | วีระ มุสิกพงศ์ | กรรมการบริหารพรรค |
49 | สุธรรม แสงประทุม | กรรมการบริหารพรรค |
50 | สุรเชษฐ์ ดวงสอดศรี | กรรมการบริหารพรรค |
51 | หม่อมราชวงศ์ดำรงดิศ ดิศกุล | กรรมการบริหารพรรค |
52 | ศันสนีย์ นาคพงศ์ | กรรมการบริหารพรรค |
พรรคไทยรักไทยมีบทบาททางการเมืองครั้งแรก เริ่มจากการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ 8 ภายหลังที่ วิชาญ มีนชัยนันท์, วิไล สมพันธุ์, และ ณัฏฐพล กรรณสูต ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งทั้งหมด (วิรัตน์ มีนชัยนันท์, พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ, และ ศิริพงษ์ ลิมปิชัย)
ใน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543 พรรคไทยรักไทยได้ส่ง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยสุดารัตน์ได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 521,184 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับที่สอง พ่ายแพ้ให้กับ สมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีคะแนนเสียงมากกว่าเกือบสองเท่า (1,016,096 คะแนน)
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 พรรคไทยรักไทยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดยชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นอย่างถล่มทลาย ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งสิ้น 248 คน คิดเป็นร้อยละ 49.6 หลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทักษิณประกาศคำมั่นสัญญาไว้ว่า “ผมจะไม่ยอมทำหน้าที่เป็นเพียงผู้นำตามกฎหมายเท่านั้น ผมจะขอเป็นผู้นำที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทย เพื่อประเทศไทยที่ดีขึ้น พี่น้องที่เคารพครับ ผมจะขอทำหน้าที่เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”
โดยความสำเร็จของการชนะเลือกตั้งในครั้งนั้น สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ได้อธิบายไว้ว่า เกิดจากมีปัจจัย 3 ประการที่ทำให้พรรคไทยรักไทยชนะ กล่าวคือ
ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พรรคไทยรักไทยสามารถเจรจารวม พรรคความหวังใหม่ ของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ, ตามด้วย พรรคเสรีธรรม, และ พรรคชาติพัฒนา เข้ากับพรรคไทยรักไทย และเป็นพันธมิตรกับ พรรคชาติไทย
ใน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2547 พรรคไทยรักไทยได้ส่ง ปวีณา หงสกุล ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 พรรคไทยรักไทยก็ยังคงครองตำแหน่งพรรคอันดับหนึ่ง และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ด้วยคะแนนเสียงมากถึง 377 เสียง
การเลือกตั้ง | จำนวนที่นั่ง | คะแนนเสียงทั้งหมด | สัดส่วนคะแนนเสียง | ผลการเลือกตั้ง | สถานภาพพรรค | ผู้นำเลือกตั้ง |
---|---|---|---|---|---|---|
2544 | 248 / 500 | 11,634,495 | 49.6% | 248 ที่นั่ง | แกนนำจัดตั้งรัฐบาล | ทักษิณ ชินวัตร |
2548 | 377 / 500 | 18,993,073 | 61.17% | 122 ที่นั่ง | ||
2549 | 460 / 500 | 16,420,755 | 56.45% | 83 ที่นั่ง | การเลือกตั้งเป็นโมฆะ |
การเลือกตั้ง | ผู้สมัคร | คะแนนเสียงทั้งหมด | สัดส่วนคะแนนเสียง | ผลการเลือกตั้ง |
---|---|---|---|---|
2543 | สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ | 521,184 | 23.52% | พ่ายแพ้ |
2547 | ปวีณา หงสกุล | 619,039 | 25.95% | พ่ายแพ้ |
การเลือกตั้ง | จำนวนที่นั่ง | คะแนนเสียงทั้งหมด | สัดส่วนคะแนนเสียง | ที่นั่งเปลี่ยน | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
2541 | 3 / 60 | 3 ที่นั่ง | ได้ที่นั่งจากการเลือกตั้งซ่อม 3 เขต | ||
2545 | 23 / 61 | 20 ที่นั่ง | |||
2549 | 19 / 57 | 4 ที่นั่ง | หลังถูกยุบพรรค ได้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยตามลำดับ |
ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 พรรคไทยรักไทย ได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อถึง 18,993,073 เสียง แต่ถูกกล่าวหาว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงเลือกตั้ง โดยอ้างว่าพรรคต้องการหลีกเลี่ยงกฎร้อยละ 20 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงตั้งอนุกรรมการมาสอบ ซึ่งผลปรากฏว่ามีมูลทำให้พรรคไทยรักไทยอาจถูกยุบพรรคได้ และกำลังอยู่ในระหว่างการส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค
หลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ไม่นาน ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยส่งจดหมายซึ่งเขียนด้วยลายมือ โดยได้ชี้แจงสาเหตุถึงการลาออก และขอบคุณสมาชิกพรรคและผู้ให้การสนับสนุน
หลังจากที่หัวหน้าพรรคลาออกไม่นาน ความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรค โดยเฉพาะผู้บริหารพรรค ต่างก็ตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคทันที มีการฟ้องร้องยุบพรรคไทยรักไทย มีการตรวจสอบเรื่องการทุจริต ซึ่งอาจมีผลทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมเพิกถอนสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน เป็นจำนวน 5 ปี เหตุที่เพิกถอนสิทธิเพียง 111 คนใน 119 คน เนื่องจากใน 8 คนที่เหลือมีการลาออกหรือสิ้นสภาพกรรมการฯ ก่อนการกระทำผิด ได้แก่ เปรมศักดิ์ เพียยุระ, นายเสนาะ เทียนทอง, นายฐานิสร์ เทียนทอง, นายลิขิต ธีรเวคิน, นายสฤต สันติเมทนีดล, นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์, นายกร ทัพพะรังสี และนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี ที่ถูกยิงเสียชีวิต
ภายหลังการยุบพรรค สมาชิกพรรคที่เหลือรวมตัวกันเป็นกลุ่มไทยรักไทย โดยมีแกนนำอย่าง สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ ปองพล อดิเรกสาร เป็นต้น
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่ประชุมกลุ่มไทยรักไทย มีมติให้สมาชิกย้ายไปสังกัดอยู่กับพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลจะหยิบยก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาใช้ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านการลงประชามติ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับกลุ่มไทยรักไทยให้ไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ จากข้อกำหนดที่ให้ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคการเมืองครบ 90 วัน
พรรคไทยรักไทยเคยมีสมาชิกพรรคที่ลาออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือย้ายไปเป็นกรรมการบริหารพรรค ทั้งช่วงก่อนการยุบพรรคและหลังการยุบพรรค โดยมีดังนี้
This article uses material from the Wikipedia ไทย article พรรคไทยรักไทย, which is released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 license ("CC BY-SA 3.0"); additional terms may apply (view authors). เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 4.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น Images, videos and audio are available under their respective licenses.
®Wikipedia is a registered trademark of the Wiki Foundation, Inc. Wiki ไทย (DUHOCTRUNGQUOC.VN) is an independent company and has no affiliation with Wiki Foundation.