ปันตุน

ปันตุน (มลายูและอินโดนีเซีย: pantun / ڤنتون; มลายูปัตตานี: ปาตง) หรือ บันตน เป็นรูปแบบบทกวีมุขปาฐะมลายูที่ใช้ในการกล่าวถึงความคิดและอารมณ์ที่ซับซ้อน โดยทั่วไปประกอบด้วยจำนวนแถวแบบคู่ และใช้แผนสัมผัสแบบ ABAB ปันตุน ที่สั้นที่สุดมีเพียงสองแถว ซึ่งรู้จักกันในชื่อภาษามลายูว่า ปันตุนดัวเกอรัต (pantun dua kerat) ส่วน ปันตุน ที่ยาวที่สุดคือ ปันตุนเออนัมเบอลัซเกอรัต (pantun enam belas kerat) โดยมีถึง 16 แถว โครงสร้างของ ปันตุน ประกอบด้วย 2 ส่วนเสมอคือ เปิมบายัง (pembayang) หรือ ซัมปีรัน (sampiran) ที่ไม่มีการเชื่อมโยงเชิงตรรกะหรือการเล่าเรื่องในทันที พบในส่วนครึ่งแรก และ มักซุด (maksud) หรือ อีซี (isi) ที่พบในส่วนครึ่งหลังของ ปันตุน อย่างไรก็ตาม บทกวีเชื่อมโยงกันอยู่เสมอด้วยการสัมผัสและการเชื่อมโยงคำแบบอื่น ๆ เช่น การเล่นสำนวนและการซ้ำเสียง นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ทางอ้อมแต่จำเป็น และข้อความส่วนแรกมักกลายเป็นคำอุปมาสำหรับข้อความส่วนที่สอง ปันตุน รูปแบบที่ได้รับความนิยมที่สุดคือแบบบท 4 บาท (4 แถว) และบท 2 บาท (2 แถว) ซึ่งทั้งสองรูปแบบพบได้มากในวรรณคดีและวัฒนธรรมร่วมสมัยในสมัยใหม่

ปันตุน *
ปันตุน  มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก
ปันตุน
ปันตุน ภาษาลัมปุง-มลายูที่เขียนด้วยอักษรลัมปุงและยาวี (ลัมปุง ประเทศอินโดนีเซีย)
ประเทศปันตุน มาเลเซีย
ปันตุน อินโดนีเซีย
ภูมิภาค **เอเชียและแปซิฟิก
สาขาธรรมเนียมและการแสดงออกทางมุขปาฐะ, ศิลปะการแสดง, แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล, ความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล
เกณฑ์พิจารณาR.1, R.2, R.3, R.4, R.5
อ้างอิง01613
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2563 (คณะกรรมการสมัยที่ 15)
รายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและการสงวนรักษาที่ดี
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

บันทึก ปันตุน แบบแรกสุดสืบได้ถึงสมัยรัฐสุลต่านมะละกาในคริสต์ศตวรรษที่ 15 แม้ว่านักประวัติศาสตร์บางส่วนเชื่อว่ามี ปันตุน ที่อาจเก่าแก่พอ ๆ กับภาษามลายูเอง ซึ่งเติบโตและกระจายในสมัยศรีวิชัย ซึ่งเป็นบ่านเกิดของผู้ก่อตั้งมะละกา ปันตุน ในสมัยมะละกาปรากฏในพงศาวดารมลายู วรรณกรรมภาษามลายูที่สำคัญที่สุด และถือเป็นศิลปะชั้นสูงและเป็นส่วนสำคัญของวรรณกรรมมลายูคลาสสิก นอกจากนี้ยังเจริญรุ่งเรืองในฐานะส่วนหนึ่งของการสื่อสารประจำวันของสังคมมลายูดั้งเดิม และทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการแสดงออกในเพลงมลายู พิธีกรรม ศิลปะการแสดง และการเล่าเรื่องทุกรูปแบบ

ศัพทมูลวิทยา

ซาอาบารายงานว่า คำว่า pantun คาดว่ามีวิวัฒนการมาจากศัพท์ภาษามลายูว่า sepantun (อักษรยาวี: سڤنتون) หมายถึง 'เหมือนกับ' คำนี้ใช้เพื่อบ่งบอกถึงอุปมาที่เป็นสำนวนสุภาษิตหรืออุปมา ซึ่งเป็นภาพพจน์หนึ่งที่พบได้ทั่วไปใน ปันตุน ดั้งเดิม หรือสุภาษิตจากวรรณกรรมมลายูคลาสสิก ความหมายเก่าของปันตุนในภาษามลายูก็สื่อถึงรูปแบบสุภาษิตที่ใช้การอ้างทางอ้อม ซึ่งมีบทบาทคล้ายกับ ปันตุน ในฐานะบทกวีที่สร้างขึ้นในรูปแบบ ซินดีร์ (sindir; การอ้างทางอ้อม) และ เกียซ (kias; แนวเทียบ)

อีกทฤษฎีหนึ่งเสนอแนะว่า pantun มีที่มาจากศัพท์ penuntun ('ผู้นำทาง') จากอุปสรรคที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม pe(n) และคำกริยา tuntun (อักษรยาวี: تونتون) หรือ 'ชี้นำ' ส่วน Brandstetter เสนอแนะว่าคำนี้มีที่มาจากศัพท์ tun และคำที่มีเสียงคล้ายกันในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียนซึ่งมีหลายความหมาย เช่น tuntun ('จัดอย่างดี') ในภาษากาปัมปางัน tonton ('การจัดเตรียมที่มีทักษะ') ในภาษาตากาล็อก tuntun ('เส้นใย') atuntun ('จัดอย่างดี') matuntun ('นำทาง') ในภาษาชวาเก่า และ pantun ('สุภาพ' หรือ 'สมควรได้รับความเคารพ') ในภาษาโตบาบาตัก Winstedt สนับสนุนความเห็นนี้ โดยระบุว่า ในภาษากลุ่มออสโตรนีเซียนหลายภาษา คำที่บอกถึง 'สิ่งที่เรียงกันเป็นแถว' ค่อย ๆ ได้รับความหมายใหม่เป็น 'คำที่จัดเรียงอย่างดี' ในรูปแบบร้อยแก้วหรือในบทกวี อารี เวอลียันโต (Ari Welianto) เสนอแนะว่า pantun มีที่มาจากศัพท์ภาษามีนังกาเบาว่า patuntun ซึ่งแปลว่า "ชี้นำ"

ประวัติ

นักวิชาการบางคนเชื่อว่า ปันตุน มีมาก่อนการรู้หนังสือและอาจเก่าแก่เท่ากับภาษามลายู มูฮัมมัด ฮาจี ซัลเละฮ์ (Muhammad Haji Salleh) เชื่อว่า ปันตุน เติบโตและแพร่ขยายจากศรีวิชัย และส่วนใหญ่น่าจะมาจากรอบเมืองปาเล็มบังหรือมลายู เมื่อสมัยที่ปาเล็มบังยังมีอำนาจ ประชากรจากทั้งสองเมืองรู้จัก ปันตุน ของแต่ละฝ่าย และถึงแม้ทั้งสองจะใช้ภาษาเดียวกัน แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูทางการเมือง ถึงกระนั้น เป็นที่รู้กันว่า ปันตุน ได้มาถึงรูปแบบอันประณีตในช่วงเปิดตัวของวรรณกรรมมลายูคลาสสิกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ผลงานวรรณกรรมที่โดดเด่นอย่างพงศาวดารมลายูกับฮีกายัตฮังตัวะฮ์มีตัวอย่างแรกของ ปันตุน

การขยายตัวของภาษามลายูผ่านเส้นทางการค้า, ท่าเรือ และการอพยพเป็นเวลาอย่างน้อย 500 ปี ทำให้ ปันตุน กลายเป็นรูปแบบวรรณกรรมเดี่ยวที่มีพลังมากที่สุด ปัจจุบัน บทกวีชนิดนี้เป็นที่รู้จักในภาษามลายูย่อยอย่างน้อย 40 ภาษา และภาษาที่ไม่ใช่ภาษามลายู 35 ภาษาทั้งในคาบสมุทรมลายูกับเกาะหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นสมุทร

รายละเอียด

โครงสร้างของ ปันตุน ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ เปิมบายัง (pembayang) หรือเงาแห่งความหมาย กล่าวถึงสิ่งแวดล้อมธรรมชาติที่สื่อถึงความหมายเชิงวัฒนธรรม พบในส่วนครึ่งแรกของ ปันตุน กับ มักซุด (maksud) แปลว่าความหมาย เป็นเนื้อหาหลักที่ต้องการให้ผู้ฟังเข้าใจ พบในครึ่งหลังของ ปันตุน

ลักษณะของ ปันตุน ประกอบด้วยข้อความที่เป็นอิสระ จัดวางเป็นวรรคขนานกันเป็นคู่ ๆ แต่ละวรรคประกอบด้วยคำพื้นฐาน 4 คำ ซึ่งอาจเติมหน่วยคำเพิ่ม โดยทั่วไปจึงมี 5–10 พยางค์ สัมผัสสระเป็นแบบ a-b-a-b หรือ a-a-a-a (แบบกลอนหัวเดียว)

ตัวอย่าง ปันตุน ภาษามลายู

    Tanam selasih di tengah padang,
      Sudah bertangkai diurung semut,
    Kita kasih orang tak sayang,
      Halai-balai tempurung hanyut.

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

ข้อมูล

  • Daillie, Francois-Rene (1988). Alam Pantun Melayu: Studies on the Malay pantun. Dewan Bahasa dan Pustaka. ISBN 978-9836203106.
  • Ding, Choo Ming (2008). "The Role of Pantun as Cultural Identity for Nusantara in 21st Century and Beyond". Southeast Asia Journal. 18 (2).
  • Harun Mat Piah (2007). Pantun Melayu : bingkisan permata. Yayasan Karyawan. ISBN 978-9814459884.
  • Hirsch, Edward (2014). A Poet's Glossary. Houghton Mifflin Harcourt. ISBN 978-0151011957.
  • Kassim Ahmad (1966). Characterisation in Hikayat Hang Tuah: A General Survey of Methods of Character-portrayal and Analysis and Interpretation of the Characters of Hang Tuah and Hang Jebat. Kuala Lumpur: Dewan Bahasa dan Pustaka, Kementerian Pelajaran Malaysia.
  • Liaw, Yock Fang (2013). A History of Classical Malay Literature. ISEAS-Yusof Ishak Institute. ISBN 978-9814459884.
  • Matusky, Patricia; Tan, Sooi Beng (2004), The Music of Malaysia: The Classical, Folk and Syncretic Traditions, Routledge, ISBN 978-0754608318
  • Abels, Birgit (2011). Austronesian soundscapes : performing arts in Oceania and Southeast Asia. Amsterdam University Press. ISBN 978-9089640857.
  • Muhammad Haji Salleh (2011). "Sailing the Archipelago in a boat of rhymes: Pantun in the Malay world". Wacana. 13 (1).
  • Muhammad Haji Salleh (2018). Pantun: The poetry of passion. University of Malaya Press. ISBN 9789831009765.
  • Overbeck, Hans Friedrich (1922). "The Malay Pantun". Journal of the Straits Branch of the Royal Asiatic Society. Malaysian Branch of the Royal Asiatic Society. 85.
  • Sim, Katharine (1987). More than a Pantun: Understanding Malay Verse. Singapore: Times Publishing International.
  • Wilkinson, R. J. (1908). Papers on Malay subjects : Life and Customs. 1. Kuala Lumpur: F.M.S. Govt. Press.
  • Winstedt, Richard Olaf (1969). A history of classical Malay literature. Oxford University Press. ASIN B0006CJ8PU.
  • Wright, Arnold (1908). Twentieth Century Impressions of British Malaya: Its History, People, Commerce, Industries, and Resources. Lloyd's Greater Britain Publishing Company.
  • Za'aba (1962). Ilmu Mengarang Melayu (Malay Writing Skills). Dewan Bahasa dan Pustaka.
  • Tengku Ritawati (2018). "Pantun in The Text of Nyanyian Lagu Melayu Asli". Harmonia: Journal of Arts Research and Education. Department of Education Drama, Dance and Music, Universitas Islam Riau, Indonesia. 18 (1).
  • รัตติยา สาและ. "ภาษาและวรรณกรรมมลายู." ใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, บรรณาธิการ. มลายูศึกษา ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประชาชนมลายูมุสลิมในภาคใต้. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2550, หน้า 85–106.

แหล่งข้อมูลอื่น

Tags:

ปันตุน ศัพทมูลวิทยาปันตุน ประวัติปันตุน รายละเอียดปันตุน ดูเพิ่มปันตุน อ้างอิงปันตุน ข้อมูลปันตุน แหล่งข้อมูลอื่นปันตุนภาษามลายูภาษามลายูปัตตานีภาษาอินโดนีเซีย

🔥 Trending searches on Wiki ไทย:

จังหวัดเชียงใหม่มาวิน ทวีผลภูมิภาคของประเทศไทยกวนอิมประยุทธ์ จันทร์โอชาคลิปวิดีโอดาวิกา โฮร์เน่หมากรุกไทยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไทย)จักรพรรดิเฉียนหลงกีบ (สกุลเงิน)โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัคดราก้อนบอลสหรัฐพระพรหมพีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติจามาล มูซีอาลาประเทศสเปนนักเรียนวัชรเรศร วิวัชรวงศ์ครัวคุณต๋อยพฤษภาคมประเทศเนเธอร์แลนด์บัลลังก์ลูกทุ่งบุนเดิสลีกาเกย์เอลนีโญโอมเพี้ยงอาจารย์คงเอมิเลียโน มาร์ติเนซสนุกเกอร์อาวุธนิวเคลียร์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าดีแลน หวังโป๊กเกอร์ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริการ์ตูนข้อมูลสโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลาศุภชัย สุวรรณอ่อนบรรดาศักดิ์อังกฤษมิตร ชัยบัญชาสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญเดอะพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ลูซิเฟอร์สโมสรฟุตบอลยูเวนตุสคนลึกไขปริศนาลับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแจ๊ส ชวนชื่นเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกจังหวัดตรังแอน ทองประสมรายชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลกรายพระนามและชื่ออธิบดีกรมตำรวจและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของไทยอิษยา ฮอสุวรรณจังหวัดสุพรรณบุรีมณฑลของประเทศจีนนรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ข้าราชการไทยวรันธร เปานิลพุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุลอีเอฟแอลแชมเปียนชิปสมาคมกีฬาโรมาจังหวัดสุโขทัยสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ธนภัทร กาวิละกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลเบรนต์ฟอร์ดวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารชาวมอญมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แฮนน่า โรสเซ็นบรูมลาลิกาอแมนด้า ออบดัมตัน ภาสกรนทีโลจิสติกส์เทศน์ เฮนรี ไมรอนรามาวดี นาคฉัตรีย์นิษฐา คูหาเปรมกิจ🡆 More