ปัจจุบันหลายคนติดมือถือเป็นอย่างมาก ถ้าทำหายหรือลืมเอามาก็เหมือนกับขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป มือถือในสมัยนี้เป็นอะไรที่มากกว่าเครื่องมือที่ใช้พูดคุยติดต่อสื่อสาร เพราะมันสามารถถ่ายรูป อัดวิดีโอ บันทึกข้อความ ฯลฯ เต็มไปด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้มากมาย มือถือจึงมีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นถ้าตกอยู่ในมือของผู้ที่ไม่หวังดี เขาก็อาจล้วงข้อมูลต่างๆ ที่เก็บไว้ไปใช้ในทางที่ผิดก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำมือถือหาย เราก็ต้องรู้วิธีการค้นหา เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำมันไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การค้นหามือถือทั่วไป

  1. 1
    โทรเข้ามือถือของคุณ. วิธีที่ง่ายที่สุดในการตามหามือถือคือใช้เครื่องอื่นโทรเข้ามือถือของคุณ ไม่ว่าคุณจะใช้มือถือธรรมดาหรือสมาร์ทโฟนก็ใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน เพียงแค่ขอให้ใครสักคนที่มีเบอร์คุณ โทรเข้ามือถือของคุณ ทั้งนี้ในต่างประเทศ ถ้าคุณไม่อยากรบกวนคนอื่น และมีคอมพิวเตอร์อยู่กับตัว คุณสามารถใช้บริการโทรผ่านเว็บอย่าง “wheresmycellphone.com” หรือ “freecall.com” ได้ด้วย[1]
  2. 2
    ให้ใครสักคนส่งข้อความเข้าเครื่องของคุณ. หลังจากโทรเข้าแล้ว ลำดับที่สองคือให้ใครสักคนส่งข้อความเข้าเครื่องของคุณ และถ้าคุณรู้ว่าตัวเองทำมือถือหายนอกบ้าน ไม่ใช่ลืมไว้ในบ้าน คุณควรส่งข้อความที่เป็นข้อมูลติดต่อกลับไปยังเครื่องของคุณ เผื่อมีคนเก็บได้ เขาจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ และสามารถหาตัวคุณถูก[2]
    • ทั้งนี้ในต่างประเทศ ถ้าคุณไม่อยากรบกวนคนอื่น หรือไม่มีมือถือที่ใช้ส่งข้อความได้ คุณสามารถใช้บริการส่งข้อความผ่านเว็บอย่าง “txt2day.com” ได้เช่นกัน
    • คุณสามารถส่งข้อความไปว่ามีรางวัลให้ผู้ที่เก็บมือถือได้ เพื่อจูงใจให้คนที่เจอติดต่อกลับและนำมือถือมาคืนคุณอย่างรวดเร็ว[3]
  3. 3
    ย้อนกลับไปทางที่ผ่านมา. การย้อนกลับไปค้นหาในสถานที่ที่คุณผ่านมา อาจช่วยให้คุณเจอมือถือหรืออะไรก็ตามที่หายไปหรือลืมไว้ก็ได้ ดังนั้น ถ้าคุณจำได้ว่าเมื่อครู่ยังถือเครื่องไว้อยู่ จากนั้นก็วางไว้ที่ไหนสักแห่งก่อนออกมา คุณควรย้อนกลับไปค้นหามือถือ ณ บริเวณดังกล่าวก่อน เผื่อเจอมันอยู่แถวนั้น (ถ้าไม่ถูกหยิบหรือขโมยไปเสียก่อน)[4]
    • ไม่ว่าจะหาเจอหรือไม่ อย่าตื่นตระหนก เพราะมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก เนื่องจากคุณจะร้อนรนทำอะไรไม่ถูก จนไม่มีสติพอที่จะนึกว่ามันอยู่ไหน[5]
    • นั่งพักสักครู่แล้วนึกว่าคุณไปไหนและทำอะไรมาบ้าง พยายามนึกให้ได้ว่าคุณหยิบหรือใช้มือถือครั้งสุดท้ายที่ไหนเมื่อไหร่ และไปไหนหลังจากนั้น
    • ถ้าคุณไปร้านค้าหรือร้านอาหารก่อนที่จะทำมือถือหาย ลองสอบถามพนักงานในร้านนั้น เผื่อมีใครเจอหรือเก็บได้ และถ้าพนักงานบอกว่าเจอมือถือที่ลูกค้าลืมทิ้งไว้ คุณก็ต้องบอกยี่ห้อหรือรูปร่างลักษณะมือถือของคุณ เพื่อให้เขาเช็คว่าตรงกันหรือไม่ หรือบอกเบอร์โทรศัพท์ของคุณไป เพื่อให้เขาโทรเช็คได้ว่าเป็นมือถือของคุณจริงๆ
  4. 4
    ติดต่อผู้ให้บริการมือถือของคุณ. ผู้ให้บริการมือถือบางรายเปิดให้ลูกค้าใช้จีพีเอสในการค้นหาตำแหน่งมือถือของตัวเองได้ แต่ถ้าไม่มีบริการดังกล่าว อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถยุติการให้บริการมือถือของคุณได้[6]
    • คุณสามารถหาเบอร์ติดต่อผู้ให้บริการมือถือได้จากเว็บไซต์ หรือมองหาในแผ่นพับหรือใบปลิวในบูธของผู้ให้บริการสาขาที่ใกล้บ้านก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การค้นหาตำแหน่งมือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน

  1. 1
    การค้นหามือถือระบบแอนดรอยด์. ถ้าคุณทำมือถือที่ใช้ระบบแอนดรอยด์หาย คุณสามารถเช็คตำแหน่งของมันได้ผ่านหน้าเว็บ “Android Device Manager” ซึ่งการระบุตำแหน่งก็มีสองกรณีคือ กรณีแรก ถ้ามือถือเปิดอยู่และต่อเน็ตไว้ คุณสามารถเช็คตำแหน่งปัจจุบันของมันผ่านหน้าเว็บดังกล่าวได้เลย กรณีที่สอง ถ้ามือถือปิดอยู่หรือไม่ได้ต่อเน็ตไว้ คุณจะทำได้เพียงเช็คตำแหน่งสุดท้ายที่เครื่องเปิดใช้งานหรือต่อเน็ตเท่านั้น[7]
    • วิธีการใช้ “Android Device Manager” อันดับแรกเปิดหน้าเว็บ “Android Device Manager” ผ่านคอมพิวเตอร์หรือแท็บแล็ต จากนั้นลงชื่อเข้าใช้ด้วยกูเกิลแอคเคาท์ของคุณ เสร็จแล้วมันก็จะแสดงตำแหน่งมือถือของคุณบน “Google Maps” คุณสามารถล็อกเครื่อง สั่งให้มือถือส่งเสียงออกมา หรือลบข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในมือถือ ผ่านหน้าเว็บดังกล่าวได้เลย
    • คุณสามารถเช็คตำแหน่งมือถือที่บันทึกไว้ได้โดยไปยังเว็บ “google.com/settings/accounthistory” แล้วคลิกที่ “Places You Go” ตามด้วย “Manage History” การค้นหาด้วยวิธีนี้เป็นการระบุตำแหน่งโดยใช้สัญญาณไวไฟและสัญญาณมือถือ ไม่ใช่จีพีเอส ดังนั้นตำแหน่งที่แสดงขึ้นมาอาจไม่แม่นยำเท่ากับการใช้ “Android Device Manager”
  2. 2
    การค้นหามือถือแบล็คเบอร์รี. ถึงแบล็คเบอร์รีจะไม่มีแอปหรือบริการอื่นใดที่ใช้ระบุตำแหน่งมือถือเป็นของตัวเอง แต่คุณก็สามารถใช้บริการผ่านโปรแกรมของเจ้าอื่นได้ เช่น “Berry Locator” โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 6.95 ดอลลาร์สหรัฐ โปรแกรมนี้สามารถระบุตำแหน่งมือถือของคุณ รวมถึงส่งข้อความเข้าไปยังมือถือได้เช่นกัน[8]
  3. 3
    การค้นหามือถือไอโฟน. คุณสามารถใช้แอป “Find My iPhone” ในการระบุตำแหน่งไอโฟนของคุณได้ ถ้าคุณยังไม่ได้ติดตั้งแอปดังกล่าวไว้ในมือถือ ก็ควรดาวน์โหลดและติดตั้งผ่าน “App Store” ไว้ก่อน เผื่อจำเป็นต้องใช้ แอป “Find My iPhone” สามารถระบุตำแหน่งได้แม่นยำพอสมควร อย่างไรก็ตาม เครื่องที่ถูกระบุตำแหน่งนั้นต้องเปิดอยู่และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วย ถึงจะใช้งานได้[9]
    • วิธีการใช้ “Find My iPhone” อันดับแรก ลงชื่อเข้าใช้ “iCloud” ผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือเครื่องอื่น จากนั้นเปิดแอป “Find My iPhone” เสร็จแล้วมันก็จะแสดงตำแหน่งมือถือของคุณบนแผนที่ ซึ่งคุณสามารถติดตามเช็คความเคลื่อนไหวได้ทันที
    • คุณสามารถใช้ “Find My iPhone” สั่งการมือถือของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นสั่งให้ส่งเสียงออกมา (เพื่อให้คุณหรือคนที่อยู่ใกล้ได้ยินและค้นหาได้ง่าย และเพื่อเป็นการแจ้งสถานะว่าเป็นมือถือที่สูญหายหรือถูกขโมย) สั่งให้ส่งข้อความพร้อมข้อมูลติดต่อกลับของคุณ หรือสั่งให้ลบข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องทั้งหมดก็ได้
  4. 4
    การค้นหามือถือวินโดวส์โฟน. ผู้ใช้วินโดวส์โฟนสามารถใช้ฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Windows 8.1 ขึ้นไป ในการติดตามค้นหามือถือได้ ซึ่งถ้ามือถือหาย คุณก็แค่ไปยังหน้าเว็บ “account.microsoft.com/devices” ผ่านคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ แล้วล็อกอินเข้าไปดูลิสต์ของมือถือหรือแท็บแล็ตวินโดวส์ที่คุณมีอยู่ จากนั้นคุณก็สามารถเลือกเช็คตำแหน่งมือถือหรือแท็บเล็ตได้ตามต้องการ[10]
    • เมื่อคุณล็อกอินเข้าใช้ในเว็บดังกล่าว เพื่อค้นหาตำแหน่งมือถือที่หายไปแล้ว คุณสามารถสั่งการมือถือของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกเครื่อง หรือลบข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดในมือถือ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ดำเนินการอย่างจริงจัง

  1. 1
    มีเหตุผลและไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยง. ถ้าคุณรู้ตัวว่ามือถือถูกขโมย คุณไม่ควรตามหาหรือจัดการด้วยตัวเอง แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปล่อยให้เขาดำเนินการให้คุณ เนื่องจากการจัดการด้วยตัวเองอาจก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สินได้
  2. 2
    ยกเลิกพาสเวิร์ดและล็อกอินของคุณ. เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่อยู่ในมือถือนั้นสำคัญมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้มือถือในการรับส่งข้อมูลที่สำคัญผ่านทางออนไลน์เช่นการทำธุรกรรมออนไลน์ ยิ่งดำเนินการยกเลิกเร็วเท่าไหร่ ข้อมูลของคุณก็จะยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น ทั้งนี้คุณอาจจะต้องยกเลิกบัตรเครดิต/เดบิตที่ลงทะเบียนเพื่อใช้ซื้อสินค้าหรือบริการผ่านมือถือที่ถูกขโมยไปด้วย (เช่นบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อแอปใน “App Store”)
    • ถ้าคุณกังวลว่ามือถือที่ทำหายอาจตกอยู่ในมือของคนอื่น คุณควรดำเนินการยกเลิกให้เร็วที่สุด เนื่องจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลกำลังเป็นปัญหาที่ร้ายแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
    • ทางที่ดีควรสละเวลามารีเซ็ตพาสเวิร์ดและล็อกอิน ก่อนที่จะถูกใครเข้าใช้และขโมยข้อมูลไป วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นถ้ามีคนได้มือถือของคุณไป และพยายามเข้าไปดูข้อมูลของคุณ มันอาจจะยุ่งยากเล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าถูกขโมยทั้งมือถือและข้อมูลส่วนตัว และถ้าได้มือถือคืน คุณก็แค่กรอกพาสเวิร์ดและล็อกอินใหม่เท่านั้น
    • การรีเซ็ตพาสเวิร์ดควรเริ่มจากพาสเวิร์ดที่ใช้กับข้อมูลที่สำคัญเป็นอันดับแรก คุณอาจมีพาสเวิร์ดที่ใช้กับบริการต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เฟซบุ๊ก คลาวด์สตอเรจ หรือธุรกรรมทางการเงิน คุณควรรีเซ็ตพาสเวิร์ดที่ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินเป็นอันดับแรก เมื่อคุณรีเซ็ตพาสเวิร์ดดังกล่าวแล้วค่อยรีเซ็ตพาสเวิร์ดข้อมูลที่สำคัญรองลงไป
  3. 3
    ติดต่อไปยังเครือข่ายที่ให้บริการมือถือของคุณ. ถ้าคุณมีแอคเคาท์หรือรายละเอียดการใช้บริการอยู่ในมือ คุณสามารถยกเลิกบริการมือถือได้เลย (ถ้าคุณตั้งพาสเวิร์ดหรือพาสโค้ดไว้ คุณอาจจะต้องใช้มันในการยกเลิกบริการ) การยกเลิกบริการมือถือนี้จะป้องกันไม่ให้ใครก็ตาม (ไม่ว่าจะเป็นขโมยหรือผู้ที่เก็บมือถือของคุณได้) โทรออกผ่านซิมและเครื่องของคุณ
    • ถ้าคุณใช้มือถือแบบที่จ่ายตามการใช้งาน ไม่ได้ใช้แบบพรีเพด (prepaid) และไม่สามารถหามือถือเจอภายในสองชั่วโมง คุณควรติดต่อไปยังผู้ให้บริการมือถือของคุณทันทีเพื่อยกเลิกบริการ
  4. 4
    แจ้งความที่สถานีตำรวจ. คุณอาจต้องใช้หลักฐานการแจ้งความในการยื่นเรื่องเพื่อเรียกประกันมือถือที่คุณทำไว้ นอกจากนี้บางบริษัทอาจใช้หลักฐานการแจ้งความในการยกเลิกบริการมือถือด้วย
    • มือถือที่หายส่วนใหญ่มักไม่มีใครสนใจและถูกปล่อยทิ้งไป เนื่องจากทุกคนคิดว่าคงไม่มีใครใจดีมากพอที่จะเก็บมันมาคืน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การป้องกันการสูญหายที่อาจจะเกิดขึ้น

  1. 1
    จดซีเรียลนัมเบอร์ (serial number) มือถือของคุณไว้. มือถือทุกเครื่องจะมีซีเรียลนัมเบอร์หรือหมายเลขประจำเครื่องอยู่ หมายเลขที่ระบุตัวเครื่องนี้อาจเรียกว่า “IMEI” international mobile equipment identity) “MEID” (mobile equipment identifier) หรือ “ESN” (electronic serial number) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของมือถือที่คุณใช้ ทั้งนี้ตำแหน่งของหมายเลขจะแตกต่างกันตามแต่ละยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่มักระบุอยู่ในสติกเกอร์ที่อยู่ใต้แบตเตอร์รี [11]
    • เมื่อคุณซื้อมือถือมาใหม่ อันดับแรกคือหาซีเรียลนัมเบอร์ของเครื่อง จากนั้นจดหมายเลขดังกล่าวไว้ และเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย
    • ถ้าคุณทำมือถือหาย คุณควรแจ้งซีเรียลนัมเบอร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ให้บริการของคุณ เพื่อจะได้ง่ายต่อการตามหา
  2. 2
    ลงทะเบียนมือถือผ่านเว็บไซต์. บางเว็บไซต์อย่าง “MissingPhones.org” เป็นเว็บที่เปิดให้คุณลงทะเบียนมือถือของคุณไว้ ซึ่งจะช่วยให้คุณตามหามือถือได้ง่ายขึ้น ในกรณีที่ทำหายหรือถูกขโมย[12]
    • คุณจะต้องใช้ซีเรียลนัมเบอร์ของเครื่องในการลงทะเบียนมือถือในเว็บดังกล่าวด้วย
  3. 3
    กำหนดพื้นที่ที่ใช้วางหรือเก็บสิ่งของต่างๆ. ถ้าคุณชอบทำของหายหรือขี้ลืมเป็นประจำ คุณควรหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะมีค่ามากน้อยเพียงใด โดยกำหนดพื้นที่ที่ใช้วางหรือเก็บสิ่งของต่างๆ ไว้ และต้องทำให้ติดเป็นนิสัย วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าจะต้องไปหาที่ไหนเมื่อมันหายไป[13]
    • ถ้าคุณชอบทำมือถือหายที่บ้าน ลองวางเก็บไว้บนชั้นวางของหรือโต๊ะรับแขกให้เป็นประจำ เวลาคุณไม่ได้ใช้หรือเก็บไว้กับตัว
    • เมื่อคุณเก็บมือถือไว้กับตัว ควรกำหนดกระเป๋าที่ใช้ใส่มือถือ และหมั่นตรวจเช็คสิ่งของในกระเป๋าทุกครั้งก่อนออกไปไหน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเก็บกุญแจ กระเป๋าตังค์ และมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง คุณก็ควรตบๆ ดู หรือล้วงเข้าไปเช็คว่าเอามาครบแล้วก่อนออกจากบ้าน
  4. 4
    เตรียมพร้อมเพื่อป้องกันการสูญหายที่อาจจะเกิดขึ้น. การป้องกันไม่ให้มือถือสูญหาย ถูกขโมย หรือลืมทิ้งไว้ สามารถทำได้หลายวิธี คุณจะลงทะเบียนเข้าใช้จีพีเอสในการระบุตำแหน่งมือถือก็ได้ หรือใช้บริการผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ อย่าง “AccuTracking” หรือ “Belon.gs” ในการติดตามตำแหน่งมือถือก็ได้ นอกจากนี้ คุณควรจดซีเรียลนัมเบอร์ของเครื่องเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์หรือที่บ้านด้วย เผื่อคุณทำมือถือหาย จะได้ตามหาได้ง่ายๆ[14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าทำได้ ควรตั้งพาสเวิร์ดในการเข้าใช้มือถือไว้เสมอ มือถือส่วนใหญ่สามารถตั้งพาสเวิร์ดสำหรับล็อกหน้าจอได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้าใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ควรแสดงข้อมูลที่ใช้ติดต่อกลับไว้ในหน้าโฮมสกรีน วิธีนี้จะช่วยให้ใครก็ตามที่เก็บมือถือได้ และอยากส่งคืนให้เจ้าของ สามารถติดต่อกลับไปได้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจทำให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีรู้ที่อยู่หรือข้อมูลของคุณ และนำไปใช้ในทางมิชอบได้
  • แบ็คอัพหรือสำรองข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในมือถือของคุณไว้ ในกรณีที่คุณเคยทำหายหรือถูกขโมยมาก่อน
  • ควรจดเลข “IMEI” ของเครื่องไว้ เผื่อทำหายในอนาคต คุณสามารถเช็คหมายเลข “IMEI” ผ่านมือถือได้โดยกด “*#06#” จากนั้นหมายเลขดังกล่าวก็จะปรากฏขึ้นมา ให้คุณจดและเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย เผื่อนำมาใช้เมื่อมือถือหายหรือถูกขโมย
โฆษณา

คำเตือน

  • การทำมือถือหายอาจทำให้คุณหงุดหงิดอารมณ์เสีย แต่ควรคิดไว้เสมอว่า มันก็เป็นแค่สิ่งของ คุณยังมีชีวิตอยู่ได้แม้ไม่มีมัน สิ่งสำคัญคือควรตั้งสติรวบรวมสมาธิ และรีบดำเนินการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินถูกขโมยไป
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

Wiki ไท: เช็คว่าทำไมมือถือขึ้นว่าไม่มีซิมแก้ไขเมื่อมือถือขึ้นข้อความเตือนว่าไม่มีซิม
Wiki ไท: ใช้งาน WeChatใช้งาน WeChat
Wiki ไท: เช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิมเช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิม
Wiki ไท: กำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอยกำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอย
Wiki ไท: เช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยังเช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยัง
Wiki ไท: เช็คว่าทำไมมือถือถึงขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้นแก้ไขเมื่อมือถือขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้น
Wiki ไท: โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์
Wiki ไท: ปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUKปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUK
Wiki ไท: ดาวน์โหลดวีดีโอใน YouTube ลง iPadดาวน์โหลดวีดีโอใน YouTube ลง iPad
Wiki ไท: หา PUK Code ของมือถือหา PUK Code ของมือถือ
Wiki ไท: โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)
Wiki ไท: ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีบลูทูธหรือไม่ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีบลูทูธหรือไม่
Wiki ไท: ทำความสะอาดเคสมือถือซิลิโคนทำความสะอาดเคสมือถือซิลิโคน
Wiki ไท: เช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยังเช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยัง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

Wiki ไท: Bryzz Tortello
ร่วมเขียน โดย:
ผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมโทรศัพท์มือถือ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Bryzz Tortello. บริซซ์ ทอร์เทลโลเป็นผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมโทรศัพท์มือถือ เจ้าของ และ CEO ของ Tortello Repair Services เธอเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมไอโฟนและไอแพด โดยเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนจอและแบตเตอรี่ไปจนถึงการบัดกรีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่เล็กมากและการกู้ข้อมูล บริซซ์เคยเข้าศึกษาที่วิทยาลัยแคนยอนส์ บทความนี้ถูกเข้าชม 26,905 ครั้ง

วิธีการ ค้นหามือถือที่หายไป - Wiki How ไท

ปัจจุบันหลายคนติดมือถือเป็นอย่างมาก ถ้าทำหายหรือลืมเอามาก็เหมือนกับขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป มือถือในสมัยนี้เป็นอะไรที่มากกว่าเครื่องมือที่ใช้พูดคุยติดต่อสื่อสาร เพราะมันสามารถถ่ายรูป อัดวิดีโอ บันทึกข้อความ ฯลฯ เต็มไปด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้มากมาย มือถือจึงมีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นถ้าตกอยู่ในมือของผู้ที่ไม่หวังดี เขาก็อาจล้วงข้อมูลต่างๆ ที่เก็บไว้ไปใช้ในทางที่ผิดก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำมือถือหาย เราก็ต้องรู้วิธีการค้นหา เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำมันไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลย

มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,905 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา